เมื่อได้เห็นเย่หยวนค่อย ๆ เก็บดาบกระดูกลงอย่างสบายใจแล้วดวงตาทั้งสองของเทพสวรรค์หลัวเฟิงก็ต้องเบิกกว้างอย่างร้อนรุ่มจนแทบจะเป็นไฟ
อนาคตของชุมวายุไพศาลนั้นกลับตายลงไปต่อหน้าต่อตาของเขา
เขานั้นคิดไปถึงขั้นว่าด้วยพลังของเทพสวรรค์แล้วต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นเย่หยวนก็คงไม่กล้าจะฆ่าเฟิงเทียนหยางลงต่อหน้าเขาเช่นนี้
แต่เย่หยวนกลับไม่เกรงกลัวใด ๆ สังหารเฟิงเทียนหยางลงไปเสียอย่างนั้น
“เด็กน้อย เจ้ากล้าดีมาก!” เทพสวรรค์หลัวเฟิงนั้นกัดฟันแน่นอย่างโกรธแค้น
เย่หยวนกล่าวขึ้นมา “เฟิงเทียนหยงนั้นคิดอยากได้กายาเทวะหยินล้ำของลู่เอ๋อ มันสมควรตายแล้ว!”
เพราะหากเฟิงเทียนหยางแค่คิดสนใจหน้าตารูปร่างของลู่เอ๋อ เย่หยวนก็คงไม่ถึงขั้นคิดฆ่าสังหารลงทันทีเช่นนี้
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียสิ่งสวยงามมันก็เป็นที่ต้องการ เย่หยวนคงไม่บ้าถึงขั้นไปไล่ฆ่าทุกคนที่มาสนใจคนสนิทของเขา
แต่เฟิงเทียนหยางนั้นกลับคิดอยากได้ตัวลู่เอ๋อเพราะว่ากายเทวะหยินล้ำของนาง
หากเฟิงเทียนหยางเอาพลังกายเทวะหยินล้ำของลู่เอ๋อไปจริง ๆ แล้ว อย่างน้อย ๆ ลู่เอ๋อคงพิการหรืออาจจะถึงขั้นตายลงก็เป็นได้
มีหรือที่เย่หยวนจะทนทานรับเรื่องเช่นนั้นได้?
“ดีมาก ๆ! วันนี้หากหลัวเฟิงผู้นี้ไม่ได้ฆ่าสังหารเข้าลงแล้ว อย่ามาเรียกข้าว่าเป็นคนอีกเลย!” เทพสวรรค์หลัวเฟิงร้องประกาศพร้อมด้วยคลื่นพลังที่พุ่งทะยานล้ำ
เฟิงเทียนหยางนั้นเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งทุ่งราบสุดอุดรนี้ เป็นอนาคตของชุมวายุไพศาลอย่างแท้จริง
แต่ตอนนี้เขากลับตายลงไปเสียอย่างนั้น!
เทพสวรรค์หลัวเฟิงย่อมจะโกรธแค้นอย่างแน่นอน
“เจ้าเด็กร้าย เจ้ากล้าฆ่าสังหารหลานเทียนหยาง มันเท่ากับว่าเจ้าประกาศตัวเป็นศัตรูกับคนสุดอุดรทั้งหมดทั้งสิ้นนี้! วันนี้เทพสวรรค์ผู้นี้จะสังหารเจ้าลงเอง!” เทพสวรรค์ปิงหยุนกล่าวขึ้นตามทันที
“สหายเย่หยวน เรื่องครั้งนี้เจ้าทำเกินไปจริง ๆ! วันนี้เจ้าคงต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดกาลแล้ว! เทพสวรรค์ผู้นี้เองก็จะไม่ยืนดูอยู่เฉย ๆ แน่!” เทพสวรรค์ฉือหยูร้องขึ้นตาม
เมื่อเฟิงเทียนหยางตายลงในชุมเก้าสายเช่นนี้แล้วความผิดทั้งหลายมันย่อมจะตกมาอยู่กับพวกเขาที่เป็นผู้ปกครอง
หากเทพสวรรค์ห่าวเฟิงได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ผลลัพธ์ที่ตามมามันคงเลวล้ำเหนือจินตนาการ
เพราะฉะนั้นในเวลานี้พวกเขาจึงต้องแสดงความจริงใจออกมาชดใช้ความผิดเสียแต่เนิ่น ๆ
เหล่าเทพสวรรค์คนอื่น ๆ เองก็พูดขึ้นมาตาม ๆ กับคิดอยากช่วยลงมือจับตัวเย่หยวนไว้
เย่หยวนหรี่ตาทั้งสองลงก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “สังหารข้า? หึ ๆ เรื่องในวันนี้มันยังไม่จบไม่สิ้นกันหรอก! ความทรมานที่ลู่เอ๋อได้เจอในเวลาหลายปีมานี้ เย่ผู้นี้จะจัดการล้างแค้นมันให้หมดสิ้น! วันนี้ เย่ผู้นี้จะทำการลบล้างหอเมฆาน้ำแข็งออกไปจนไม่ให้เหลือแม้แต่สักคน!”
