“ฟ-ฟื้นคืนแล้ว!”
เมื่อได้เห็นรอยแตกร้าวทั้งหลายค่อยๆ ปิดหายไปฟางเทียนก็ได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกอันแสนสับสน
เหล่าผู้คนทั้งหลายที่ก่อนหน้านี้ได้แต่กอดกันด้วยความกลัวต่างโห่ร้องกอดกันด้วยความโล่งอกสบายใจแทน
เพราะพลังอันแสนยิ่งใหญ่นั้นมันได้ผ่านไปแล้วแต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้กลับยังไม่ถูกทำลายลง!
กวนควางเทียนยังรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวที่มีในหัวใจ “ฟื้นคืนกลับมาได้จริงๆ! เย่หยวนทำมันได้อย่างไรกัน? คลื่นพลังที่ผ่านมานั้นมันทำให้ข้าแทบรู้สึกเหมือนได้ไปเยือนนรกแท้ๆ”
คลื่นพลังอันแสนรุนแรงนั้นมันแผ่กระจายไปทั่วทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์
แม้จะเป็นยอดฝีมือย่างกวนควางเทียนก็ยังรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง
แต่พริบตาผ่านไป มิใช่เพียงแค่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะไม่ถูกทำลาย มันกลับมีความเสถียรมากขึ้นเสียอย่างนั้น
ต่อให้บอกว่านี่คือปาฏิหาริย์เขาก็ยังไม่คิดอยากเชื่อ
“ใช่แล้ว ช่างน่าหวาดกลัวจริงๆ! หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองข้าเองก็คงไม่มีทางเชื่อได้ว่าโลกหล้านี้จะยังมีคลื่นพลังที่รุนแรงขนาดนั้นอยู่ ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีผู้คนที่สามารถพัฒนาตัวขึ้นไปได้ถึงขั้นนั้นอยู่จริง สุดท้ายแล้วพวกเรามันก็เป็นได้แค่กบในกะลา แต่เย่หยวนนั้นช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ” ฟางเทียนพูดเสริมขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่สุดแสนจะบรรยาย
ตอนนี้เหล่าผู้รอดชีวิตของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างโห่ร้องออกมา
ความตื้นตันดีใจของผู้คนทั้งหลายนั้นปะทุขึ้นราวกับภูเขาไฟที่ระเบิดออกส่งเสียงร้องออกมาด้วยความยินดีจากก้นบึ้งของหัวใจ
…
บนอากาศในตอนนี้เย่หยวนกำลังก้มหน้าลงมองพื้นโลก
สายตาของเขาหันไปมองเห็นร่างของจอมเทพนิรันดร์ที่กำลังค่อยๆ จางหายไปด้วยอารมณ์ที่ยากจะสื่อ
เพราะเขานั้นเข้าใจความแค้นของจอมเทพนิรันดร์ดี แต่เพื่อการณ์นั้นแล้วเขาถึงกับกล้าใช้ชีวิตนับล้านๆ ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้เพื่อการแก้แค้น มันช่างโหดร้ายจนเกินทน
เย่หยวนนั้นไม่ได้ถือความคิดที่ว่าทุกชีวิตมีค่าหรือใดๆ แต่เขานั้นเคารพต่อวิถีชีวิตของผู้คนแต่ละคน
เขาได้เริ่มบ่มเพาะมาตั้งแต่อาณาจักรแก่นแท้แห่งปราณจนถึงทุกวันนี้ การเดินทางของจิตใจเย่หยวนนั้นมันย่อมยาวนานและซับซ้อนกว่านักยุทธคนไหนๆ
ในสายตาของเขาต่อให้เป็นแค่คนธรรมดาผู้หนึ่งมันก็มีค่า
ในสายตาของเย่หยวนไม่ว่าจะเป็นนภาสวรรค์ เทพถ่องแท้ เทพสวรรค์หรือจักรพรรดิเทพสวรรค์มันก็ไม่ได้แตกต่างจากผู้คนธรรมดามากมายนัก
คนแต่ละผู้นั้นต่างพยายามหาเส้นทางหลีกหนีชะตาของตน ควบคุมชีวิตของตัวเองไว้
และสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นใครมันก็เป็นได้เพียงเศษฝุ่นของโลกใบนี้เท่านั้น
เย่หยวนนั้นไม่เคยคิดจะใจอ่อนต่อผู้ที่สังหารชีวิตนับล้านๆ อย่างไม่คิดสำนึก แต่ตัวเขาเองก็ได้คร่าชีวิตผู้อื่นเพื่อความต้องการของตนมามากเช่นกัน
ในชีวิตนี้ เขามีเส้นที่ขีดกั้นไว้อย่างชัดเจน!
