“อ่อก!”
คลื่นพลังอันแสนหนักหน่วงพุ่งเข้ากระแทกจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนอย่างต่อเนื่องทำให้จิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาแทบแตกสลาย
ร่างกายของเขานั้นมีเลือดไหลออกมาทุกทวาร ทั้งเครื่องในและจิตศักดิ์สิทธิ์ต่างบาดเจ็บอย่างสาหัสทำให้สภาพของเขาในตอนนี้แทบไม่ต่างจากคนใกล้ตายอยู่รอมร่อ
เทวรูปอสูรเทวะที่อยู่ตรงหน้าเขานี้มันแตกต่างจากสิ่งที่พวกข่าวนั่วใช้อย่างมากมาย เพราะมันนั้นมีรูปร่างขนาดไม่ได้แตกต่างไปจากคนผู้หนึ่งเลย
แต่การปรากฏตัวของมันกลับทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดต้องสั่นสะท้าน
หากไม่ใช่เพราะว่าเย่หยวนรองรับพลังส่วนมากเอาไว้กับตัวแล้วดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้มันคงถูกบดทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
นี่คือเทวรูปอสูรเทวะที่แท้จริง!
เทวรูปอสูรเทวะที่พวกข่าวนั่วใช้นั้นมันเทียบเคียงกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่านี่คือเทวรูปอสูรเทวะที่ถูกใช้ออกมาด้วยพลังของสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ มันจึงยิ่งส่งเสริมพลังให้เหนือล้ำไปกว่าเก่า
“เย่หยวน พอเถอะ! การปะทะกันครั้งนี้ของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ้าย่อมไม่มีทางจะทนรับไว้ได้!” หวู่เฉินบอก
แต่เย่หยวนกลับส่ายหัวออกมา “ห-หากข้าถอยกลับแล้ว พ่อข้า แม่ข้า ผู้อาวุโสฟางเทียน พวกเขาทั้งหลาย…ต้องตายลงสิ้น! ต่อให้ข้าต้องตาย ข้า…ข้าก็จะทนรับมันไว้!”
หวู่เฉินแสดงท่าทางที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยการตะคอกกลับใส่เย่หยวน “นี่มันคือการโจมตีที่จอมเทพนิรันดร์เตรียมการมาถึงห้าล้านปี มันมีพลังที่เหนือล้ำจะจินตนาการ! เมื่อใดที่มันเข้าปะทะกับเทวรูปอสูรเทวะแล้วมันคงยิ่งส่งกระแสพลังที่เหนือล้ำกว่าเก่าหลายเท่าตัวออกมาแน่ หรืออาจจะหลายร้อยเท่าตัวเสียด้วยซ้ำ! เจ้าไม่มีทางที่จะช่วยเหลือดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้แล้ว!”
เย่หยวนกัดฟันตอบกลับไป “ไม่ลอง…มันย่อมไม่มีทางรู้ได้!”
ในวินาทีนี้เย่หยวนนั้นมีจิตใจที่เย็นเยือกแสนสงบ สมองของเขาพยายามคิดทุกวิถีทางเพื่อหาโอกาสสำเร็จ
การจะให้เขาต้องนั่งดูดินแดนศักดิ์สิทธิ์แตกสลายไปต่อหน้านั้นมันย่อมไม่มีทางจะยอมรับได้
ต่อให้มันจะเป็นแค่เสี้ยวความหวัง เขาก็ต้องช่วยเหลือดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้ให้ได้!
ส่วนอีกด้านจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางก็หัวเราะขึ้นมา “หรือเจ้าคิดว่าเวลากว่าห้าล้านปีมานี้ข้าจะนั่งๆ นอนๆ ไม่ทำอะไร? ต่อให้ข้าจะไม่สามารถบ่มเพาะเพิ่มเติมได้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าพลังฝีมือของข้าจะย่ำอยู่กับที่!”
จอมเทพนิรันดร์หรี่ตาลงด้วยเสียงเย็นเยือก “แล้ว? รับพลังดัชนีนี้ไปเถอะ!”
พูดจบจอมเทพนิรันดร์ก็ยกนิ้วขึ้นชี้ออกไป นิ้วที่ถูกสร้างขึ้นด้วยลายพระเจ้าก่อนหน้านั้นจึงพุ่งออกไปหาตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางอย่างรุนแรง
ที่ที่นิ้วนั้นผ่านไปมิติใดๆ ก็แตกสลายไม่มีชิ้นดีปล่อยปราณเทวะกระจายทั่ว
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันแสนรุนแรงนี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางก็หน้าซีดลงทันที
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเขาก็ต้องยอมรับว่าของขวัญที่จอมเทพนิรันดร์เตรียมไว้ให้นี้มันเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดคิดไปมาก
บรรลุใช้ลายพระเจ้าได้ก่อนตาย ร่างกายเกือบที่จะเปลี่ยนกลายเป็นจักรพรรดิได้ แน่นอนว่าพรสวรรค์ที่เหนือล้ำนี้ของจอมเทพนิรันดร์ย่อมทำให้เขาต้องประหลาดใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
แต่ทว่าตราบเท่าที่เขาใช้วิชานี้ออกมาทุกสิ่งอย่างมันก็จะจบสิ้น
“เทวรูปอสูรเทวะ ปกป้องข้า!” เจี่ยวชางร้องบอก
คำสั่งนี้ของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางทำให้เทวรูปอสูรเทวะพุ่งตัวเข้ามารับดัชนีนั้นไว้ในทันที
ตู้ม!
