“หึๆ ช่างอวดเก่งโอหังได้จนถึงที่สุด! ข้าแค่ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าจะมีปัญญาพอหนุนความอวดดีนั้นได้หรือไม่” เทพสวรรค์เหวินหลานยิ้มออกมา
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียการประลองก่อนหน้านั้นมันก็เป็นเพียงแค่ศึกเรียกน้ำย่อย
เพราะระหว่างอาณาจักรเต๋าขั้นกลางและอาณาจักรเต๋าขั้นปลายนั้นมันไม่อาจจะนำเอามาเปรียบเทียบใดๆ กันได้
ตอนนี้เมื่อมันมาถึงตาของเทพสวรรค์ออหยุนแล้วมันก็ถึงเวลาที่จะเริ่มศึกที่แท้จริงกันเสียที
เทพสวรรค์ต้าวเฉียนกล่าวขึ้น “อายุแค่พันกว่าปีกลับขึ้นมาถึงอาณาจักรเต๋าขั้นปลายได้ เด็กคนนี้มันมีดีพอที่จะโอหังแล้ว เพียงแค่ว่าหลังขึ้นถึงอาณาจักรเต๋าขั้นปลายมาได้การจะพัฒนาใดๆ มันก็จะยิ่งยากเย็นขึ้นไปอีกนับเท่าตัว ไม่ว่าจะมีพรสวรรค์ที่เก่งกาจปานใดมันก็ต้องมีขีดจำกัดกันบ้าง”
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นพยักหน้าเห็นด้วยออกมาเมื่อได้ยิน
พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมเข้าใจถึงความยากเย็นของอาณาจักรเต๋าขั้นปลายดีเพราะพวกเขาทั้งหลายนั้นเองก็ยืนอยู่ในจุดนี้
ส่วนเรื่องที่ว่าเย่หยวนก้าวขึ้นมาถึงขั้นนี้ได้มันย่อมจะทำให้พวกเขาทั้งหลายตื่นตกใจอย่างมาก แต่หากจะบอกว่าเขานั้นยังสามารถชนะเหล่ายอดฝีมืออาณาจักรเต๋าขั้นปลายได้อีก มันคงจะไม่มีใครคิดเชื่ออย่างเด็ดขาด
เทพสวรรค์ออหยุนกล่าวออกมาด้วยใบหน้าชั่วร้าย “เช่นนั้นขอให้เทพสวรรค์ผู้นี้ได้ทำลายเจ้าลงเถอะ! หม้อหลอมลวงแท้จงเปิดออก!”
ในวินาทีนั้นคลื่นเต๋าอันหนักหน่วงก็ได้พุ่งทะยานออกมาทำให้คนทั้งหลายต้องเบิกตาค้างไปตามๆ กัน
“นี่มัน… นี่มันสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์!”
“ดูท่าเทพสวรรค์ออหยุนจะไม่ได้พูดเล่นๆ เสียแล้ว!”
“นี่มันไม่ยุติธรรมเลย! สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ปะทะกับสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำ มันจะไม่ยุติธรรมจนเกินไปแล้ว!”
