เฟยหมิงเทียนนั้นโกรธแค้นจนตัวสั่นเทาแต่เขานั้นไม่มีพลังพอที่จะกระทำเรื่องราวใดๆ ได้
เพราะตัวเขานั้นมีตำแหน่งฐานะใหญ่โต หากคนระดับเขาลงมือแล้วผลลัพธ์มันก็คงกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบกับจวนเจ้าเมืองอย่างแน่นอน
เฟยหมิงเทียนได้แต่พ่นลมหายใจแรงออกมาพร้อมเดินหนีไป
แต่เขานั้นไม่ได้เดินจากลานประหารไป เขาเพียงแค่ถอยไปอยู่ดูสถานการณ์ที่ข้างลานประหารเท่านั้น
“เจ้าสำนักเฟย เราจะทำอย่างไรกันต่อดี?” หลี่ซืออานถามขึ้น
เฟยหมิงเทียนถอนหายใจยาวออกมา “เรื่องนี้มันจัดการไม่ได้ง่ายๆ! เพราะเดิมทีสำนักอากาศแจ่มเราก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบมาแต่แรกแล้ว ทางจวนเจ้าเมือง… คงหวังให้พวกเราแตกหักกันไปข้างหนึ่งเสียตอนนี้!”
หลี่ซืออานบอก “เช่นนั้นแล้ว… เย่หยวนเล่า? หากเราไม่ช่วยเหลือเจียงยู่ถังไว้เรื่องราวที่ผ่านๆ มานั้นเขาคงไม่มีทางปล่อยมันผ่านไปแน่”
เฟยหมิงเทียนได้แต่ส่ายหัวออกมา “ข้าได้หวังว่าเขาจะไม่บ้าบิ่นขนาดนั้น!”
เวลาค่อยๆ เดินผ่านไปแต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังไม่มีแม้แต่เงาของเย่หยวน
หยูจินซงนั้นเบื่อที่ต้องรอต่อไปจึงได้สั่งขึ้นมาอย่างเย็นเยือก “เริ่มการประหาร!”
ลูกน้องของเขาจึงตะโกนสั่งขึ้นอย่างแจ่มชัดดังกังวาน “ถึงเวลาแล้ว เริ่มการประหาร!”
เมื่อเพชฌฆาตได้รับคำสั่งเขาก็เดินถือมีดขึ้นไปยืนต่อหน้าเจียงยู่ถัง
เหล่าเพชฌฆาตทั้งหลายนั้นต่างใช้อาวุธพิเศษในการประหารทุกๆ ครั้ง
สำหรับนักยุทธพลังบ่มเพาะอาณาจักรพระเจ้านั้น ต่อให้จะถูกตัดหัวลงพวกเขาก็คงยังไม่ตายง่ายๆ
เว้นเสียแต่ว่าผู้ลงมือจะมีความเข้าใจในแนวคิดที่สูงล้ำพอ ทำลายพลังชีวิตของคนผู้นั้นลงได้มันจึงจะสามารถกลายเป็นการสังหารที่แท้จริง
และไม่ว่าจะดูอย่างไรเพชฌฆาตผู้นี้ก็ไม่ได้มีฝีมือที่เก่งกาจถึงขั้นนั้น
หยูจินซงลุกขึ้นยืนบอกตะโกนลั่น “เย่หยวน ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ เจ้าเก่งกาจมากมิใช่หรือ? ทำไมเจ้าถึงไม่กล้าโผล่หัวออกมาเสียแล้วเล่า? หรือว่าเจ้าแค่ชอบพอเจียงไห่ถังและคิดช่วยแต่นางไม่คิดช่วยพ่อนาง? เจ้าคนขี้ขลาด หากมีปัญญาจริงก็ออกมาเสีย! หากยังไม่ออกมาแล้วเจียงยู่ถังต้องตายลงแน่!”
เจียงยู่ถังหน้าถอดสีทันทีก่อนจะตะโกนลั่นขึ้น “เย่หยวน เจ้าอย่าได้ออกมา! ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยไห่ถังไว้ ตอนนี้ข้าหมดห่วงแล้ว! พวกมันทั้งหลายนี้วางแผนจับกุมเจ้ามาอย่างดี มันแค่รอให้เจ้าปรากฏกายขึ้น เจ้าห้ามออกมาเป็นอันขาด!”
หยูจินซงที่ได้ยินแบบนั้นก็เผยรอยยิ้มแสนชั่วร้ายออกมาเพราะคำพูดของเจียงยู่ถังนี้มันจะกลายเป็นตัวผลักดันให้เย่หยวนออกมาแทน
“ข้าอยู่นี่!” ในเวลานั้นเองที่เกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เว้นเสียแต่ว่าเสียงนั้นมันสุดแสนจะใกล้ตัวราวกับว่ามันดังขึ้นที่ข้างหูของหยูจินซง
จู่ๆ หยูจินซงก็รู้สึกชาไปทั้งร่าง สัญชาตญาณของเขาบอกเตือนถึงความอันตรายอย่างถึงที่สุดจนแทบคิดอยากหนีไปให้พ้นๆ จากตรงนี้เสีย
แต่ทว่ามันสายไปแล้ว!
เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่ข้างกายของเขาพร้อมด้วยลายสีฟ้าที่พวยพุ่ง!
โจมตีคนไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ มีหรือที่เย่หยวนจะยังอ่อนหัดจนปล่อยให้อีกฝ่ายหลบหนีออกไปได้?
หยูจินซงตกอยู่ภายในมิติลายพระเจ้าในพริบตา!
ไม่นานนักมิติลายพระเจ้าก็คลายตัวออกเผยให้เห็นเย่หยวนที่ใช้ดาบจ่อคอหยูจินซงอยู่
และในชั่วพริบตานี้เย่หยวนก็ได้ทำการผนึกทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของหยูจินซงไปแล้ว
เป็นเวลานี้ที่ทุกผู้คนได้เห็นสภาพของเย่หยวนอย่างชัดเจนว่าเขานั้นกำลังใส่ชุดทหารของเมือง
แท้จริงแล้วเขานั้นได้แทรกซึมเข้าไปหลบซ่อนในกองทหารที่มารักษาการณ์
ที่สำคัญกว่านั้นเป้าหมายของเขายังมิใช่เจียงยู่ถังแต่เป็นหยูจินซง!
ภาพตรงหน้านี้มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งหลายยังไม่ทันรู้ตัวหยูจินซงก็ดงกลายเป็นตัวประกันไปอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
หยูจินซงนั้นเป็นถึงนภาสวรรค์เก้าดาว มันย่อมไม่มีใครคาดคิดว่าเย่หยวนจะสามารถจัดการเขาลงอย่างอยู่หมัดได้ในพริบตาเดียว
เหล่าทหารทั้งหลายนั้นอยู่ไม่ห่างจากตัวหยูจินซงมากนัก และระยะห่างแค่นี้มันก็สั้นเสียยิ่งกว่าเสี้ยวพริบตาสำหรับเย่หยวน
ด้วยพลังฝีมือของหยูจินซงแล้วต่อให้เป็นเย่หยวนมันก็ย่อมไม่มีทางจะจัดการอีกฝ่ายลงอีกคราเดียว
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้เตรียมวางแผนใช้มิติลายพระเจ้าในการจัดการกับอีกฝ่ายให้ได้ในพริบตา
เรื่องราวทั้งหลายนี้ถูกลงมืออย่างเป็นระบบและต่อเนื่องโดยไม่ให้โอกาสยอดฝีมือเทพถ่องแท้ทั้งหลายนั้นได้ทันตั้งตัวเลย
เฟยหมิงเทียนมองดูเย่หยวนอย่างไม่คิดอยากเชื่อสายตา รู้สึกตื่นตะลึงอยู่เต็มหัวใจ
ไม่มีใครคิดใครฝันว่าเย่หยวนจะใช้วิธีเช่นนี้ในการช่วยเหลือเจียงยู่ถังแทน
“เด็กคนนี้มันช่างกล้าหาญและเจ้าแผนการ มีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำผู้คน น่ากลัวยิ่ง!” เฟยหมิงเทียนร้องบอก
ปัง!
คลื่นพลังสามสายปะทุขึ้นทะลุฟ้า ตอนนี้ในที่สุดเทพถ่องแท้ทั้งสามที่ซ่อนตัวอยู่ก็ได้ปรากฏกายออกมา
คนทั้งสามนี้เดินวางมุมล้อมเย่หยวนไว้ แต่กลับไม่มีใครกล้าก้าวเท้ามาด้านหน้าเลย
ผู้คนรอบๆ ที่เห็นเช่นนั้นต่างตื่นตะลึงกันสิ้น เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้ว่าเพื่อจัดการกับเย่หยวนแล้วจวนเจ้าเมืองถึงขั้นส่งเทพถ่องแท้ลงมาจัดการเรื่องราวถึงสามคน
แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นถึงเทพถ่องแท้สองดาว!
เพียงแค่ว่าเทพถ่องแท้ทั้งสามนี้ยังไม่ทันได้ลงมือทำอะไรหยูจินซงก็ถูกจับเป็นตัวประกันไปต่อหน้าต่อตาเสียแล้ว
เรื่องนี้มันเหนือล้ำกว่าที่จะเชื่อได้
หยูจินซงนั้นวางกับดักเอาไว้อย่างแน่นหนาเพื่อคิดจับกุมเย่หยวน แต่สุดท้ายเขากลับพลาดตกเป็นฝ่ายถูกจับเสียเอง
เทพถ่องแท้ทั้งสามนี้กลับกลายเป็นได้เพียงเครื่องประดับฉาก
เทพถ่องแท้สองดาวคนนั้นร้องตะโกนขึ้น “เด็กน้อย ปล่อยจินซงเสีย แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”
เย่หยวนมองดูเขาผู้นั้นด้วยสายตาที่แสนเบื่อหน่ายก่อนจะยกมือขึ้นตบใบหน้าหยูจินซงอย่างแรง
ผัวะ!