ที่เย่หยวนยังอยู่นี้มันมิใช่เพราะความกล้าหรือคิดอยากต่อสู้ใด ๆ
เพราะเมื่อเขาได้พบเห็นถึงความผิดปกติในวรยุทธบ่มเพาะของลู่เอ๋อเขาก็แทบจะอยากฆ่าสังหารเทพสวรรค์ปิงหยุยลงตรงนั้น
ที่สำคัญไปกว่านั้นหอเมฆาน้ำแข็งนั้นคือสถานที่ที่ปล่อยให้ลู่เอ๋อถูกรังแก คนที่สนับสนุนการรังแกลู่เอ๋อเองก็มีมิใช่น้อย ๆ
สำหรับเย่หยวนแล้ว หอเมฆาน้ำแข็งนั้นมันไม่ต้องมีอยู่บนโลกหล้าอีกต่อไป
เพียงแค่ว่าคำพูดนี้มันฟังดูราวเป็นเรื่องตลกเมื่อเข้าไปถึงหูของผู้คนทั้งหลาย
“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าคิดสังหารเทพสวรรค์ผู้นี้? เด็กน้อย ข้ายอมรับจริง ๆ ว่าเจ้านั่นเก่งกาจเหนือฟ้าแต่สุดท้ายเจ้าก็เป็นได้แค่เด็กน้อยอาณาจักรเทพถ่องแท้ คิดจะฆ่าสังหารเทพสวรรค์ผู้นี้?” เมื่อเทพสวรรค์ปิงหยุนได้ยินนางย่อมจะหัวเราะลั่นออกมา
ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างก็ต้องส่ายหัวออกมาตาม ๆ กันเพราะรู้สึกในใจว่าเย่หยวนอวดดีจนเกินไป
เขานั้นมียอดอัจฉริยะไร้เทียบอย่างแท้จริง แต่คิดสังหารเทพสวรรค์นั้นมันคงไม่อาจจะทำได้
แม้ว่าพลังของดาบลนั้นที่เย่หยวนใช้ออกมามันจะพอทำร้ายเทพสวรรค์ได้ก็ตาม
แต่ว่าเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ไม่ใช่คนโง่พิการใด ๆ มีหรือที่พวกเขาทั้งหลายจะยืนรับง่าย ๆ?
ที่สำคัญไปกว่านั้นแม้ดาบนั้นมันจะรุนแรงปานใดแต่สุดท้ายมันก็คงต้องกลืนกินพลังปราณเทวะอย่างมากมาย เย่หยวนจะใช้ออกมาได้กี่ครั้ง?
เย่หยวนถอนหายใจออกมาพร้อมด้วยก้อนเหล็กสีดำที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา
“สิ่งนี้เดิมทีข้านับมันเป็นไม้ตาย ไม่อยากจะใช้มันออกมาง่าย ๆ แต่วันนี้เพื่อฆ่าสังหารเจ้า ข้าจำต้องใช้มัน” เย่หยวนพูดไปพร้อมหันลงมองก้อนเหล็กสีดำในมือนั้น
“ฮ่า ๆ ๆ… ฮ่า ๆ… ฮา…” เทพสวรรค์ปิงหยุนต้องหยุดเสียงหัวเราะลงทันทีด้วยสีหน้าขาวซีด
ตอนนี้มันมิใช่เพียงแค่ตัวนางเท่านั้นแต่เมื่อเทพสวรรค์ทั้งหลายได้เห็นก้อนเหล็กนั้นพวกเขาทั้งหลายก็ต้องหน้าซีดขาวลง
เทพสวรรค์หลัวเฟิงนั้นไม่เหลือความโกรธแค้นเคืองใด ๆ บนใบหน้า เวลานี้มันมีแต่ความกังวลและหวาดกลัว
ดูท่าแล้วเขาคงกลัวเจ้าก้อนเหล็กสีดำนี้ราวกับว่ามันเป็นเสือร้าย
“สายฟ้าสะเทือนสวรรค์! นี่มัน…มันสายฟ้าสะเทือนสวรรค์ระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์! เจ้า…เจ้าไปเอาของแบบนั้นมาจากไหนกัน?” เทพสวรรค์ปิงหยุนร้องขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแปลกประหลาด ยังจะเหลือความเป็นยอดคนใด ๆ ได้?