…
แน่นอนว่าเย่หยวนในเวลานี้ย่อมจะเกิดกองสนับสนุนขึ้นมา
เมื่อคนทั้งหลายเหล่านั้นได้เห็นเทพสวรรค์ออหยุนใช้สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์พวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่พอใจ
เพราะสิ่งที่เย่หยวนใช้อยู่ตอนนี้มันก็ยังคงเป็นหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตที่เทพสวรรค์เปียวหยูได้มอบให้แก่เขามา มันนั้นเป็นถึงยอดของสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าสมบัติเทพถ่องแท้เลิศล้ำเลย
แต่ทว่าสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำก็ยังเป็นสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำอยู่วันยันค่ำ มันย่อมไม่อาจจะไปเทียบเคียงพลังของสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ได้ ไม่ว่ามันจะเป็นยอดสมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำที่เหนือล้ำปานใด
หม้อหลอมโอสถนั้นมันมีพลังในการเสริมสร้างตัวโอสถอย่างมาก พลังของหม้อหลอมใดๆ มันย่อมจะส่งผลต่อคุณภาพของโอสถที่จะถูกหลอมออกมา
แม้พลังฝีมือจะใกล้เคียงกันแต่หากคนผู้หนึ่งหลอมด้วยสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ส่วนอีกคนใช้แค่สมบัตินภาสวรรค์เลิศล้ำหลอม มันย่อมจะไม่อาจเทียบเคียงกันได้
“หึ! เมื่อเทพสวรรค์ผู้นี้คิดหลอมโอสถแล้วเหล่าเด็กน้อยทั้งหลายอย่างพวกเจ้ายังจะมีหน้าใดๆ มาสั่งสอนข้าได้? ที่สำคัญการประลองนี้มันไม่ได้มีการกำหนดเสียหน่อยว่าต้องใช้หม้อหลอมระดับใด ข้าทำเช่นนี้มันไม่ยุติธรรมอย่างไร? หากเขานั้นมีฝีมือพอจะยืนบนตำแหน่งปรมาจารย์มันย่อมจะไม่ต้องมาสนใจความได้เปรียบเสียเปรียบเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้” เทพสวรรค์ออหยุนตวาดว่าเหล่าคนดูทั้งหลาย
หน้าไม่อาย!
นั่นคือความรู้สึกที่ทุกผู้คนมีต่อเทพสวรรค์ออหยุนในเวลานี้
เพียงแค่ว่าเหล่าเด็กน้อยอย่างพวกเขาทั้งหลายย่อมไม่อาจจะไปเถียงสิ่งใดได้
แต่ในเวลานั้นเองมันกลับเกิดลำแสงหนึ่งพุ่งลงมายังสังเวียนจากบนที่นั่งเหล่าเทพสวรรค์
ตอนนี้หม้อหลอมสีขาวนวลมันได้ปรากฏขึ้นมาแก่สายตาผู้คน
เมื่อเทพสวรรค์ออหยุนได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหน้าถอดสีหันกลับไปยังที่นั่งด้านบนพร้อมร้องถามขึ้น “พี่เจาหยวน ทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?!”
ที่แท้แล้วหม้อหลอมนี้มันเป็นของเทพสวรรค์เจาหยวน!
คลื่นพลังที่ออกมาจากหม้อหลอมนั้นมันเหนือล้ำเสียยิ่งกว่าหม้อหลอมลวงแท้ ตัวมันนี้เองก็เป็นถึงสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นหนึ่งเช่นกัน ที่สำคัญมันยังมีระดับสูงกว่าหม้อหลอมลวงแท้ไปขั้นหนึ่งเสียด้วย!
“นี่มัน… นี่มันสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นรักของเทพสวรรค์เจาหยวน หม้อหลอมตะวันขาว! เขา… เขากลับยอมที่จะนำมันออกมาให้เย่หยวนยืม!” แน่นอนว่าเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายที่ได้เห็นต้องร้องขึ้นตามๆ กัน
เทพสวรรค์เจาหยวนไม่คิดสนใจคำถามใดๆ ของเทพสวรรค์ออหยุนและหันไปบอกเย่หยวน “สหายหนุ่ม เฒ่าคนนี้ขอเอาหม้อหลอมตะวันขาวนี้ให้เจ้ายืมใช้”
นั่นทำให้เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นรอบด้าน
“เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นมีชื่อเรื่องไม่ยอมเห็นความไม่เที่ยงธรรม ดูท่ามันจะเป็นเรื่องจริงแล้ว!”
“ดูท่าเทพสวรรค์เจาหยวนจะไม่คิดทนเห็นความไม่เท่าเทียมจึงได้มอบหม้อหลอมตะวันขาวออกมาให้แก่เย่หยวนได้ใช้”
“แล้วมันทำไมเล่า? ต่อให้เป็นเช่นนั้นมันก็ยังไม่ยุติธรรมอยู่ดี ปรมาจารย์เย่นั้นย่อมจะไม่อาจใช้พลังที่แท้จริงของสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ได้”
…
การกระทำนี้ของเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นมันทำให้ทุกผู้คนตื่นตะลึง
ในเวลานี้มันไม่มีใครคิดสงสัยแล้วว่าตัวเขาไม่พอใจที่ถูกวางไว้ในตำแหน่งใต้เย่หยวนหรือไม่
เหตุผลเดียวที่เขาคิดท้าทายเย่หยวนนี้คงเป็นเพราะอยากประลองกับเย่หยวนจริงๆ!
