เมื่อได้รับรายการของเย่หยวนชูเวินก็รีบเดินทางมายังโถงสมุนไพรทันที
แน่นอนว่าวินาทีที่เห็นรายการนั้นศิษย์ที่จัดการดูแลโถงอยู่ก็ถึงกับสะดุ้งตัวละโยนชูเวินออกมาด้านนอกโถงทันที
“ศิษย์พี่ซง สมุนไพรเหล่านี้มิใช่ข้าที่อยากได้! ข้านั้นได้รับคำสั่งจากผู้อาวุโสตู้หรูเฟิงให้ส่งพวกนิกายเงาจันทร์ไปยังสวนป่าบนและบอกให้ข้าดูแลรับใช้ความต้องการของพวกนั้นอย่างดี สุดท้ายเมื่อคนพวกนั้นไปถึงพวกเขาก็สั่งรายการนี้มาให้แก่ข้า บอกว่าให้ข้ามารับมันไปให้ได้ ข้าเองก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน!” ชูเวินบอกด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจนัก
เมื่อศิษย์พี่ซงคนนั้นได้ยินคำอธิบายของชูเวินเขาก็อดไม่ได้ที่จะหยุดมือลง
“ผู้อาวุโสตู้หรูเฟิง? นิกายเงาจันทร์? นี่มัน… เรื่องอะไรกันแน่?”
ชูเวินยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร? ผู้อาวุโสตู้สั่งมา ศิษย์อย่างเราๆ ย่อมไม่มีทางขัดได้! ศิษย์พี่ซง ข้าว่าเรื่องนี้ท่าน… เอาไปรายงานผู้อาวุโสไช่ให้ท่านตัดสินใจจะดีกว่าไหม?”
ศิษย์พี่ซงคนนั้นก็ได้แต่ทำหน้าเครียดออกมาเพราะรู้สึกได้ว่าคำบอกของชูเวินนี้มันฟังดูมีเหตุมีผล
เรื่องระหว่างคนใหญ่คนโต พวกเขาทั้งหลายย่อมต้องจัดการอย่างระมัดระวัง
เพราะฉะนั้นเขาจึงพาชูเวินไปหาผู้อาวุโสไช่
ชูเวินเล่าบอกเรื่องราวซ้ำพร้อมลงรายละเอียดแก่ผู้อาวุโสไช่ “เด็กที่ชื่อเย่หยวนคนนั้นมันมีท่าทางแสนเย่อหยิ่ง มันใช้วิหารเราเพราะถือว่ามีผู้อาวุโสตู้คอยหนุนให้ ถึงขั้นบอกว่าหากศิษย์ไม่เอาสมุนไพรกลับไปมันจะทำให้ศิษย์ต้องออกจากวิหาร ศิษย์นั้น…”
แน่นอนว่าเมื่อผู้อาวุโสไช่ได้ยินเขาก็ร้องออกมาอย่างโกรธแค้น “เจ้าคนโอหัง! นิกายเงาจันทร์มันกล้าดูถูกวิหารเราถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? นำทางไป! ข้าอยากรู้จริงๆ ว่านิกายเงาจันทร์มันมีอะไรดีถึงได้ไปอยู่สวนป่าบนเช่นนั้น! ไอ้เจ้าตู้หรูเฟิงมันสมองเลอะเลือนไปหมดแล้วเรอะ?”
เมื่อเห็นท่าทางโกรธเคืองของผู้อาวุโสไช่นั้นชูเวินก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
เขาอยากรู้จริงๆ ว่าตอนนี้มันจะยังมีใครมาปกป้องอีก!
…
“ใครคือเย่หยวน?! ออกมาเจอเฒ่าคนนี้เดี๋ยวนี้!”
ผู้อาวุโสไช่ตะโกนร้องลั่นสวนป่าบนทำให้ผู้คนทั้งหลายที่ผ่านไปมาอยู่รอบๆ ต่างหันมามองดูด้วยความสนใจ
ซู่เหยียนนั้นเป็นคนแรกที่ออกมาเร็วที่สุด เมื่อเขาออกมาพบว่าอีกฝ่ายคือผู้อาวุโสไช่เขาก็อดไม่ได้ที่จะต้องยกมือขึ้นคารวะพร้อมใบหน้าขาวซีด “ที่แท้เป็นพี่ไช่เจินนี่เอง! ข้าขอทราบได้ไหมว่าเย่หยวนไปทำเรื่องอะไรไว้ถึงทำให้พี่ไช่เจินโกรธเคืองได้ขนาดนี้?”
เมื่อคนอื่นๆ ทั้งไป่หลี่ชิงหยานและคนอื่นๆ ออกมาเจอซู่เหยียนในสภาพนั้นพวกเขาก็ได้แต่มองอย่างตาถลน
“นี่มันซู่เหยียนแห่งนิกายเงาจันทร์นี้? ทำไมนิกายเงาจันทร์ถึงไปอยู่สวนป่าบนกัน?”