และการกระทำของจอมเทพนิรันดร์นี้มันได้ล้ำเส้นที่เขาขีดไว้อย่างมาก
หากเขาไม่ได้เชื่อมเขาน้อยแห่งถงเทียนเข้ากับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในวินาทีสุดท้ายนั้น ใช้พลังของเขาน้อยแห่งถงเทียนค้ำจุนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไว้ โลกใบนี้มันคงได้แตกสลายไปกับกระแสมิติแล้ว
แต่ว่าความสำเร็จที่เย่หยวนก้าวเดินมาจนถึงทุกวันนี้ได้ มันจะบอกว่าเป็นเพราะจอมเทพนิรันดร์ทั้งสิ้นก็คงไม่ผิดนัก
“คนใกล้ตายนั้นมันก็เป็นดั่งเทียนที่ใกล้ดับ! เรื่องในวันนี้ท่านอย่าได้คิดยึดติดอีกต่อไป ท่าน… ไปสู่สุคติเถอะ!” เย่หยวนมองดูจอมเทพนิรันดร์และกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จอมเทพนิรันดร์มองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก
แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรตอบก็เกิดคลื่นพลังมหาศาลปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
“คนใกล้ตายนั้นมันก็เป็นดั่งเทียนที่ใกล้ดับ? ฮ่าๆๆ! เจ้าเกือบสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้นี้ไปได้ แล้วมีหรือที่ข้าผู้นี้จะปล่อยเจ้าให้ได้ตายตากลับ? เฒ่านิรันดร์ เจ้าดูไว้เถอะ ดูผู้สืบทอดของเจ้าตายไปต่อหน้าต่อตา! ข้าจะทำลายโลกใบน้อยนี้ให้สิ้น!”
คลื่นพลังปราณปีศาจอันรุนแรงพุ่งพวยขึ้นอีกครั้งทำให้สีหน้าของจอมเทพนิรันดร์ต้องเปลี่ยนสีไปทันที
“กลับไม่ตาย!”
จอมเทพนิรันดร์วางแผนการไว้อย่างยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าเขาย่อมมีความมั่นใจอย่างมากว่าจะสังหารเจี่ยวชางลงได้
แต่ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางคนนี้กลับดื้อด้านกว่าที่เขาคาดคิดมาก
พลังของดัชนีนั้นมันแสนสุดจะรุนแรงแต่ชายคนนี้กลับไม่ยอมตายลง!
แต่ทว่าแม้พลังปราณปีศาจของเจี่ยวชางจะรุนแรงมากแค่ไหน มันก็อ่อนแอลงกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด
แน่นอนว่าดัชนีนั้นมันย่อมทำความเสียหายอันหนักหน่วงให้แก่เขา
เว้นเสียแต่ว่า… ตอนนี้จอมเทพนิรันดร์ไม่มีพลังพอจะหยุดยั้งเขาไว้ได้แล้ว
ทำให้ตอนนี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางนั้นำไร้เทียมทานไม่มีใครต้านทานได้!
เมื่อได้เห็นการกลับมาของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางเช่นนั้นเฉียวหยวนและอายเมิงก็แสดงท่าทางดีใจขึ้นทันที
“ฮ่าๆ มีหรือที่ท่านเจี่ยวชางจะตายลงง่ายๆ เช่นนั้น? เฒ่านิรันดร์เจ้าคงคำนวณพลาดล่ะสิ?! เฒ่านิรันดร์ เย่หยวน จงสั่นกลัวไปเถอะ!” เฉียวหยวนหัวเราะลั่น
จอมเทพนิรันดร์เองก็มีใบหน้าที่สุดแสนขัดเคือง เรื่องราวในครั้งนี้มันเหนือล้ำกว่าที่เขาคาดไปมากจริงๆ
“เด็กน้อย เรื่องราวหายนะในวันนี้มันล้วนเกิดจากข้า ข้าจะจัดการให้แล้วเสร็จเอง เจ้ารีบหนีไป! คุนหวู่ เราจะถ่วงเวลามันไว้ให้เด็กคนนี้ได้มีเวลาหนีไป!” จอมเทพนิรันดร์บอก
คุนหวู่หันไปมองเย่หยวนนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้าออกมารับ
การรักษาสภาพของมิติไม่ให้พังทลายกับการรับมือจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนี้มันเป็นเหมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ถึงแม้ว่าพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์มันจะรุนแรงเพียงแค่การจะทำให้ใยแมงมุมทั้งหมดทั้งสิ้นพังทลายลงมามันก็มิใช่เรื่องง่าย
พลังที่เย่หยวนดึงออกมาจากเขาน้อยแห่งถงเทียนมันมากพอที่จะหยุดรอยแตกร้าวที่ไหลมาตามใยแมงมุมนี้ได้
แต่ทว่าการที่จักรพรรดิเทพสวรรค์จะลงมือกับนภาสวรรค์นั้นมันง่ายเสียยิ่งกว่าหายใจ ต่อให้เขาจะเป็นผู้ควบคุมโลกใบน้อยหรืออะไรก็ตามมันย่อมไม่มีประโยชน์
“ฮ่าๆ! อยากหนีรึ? วันนี้จะไม่มีใครได้ไปไหนทั้งสิ้น!”
