“ผู้อาวุโส ข้านั้นมาเพื่อจะขอสอบเข้าเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์และสมัครเข้าสังเวียนโอสถ”
ชายแก่ตรงหน้าเย่หยวนนี้คือผู้คุมการสอบเข้าเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์
หลายต่อหลายปีที่ผ่านมานี้ศาลาโอสถสวรรค์นั้นโด่งดังขึ้นอย่างมากมาย เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์เองแม้จะเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ทองแดงก็ยังมีสถานะในโลกภายนอกที่สูงส่งกว่านักหลอมโอสถทั่วๆ ไปนัก
เหล่านักหลอมโอสถที่ได้ออกจากศาลาโอสถสวรรค์นี้ไปล้วนแล้วแต่ต้องผ่านสังเวียนการประลองมานับไม่ถ้วนแน่นอนว่าพวกเขาทั้งหลายย่อมจะมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำกว่านักหลอมโอสถทั่วๆ ไปมาก
เพราะฉะนั้นการที่จะเข้าศาลาโอสถสวรรค์เป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ได้นั้นมันจึงมีการคัดเลือกที่เข้มงวดไม่น้อย
ไม่ใช่แค่ว่าสามารถหลอมโอสถได้ก็สามารถเข้าศาลาโอสถสวรรค์ได้
และชายชราตรงหน้านี้ก็คือคนที่ทำหน้าที่คัดกรองที่ว่านั้น
ชายแก่มองดูเย่หยวนก่อนจะยกมือขึ้นมาโบกปัด “เด็กน้อย ที่นี่หาใช่ที่ที่เจ้าจะมาเที่ยวเล่นได้ ไปเสียเถอะ”
เขานั้นเห็นว่าเย่หยวนนั้นยังเด็กจนเกินไปและไม่มีทางจะผ่านการทดสอบใดๆ ได้จึงคิดว่ามันจะเป็นการเสียเวลาเปล่า
ด้วยอายุเพียงเท่านี้แล้วสามารถขึ้นมาถึงอาณาจักรนภาสวรรค์เจ็ดดาวนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แต่หากคิดอยากจะเป็นจอมเทพโอสถห้าดาวด้วยอายุเท่านี้มันคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก อย่าว่าแต่จะผ่านการทดสอบใดๆ ได้เลย
เพราะแม้ว่าการทดสอบนี้มันจะไม่ได้เป็นเรื่องลึกลับซับซ้อนยากเย็นมากมาย แต่คนที่จะผ่านไปได้นั้นมันก็มีไม่มาก
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ผู้อาวุโสจะไม่ลองให้ข้าแสดงฝีมือหน่อยหรือ?”
ชายชราบอก “เฒ่าคนนี้เฝ้าดูศาลาโอสถสวรรค์มานานหลายต่อหลายปีและได้พบเจอกับนักหลอมโอสถมาแล้วอย่างนับไม่ถ้วน เจ้าจะสามารถผ่านหรือไม่นั้นข้าแค่มองดูพอรู้ได้”
ชายแก่คนนี้เองก็เคยเป็นจอมเทพโอสถห้าดาวมา เขาย่อมมีความรู้ความเข้าใจในระดับนี้ไม่น้อย
ด้วยชื่อเสียงของศาลาโอสถสวรรค์แล้วนักหลอมโอสถมากมายหลายหน้าต่างคิดเข้ามาในสังเวียนประลองโอสถ เหล่านักหลอมโอสถที่เขาได้พบเจอนั้นย่อมเหนือล้ำกว่าที่จะจินตนาการได้
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้มีความรู้ที่ยึดมั่นอยู่กับตัวในเรื่องการมองคน
เย่หยวนเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจออกมา เขาแค่ยิ้มตอบ “เช่นนั้นท่านผู้อาวุโสโปรดให้โอกาส ให้ผู้เยาว์ได้ลองวัดฝีมือสักครั้ง?”