คลื่นพลังอันเหนือล้ำกระแทกออกไปทั่ว บนทลายมิติลงในทันที
ต่อให้จะมีการปกป้องของเย่หยวน เหล่าม่านมิติทั้งหลายมันก็ไม่อาจทนรับพลังในระยะนี้ได้อีกต่อไป!
อย่างที่หวู่เฉินบอก การปะทะกันของยอดฝีมือจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันจะสร้างพลังกระแทกที่เหนือล้ำกว่าเก่าขึ้นมาหลายร้อยเท่าตัว
และตอนนี้ด้วยคลื่นพลังทั้งหมดนั้น มีหรือที่เย่หยวน นภาสวรรค์แค่คนเดียวนี้จะสามารถต้านทานมันไว้ได้?
การที่เขาสามารถอดทนมาได้จนถึงตอนนี้มันก็ต้องพึ่งพลังใจและพลังของลายพระเจ้าล้วนๆ
เว้นเสียแต่ว่าพลังอันมหาศาลตรงหน้านี้มันถูกปล่อยออกมาจากยอดฝีมือจักรพรรดิเทพสวรรค์
ที่ด้านนอกของวังสวรรค์นิรันดร์เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็กำลังตื่นตกใจอย่างมาก
เพราะพลังการปะทะของสองจักรพรรดิเทพสวรรค์นี้มันทำให้เขตแดนปิดกั้นใดๆ ของวังสวรรค์นิรันดร์แตกสลายหายไปจนสิ้นแล้ว
เมื่อเห็นเช่นนั้นมีหรือที่พวกเขาจะยังกล้ายืนดูหรือสำรวจต่อไป? พวกเขาทั้งหลายเลือกที่จะถอยหนีในทันที
ลูกหลงเดียวจากการต่อสู้ของสองจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันอาจลบล้างพวกเขาให้หายไปจนสิ้นได้
“นี่มัน…ต้องเป็นพลังที่เหนือล้ำกว่าเทพสวรรค์ไปแล้วแน่ๆ! มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” จ่าวมินพูดขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว
เฉียวหยวนและอายเมิงหันมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มน้อยๆ แต่สายตาของทั้งคู่ก็เปี่ยมไปด้วยความตื่นตกใจไม่แพ้กัน
“ฮ่าๆ! ไม่นึกเลย! ไม่นึกเลยว่าท่านเจี่ยวชางจะลงมาจัดการเองเช่นนี้!”
เฉียวหยวนหัวเราะลั่นทำให้จ่าวมินและตู้หงหน้าถอดสี
คำว่าท่านเจี่ยวชางจากปากเขานี้ ทั้งสองย่อมรู้ดีว่ามันหมายถึงใคร
“ผิดปกติ! ให้พูดกันตามหลักแล้วโลกใบน้อยมันไม่น่าจะทนทานพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้เลย แต่ทำไมโลกใบนี้มันกลับยังอยู่ได้อย่างมั่นคงไม่ถูกทำลายลง?” หยางอี้เต่าร้องขึ้น
เพราะพวกเขาทั้งหลายนั้นไม่ได้กังวลเรื่องที่ว่าโลกใบน้อยจะแตกสลายหรือไม่
ต่อให้พวกเขาจะถูกดูดเข้าไปในคลื่นกระแสมิติพวกเขาก็ยังมีปัญญาพอที่จะปกป้องตัวเองในสภาพนั้นได้ จึงไม่มีใครคิดร้อนใจ
เพียงแค่ว่ากับคนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้แล้ว มันคงไม่มีใครจะแข็งแกร่งพอรอดออกไปได้
“มันน่าจะมีใครที่พยายามประคองโลกใบน้อยนี้ไว้ เพียงแค่ว่า… นอกจากท่านจอมเทพนิรันดร์แล้วมันจะยังมีใครมาช่วยประคองไม่ให้โลกใบน้อยนี้ถล่มลงจากการต่อสู้ของสองจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้?” ตู้หงถามขึ้นด้วยท่าทางมึนงง
ตอนนั้นเองที่ฉูชิงผู้พยายามหลบซ่อนไม่ทำตัวเด่นมาตลอดกลับพูดขัดขึ้นมา “หรือว่า… จะเป็นเย่หยวน?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็หน้าถอดสีไปทันที
“บ้าน่า!” จ่าวมินเป็นคนแรกที่พูดขัดไม่ยอมรับขึ้นมา
