เรื่องราวต่างๆ มันดำเนินไปได้อย่างราบรื่นราวกับว่าทั้งหมดนี้มันถูกเตรียมมาไว้ให้แก่เย่หยวนแล้ว
ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนการจะเดินเหินขึ้นฟ้าไปหยิบเลือดมาเช่นนี้มันก็เป็นเรื่องที่สุดแสนอันตราย
แต่เย่หยวนกลับทำมันได้อย่างง่ายดาย
ท่าทางของเขานั้นมันราวกับว่าออกมาเดินเล่นในสวนหลังบ้าน
“เจ้าหลอมมันซะที่นี่เถอะ ข้าจะเฝ้ายามให้ ที่นี่มันคงไม่มีใครคิดที่จะเข้ามารบกวนเจ้าอีกแล้ว”
เย่หยวนยื่นเลือดแท้วิหคชาดให้แก่เล้งชิวหลิงแต่ฝ่ายเล้งชิวหลิงกลับเอาแต่ยืนนิ่งไม่ยอมรับไป
“นี่มัน… เจ้าคิดมอบมันให้ข้าจริง?” เล้งชิวหลิงถามขึ้นด้วยสายตาที่เปี่ยมความสงสัย
มันมิใช่ว่านางไม่เชื่อคำเย่หยวน แต่เป็นเพราะว่าสมบัติล้ำค่าเช่นนี้มันเป็นสิ่งที่แม้แต่เทพถ่องแท้ยังต้องการ แต่เย่หยวนคนนี้กลับมอบมันให้นางอย่างไม่มีท่าทางลังเลใดๆ เลย
เรื่องเช่นนี้มันย่อมทำให้ผู้คนหลงลืมคิดว่าตัวเองได้ฝันไป
เย่หยวนยิ้มตอบ “มีหรือที่สายสัมพันธ์ของสหายจะมาแทนที่ด้วยเลือดหยดเดียวได้? วันนั้นหากเจ้าไม่ได้พูดขึ้นมาในบ้านตระกูลเล้ง เย่คนนี้เองก็คงต้องลำบากสาหัสกับเรื่องที่ว่าเป็นคนไม่มีที่มาที่ไป เลือดหยดนี้ข้าจึงจะมอบมันให้เจ้า”
“แต่มันล้ำค่าเกินไป”
เมื่อมีสมบัติล้ำค่าอยู่ตรงหน้าเช่นนี้แน่นอนว่าเล้งชิวหลิงย่อมหวั่นไหวไม่น้อยแต่เจ้าเลือดแท้วิหคชาดนี้มันเป็นสิ่งที่แสนสุดล้ำค่าจนเกินกว่าที่นางจะรับไว้ไหว
เย่หยวนยิ้ม “มีหรือที่ถ้ำเทพสวรรค์มันจะมีแค่เลือดแท้วิหคชาดเท่านี้? สมบัติล้ำค่าที่แท้จริงมันยังคงหลับใหลอยู่ภายใน แท้จริงแล้วเลือดแท้วิหคชาดนี้มันอาจจะไม่ได้มีค่าใดๆ เลยก็ได้”
…
การหลอมครั้งนี้กินเวลาไปถึงสามเดือนด้วยกัน
ในวันนี้ที่โอเอซิสแห่งนี้เกิดแสงเจิดจ้าสว่างส่องขึ้นท้องฟ้า
พร้อมด้วยลวดลายสัญลักษณ์ของวิหคชาดที่ก่อตัวขึ้นที่ด้านหลังของเล้งชิวหลิง
ตอนนี้คลื่นพลังของนางนั้นแข็งแกร่งกว่าก่อนมาและได้บรรลุขึ้นมาถึงอาณาจักรนภาสวรรค์หกดาวเป็นที่เรียบร้อย
“หึๆ ยินดีด้วย! จากวันนี้ไปแม่นางเล้งที่ผสานแนวคิดแห่งไฟและน้ำแข็งเข้าด้วยกันจะต้องแข็งแกร่งขึ้นมากแน่! อีกไม่นานยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งภายในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์กว้างนั้นคงต้องได้เปลี่ยนชื่อกันแล้ว”
เล้งชิวหลิงค่อยๆ เปิดตาขึ้นมาพร้อมเสียงของเย่หยวนที่ส่งเข้าหู
แต่ก่อนที่เล้งชิวหลิงจะทันได้ตอบอะไรกลับไปนางกลับต้องหรี่ตาเล็กด้วยความตื่นตกใจอย่างมหาศาล
เพราะตอนนี้เย่หยวนกลับสามารถบรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์สามดาวมาได้แล้ว
“เจ้าเองก็บรรลุขึ้นมาเช่นกันมิใช่หรือ?” รอยยิ้มอันขมขื่นแย้มออกมาจากมุมปากของเล้งชิวหลิง
เพราะนางคิดว่าการที่ได้หลอมเลือดแท้วิหคชาดในครั้งนี้มันคงทำให้ตัวนางทิ้งห่างเย่หยวนไปได้อีกพักใหญ่ๆ ไม่นึกไม่ฝันว่าเวลาแค่สามเดือนนี้เย่หยวนกลับจะสามารถบรรลุขึ้นมาได้อีกหนึ่งดาวเช่นกัน
หรือว่าแท้จริงแล้วชายคนนี้ไม่มีคอขวดเลย?