เย่หยวนนั้นยกมือขึ้นมาลูบดูที่หม้อหลอมตะวันขาวพร้อมรู้สึกถึงพลังที่สั่นสะท้านภายใน หากใช้มันหลอมโอสถแล้วคงได้ผลลัพธ์ที่เหนือล้ำกว่าเก่านับเท่าตัว
“ช่างเป็นหม้อหลอมที่เหนือล้ำ! ขอบคุณพี่เจาหยวนมาก!”
เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะขอบคุณเทพสวรรค์เจาหยวนด้านบนแต่ไม่นานเขากลับพูดขึ้นตาม “แต่ทว่ามันจำเป็นหรือที่ต้องถึงขั้นใช้สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์จัดการกับตัวเขาผู้นี้? แค่หม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตของข้าก็เกินพอแล้ว!”
พูดจบเย่หยวนก็ดันฝ่ามือออกส่งหม้อหลอมตะวันขาวกลับเป็นแสงพุ่งไปยังตัวเทพสวรรค์เจาหยวน
นั่นทำให้เทพสวรรค์เจาหยวนตื่นตะลึงไม่น้อย เพราะเย่หยวนคนนี้กลับสามารถขยับหม้อหลอมตะวันขาวของเขาได้อย่างง่ายดาย!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียนี่มันก็คือสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประจำตัวของเขา แม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้ควบคุมใดๆ แต่มันก็มิใช่ทุกผู้คนที่จะขยับมันได้
หากเย่หยวนอยากจะใช้งานมันจริงๆ เขาก็ต้องตั้งสมาธิเพ่งมองไปที่หม้อหลอมตะวันขาวอย่างมาก
“อะไรกัน? เขาบ้าไปแล้วใช่หรือไม่? ความหวังดีของเทพสวรรค์เจาหยวนนี้เจากลับไม่รับมันไว้หรือ?”
เมื่อได้เห็นเย่หยวนทำเช่นนั้นคนทั้งหลายต่างก็แสดงสีหน้าท่าทางเป็นกังวลออกมาทันที
ตอนนี้แม้แต่เทพสวรรค์ออหยุนเองก็ยังได้แต่ยืนนิ่งไม่เข้าใจว่าเย่หยวนทำอะไรลงไปกันแน่
เทพสวรรค์เจาหยวนที่รับหม้อหลอมตะวันขาวกลับไปจึงตอบกลับมา “เช่นนั้นก็แล้วไป”
“หึๆ เจ้าเด็กน้อยที่ไม่รู้จักประมาณตัว! ข้าจะให้เจ้าได้เห็นพลังของเทพสวรรค์ผู้นี้เอง! ฝ่ามืออนันต์แปลงจักรวาล!”
เทพสวรรค์ออหยุนวาดตราออกมาพร้อมด้วยคลื่นพลังอันหนักหน่วงพุ่งทะยานเข้าใจเย่หยวน
ได้เห็นเช่นนั้นคนทั้งหลายก็หน้าถอดสีไปตามๆ กัน
ก่อนหน้านี้เมื่อเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายได้ใช้วิชาออกมาแม้จะเป็นถึงรอบของอันดับที่สามสิบก็ตามขึ้นไปก็ตาม มันก็ยังมีพลังไม่เทียบเท่าแม้แต่สองในสิบของพลังที่เทพสวรรค์ออหยุนปล่อยออกมา!
อาณาจักรเต๋าขั้นปลายมันช่างเหนือล้ำ!