เสียงดังฉาดใหญ่นี้ได้ยินกันไปทั่วทั้งลาน
หลายต่อหลายคนที่เห็นภาพนั้นถึงกับต้องยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าของตนอย่างไม่รู้ตัวราวกับว่าตัวพวกเขาเองก็ถูกตบเข้าไปด้วย
“นี่คือส่วนของไห่ถัง!” เย่หยวนบอกอย่างไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา
เมื่อฝ่ามือนี้ฟาดลงครึ่งใบหน้าของหยูจินซงก็ปวมบูดขึ้นทันที
“เจ้า… เจ้ากล้าตบข้า?” คำพูดของหยูจินซงมันฟังได้ไม่ชัดนักพร้อมสายตาที่มองไปยังเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อ
ผัวะ!
คำตอบที่เขาได้รับคืออีกฝ่ามือหนึ่ง
“นี่คือส่วนของพี่เจียง! สองฝ่ามือนี้เป็นแค่ดอกเบี้ย ชีวิตสุนัขของเจ้าข้าจะรับมันไปเป็นต้นหนี้ เอาล่ะ เจ้าปล่อยเขาเสีย!”
คนทั้งหลายต่างมองดูเย่หยวนด้วยดวงตาเบิกกว้าง
ช่างยิ่งใหญ่!
หากไม่เห็นด้วยตาของตน มันก็คงไม่มีใครเชื่อว่ามีคนมาเล่นกับจวนเจ้าเมืองจนอีกฝ่ายไม่มีทางตอบโต้เช่นนี้ได้
ทั้งท่าทางทั้งฝีมือของเขานี้มันทำให้เรื่องที่ว่ายากเย็นกลับกลายเป็นเรื่องง่ายดาย เป็นสิ่งที่ผู้คนทั่วๆ ไปย่อมไม่มีทางจะสามารถทำได้
สองฝ่ามือนี้ทำให้หยูจินซงหน้าบวมปูดเป็นหัวหมู
เจียงยู่ถังได้แต่มองดูเย่หยวนอย่างมึนงงราวกับว่านี่ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่เขารู้จัก
เวลาแค่ไม่กี่ร้อยปีที่ไม่ได้พบเจอ เย่หยวนกลับมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำกว่าที่เขาจะคาดเดาได้
หลังได้ยินคำของหยูจินซง เจียงยู่ถังก็รู้สึกว่าตัวเองอาจจะเป็นต้นตอหายนะแก่เย่หยวน
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าแท้จริงเย่หยวนจะมีแผนเช่นนี้ จับตัวหยูจินซงเป็นตัวประกันแทน
“เย่หยวน เจ้าหนีไม่รอดหรอก!” หยูจินซงบอกด้วยคำพูดที่ฟังแทบไม่ออก
“ข้ามีเจ้าอยู่ด้วยมีหรือที่จะหนีไปไม่ได้?” เย่หยวนพูด
“ห-หากปล่อยเจียงยู่ถังไปแล้วมีอะไรมารับรองว่าเจ้าจะไม่สังหารข้า? ข้าจะปล่อยมันก็ย่อมได้แต่เจ้าต้องสาบานต่อเต๋าสวรรค์ก่อนว่าเจ้าจะไม่สังหารข้า!” หยูจินซงร้องบอก
เย่หยวนพยักหน้ารับทันที “ได้สิ!”
เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดสังหารหยูจินซงมาแต่แรกแล้ว และเขาก็รู้ดีด้วยว่าตัวเขานั้นไม่อาจสังหารอีกฝ่ายลงได้
การที่จับเขาไว้นี้ก็เพื่อจะช่วยเจียงยู่ถังเท่านั้น
ไม่นานนักเย่หยวนก็ได้กล่าวคำสาบานออกมาทำให้หยูจินซงโล่งใจขึ้นมาก
“ป-ปล่อยมัน!” หยูจินซงร้องบอก
เจียงยู่ถังถูกปลดกุญแจมือโซ่ล่ามออก ความอิสระที่ได้รับมานี้มันราวกับว่าเขาได้ฝันไป
“ไสหัวไป!” เย่หยวนหันไปบอกเทพถ่องแท้ทั้งสาม
เทพถ่องแท้ทั้งสามย่อมกลัวว่าจะทำให้เรื่องราวเสียหายจากแย่กลายเป็นเลวร้ายจึงได้แต่เปิดทางให้
เย่หยวนพาตัวหยูจินซงเดินเข้ามายังลานประหารและบอกกับเจียงยู่ถัง “พี่เจียง ข้ามาช้าไปทำให้ท่านต้องลำบากอย่างมาก! ข้าคงทำให้ท่านผิดหวังแล้ว”
เจียงยู่ถังส่ายหัวออกมาอย่างสุดแรงที่เหลือ “เรื่องทั้งหลายนี้ล้วนต้องขอบคุณเจ้า! การที่เจ้ายอมจะทำถึงขั้นนี้เพื่อพี่คนนี้ ข้าล่ะคิดไม่ผิดจริงๆ ที่รับเจ้าเป็นพี่น้อง!”
…………………………