เพราะเรื่องราวเช่นนี้มันเหนือล้ำสามัญสำนึกมากเกินไป
“ต-แต่ พวกท่านไม่คิดว่ามันแปลกหรือ? ตั้งแต่ที่มาถึงที่นี่เย่หยวนก็ดูเหมือนจะไร้เทียมทาน! ขนาดเทพถ่องแท้เก้าดาวยังไม่อาจต้านทานเขาได้ การแย่งชิงสมบัติใดๆ สุดท้ายเขาคนนั้นก็เป็นคนที่ชิงความได้เปรียบมาจนสิ้น! เพราะฉะนั้น… เขาอาจจะเป็นคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้!” ฉูชิงเดา
คนรอบๆ ต่างเงียบไม่มีใครพูดออกมา เพราะพวกเขาทั้งหลายนั้นกำลังตกตะลึงกับการวิเคราะห์นี้ของฉูชิง
มันฟังดูเหมือนเป็นเรื่องราวเพ้อฝัน แต่หากสิ่งที่ฉูชิงว่ามามันจริง ทุกสิ่งอย่างมันก็จะกลับมาเข้าที่เป็นเหตุเป็นผล
นักยุทธจากมหาพิภพถงเทียนลงมายังโลกใบน้อย พวกเขานั้นย่อมภาคภูมิเหนือล้ำ
เพราะไม่ว่าจะเป็นยอดอัจฉริยะแค่ไหนในโลกใบน้อย มันก็เป็นได้แค่มดปลวกในสายตาของพวกเขา
แต่ทว่าเย่หยวนนั้นมีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำทุกผู้คน
แม้แต่ยอดอัจฉริยะอย่างฉูชิงที่ว่าเหนือล้ำก็ยังไม่อาจเทียบเคียงกับเย่หยวนได้เลย
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงไม่เคยคาดคิดในเรื่องนี้มาก่อน
แต่ตอนนี้เมื่อฉูชิงเปิดประเด็นขึ้นมา ทุกคนต่างก็เริ่มเข้าใจเรื่องราว
แต่ที่ด้านข้างเล้งชิวหลิงนั้นกำลังกลอกตาไปมาอย่างกังวล นางเองก็ตื่นตะลึงในการคาดเดานี้ของฉูชิงเช่นกัน
ในหมู่คนทั้งหลายนี้นางย่อมเป็นคนที่สนิทกับเย่หยวนมากที่สุด และเข้าใจเขาได้ดีที่สุดด้วยเช่นกัน
การคาดเดานี้ของฉูชิงมันคงไม่ผิดแน่
“แต่ถึงมันจะเป็นผู้ควบคุมโลกใบน้อยนี้ ด้วยพลังแค่อาณาจักรนภาสวรรค์มีหรือที่มันจะต้านทานมิให้โลกใบน้อยนี้ล่มสลายลงด้วยพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้?” ตู้หงขมวดคิ้วบอก
ทุกคนต่างหันไปมองหน้ากันด้วยความมึนงงไม่แพ้กัน
เพราะนี่คือพลังที่ปล่อยออกมาจากจักรพรรดิเทพสวรรค์ถึงสองคน อย่าว่าแต่อาณาจักรนภาสวรรค์ แม้แต่พวกเขาเหล่าเทพสวรรค์ก็ยังไม่มางจะรับมือไว้ได้
“เฮอะ ใครจะสน! ไม่ว่ามันจะเก่งกาจเพียงใดสุดท้ายเมื่อพลังทั้งสองนี้ปะทะกันมันก็ต้องเป็นวันที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ล่มสลายลง! หากผู้ที่ค้ำจุนโลกใบน้อยนี้ไว้เป็นเย่หยวนจริง เช่นนั้นมัน… ก็คงตายแน่!” เฉียวหยวนหัวเราะลั่น
ตอนนี้สองพลังนั้นกำลังเข้าปะทะกันในระยะประชิด
แต่ในเวลานั้นเองที่กลับเกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้น
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
เถาวัลย์จำนวนมากมายพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินมัดร่างของเทวรูปอสูรเทวะไว้
ทำให้การเคลื่อนไหวของเทวรูปอสูรเทวะหยุดลง
และในเวลานั้นที่ดัชนีทลายสวรรค์พุ่งมาถึงพอดี!
ในเวลาเดียวกันนั้นจู่ๆ เย่หยวนก็เบิกตากว้าง ดวงตาทั้งสองของเขาส่องแสงสว่างจ้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน!
………………………..