“เด็กคนนี้ อย่าได้มาทำให้เสียเวลา เหล่านักหลอมโอสถที่ผู้อาวุโสผิงพบเจอมานั้นมันมากกว่าเม็ดข้าวที่เจ้าเคยกินมาทั้งชีวิต เขานั้นก็ได้บอกแล้วว่าเจ้าไม่ผ่าน ยังจะมีโอกาสใดๆ ที่เจ้าจะสามารถผ่านได้อีก”
“เด็กน้อย ขนเข้ายังไม่ทันขึ้นก็คิดว่าตัวเองจะหลอมโอสถได้แล้วหรือ?”
“ฮ่าๆ”
ทุกผู้คนรอบๆ ต่างหัวเราะลั่นขึ้นทันทีด้วยท่าทางเย้ยหยันเย่หยวน
เพราะต่อให้เป็นศิษย์จากค่ายสำนักยอดนักหลอมโอสถใดๆ การที่จะสามารถเข้าศาลาโอสถสวรรค์ได้มันก็ต้องมีอายุอย่างน้อยๆ ห้าพันปีขึ้นไป
ด้วยอายุของเย่หยวนแล้วมันย่อมไม่มีโอกาสนั้น
ผู้อาวุโสผิงมองดูสภาพจริงจังของเย่หยวนไม่แสดงท่าทางอวดเก่งเหมือนดั่งลูกคุณหนูตระกูลใหญ่เขาจึงได้แต่พยักหน้ายอมรับออกมาในที่สุด “ช่างเถอะ ไปลองให้รู้เสีย!”
เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะอีกฝ่ายทันทีด้วยความตื่นเต้นดีใจ “ขอบคุณมากผู้อาวุโสผิง!”
ผู้อาวุโสผิงยกมือขึ้นมาโบกปัด “อย่าเพิ่งได้มาขอบคุณข้า ไฟศักดิ์สิทธิ์นี้มันรุนแรงไม่เบา อย่าได้ทำให้ตัวเองบาดเจ็บเสียเล่า”
การทดสอบนั้นมันแสนง่ายดาย แค่การควบคุมไฟไปหลอมโอสถเพียงเท่านั้น
แต่คนทั้งหลายนั้นไม่ได้คิดว่ามันง่ายดายเลยเพราะเรื่องนี้จอมเทพโอสถห้าดาวหลายๆ คนเองก็ยังไม่อาจทำมันได้
ไฟนี้มันมิใช่ไฟศักดิ์สิทธิ์ทั่วๆ ไปแต่มันคือไฟที่ไม่มีนาย ทำให้มันรุนแรงและร้อนอย่างมาก
หากคิดจะใช้ไฟที่ดุร้ายเช่นนี้ไปหลอมโอสถแล้วมันย่อมต้องใช้ความสามารถที่สูงส่ง
ในเตาอั้งโล่นั้นมีก้อนไฟกำลังดิ้นไปมาอย่างรุนแรงภายใน
“หึ อีกไม่นานมันคงได้แต่อายมุดดินหนีไปแล้ว!”
“เพลิงหมาป่าสวรรค์หทัยเมฆานั้นขึ้นชื่อว่ายากต่อการควบคุม ด้วยอายุเท่านี้มีหรือที่มันจะควบคุมเพลิงหมาป่าสวรรค์หทัยเมฆาที่ไม่มีนายได้?”
