ไม่ต้องให้เขาบอกทุกผู้คนก็ต่างเห็นมัน
ไม่ไกลออกไปมันกลับมีโอเอซิสปรากฏขึ้นมา
และส่วนกลางของโอเอซิสนั้นมันก็มีโต๊ะหินและกล่องใบหนึ่งวางไว้บนนั้น
“เลือดแท้วิหคชาด! มันต้องเป็นเลือดแท้วิหคชาดแน่!”
ทุกคนแทบจะบ้าคลั่งไป ตอนนี้มีหรือที่ยังคิดจะสนใจใดๆ พวกเขาทั้งหลายนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่โอเอซิสอย่างบ้าคลั่ง
“เลือดแท้วิหคชาดเป็นของข้า! ใครก็ไม่มีสิทธิเอาไปทั้งนั้น!”
“ตาย!”
“พวกเจ้าหลบไป หลีกทางให้พ่อเจ้า!”
…
ภาพที่ยังดูสงบนิ่งเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนได้หายไปจนสิ้น
เหล่านักยุทธทั้งหลายต่างพุ่งตัวออกไปอย่างบ้าคลั่งพร้อมลงมือแย่งชิงกล่องใบนั้น
ไม่นานนักพวกนักยุทธนภาสวรรค์ทั้งหลายก็ได้รู้ว่าการต่อสู้แย่งชิงกล่องของเหล่ายอดยุทธทั้งหลายนี้พวกเขาไม่อาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยได้เลย
เพราะเหล่ายอดคนทั้งหลายนี้คือเทพถ่องแท้
แม้ว่าพวกเขาจะกดพลังบ่มเพาะของคนลงมาที่อาณาจักรนภาสวรรค์แต่พลังฝีมือของพวกเขานั้นมันก็เหนือล้ำกว่าที่นภาสวรรค์คนไหนๆ จะเทียบเคียงได้
พวกเขานั้นเข้าใจแนวคิดต่างๆ อย่างเหนือล้ำ อย่างที่เหล่านักยุทธนภาสวรรค์ไม่สามารถที่จะเทียบเคียงได้เลย
รอบๆ โต๊ะหินนั้นมีศพกองกันอยู่จนไม่เห็นพื้น
เย่หยวนและเล้งชิวหลิงนั้นยังไม่คิดขยับ เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านั้นเล้งชิวหลิงก็ได้แต่ทำหน้าเหยเกก่อนจะบอก “แน่ล่ะนะ โอกาสเช่นนี้มันคงมีแต่เหล่าเทพถ่องแท้เท่านั้นที่จะรับมันไปได้”
เย่หยวนยิ้ม “อาจจะไม่แน่เสมอไป”
เล้งชิวหลิงเบิอกตากว้างขึ้นเมื่อได้ยิน “เจ้าหมายความว่า?”
เย่หยวนยิ้มตอบ “อีกไม่นานเจ้าก็จะรู้เอง แต่ก่อนอื่นเรายังต้องมีอะไรให้จัดการ”
ในหมู่นักยุทธนภาสวรรค์นั้นซัวหานหรี่ตาลงแคบทันที
เขาพบว่าตอนนี้เย่หยวนกลับกำลังเดินมาหาตัวเขา!
‘หรือว่ามันจะพบข้าแล้ว? บ้าน่า! เราเดินทางมาอย่างระมัดระวังตลอดมันไม่มีทางรู้ตัวได้แน่!’ ซัวหานได้แต่คิดในใจ
เพราะตอนนี้จี้ฉุนกำลังเข้าไปต่อสู้กับเทพถ่องแท้คนอื่นๆ เพื่อแย่งชิงเลือดแท้วิหคชาดอย่างที่ไม่มีเวลาใดมาสนใจซัวหานเลย
ตอนนี้เรื่องราวมันไม่เป็นไปตามที่ซัวหานต้องการแล้ว เย่หยวนกำลังค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“หึๆ คิดอยากลอบสังหารเจ้าก็ควรปกปิดจิตสังหารของตนเสียหน่อยนะ เมื่อมีจี้ฉุนอยู่ด้วยแล้วเจ้ามันกลับบ้าบิ่นไม่กลัวตาย!”
คำพูดสบายๆ ของเย่หยวนนั้นดังเข้าหูซัวหานทำให้ความหวังใดๆ ที่เขาเคยมีแตกสลายลงไป
ซัวหานหน้าถอดสีลงทันที มีหรือที่เขาจะยังยืนนิ่งรอความตายได้ร่างกายของเขาพุ่งออกไปยังทิศทางของโอเอซิสในทันที
“อาจารย์ช่วยข้าด้วย!” ซัวหานร้องบอก
ตอนนี้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายกำลังปะทะกันอย่างดุเดือดโดยทางจี้ฉุนเริ่มที่จะได้เปรียบขึ้นเรื่อยๆ และเกือบที่จะแย่งชิงกล่องนั้นมาได้แล้ว
ใครจะไปคิดว่าวินาทีนี้ซัวหานกลับพุ่งตัวออกมาเสียอย่างนั้น
ส่วนที่ด้านหลังมีร่างของเย่หยวนกำลังพุ่งลอยตามออกมา
ดาบฝ่าน้ำค้างแข็งยกขึ้นสูงในมือ ท่าสังหารของเย่หยวนนั้นกำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว
“เย่หยวนเจ้ากล้า?!” จี้ฉุนร้องขึ้นด้วยท่าทางแสนโกรธแค้น
เย่หยวนยิ้ม “เจ้าคิดว่าข้ากล้าไหมล่ะ?”
