ในจิตใจของหยางเชินนั้น เย่หยวนคือเป้าหมายที่แท้จริงของเขา
การสังหารอี้ชิงเซียงร้อยคนมันก็ไม่สำคัญเท่าสังหารเย่หยวนคนเดียว
เพราะฉะนั้นตอนที่ลงมือกับพวกอี้ชิงเซียงนั้นหยางเชินจึงไม่ได้คิดลงมืออย่างเต็มที่
สังหารได้ก็ดีไป สังหารไม่ได้ก็ไม่เป็นเรื่องใหญ่มากมาย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเย่หยวนต้องตาย
เพราะเรื่องราวทั้งหลายนั้นมันเกิดขึ้นมาจากเย่หยวน
เมื่อเห็นท่าทางลำบากของเย่หยวนในตอนนี้รอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยางเชิน ดาบของเขาเปลี่ยนพุ่งเป็นลำแสงเข้าฟันหัวของเย่หยวนในทันที
แต่ทว่าก่อนที่ดาบของหยางเชินจะเคลื่อนไปถึงตัวเย่หยวน มันกลับหยุดลงราวกับว่าอากาศนั้นมีอะไรมาขวางกั้น
ตอนนี้ร่างของเขาไม่อาจขยับเคลื่อนไหวได้เลย
เบื้องหน้าหยางเชินนั้นราวกับว่ามีมิติไร้ขีดจำกัดขวางกั้นรอให้เขาข้ามผ่านมันไป
ดาบของเขาตัดผ่านมิตินั้นไปทีละชั้นๆ แต่ก็ยังไม่อาจถึงตัวเย่หยวนได้เสียที
สองสุดยอดแนวคิดปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง!
“ฮ่าๆ ไม่มีประโยชน์! ต่อหน้าแนวคิดแห่งกาลเวลาแล้วทุกสิ่งอย่างมันไร้ความหมาย ไปตายเสีย!”
หยางเชินหัวเราะลั่นก่อนจะผลักดันดาบในมือจนพุ่งออกไปด้านหน้าได้อีกครั้ง
ดาบนี้มันห่างจากหัวของเย่หยวนไปแค่ไม่กี่นิ้ว!
คลื่นพลังที่เย็นเยือกนี้มันทำให้เย่หยวนต้องหลับตาอย่างไม่อาจลืมได้
ทุกคนหัวใจเต้นรัว มองดูภาพอันหวาดเสียวตรงหน้า
ใบหน้าของพวกไป่หลี่ชิงหยานซีดเผือดลงทันทีด้วยความป็นห่วงและกังวล
หากดาบนี้ถูกฟันลงแล้ว เย่หยวนคงตายแน่!
แต่ตอนนั้นเองที่เกิดมีเส้นใยสายสีฟ้าพวยพุ่งออกมาจากร่างเย่หยวนอย่างบ้าคลั่ง ราวกับเส้นใยที่แมงมุมปล่อยออกมาทำรัง
หยางเชินหน้าถอดสีเพราะเจ้าเส้นใยสีฟ้านี้มันถูกปล่อยออกมาอย่างไม่จบสิ้นจนห่อหุ้มร่างของพวกเขาทั้งสองไว้
เรื่องราวภายในนี้มันถูกตัดการมองเห็นจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง
“นี่มัน… อะไรกัน?” ตู้หรูเฟิงถามขึ้นด้วยใบหน้าตื่นตะลึง
ตงน้อยพูดตอบกลับมาด้วยท่าทางสั่นกลัวไม่น้อย “นี่มัน… เหมือนว่าจะเป็นอะไรที่คล้ายพลังโลก แต่มันก็ดูต่างออกไป หากข้าเดาไม่ผิดเย่หยวนคงชนะแล้ว!”
ตู้หรูเฟิงหรี่ตาลงมองทันที “ชนะอย่างนี้? ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าด้านในเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
ตงน้อยตอบ “แม้เราจะไม่รู้ว่าด้านในกำลังเกิดอะไรขึ้นแต่มันต้องเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายแน่… เพราะแม้แต่ข้าก็ยังรู้สึกได้ถึงความอันตราย!”