เย่หยวนยิ้มออกมา “พลังงานของเลือดแท้วิหคชาดนั้นมันเหนือล้นทำให้ข้าที่อยู่ด้านข้างก็ได้รับผลประโยชน์ไปด้วยไม่น้อยจนสามารถบรรลุขึ้นมาได้เช่นนี้ เอาล่ะ ตอนนี้มันก็ชักช้ามามากแล้ว เรารีบออกไปกันก่อนเถอะ เพราะการจะเปิดถ้ำเทพสวรรค์นั้นมันยังต้องใช้เลือดแท้วิหคชาดที่เจ้ามีอีก”
เล้งชิวหลิงพยักหน้ารับและเดินตามเย่หยวนกลับไปยังประตูทางเข้า
เมื่อพวกเขาทั้งสองกลับมาถึงเทือกเขาอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ได้พบว่าพื้นที่ด้านหน้ามันเปี่ยมไปด้วยนักยุทธ์จำนวนมากมาย
“ฉูชิงคนนั้นช่างเก่งกาจจริงๆ ถึงขั้นสามารถได้รับเลือดแท้ของพยัคฆ์ขาวมาได้! พลังฝีมือของเขาคงพัฒนาขึ้นไปได้อีกมาก ตอนนี้ในหมู่คนหนุ่มสาวด้วยกันมันไม่มีใครที่จะเทียบเคียงเขาได้เลย”
“ใช่ไหมล่ะ? แต่ข้าได้ยินมาว่าเด็กที่ชื่อเย่หยวนมันกล้าจะแย่งผู้หญิงของเขาคนนั้น ดูท่าคงเบื่อชีวิตแล้ว!”
“หึ พูดถึงเจ้าเย่หยวนคนนี้มันก็มิใช่คนธรรมดาๆ เช่นกัน! ภายในประตูวิหคชาดนั้นเย่หยวนได้สังหารศิษย์ของเจ้าเมืองจี้ฉุนแห่งเมืองหลวงจักรพรรดิสวรรค์นทีต่อหน้าต่อตาเขา พลังฝีมือของเย่หยวนคนนี้ย่อมไม่ธรรมดา แต่ที่มันมีมากกว่าใครเลยก็คือความกล้าบ้าบิ่น! แต่ทว่าตอนนี้จี้ฉุนได้รับเลือดแท้วิหคชาดไปแล้ว เจ้าเด็กคนนี้มันคงไม่มีโอกาสได้มีชีวิตแน่”
“มีเรื่องเช่นนั้นด้วย? เช่นนั้นเด็กคนนี้มันก็รนหาเรื่องใส่ตัวเสียแล้ว! ไม่ว่ามันจะมากพรสวรรค์เพียงใดแต่มันก็ยังเป็นแค่นภาสวรรค์สองดาว ต่อหน้าฉูชิงหรือจี้ฉุนมันย่อมไม่มีค่ามีราคาใดๆ”
…
ตอนนี้เรื่องราวใหญ่ๆ ทั้งหลายมันได้สงบลงไปแล้วทำให้เรื่องที่ผู้คนหยิบขึ้นมาพูดกันคือเรื่องที่ว่าใครได้เลือดแท้ของสัตว์เทวะใดบ้าง
เสียงพูดคุยทั้งหลายนี้มันย่อมลอยมาเข้าหูของเล้งชิวหลิงและเย่หยวน
เล้งชิวหลิงได้แต่ขมวดคิ้วแน่นไม่คิดไม่ฝันว่าฉูชิงคนนั้นจะได้เลือดแท้พยัคฆ์ขาวมา
นางรู้ดีว่าการแย่งชิงเลือดแท้มาจากมือของเทพถ่องแท้นั้นมันเป็นเรื่องที่แสนยากเย็นเพียงใด
ฉูชิงคนนี้มันช่างเป็นยอดคนสวรรค์ส่ง ดวงชะตาของเขาคงยิ่งใหญ่มากแน่!