“ได้ยินว่าสวนป่าบนนั้นเป็นสถานที่ไว้รับรองผู้อาวุโสที่มาจากเกาะใน แม้แต่พวกเราทั้งหลายก็ยังไม่เคยจะได้ไปพักเลย!”
“ข้าว่าพวกนั้นคงเข้าไปพักในสวนป่าบนอย่างไม่ได้รับอนุญาตจนสุดท้ายทำให้ผู้อาวุโสไช่ไม่พอใจและออกมาไล่เช่นนี้ คงมีเรื่องสนุกๆ ให้ดูแล้ว”
…
คนทั้งหลายนั้นต่างมาจากนิกายระดับเทพถ่องแท้เพื่อเข้าร่วมชุมนุมการต่อสู้แห่งกอไผ่ เมื่อพวกเขาทั้งหลายเห็นว่านิกายเงาจันทร์กำลังเข้าพักที่สวนป่าบนพวกเขาก็ตื่นตกใจกันอย่างมาก
นิกายเงาจันทร์นั้นนับว่าเป็นนิกายระดับกลางค่อนไปทางต่ำในหมู่นิกายระดับเทพถ่องแท้ มีหรือที่พวกเขานั้นจะมีสิทธิ์ไปพักที่สวนป่าบน?
เมื่อคิดได้ว่าเรื่องราวมันต้องเกิดขึ้นอย่างไม่ได้รับอนุญาตและผู้อาวุโสไช่ก็มาเจอเข้าพอดี พวกเขาจึงเข้าใจได้ว่าทำไมผู้อาวุโสไช่ถึงโกรธแค้นเคืองได้ขนาดนี้
ไช่เจินคนนี้มีชื่อในเรื่องอารมณ์ที่รุนแรง ทำให้ทุกผู้คนต่างมองดูภาพตรงหน้าอย่างตื่นตาตื่นใจ
ตุบ!
ไช่เจินขวางรายการนั้นใส่หน้าซู่เหยียนโดยไม่คิดจะไว้หน้าผู้อาวุโสระดับเทพถ่องแท้คนนี้เลยแม้แต่น้อย “ทำอะไร? เจ้าเบิกตาดูเองแล้วกัน! ไอ้เด็กนามเย่หยวนคนนี้มันคิดว่าวิหารเป็นนิกายเงาจันทร์ของพวกเจ้าหรือ? เปิดปากขึ้นมาทีก็สั่งสมุนไพรระดับห้านับร้อยอย่าง ช่างทำตัวโอหังนัก! ที่สำคัญพวกเจ้าเป็นใครถึงกล้ามาอยู่ในสวนป่าบนเช่นนี้? ตอนนี้! รีบออกไป! ไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวนี้!”
ซู่เหยียนนั้นหยิบรายการนั้นขึ้นมาดูพร้อมอ้าปากค้าง
เขาคิดว่าเย่หยวนแค่อยากได้สมุนไพรเล็กๆ น้อยๆ ไม่นึกไม่ฝันว่าเมื่อเย่หยวนสั่ง เขาจะสั่งไปนับร้อยๆ อย่าง
ไอ้เด็กคนนี้มันคิดว่าสมุนไพรของวิหารนั้นเสกได้จากอากาศหรือ?
ซู่เหยียนเองก็ได้แต่ทำสีหน้าอึดอัด “นี่มัน… มันน่าจะเข้าใจผิดอะไรกันแน่ แต่การที่เราเข้ามาอยู่ในสวนป่าบนนี้เป็นเรื่องที่ผู้อาวุโสตู้หรูเฟิงจัดการสั่งมา”
เมื่อไช่เจินได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของเขาก็ดำมืดลงทันที “ยู่เหยียน เจ้าคิดจะใช้ชื่อของตู้หรูเฟิงมาขู่ข้า? เจ้าคิดว่าในดินแดนศักดิ์สิทธิ์กอไผ่นี้ข้ายังต้องเกรงกลัวมัน?”
ซู่เหยียนหน้าถอดสีทันทีเพราะตอนนี้เขาได้รู้ตัวแล้วว่าตัวเองหยิบเรื่องมาพูดผิดไป
แม้แต่ตัวเขาเองก็เคยได้ยินมาก่อนว่าไช่เจินนั้นเป็นคนอารมณ์ร้อน
เท่านี้เรื่องราวทั้งหลายมันก็คงยิ่งยากจะคลี่คลายไปอีกเท่าตัว
“พี่ไช่เจินโปรดระงับโทสะก่อน ซู่คนนี้ไม่ได้หมายความแบบนั้น” ซู่เหยียนรีบพูดแก้ออกมา
ไช่เจินถกแขนเสื้อขึ้นเป็นคำตอบ “ไม่ว่าเจ้าจะหมายความว่าอย่างไร ตอนนี้เจ้าก็จงรีบไปเสีย! ภายในสามลมหายใจ หากเจ้ายังไม่ไปอีกอย่าได้มาโทษว่าเฒ่าคนนี้ไม่เกรงใจ! หนึ่ง!”