ตู้หรูเฟิงหน้าซีดเผือดลงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาย่อมรู้ดีว่าตงน้อยผู้นี้เป็นใครมาจากไหน
ถ้าแม้แต่เขาคนนี้ยังรู้สึกได้ถึงอันตราย เจ้าเส้นใยสีฟ้านี้มันต้องเป็นอะไรที่แสนน่ากลัวแน่
ด้านในลูกบอลเส้นใยนั้นเย่หยวนกำลังสะบัดดาบยาวด้วยดวงตาสองข้างที่เปล่งแสงสีฟ้า ดาบนี้ของเขาปัดดาบของ หยางเชินจนปลิวไปทันที
หยางเชินเบิกตามองด้วยความตื่นตกใจ “นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร? แนวคิดแห่งกาลเวลา!”
หยางเชินพยายามอย่างมากที่จะเรียกแนวคิดแห่งกาลเวลาออกมาใช้ แต่มันราวกับว่าเขาไม่อาจจับต้องแนวคิดแห่งกาลเวลาได้อีกต่อไป
สถานการณ์เช่นนี้มันทำให้ผู้คนสิ้นหวัง
ดวงตาสีฟ้าครามของเย่หยวนนั้นจ้องมองมาอย่างไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ “เจ้าออมมือตัวเองไว้ แล้วเจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าข้าเองก็ไม่ได้เอาจริงเอาจัง? ไม่ต้องเสียแรงขัดขืนอีกแล้ว มิติลายพระเจ้าไม่ผูกมัดกับแนวคิดใด! กฎของที่นี่ถูกข้าตั้งขึ้น แนวคิดใดที่เจ้าเรียนรู้มาจากมหาพิภพถงเทียนมันไร้ค่าที่นี่!”
หลังจากเย่หยวนบรรลุอาณาจักรลายพระเจ้าแล้วเขาก็พบว่าตัวเองสามารถสร้างมิติลายพระเจ้านี้ขึ้นมาได้
เมื่อเขาเข้ามาภายในเย่หยวนกลับพบว่าตัวเองควบคุมทุกแนวคิดได้!
ในที่แห่งนี้ เขาคือผู้ปกครองอย่างแท้จริง!
แต่ดูท่าฝั่งหยางเชินจะไม่คิดเช่นนั้นแถมยังหัวเราะลั่นออกมา “เจ้าตั้งกฎ? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นเทพผู้สร้างหรือ? เล่นเอาข้าจะขำตายแล้ว!”
เย่หยวนตอบ “ไม่เชื่อ? ดู! เวลา จงหยุด!”
เมื่อเย่หยวนชี้นิ้วออกมาร่างของหยางเชินกลับขยับไม่ได้
เขาพยายามดิ้นรนอย่างถึงที่สุด แต่ก็พบว่าตัวเองมิอาจขยับเคลื่อนไหวได้เลย
หยางเชินนั้นเข้าใจแนวคิดแห่งกาลเวลาอย่างดี เขาย่อมเข้าใจได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่วิชาผูกมัดใดๆ แต่เป็นการหยุดเวลาอย่างแท้จริง!
คลื่นยักษ์สาดซัดเข้ากลางใจของเขา มองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง
เรื่องเช่นนี้… มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
หยุดเวลานั้นคือจุดสุดยอดของแนวคิดแห่งกาลเวลา คนที่จะทำได้ต้องบ่มเพาะฝึกฝนแนวคิดแห่งกาลเวลาจนถึงระดับเจ็ดดาวเท่านั้นจึงจะสามารถทำได้
แต่ดูอย่างไรเย่หยวนก็ไม่มีทางรู้ถึงแนวคิดแห่งกาลเวลา แต่เขากลับทำได้ถึงขั้นนี้
นี่เป็นเครื่องยืนยันว่าเย่หยวนไม่ได้พูดเล่น เขาควบคุมมิตินี้ได้อย่างสิ้นเชิง!
แข็งแกร่งเกินไป!
และยังน่าเหลือเชื่อเกินไปด้วย!