แต่จู่ๆ ก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งตัวออกมาพร้อมเสียงร้อง คลื่นพลังของเขาคนนั้นมันครอบงำพวกเย่หยวนทั้งสองคนไว้ในทันที
“ตาย!”
ในหมู่พันธมิตรพันทะยาน กู่เทียนเฉที่ได้เห็นภาพนั้นต้องหน้าถอดสีลงทันทีก่อนจะพุ่งตัวออกไปโจมตีในเวลาเดียวกัน
‘ปัง!’
การปะทะที่สุดแสนรุนแรง แต่เป็นฝ่ายกู่เทียนเฉที่ต้องเซหลังกลับมาหลายก้าว
“จี้ฉุน ทำเช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร?” กู่เทียนเฉกล่าวถามขึ้น
เงาร่างนี้มันมิใช่ใครที่ไหนนอกไปเสียจากจี้ฉุนผู้ที่เพิ่งออกมาจากประตูวิหคชาด
แต่ตอนนี้คลื่นพลังของจี้ฉุนมันกลับมืดมนและดูเย็นเยือกขึ้นกว่าก่อนมาก มากพอที่จะแช่แข็งผู้คนได้
“กู่เทียนเฉ ข้าแค่อยากได้ชีวิตของเด็กคนนี้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า! หากเจ้าคิดขัดขวางข้าก็จะสังหารเจ้าลงด้วย!” จี้ฉุนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
กู่เทียนเฉนั้นโกรธเคืองขึ้นอย่างมากเมื่อได้ยิน “คิดสังหารข้า? ด้วยคนอย่างเจ้า?”
จี้ฉุนปล่อยคลื่นพลังออกมาอย่างสุดแสนรุนแรงจนทำให้กู่เทียนเฉต้องเบิกตากว้าง
ดูท่าจี้ฉุนคนนี้จะแตกต่างไปจากก่อนหน้า
“เจ้าลองสิ!” จี้ฉุนบอก
แต่เวลานี้เองที่จีคังกลับเดินขึ้นมาห้ามทั้งสองไว้ “เอาล่ะ ตอนนี้ทุกคนกำลังจะเปิดถ้ำเทพสวรรค์ออก สมบัติภายในนั้นมันย่อมจะมีอีกมากมาย ให้เทพถ่องแท้สองคนมาสู้กันเสียตอนนี้มันคงไม่ได้ประโยชน์อันใด ถือว่าเห็นแก่หน้าข้า พวกเจ้าทั้งสองเก็บความแค้นใดๆ ที่มีไว้ก่อน ออกมาจากถ้ำเทพสวรรค์แล้วจะฆ่าสังหารกันมันก็ยังไม่สายไป”
จี้ฉุนเปลี่ยนสีหน้าไปมาอยู่หลายครั้งก่อนจะร้องบอก “ได้ ข้าจะถือว่าเห็นแก่หน้าเจ้า! กู่เทียนเฉ หลังจากออกไปแล้วหากเจ้ายังคิดปกป้องเจ้าสัตว์น้อยตัวนี้ข้าจะสังหารเจ้าลงด้วยแน่! หากเจ้าไม่เชื่อว่าข้าทำได้เจ้าก็ลองดู!”