แม้จะเป็นเทพถ่องแท้เหมือนกันแต่ไช่เจินนั้นกลับไม่คิดไว้หน้าซู่เหยียนแม้แต่น้อย เขาเริ่มทำการนับถอยหลังออกมาทันที
ในสายตาของเขาแล้วตัวตนอย่างซู่เหยียนนั้นมันเป็นได้แค่เรื่องตลก
ซู่เหยียนได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมากับความไร้เหตุผลของอีกฝ่ายนั้น
เวลานั้นเองที่เย่หยวนค่อยๆ เดินออกมาจากที่พักในสวนป่าบนด้วยท่าทางเฉยชา “ผู้อาวุโสซู่ หากผู้อาวุโสท่านนี้ต้องการให้เราไป เราก็จงไปกันเถอะ แล้วก็นะ สมุนไพรเหล่านั้นไม่ให้ก็ไม่ต้องให้สิ จะมาเดือดร้อนอะไรนักหนา?”
ไช่เจินหันไปมองทันที “เจ้าคือเย่หยวน?”
เย่หยวนยิ้มตอบ “ข้าน้อยเย่หยวนขอคารวะผู้อาวุโสไช่”
ไช่เจินพ่นลมหายใจแรงออกมา “แค่ศิษย์นิกายระดับเทพถ่องแท้กลับทำตัวแสนโอหัง ไม่คิดให้เกียรติแก่วิหารสักนิด วันนี้ไม่สั่งสอนเจ้าคงไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นเจ้าจะคิดว่าตัวเองเป็นยอดอัจฉริยะไปตลอด!”
พูดจบไช่เจินก็ปล่อยพลังของเทพถ่องแท้ออกมาพร้อมยื่นมือเข้าโจมตีเย่หยวน
ไช่เจินโจมตีเข้ามาทันทีอย่างไม่คิดจะฟังคำพูดใดๆ ของเย่หยวนเลย
เย่หยวนรู้สึกได้ถึงพลังโลกที่พุ่งเข้ามาครอบฟ้าคลุมดินรอบตัวเขา
นั่นทำให้ใบหน้าของเย่หยวนเปลี่ยนสีไปทันที เจ้าหมอนี่มันช่างไร้เหตุผลเสียจริงๆ
แต่จู่ๆ ก้อนเนื้อสีชมพูสดก็พุ่งตัวออกมาจากอ้อมอกของเย่หยวนและขวางทางไช่เจินไว้
เมื่อไช่เจินเห็นเจ้าหมูสมบัติเขาก็หน้าถอดสีก่อนจะรีบรั้งมือกลับไปในทันที “ห-หมูสมบัติ!”
หมูสมบัตินั้นแยกเขี้ยวใส่ไช่เจินด้วยท่าทางที่ไม่พอใจอย่างมาก
ไช่เจินรีบแก้ตัวยิ้มกลับไปให้เจ้าหมูสมบัติอย่างเก้ๆ กังๆ “ข-ขออภัย! ข้าไม่รู้ว่าหมูสมบัติอยู่ที่นี่ด้วย”
หมูสมบัติไม่คิดยอมรับรอยยิ้มนั้นและยังคงแยกเขี้ยวใส่ไช่เจิน
ไช่เจินได้แต่ยิ้มๆ ออกมา “ได้ๆ ข้าจะไปแล้ว! ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย! พวกเจ้า… พวกเจ้าอยู่ในสวนป่าบนกันต่อเถอะ น้องซู่เหยียน เย่หยวน พวกเจ้ารีบเข้าไปด้านในเถอะ อย่าได้อยู่ด้านนอกนี้เลย ลมข้างนอกมันแรงระวังเป็นหวัดเอา”
“ฮ่าๆ!”
ไป่หลี่ชิงหยานที่หน้าซีดเผือดด้วยพลังโลกของไช่เจินเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนอดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสภาพแสนนอบน้อมของไช่เจินในตอนนี้
ไช่เจินนั้นมีท่าทางอายๆ ก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้และรีบยกมือขึ้นมาตีหัวตัวเอง “จริงด้วย น้องซู่เหยียน คืนรายการที่เย่หยวนต้องการให้ข้าหน่อย ข้าจะรีบไปจัดเตรียมให้เดี๋ยวนี้เลย วันนี้ข้าจะนำมันมาส่งให้เย่หยวนให้ได้!”
ทุกคนต่างมองดูความเปลี่ยนแปลงของไช่เจินด้วยสีหน้ามึนงง
ทุกคนล้วนตกตะลึงไม่รู้ว่าเจ้าหมูนี่คืออะไร แล้วมันไปมีความสัมพันธ์แบบไหนกับนิกายเงาจันทร์กันแน่
เมื่อพูดกล่าวเช่นนั้นแล้วไช่เจินก็รีบหันหน้ากลับไป ก่อนจะพบชูเวินที่ยังยืนมองเรื่องราวอยู่ด้านหลัง
ผัวะ!
เสียงกระแทกดังสนั่นขึ้นมาเพราะข้อศอกของไช่เจิน
เขาตะโกนว่า “ไอ้โง่! ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าหมูสมบัติอยู่ที่นี่ด้วย?”
…………………………