เรื่องราวเช่นนี้มันก็ยังมีในโลกอีกหรือ
เย่หยวนบอก “ดูท่าเจ้าจะเชื่อแล้ว เช่นนั้นจงตายไปเสีย”
นั่นทำให้หยางเชินตื่นตระหนกขึ้นทันที เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต
ราวกับว่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้คือเทพผู้สร้างอย่างแท้จริง
“เดี๋ยวก่อน! ข้า… ข้าผิดไปแล้ว ไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้าสัญญาว่าจากนี้ไปข้าจะไม่มาหาเรื่องพวกเจ้าอีกแล้ว!” หยางเชินตะโกนบอก
แต่เย่หยวนนั้นก็ยังมองมาด้วยสายตาไร้ความรู้สึก “มันสายไปที่จะยอมรับผิดแล้ว”
พูดจบเย่หยวนก็ชี้นิ้วออกมาส่งร่างของหยางเชินให้หายไปทั้งๆ อย่างนั้น
มองดูภาพของหยางเชินที่ค่อยๆ จางหายไปเย่หยวนกลับไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ แสดงออกมา
ความเฉยชาของเย่หยวนในตอนนี้มันเหนือล้ำกว่าตัวเขาในเวลาปกติอย่างมาก
เขานั้นปล่อยคลื่นพลังที่เย็นเยือกออกมาตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ในที่สุดบอลเส้นใยสีฟ้าก็ค่อยๆ จางลงและกลับเข้าสู่ทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวน
‘ฟุบ!’
ร่างของเย่หยวนล้มลงนอนหมดสติบนสังเวียน
แต่แน่นอนว่ามันไม่เหลือหยางเชินอยู่อีกแล้ว บนสังเวียนมีเพียงเย่หยวนเท่านั้น
หยางเชินนั้นตายจนไม่อาจหาได้แม้แต่เศษเสี้ยววิญญาณ
นั่นทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นรอบๆ!
ก่อนหน้านี้หยางเชินยังเป็นตัวเต็งในการได้อันดับหนึ่งของงานชุมนุมครั้งนี้ ไม่มีใครนึกใครฝันว่าเขาจะแพ้พ่ายและยิ่งไม่มีใครคิดว่าเขาจะตายลงเช่นนี้
แต่ตอนนี้เขากลับถูกเย่หยวนสังหารลงเงียบๆ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อาวุโสนิกายสว่างชัดในตอนนี้ที่รู้สึกโกรธแค้นอย่างไม่อาจระบายออก ทำให้ร่างกายของเขาแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ
นิกายสว่างชัดนั้นแข็งแกร่งจนทำให้ผู้คนหวาดกลัว แต่ครั้งนี้เขากลับเสียศิษย์ไปแล้วถึงหกคน เรื่องเช่นนี้จะกลับไปรายงานนิกายได้อย่างไร?
เมื่อเห็นว่าตู้หรูเฟิงยังยืนมึนงง ตงน้อยจึงพูดขึ้น “นี่ เจ้าประกาศผลสิ”
“อ่า? อ่อ อืม!” ตู้หรูเฟิงเหมือนเพิ่งถูกปลุกให้ตื่นจากฝัน
ความตกตะลึงที่เขาได้รับนั้นมันเหนือล้ำกว่าสิ่งใดๆ
เส้นใยสีฟ้านั้นมันเหมือนกับเส้นไหมห่อดักแด้มีความสามารถกลืนกินทุกสิ่งอย่าง ทำลายร่างของหยางเชินจนไม่เหลือแม้แต่เศษผง
เย่หยวนคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่?
เพราะจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เขาไม่คิดว่าเย่หยวนจะชนะเลย
เพราะอย่างไรเสียทั้งคู่ก็บรรลุสุดยอดแนวคิด และหยางเชินยังมีพลังบ่มเพาะที่เหนือล้ำกว่าเย่หยวนอีกด้วย
แต่ไม่มีใครคิดใครฝันว่าพวกเขากลับพบเจอผลเช่นนี้
“ศึกนี้เย่หยวนเป็นผู้ชนะ หยางเชินเสียชีวิต!” ตู้หรูเฟิงร้องประกาศ
เมื่อเสียงนั้นดังขึ้น ก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งขึ้นสังเวียนมาอย่างรวดเร็วพร้อมยกฝ่ามือเตรียมสังหารเย่หยวนที่นอนหมดสติ
ผู้อาวุโสนิกายสว่างชัด!
ตอนนี้ดวงตาของเขาแดงก่ำราวคนบ้า ไร้สิ้นซึ่งเหตุและผล
ตู้หรูเฟิงหัวเราะเย้ยก่อนจะพุ่งตัวออกไปบนสังเวียนบ้าง
‘ปัง!’
สองเทพถ่องแท้ปะทะกันเข้าจนทำให้ผู้อาวุโสนิกายสว่างชัดลอยปลิวไป
“ฮั่นเจี้ยนชิง เจ้าคิดจะทำอะไร?” ตู้หรูเฟิงถามขึ้น
…………………………