กู่เทียนเฉหัวเราะเย้ย “ไม่มีเหตุผล!”
แท้จริงแล้วตัวเขาเองก็ตื่นตะลึงกับการปะทะเมื่อสักครู่นี้มาก จี้ฉุนนั้นมีพลังที่ดูเหมือนจะเก่งกาจกว่าแต่ก่อนมากมาย
แต่ในสถานที่นี้ทุกคนต่างต้องกดดันพลังบ่มเพาะของตนไว้ คนผู้นั้นจะมีพลังที่แท้จริงแค่ไหนต้องออกไปก่อนถึงจะรู้กัน
จีคังยิ้มออกมา “หึๆ จีคังได้ยินว่าท่านได้เลือดแท้วิหคชาดมา มาเถอะ ตอนนี้อีกสามคนกำลังรออยู่ก่อนแล้ว พวกท่านไปเปิดถ้ำเทพสวรรค์ด้วยกัน!”
ได้ยินเช่นนั้นจี้ฉุนก็ได้แต่ทำหน้าเหยเกออกมา “ข้าไม่ได้รับเลือดแท้วิหคชาดมา!”
รอยยิ้มของจีคังจึงแข็งค้างอยู่บนใบหน้านั้น “เจ้าไม่ได้? เช่นนั้นใครได้กัน?”
จี้ฉุนหันไปมองเล้งชิวหลิงอย่างขุ่นแค้น
“หึ เวลานกปากซ่อมและหอยตีกัน คนที่จะได้ประโยชน์ก็คือชาวประมง! ข้าไม่นึกเลยว่าในสุดท้ายแล้วมันจะเป็นนังเด็กคนนี้ที่ได้กลายเป็นชาวประมง!”
นั่นทำให้สายตาทุกคู่ต่างหันไปมองเล้งชิวหลิงเป็นตาเดียว
เป็นตอนนั้นเองที่กู่เทียนเฉได้หันกลับมาสำรวจศิษย์ของตนคนนี้และพบว่าตอนนี้นางได้บรรลุสู่อาณาจักรนภาสวรรค์หกดาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
นอกจากจะตกตะลึงแล้วตัวเขายังดีใจมากด้วย
“ฮ่าๆ หลิงเอ๋อ เจ้าได้เลือดแท้วิหคชาดมาจริง?” กู่เทียนเฉถามขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ
เล้งชิวหลิงพยักหน้ารับเป็นการยืนยัน
เมื่อฉูชิงได้ยินข่าวนี้เขาก็หัวเราะลั่น “หึๆ เยี่ยมจริงๆ! ศิษย์น้องชิวหลิง เจ้าและข้านั้นต่างมีดวงชะตาอันยิ่งใหญ่! เจ้ากับเจ้ามดนั่นมันไม่คู่ควรแก่กันหรอก! ความต่างชั้นของพวกเจ้าทั้งสองมันจะมีแต่ขยายตัวขึ้นและขยายตัวขึ้น! มาเถอะ ไปเปิดถ้ำเทพสวรรค์กัน!”
เขารู้สึกว่าการที่ตัวเขาเองนั้นได้เลือดแท้พยัคฆ์ขาวและการที่เล้งชิวหลิงได้เลือดแท้วิหคชาดมามันย่อมจะทำให้รุ่นคนหนุ่มสาวทั้งหลายต้องสั่นสะเทือน
ในภายภาคหน้า การจะก้าวขึ้นสู่อาณาจักรเทพสวรรค์มันก็คงมิใช่เรื่องยากเย็น
แน่นอนว่าเย่หยวนย่อมไม่มีค่าพอจะเทียบเคียงกับเล้งชิวหลิง
“ชะตาอันยิ่งใหญ่? ศิษย์พี่ฉู ท่านเข้าใจผิดแล้วล่ะ คนที่มีชะตาอันยิ่งใหญ่นั้นหาใช่ข้า แต่เป็นเย่หยวน เลือดแท้วิหคชาดนี้เองข้าก็ได้รับมันมาจากเขาอีกที” เล้งชิวหลิงส่ายหัวพร้อมอธิบายเรื่องราว
…………………………