“หึ ข้าไม่เข้าใจหรอก แต่นายท่านนั้นไม่เคยผิดพลาดล้มเหลวมาก่อน! ตอนนี้พลังฝีมือของเขาอาจจะยังไม่เทียบเท่าเทพถ่องแท้แต่เรื่องการหลอมโอสถนั้นไม่มีใครเทียบเคียงเขาได้แน่!”
ได้ยินคำของตงน้อย หนิงเทียนปิงจึงกล่าวขึ้นมาอย่างมั่นใจ
แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าตงน้อยนั้นเป็นถึงเทพสวรรค์ แต่ท่าทางในครั้งนี้ของตงน้อยมันก็ทำให้เขาไม่พอใจไม่น้อย
เพราะตั้งแต่ที่เขาติดตามเย่หยวนมาก็นานปี ทำให้หนิงเทียนปิงนั้นมีความมั่นใจอย่างสุดล้ำในตัวเย่หยวน
แต่นี่มันมิใช่ความศรัทธาที่ล้ำเกินสิ่งใด แต่มันคือความมั่นใจหลังจากได้เห็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตามาครั้งแล้วครั้งเล่า
ความมั่นใจเช่นนี้มันไม่สามารถจะถูกสั่นคลอนได้
อย่างน้อยๆ ในวิชาการหลอมโอสถแล้วเย่หยวนก็ไม่เคยผิดพลาดมาก่อน!
ไม่ว่ามันจะเป็นโอสถที่ยากเย็นสาหัสเพียงใดเมื่อมาถึงมือเย่หยวนแล้วมันก็ย่อมล้วนสามารถถูกหล่อหลอมขึ้นมาได้สิ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังขึ้นมาถึงอาณาจักรราชันพระเจ้าแล้วความสามารถทางโอสถของเย่หยวนมันก็ยิ่งเพิ่มพูนจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าวิเศษ แน่นอนว่าหนิงเทียนปิงย่อมจะไม่สามารถสงสัยในความเก่งกาจนี้ได้
ตงน้อยมองดูหนิงเทียนปิงเหมือนดูคนโง่ “บางทีเจ้าโอสถย้อนฝันพิรุณชำระนี้อาจจะเป็นโอสถที่ท้าทายเขาที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ได้! ข้าไม่ได้จะบอกว่าเขานั้นไม่มีทางหลอมได้ เพียงแค่ว่า…โอกาสผิดพลาดมันมีสูงก็เท่านั้น”
“ไม่มีทาง!” หนิงเทียนปิงยังคงยืนกรานคำเดิมอย่างไม่คิดจะถอย
ตงน้อยเองก็แทบสำลักเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เจ้านี่มันคุยด้วยไม่รู้เรื่อง!”
ถึงตอนนี้เซียวเฟิงก็พูดเสริมขึ้น “ท่านผู้อาวุโสตงว่ามามันก็ไม่ผิด บางที…นี่อาจจะเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่น้อยเย่เคยพบเจอมาก็ได้! เจ้าโอสถย้อนฝันพิรุณชำระนี้มันยากเย็นกว่าโอสถใดๆ ที่เขาเคยพบเจอมาในอดีตอย่างไม่ต้องสงสัย”
เซียวเฟิงเริ่มอธิบายถึงความยากของโอสถย้อนฝันพิรุณชำระออกมาให้แก่หนิงเทียนปิงและไป๋เฉิน
เพราะเขาเองนั้นก็เป็นจอมเทพโอสถคนหนึ่งแน่นอนว่าเขาย่อมจะรู้ถึงความยากเย็นของมัน
เมื่อฟังไปจนจบสีหน้าของหนิงเทียนปิงและไป๋เฉินก็เริ่มสงบลง
“เมื่อพูดถึงเรื่องหลอมโอสถแล้วมีหรือที่เทพสวรรค์คนนี้จะรู้ไม่เท่าพวกเจ้า? แค่โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าหากเย่หยวนสามารถทำมันได้ง่ายๆ มีหรือที่เทพสวรรค์คนนี้จะรอให้เขาขึ้นมาถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุดก่อนค่อยเปิดปากบอกถาม? ไอ้เด็กโง่สองคนนี้!” ตงน้อยกล่าวขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจ
หนิงเทียนปิงเงียบลงไปทันทีแต่ไม่นานนักเขาก็เงยหน้ากลับขึ้นมาพูดใส่ตงน้อยอีกครั้ง “ไม่ว่าอย่างไรเสียนายท่านก็ไม่มีทางพลาดแน่ ท่านรอดูเถอะ!”
ตงน้อยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจยาว “เจ้าโง่นี่!”