เบื้องหน้าของพลังนี้มันคือเย่หยวนที่ดูเหมือนเรือลำน้อยกลางมหาสมุทร ดูท่าทางไม่อาจจะต้านทานใดๆ ได้เลย
“ฝ่ามืออนันต์แปลงจักรวาลของออหยุนนั้นเป็นยอดวิชาโอสถระดับเจ็ด เมื่อรวมกับพลังของหม้อหลอมลวงแท้แล้วต่อให้เป็นเทพสวรรค์ผู้นี้ก็ยังต้องระวังอย่างมาก ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะเหนือล้ำฟ้าดินต้านทานได้จริงๆ!” เทพสวรรค์ต้าวเฉียนกล่าวออกมา
เหล่าเด็กหนุ่มสาวทั้งหลายที่มองดูการประลองนี้อยู่ย่อมจะรู้สึกกังวลว่าเย่หยวนจะตอบรับกลับพลังนี้ไปอย่างไร
แต่เย่หยวนนั้นกลับต้องขมวดคิ้วขึ้นมาพร้อมมองดูเทพสวรรค์ออหยุนด้วยใบหน้าเย็นเยือก
“คิดอยากลอบโจมตีเสียด้วย? เจ้าหมอนี่มันช่างหน้าไม่อายนัก! หากเป็นเช่นนั้นแล้วข้าก็จะสั่งสอนให้เจ้าไม่อาจลืมลงได้เลย!” เย่หยวนหัวเราะขึ้น
เพราะในตอนนี้เย่หยวนสามารถสัมผัสได้ว่าในเต๋าโอสถของอีกฝ่ายนั้นมันแฝงมาด้วยพลังจิตศักดิ์สิทธิ์ เจ้าหมอนี่มันกลับคิดจะลอบทำร้ายกันเสียแล้ว
แต่เทพสวรรค์ออหยุนนั้นมีวิชาลับที่แยบยลจนทำให้คนภายนอกไม่อาจสังเกตได้
ในเวลานี้เย่หยวนจึงเริ่มรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอย่างมาก
จากนั้นมือหนึ่งของเขาก็ขยับส่งสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายลงสู่หม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีต พร้อมด้วยคลื่นพลังเต๋าโอสถอันเหนือล้ำที่พุ่งทะยานขึ้นมาพร้อมๆ กัน
คลื่นพลังที่ออกมาในครั้งนี้มันเหนือล้ำกว่าพลังที่เทพสวรรค์ออหยุนผู้ใช้สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์มี มันรุนแรงพอที่จะทำลายคลื่นพลังของเทพสวรรค์ออหยุนลงในพริบตา
ในที่นั่งเทพสวรรค์ทั้งหลายเทพสวรรค์เจาหยวนต้องผุดลุกขึ้นทันทีพร้อมดวงตาเบิกกว้างจ้องมองไปยังเย่หยวน
เหล่าเทพสวรรค์คนอื่นๆ เองก็มีสีหน้าไม่แตกต่างกันไป มองดูเย่หยวนอย่างไม่คิดอยากเชื่อแม้แต่น้อย
เทพสวรรค์ออหยุนที่กำลังยิ้มเยาะเพราะชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อมนั้นรู้สึกใจหายวาบเมื่อได้เห็นคลื่นพลังที่กำลังพุ่งเข้ามากดทับตนเอง
ตอนนี้วิชาโอสถของเขามันแทบจะพังทลายลงในคราเดียว
ในท้องไส้ของเขามันมีเลือดไหลย้อนกลับออกมาจนแทบจะต้องกระอักเลือด
โชคยังดีที่เขานั้นมีพลังบ่มเพาะสูงส่งจึงกดเลือดที่ไหลย้อนนั้นไว้ได้ทัน
เว้นเสียแต่ว่าในเวลานี้เขาแทบไม่อาจหายใจได้ภายใต้พลังกดดันนี้ของเย่หยวน
“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร? เด็กน้อยอายุแค่พันกว่าปีกลับมีเต๋าโอสถถึงอาณาจักรเต๋าขั้นสุด?” เทพสวรรค์ออหยุนร้องขึ้นอย่างตื่นตะลึง
………………….