เย่หยวนนั้นใช้จังหวะเวลาที่เหมาะเจาะเป็นเวลาที่จี้ฉุนไม่อาจวางมือได้เพราะที่ด้านหน้าเองเขาก็ต้องต่อสู้อยู่อย่างไม่สามารถหยุดพัก
สองตาของจี้ฉุนนั้นแดงก่ำ ระหว่างที่เขากำลังคิดลังเลเขาก็ถูกเทพถ่องแท้อีกคนหนึ่งซัดฝ่ามือใส่เข้า
“ดาบตัดผ่ามิติ!”
ซัวหานนั้นมีวรยุทธเคลื่อนที่ที่รวดเร็วไม่น้อย แต่ความเร็วของเย่หยวนนั้นมันเหมือนกับเขาหายตัวได้!
ไม่ว่าจะเร็วแค่ไหน มีหรือที่เขาจะหลบรอดดาบของเย่หยวนไปได้?
เมื่อดาบถูกปล่อยออกซัวหานก็ไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้อง ร่างกายของเขาแตกสลายหายไปในทันที
ยอดอัจฉริยะของเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์นทีกลับต้องตายลงเช่นนี้!
ตอนนี้ทางฝั่งจี้ฉุนที่ต่อสู้ในศึกอันดุเดือดอยู่ก็ต้องบาดเจ็บอย่างสาหัสด้วยเพลงดาบของคู่ต่อสู้
แต่เขาไม่ได้คิดสนใจบาดแผลบนร่างเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาหันไปร้องตะโกนใส่เย่หยวน “เย่หยวน หากข้าไม่สังหารเจ้าอย่ามาเรียกข้าว่าคนอีก!”
เย่หยวนมองดูจี้ฉุนอย่างเย็นเยือก “ข้าเกรงว่าเจ้าคงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว! ข้านั้นไม่ได้เป็นผู้หาเรื่องพวกเจ้าศิษย์อาจารย์เลยแท้ๆ แต่พวกเจ้ากลับคิดสังหารข้าครั้งแล้วครั้งเล่า หึ เจ้าคิดว่าข้ามันอ่อนหัดขนาดนั้นเลย?”
เหล่านภาสวรรค์คนอื่นๆ ที่ได้ยินเช่นนั้นต่างหันมามองเย่หยวนอย่างตกตะลึง
เด็กคนนี้เป็นแค่นภาสวรรค์สองดาวแต่กลับกล้าไปท้าทายเทพถ่องแท้เช่นนี้มันเหมือนกับว่าเขาเบื่อชีวิตเสียเหลือเกินแล้ว
แต่ดาบเมื่อสักครู่นี้มันทำให้ไม่มีใครกล้าคิดเช่นนั้น
นภาสวรรค์สองดาวขั้นสุดกลับสามารถสังหารนภาสวรรค์ห้าดาวลงด้วยดาบเดียว!
ที่สำคัญคนที่เย่หยวนสังหารลงยังไม่ใช่ลูกหมูลูกหมาที่ไหน แต่เป็นถึงซัวหานยอดอัจฉริยะแห่งเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์นที
เด็กหนุ่มคนนี้มีที่มาอย่างไรกันแน่?
“ฮ่าๆ เลือดแท้วิหคชาดเป็นของข้า!” ตอนนั้นเองที่เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมา ต้นเสียงมันคือเทพถ่องแท้ที่เพิ่งประดาบกับจี้ฉุนไปและตอนนี้เขาก็เข้าไปคว้าหยิบกล่องบนโต๊ะมาได้แล้ว
เขาพุ่งตัวผ่านเหล่ายอดฝีมือเทพถ่องแท้ทั้งหลายและเข้ามาถึงเลือดแท้วิหคชาดได้ในที่สุด
จี้ฉุนเบิกตากว้างราวกับคนเสียสติก่อนจะพยายามกดดันอาการบาดเจ็บของตนไว้และพุ่งตัวส่งร่างออกไป!
ชัวะ!