…
ในพริบตาเวลาก็ผ่านไปกว่าสามสิบวัน แต่จนทุกวันนี้เย่หยวนก็ยังไม่ออกมาจากห้องหลอม
หนิงเทียนปิงได้รับรู้แล้วว่าเรื่องที่ตงน้อยและเซียวเฟิงบอกนั้นมันไม่ได้เกินเลยไปแม้แต่น้อย
เขานั้นไม่เคยพบเจอเหตุการณ์ที่เย่หยวนใช้เวลานานมากขนาดนี้ในการหลอมโอสถมาก่อนเลย
ที่ด้านนอกประตูหนิงเทียนปิงได้แต่เดินไปมาด้วยท่าทางสุดกังวล
“เลิกเดินวนไปมาเสียที ข้าจะตาลายเพราะเจ้าแล้ว!” ตงน้อยพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
“หึ! นายท่านนั้นกำลังหลอมโอสถให้ท่านแต่ท่านกลับไม่แสดงท่าทีกังวลใดๆ เลย! หากมีเรื่องใดๆ เกิดขึ้นกับนายท่านแล้วข้าจะไม่ยอมปล่อยท่านไว้แน่!” หนิงเทียนปิงร้องบอก
‘แอ๊ด!’
ในเวลานั้นเองที่ประตูห้องด้านในถูกเปิดออกมาเผยให้เห็นร่างผอมแห้งจากด้านใน
“นายท่าน! ท่าน…เป็นอะไรมากหรือไม่?” เมื่อเห็นสภาพนั้นของเย่หยวนหนิงเทียนปิงก็รีบกระโดดเข้าไปช่วยประคองทันที
สภาพของเย่หยวนในตอนนี้สุดที่จะอธิบาย ดวงตาทั้งสองนั้นเห็นเส้นเลือดชัดเจน ผมเฝ้าก็ดูบางลงไปอย่างมากเป็นสภาพร่างคล้ายคนที่มีอาการป่วยมานานปี
ในสายตาของหนิงเทียนปิงแล้วเย่หยวนนั้นเป็นคนที่เยือกเย็นและมีสติเวลาต้องจัดการกับโอสถมาก ทำการหลอมแต่ละครั้งได้อย่างง่ายดายแต่เหตุใดเขาจึงได้กลายมามีสภาพเช่นนี้?
เย่หยวนยกมือขึ้นมาปัดด้วยท่าทางอ่อนแรง “ข้าแค่ต้องตั้งสมาธิมากเกินไปก็เท่านั้น พักไม่กี่วันก็คงกลับมาเป็นปกติได้”
ตงน้อยที่เห็นท่าทางนั้นของเย่หยวนลุกขึ้นยืนพร้อมถามทันที
‘พลาด?’
โอสถย้อนฝันพิรุณชำระนั้นคือโอสถที่ส่งต่อกันมาในมิติอนัตตากอไผ่ตั้งแต่รุ่นแรกๆ
หลายต่อหลายปีผ่านไปมิติอนัตตากอไผ่ได้สร้างยอดคนจอมเทพโอสถขึ้นมามากมายแต่จนทุกวันนี้มันก็ยังไม่เคยมีใครหลอมโอสถนี้ได้สำเร็จมาก่อน
ต่อให้เป็นจอมเทพโอสถเจ็ดดาวขั้นสุดก็ยังไม่เคยจะทำมันได้สำเร็จ
ไม่ใช่พวกเขานั้นไม่สามารถหลอมโอสถที่มีคุณภาพออกมาได้ แต่พวกเขานั้นไม่เคยจะทำการตั้งหลอมได้สำเร็จเลย!
ไม่เคยแม้สักครั้ง!
และโอสถนี้มันยังเป็นแค่โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า แน่นอนว่าความยากของมันต้องเหนือล้ำกว่าสิ่งใด
เพราะฉะนั้นตงน้อยจึงไม่ได้หวังมากมายว่าเย่หยวนจะทำสำเร็จ
‘พรึ่บ!’
เงาสีดำพุ่งผ่านมาถึงหน้าตงน้อย เมื่อเขายกมือขึ้นรับและเปิดมันออกดูก็พบว่ามันคือขวดใบน้อยใบหนึ่ง
นั่นทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที!
ตงน้อยมองดูที่เย่หยวนอย่างตื่นตะลึง “เจ้า…เจ้าทำได้จริงๆ!”
เย่หยวนยิ้มขึ้นมา “หึๆ โอสถนี้มันยากยิ่งเกือบทำข้าต้องตายลงแล้ว! พูดตรงๆ เลยว่าทำการหลอมโอสถมาก็หลายต่อหลายปีแต่ไม่เคยจะเหนื่อยขนาดนี้มาก่อนเลย! แต่…ข้านั้นโชคดีหลอมมันได้สำเร็จ!”
“โชค?” ตงน้อยมองดูเย่หยวนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
เขาเองก็เป็นจอมเทพโอสถเขาย่อมรู้ดีว่าการหลอมโอสถแต่ละครั้งมันต้องใช้พลังสมาธิมากมายแค่ไหน
แต่ความสามารถทางโอสถของเย่หยวนนั้นตงน้อยเองก็รู้อยู่แก่ใจ!