“นี่สินะที่เขาเรียกว่าประเมินตัวเองสูงเกินไป”
…
คนทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกว่าการทดสอบเย่หยวนนี้มันเสียเวลาเปล่าจึงแสดงท่าทีรำคาญออกมาอย่างมาก
เย่หยวนค่อยๆ เดินไปหน้าเตานั้นพร้อมชี้นิ้วออก จากนั้นเจ้าก้อนไฟก็ได้พุ่งตามปลายนิ้วของเขาลงไปยังหม้อหลอมในทันทีอย่างว่าง่าย
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้มันสุดแสนจะเป็นธรรมชาติและนุ่มนวลอย่างที่ไม่มีการหยุดชะงักเลย
เหล่าคนทั้งหลายที่แสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาในคราแรกต่างลุกขึ้นยืนตามๆ กันเมื่อได้เห็นเย่หยวนลงมือ
ภายในโถงตอนนี้มันปกคลุมไปด้วยความเงียบงันมีเพียงแค่การทดสอบของเย่หยวนที่ดำเนินต่อไปไม่มีหยุด
จากนั้นไปก็เป็นการหลอมโอสถ
เพลิงหมาป่าสวรรค์หทัยเมฆานั้นทำตัวว่าง่ายอย่างมากเมื่ออยู่ในมือของเย่หยวนและค่อยๆ ปล่อยเสียงร้องเหมือนเสียงหอนของหมาป่าออกมา
ภายในหม้อหลอมนั้นเป็นโอสถเทียมที่ใช้เพื่อการทดสอบนี้โดยเฉพาะ
‘ปัง!’
‘ปัง!’
‘ปัง!’
…
ภายในหม้อหลอมนี้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นมาเก้าครั้งติดๆ กัน
เสียงหอนดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่เจ้าเพลิงหมาป่าสวรรค์หทัยเมฆาจะกลับไปอยู่ในเตาเช่นเดิมแต่มันกลับไม่ค่อยอยู่นิ่งเหมือนก่อนหน้าสักเท่าไหร่
‘ตุบ!’
เพลิงหมาป่าสวรรค์หทัยเมฆานั้นกลับไปยังเตาอีกครั้งและได้เข้าสู่สภาวะที่ไม่มีใครเป็นนาย
แต่ตอนนี้พลังปิดกั้นรอบๆ เตามันกลับทำงานขึ้น
ทุกคนได้แต่มองดูภาพตรงหน้าอย่างมึนงง
“เก้าปะทุ นี่คงเป็นพลังฝีมือของนักหลอมโอสถระดับเงินแล้วใช่หรือไม่?”
“ที่สำคัญการควบคุมไฟนั้นมันช่างเหนือล้ำ!”
“เพลิงหมาป่าสวรรค์หทัยเมฆากลับคิดอยากทำลายพลังปิดกั้นออกมา หมายความว่า…มันคิดอยากได้เย่หยวนคนนี้เป็นนายมันอย่างนั้นหรือ?”
…
การทดสอบนี้ของเย่หยวนผ่านไปอย่างรวดเร็วเพียงแค่ไม่กี่อึดใจก็สิ้นสุดลง
แต่ในเวลาแค่ไม่กี่อึดใจนี้คนทั้งหลายกลับได้เห็นพลังฝีมือของเย่หยวนอย่างชัดเจน
การหลอมโอสถเทียมนั้นเสียงของการปะทุแต่ละครั้งมันจะเป็นคะแนนแสดงความเก่งกาจของฝีมือ
ตราบเท่าที่ผู้คนสามารถทำให้เกิดเสียงปะทุได้ มันก็จะนับว่าผ่านการทดสอบ
แต่เจ้าโอสถเทียมนี้มันส่งเสียงได้อย่างมากสุดก็แค่เก้าครั้ง และเย่หยวนกลับสามารถทำให้มันปะทุขึ้นได้ครบจำนวน!
ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้วการที่ทำให้เกิดเก้าปะทุได้มันย่อมหมายความว่าคนผู้นั้นมีพลังฝีมือถึงระดับนักหลอมโอสถสวรรค์เงิน
เพียงแค่ว่าคนทั้งหลายที่มาทดสอบในศาลาโอสถสวรรค์ไม่เคยมีใครที่เก่งกาจพอจะทำได้ขนาดนี้มาก่อน
เว้นเสียแต่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นยอดคนนักหลอมโอสถชื่อดังแต่ไม่เคยทำการทดสอบของศาลาโอสถสวรรค์มาก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีคนที่เก่งกาจขนาดนี้ปรากฏตัวออกมาได้อย่างไร?