เทพถ่องแท้ผู้นั้นที่กำลังหัวเราะร่ากลับได้เห็นว่าหัวใจของตนปลิวลอยหายไป ตอนนี้อกของเขาถูกใครบางคนแทงจากด้านหลังด้วยดาบเดียว
แน่นอนว่าคนผู้นั้นย่อมสามารถที่จะแย่งชิงกล่องในมือของเขาไปได้
และแน่นอนว่าคนที่ฆ่าสังหารเขามันย่อมเป็นจี้ฉุน
ในวินาทีสักครู่นี้เขาได้ใช้วิชาลับปล่อยพลังทั้งหมดของร่างกายออกมาพร้อมฆ่าสังหารเทพถ่องแท้คนนั้นในขณะที่เขาไม่ทันระวัง
หลังจากแย่งสมบัติไปได้แล้วเขาสก็ไม่คิดที่จะหยุดตัวลง ร่างของจี้ฉุนกลายเป็นแค่เงาติดตามุ่งหน้าหนีหายไปในทะเลทรายทันที
“เย่หยวน เมื่อข้าหลอมเลือดแท้วิหคชาดนี้ได้แล้วมันจะเป็นวันที่เจ้าต้องจบชีวิตลง!” เสียงของจี้ฉุนที่หนีไปลอยกลับมาตามอากาศ
การพูดอธิบายออกมามันอาจจะฟังเหมือนช้า แต่แท้จริงแล้วเรื่องเมื่อสักครู่นี้ทั้งหมดมันเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว
เมื่อได้ยินเสียงนั้นเหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายก็รู้สึกราวกับว่าได้ตื่นขึ้นจากความฝันและทุกผู้คนต่างก็มุ่งหน้าไล่ตามจี้ฉุนไปทันที
นี่คือเลือดแท้วิหคชาดที่พวกอุตส่าห์ลำบากตามหา มีหรือที่จะปล่อยให้จี้ฉุนนำมันไปใช้ง่ายๆ?
“หากคิดอยากหลอมเลือดแท้วิหคชาดเจ้าก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”
“ทิ้งเลือดแท้วิหคชาดลงเดี๋ยวนี้!”
…
หลังจากกลุ่มเทพถ่องแท้ได้จากไปการเข่นฆ่าสังหารจึงได้จบลงตาม
เหล่านักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์ทั้งหลายนั้นต่างหันมามองดูเย่หยวนด้วยสายตาเวทนา
จี้ฉุนได้เลือดแท้วิหคชาดไป หลังจากเขาหลอมกลั่นมันได้แล้วพลังของเขาคงพุ่งทะยานขึ้นอย่างมาก
เดิมทีเขาที่เป็นถึงเทพถ่องแท้อยู่แล้วมันย่อมยิ่งจะทำให้การสังหารเย่หยวนง่ายดายขึ้นมิใช่หรือ?
เมื่อไม่มีเลือดแท้วิหคชาดแล้วเหล่าผู้คนก็ย่อมไม่คิดที่จะอยู่ภายในนี้อีกต่อไป
หลังได้ยินเสียงถอนหายใจยาวติดๆ กันเหล่านักยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์ทั้งหลายก็ได้เดินทางจากไป
เล้งชิวหลิงเองก็ได้แต่เดินมาหาเย่หยวนพร้อมถอนใจยาว “เจ้าเองก็ใจร้อนไป! สังหารซัวหานลงเช่นนั้นมันง่ายดายแต่เจ้ากลับไปทำให้จี้ฉุนโกรธแค้นขึ้นมาเช่นนี้ แถมตอนนี้เขายังได้เลือดแท้วิหคชาดไปแล้วด้วย หลังจากหลอมมันได้แล้วพลังของเขาคงพัฒนาขึ้นไปอีกมากมาย ถึงตอนนั้นเขาจะยิ่งเป็นตัวยุ่งยากเสียกว่าที่ผ่านๆ มา”
ต่อให้จี้ฉุนจะไม่สามารถใช้พลังของเทพถ่องแท้ได้ในที่แห่งนี้แต่พลังของเขาก็ยังเกือบเข้าขั้นเทพถ่องแท้
ที่สำคัญความเข้าใจในแนวคิดของจี้ฉุนนั้นสูงส่งมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นภาสวรรค์สักคนหนึ่งจะไปเทียบเคียงเขาได้
การไปท้าทายศัตรูที่แข็งแกร่งปานนั้นมันมิใช่เรื่องที่ฉลาดนัก
แต่ใครจะไปคาดว่าเย่หยวนกลับตอบมาด้วยรอยยิ้ม “จี้ฉุนได้เลือดแท้วิหคชาดไป? หึๆ ดูท่า… เขาคงต้องผิดหวังแล้ว”
เล้งชิวหลิงเลิกคิ้วขึ้นทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “หืม? เจ้าหมายความว่า?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เลือดแท้วิหคชาดนั้นยังอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้น… สิ่งที่จี้ฉุนนำไปมันย่อมมิใช่เลือดแท้วิหคชาดแน่”
“ยังอยู่? เรื่องนี้… มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
ต่อให้เล้งชิวหลิงจะมีอารมณ์เย็นราวน้ำแข็งแต่คำพูดนี้ของเย่หยวนมันก็ทำเอานางตอบไม่ถูก
เพราะจี้ฉุนได้นำเลือดแท้วิหคชาดไปแล้วจริงๆ ภายใต้สายตาของทุกผู้คน แต่เย่หยวนกลับพูดบอกมาว่าเขานั้นไม่ได้มันไป!
…………………………