ดูท่าแล้วจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางจะโกรธเคืองอย่างมาก
จากนั้นเขาก็ได้ปล่อยปราณปีศาจทะลุฟ้าก่อนที่มันจะค่อยๆ รวมตัวกันกลายเป็นรูปร่างของดาบยักษ์ขึ้น
คลื่นพลังจากดาบเล่มนี้มันรุนแรงจนทำให้มิติต้องสั่นสะท้านอีกครั้ง
“ดาบปีศาจเทวะ คลื่นทลายนภา!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางร้องออกมาอย่างโกรธแค้นพร้อมปล่อยดาบปีศาจเทวะออกมา
แต่ในเวลานั้นเองที่กลับเกิดเรื่องราวไม่คาดฝันขึ้น!
เพราะตอนนี้มีเขาลูกใหญ่ตกลงมาจากฟ้าเป็นภาพที่สุดแสนเหลือบรรยายกดทับทุกสิ่งอย่างลงมา
ตอนนี้บนเขาลูกนั้นมันมีลายสีฟ้าไหลเวียนไปทั่วอย่างไม่มีหยุด
ปัง!
ดาบปีศาจเทวะเล่มนั้นแตกสลายลงทันที
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางได้แต่ร้องออกมาอย่างหวาดกลัวแต่มันก็สายเกินกว่าจะหลบหนีได้แล้ว
ตู้ม!
เสียงดังเกิดขึ้นอีกครั้งส่งให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องสั่นสะท้านอีกครั้ง
ตอนนี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางกำลังถูกเขาลูกยักษ์นั้นบดทับอย่างไม่มีแรงจะขัดขืนได้เลย
ทุกคนต่างมองเขาลูกยักษ์นี้ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
“นี่มัน…คืออะไรกัน…ถึงสามารถกดทับจักรพรรดิเทพสวรรค์ลงได้?” เฉียวหยวนพูดขึ้นด้วยใบหน้าซีดเซียว
“ท-ท่านเจี่ยวชางคงไม่ตายลงเช่นนี้หรอกใช่ไหม?” อายเมิงร้องขึ้นด้วยความกลัว
“เย่หยวนทำอะไรลงไปกันแน่ ทำไมจู่ๆ จึงได้แข็งแกร่งปานนี้?”
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้มันก็แค่โลกใบน้อยระดับเทพสวรรค์ใบหนึ่ง ต่อให้เขาจะได้เป็นผู้ควบคุมโลกแล้วมันก็ไม่น่าจะสามารถทำลายจักรพรรดิเทพสวรรค์ลงได้ง่ายๆ เช่นนี้หรอกใช่ไหม?”
…
เหล่ายอดฝีมือเทพสวรรค์และเทพถ่องแท้ทั้งหลายต่างมองเรื่องตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว
ภาพตรงหน้าของพวกเขาทั้งหลายนี้มันเกินกว่าที่จะเข้าใจได้ไปมาก
แต่พวกเขาเองก็เข้าใจว่าตอนนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์มันได้เกิดขึ้นใหม่แล้ว มิใช่โลกอันแสนอ่อนแอใบเดิมอีกต่อไป
และเย่หยวนที่เป็นผู้ควบคุมโลกใบนี้ก็ช่างสุดแสนจะแข็งแกร่ง
แค่พลิกฝ่ามือแม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ไม่อาจต้านทานได้
จอมเทพนิรันดร์และคุนหวู่ต่างมองดูภาพตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ
“เทพสวรรค์ผู้นี้…ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาน้อยแห่งถงเทียนจะมีพลังมากมายถึงขนาดนี้!” จอมเทพนิรันดร์ร้องบอกขึ้น
ตอนนี้ร่างของเย่หยวนก็ยังคงยืนสง่าอยู่กลางอากาศ
เพียงแค่ว่าเงาร่างน้อยๆ ของเขานี้มันกลับดูสุดแสนยิ่งใหญ่ในสายตาของผู้คน
อาณาจักรนภาสวรรค์?
บ้าบอสิ้นดี!
สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันไม่อาจวัดเป็นอาณาจักรบ่มเพาะใดๆ อีกต่อไป
ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ เขา…ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง!
………………………