ต่อให้ตอนนี้เขาไปหาจอมเทพโอสถเจ็ดดาวแต่หากวัดกันแค่เรื่องการหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าแล้วมันก็คงไม่มีใครเก่งกาจไปได้เกินเย่หยวน
การที่ทำให้เย่หยวนมีสภาพเหนื่อยอ่อนเช่นนี้ได้มันย่อมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาทุ่มกำลังและสมาธิไปกับการหลอมครั้งนี้อย่างมากเพียงใด!
เส้นจิตของตงน้อยพุ่งลงไปในขวดนั้นและไม่นานร่างของตงน้อยก็ต้องสั่นสะท้านขึ้นมาทันที
‘ตุบ!’
‘อู๊ด!’
หมูสมบัติร่วงลงพื้นพร้อมร้องดังแสดงความไม่พอใจออกมา
แต่ตงน้อยนั้นไม่คิดจะสนใจมันอีกแล้ว สภาพของเขาตอนนี้อยู่ในสภาวะตื่นตะลึง
“ขั้นเทวะวิญญาณไพศาล! เป็น…เป็นไปได้อย่างไรกัน?” ตงน้อยมองดูที่เย่หยวนราวกับเย่หยวนนั้นเป็นเทพมารมาจากที่ไหน
ไม่เคยมีใครเคยหลอมโอสถนี้ขึ้นมาได้ก่อนและในมหาพิภพถงเทียนนี้มันก็ไม่น่าจะมีสูตรโอสถนี้เสียด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่แค่เย่หยวนจะหลอมมันได้ แต่เย่หยวนกลับสามารถหลอมมันได้ถึงขั้นเทวะวิญญาณไพศาล!
แม้จะนับว่าเป็นความยากเก้าเหมือนๆ กันแต่โอสถฟื้นหทัยหยกประณีตและโอสถย้อนฝันพิรุณชำระนั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชินในระดับที่ไม่อาจเทียบกันได้
เหล่าสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายที่ใช้ในการหลอมนี้เองเย่หยวนก็ไม่เคยจะได้ลองใช้มันมาก่อน แน่นอนว่าเย่หยวนคงได้แต่ค่อยวิเคราะห์และคาดเดาการใช้เท่านั้น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แค่หลอมให้ได้ถึงขั้นสูงมันก็มากเกินกว่าที่ใครจะทำได้แล้ว
แต่เย่หยวนกลับหลอมโอสถที่สมบูรณ์แบบออกมาได้!
ตงน้อยนั้นไม่อาจจะอธิบายอารมณ์และความรู้สึกที่มีในใจตอนนี้ได้เลย
ตรงกันข้ามเป็นหนิงเทียนปิงที่ไม่ได้ตื่นตะลึงเท่ากับตัวเขาและพูดขึ้น “ฮ่าๆ ข้าบอกว่าอย่างไรเล่า? เมื่อนายท่านลงมือเองเช่นนี้เขาย่อมไม่มีทางพลาด! ในการโอสถแล้วเขานั้นไร้เทียมทาน!”
สภาพของหนิงเทียนปิงตอนนี้มันเหมือนผู้มีชัย
ในเวลาหนึ่งเดือนนี้เขาเองก็กังวลเรื่องเย่หยวนอย่างมาก แต่ความมั่นใจของหนิงเทียนปิงที่มีต่อเย่หยวนนั้นไม่เคยสั่นคลอน
และการที่เย่หยวนทำมันได้สำเร็จย่อมจะยืนยันว่าความเชื่อของหนิงเทียนปิงนั้นไม่ผิด!
ตงน้อยพยายามเปิดปากพูดออกมาแต่กลับไม่อาจหาคำพูดได้
ในเวลานี้เขาได้รับรู้แล้วว่าเขานั้นยังไม่เข้าใจถึงความเก่งกาจของเย่หยวนพอ
ในเวลาหนึ่งเดือนนี้หนิงเทียนปิงได้แสดงความมั่นใจในตัวเย่หยวนออกมาจนเหมือนว่าเป็นการเชื่ออย่างมืดบอด
แต่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่ามันไม่ใช่เช่นนั้น
ด้วยอายุของเย่หยวนการที่สามารถพัฒนาด้านโอสถมาได้ถึงขั้นนี้มันย่อมหมายความว่าผู้คนจะใช้สามัญสำนึกใดๆ ไปตัดสินเขาไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้นความมั่นใจที่หนิงเทียนปิงมีมันจึงอาจจะไม่ใช่การเชื่ออย่างงมงายเลย
ไม่! ไม่ใช่อาจจะ แต่มันไม่ใช่ความงมงายอย่างแน่นอน!
ตงน้อยมองดูที่หนิงเทียนปิงพร้อมถอนหายใจยาว “เอาล่ะ ข้ายอมรับผิด! ข้าประเมินเย่หยวนต่ำไปจริงๆ ความสามารถของเขานั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งใดๆ เด็กคนนี้มีอนาคตที่ไม่อาจคาดเดาได้จริงๆ!”
หนิงเทียนปิงผงะไปทันทีที่ได้ยิน เทพสวรรค์ผู้สูงส่งผู้นี้กลับกล่าวขอโทษเขาอย่างนั้นหรือ?
………………………..