แต่ว่าเย่หยวนนั้นมีอายุเพียงเท่าไหร่?
ตอนนี้เหล่าคนทั้งหลายนี้อายุแค่พันกว่าปีพวกเขายังต้องให้อาจารย์เฆี่ยนตีจดจำเรื่องพื้นฐานอยู่เลย!
เท่านี้มันก็มากพอจะทำให้ทุกผู้คนตื่นตะลึงในฝีมือแล้ว!
“ข้าทำการสอบเสร็จแล้ว” เย่หยวนเดินเข้ามาบอกผู้อาวุโสผิง
ผู้เฒ่าสะดุ้งตัวขึ้นก่อนจะกลับมาตั้งสติได้
เขามองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “เฒ่าคนนี้ขอโทษเจ้าด้วย เฒ่าคนนี้ไม่นึกเลยว่าจะทำการประเมินได้ผิดพลาดถึงขนาดนี้”
ทุกคนที่ได้ยินนั้นตกตะลึงอย่างมาก ผู้อาวุโสผิงนี้กลับขอโทษเด็กคนหนึ่ง!
ผู้อาวุโสผิงนั้นคือนักหลอมโอสถสวรรค์ทอง แต่เขากลับกล่าวขอโทษต่อเด็กผู้หนึ่ง
แต่พอคิดไปแล้วมันก็ไม่ได้แปลกอะไร
เพราะเย่หยวนนั้นมีฝีมือขนาดนี้ได้ด้วยอายุเท่านี้ แน่นอนว่าความสำเร็จในวันหน้าของเขามันย่อมไม่มีขีดจำกัด!
เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะ “ผู้อาวุโสผิงกล่าวเกินไปแล้ว! ข้าแค่สงสัยว่าเช่นนี้จะนับว่าผ่านการทดสอบหรือไม่?”
“ผ่านอยู่แล้ว!”
พูดไปผู้อาวุโสผิงก็ได้โยนเหรียญเงินออกมาให้แก่เย่หยวน “เก้าปะทุ เจ้านั้นมีฝีมือที่ขึ้นถึงขั้นนักหลอมโอสถสวรรค์เงินได้แล้ว จากวันนี้ไปเจ้าจะถูกนับเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์เงิน!”
เย่หยวนรับเหรียญนั้นไปด้วยท่าทางตื่นตกใจไม่น้อย เพราะเขาไม่นึกว่าแค่ผ่านการทดสอบก็จะสามารถเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์เงินได้เช่นนี้
เป็นตอนนี้เองที่เขาได้รู้ว่าเหล่านักหลอมโอสถทั้งหลายที่ผ่านไปก่อนหน้านั้นมันเป็นแค่ระดับที่ต่ำต้อยเพียงใด
พวกเขานั้นต้องผ่านสังเวียนนับร้อย หรือพันครั้งเพื่อที่จะสามารถขึ้นไปเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ทองแดงได้
และเช่นกัน หากนักหลอมโอสถสวรรค์ทองแดงคิดอยากขึ้นสู่รับเงินพวกเขาก็ต้องขึ้นประลองอีกนับครั้งไม่ถ้วน
เรื่องราวนี้หลายๆ ครั้งมันกินเวลาหลายสิบปี อาจจะถึงหลายร้อย หรือบางคนอาจจะใช้เวลาหลายพันหลายหมื่นปีเพื่อขึ้นระดับ
แต่เย่หยวนแค่ทำตามกฎของหม้อหลอมและพยายามอย่างสุดตัว ไม่นึกไม่ฝันว่าเขานั้นจะกลับสามารถขึ้นมาถึงระดับเงินได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
…………………………