ตอนนี้ใบหน้าของนางนั้นมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวและตื่นตะลึง
และในเวลานี้เหล่าเทพสวรรค์คนอื่น ๆ นั้นก็ได้ค่อย ๆ เดินออกห่างจากตัวนาง
เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก “ที่แท้เจ้าก็รู้จักเจ้าสิ่งนี้สินะ? เช่นนั้นก็ดีข้าจะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำลายพูด อืม เมื่อกี้เจ้ายังทำท่าทางดุร้ายจะทวงถามแค้นให้เฟิงเทียนหยางมิใช่หรือ? ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ ข้าพร้อมให้เจ้ามาทวงถามความแค้นความยุติธรรมใด ๆ ได้เสมอ”
ตอนนี้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายแทบจะเป็นลมล้มลงด้วยความโกรธแค้น
จะไปทวงถามสิ่งใดเล่า! นั่นมันสายฟ้าสะเทือนสวรรค์เชียวนะ!
สายฟ้าสะเทือนสวรรค์ระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์!
สายฟ้าสะเทือนสวรรค์นั้นเป็นของที่ใช้งานได้หนึ่งครั้ง พลังที่อยู่ภายในนั้นมันจะเท่ากับของยอดฝีมือในระดับหนึ่ง
เมื่อมันถูกเปิดออกแล้วจะเท่ากับยอดฝีมือในระดับนั้นโจมตีทุ่งสุดตัวออกมา
สายฟ้าสะเทือนสวรรค์นั้นมันถูกแบ่งออกตามสีหลายหลาก และในหมู่สายฟ้าสะเทือนสวรรค์ทั้งหลายนั้นระดับที่สูงที่สุดมันก็คือสีดำมันต้องใช้วิธีการหล่อหลอมที่พิเศษแสนยากเย็น เป็นของวิเศษที่หาได้ยากยิ่ง
พลังที่ซ่อนอยู่ภายในมันนั้นคือพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์!
หากเป็นสายฟ้าสะเทือนสวรรค์ระดับเทพสวรรค์เฉย ๆ แล้วคนทั้งหลายก็คงไม่ตื่นตะลึงปานนี้หรอก
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียมันก็เป็นแค่การโจมตีครั้งเดียว ที่สำคัญผู้นี้ใช้งานยังควบคุมมันได้ไม่เต็มที่ด้วย
แต่สายฟ้าสะเทือนสวรรค์ระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันจะสร้างพลังที่รุนแรงได้ถึงระดับไหน?
สายฟ้าสะเทือนสวรรค์เช่นนี้มันต้องใช้วัตถุดิบสุดแสนหายากทำให้คนทั่ว ๆ ไปย่อมไม่อาจหามันมาครอบครอง
แต่เย่หยวนกลับมีมันในมือ!
นี่มันคือไม้ ‘ตาย’ อย่างแท้จริง!
เมื่อเย่หยวนปล่อยพลังของสายฟ้าสะเทือนสวรรค์นี้ออกมาเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้คงไม่อาจจะหลบรอดไปได้!
เพราะพลังการโจมตีของจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันรุนแรงจนทำลายฟ้าดิน!
หากอยู่ต่อหน้าพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว พวกเขาทั้งหลายก็เป็นได้แค่มดปลวก!
สายฟ้าสะเทือนสวรรค์นี้เป็นสิ่งที่เย่หยวนได้มันมาจากถ้ำไม้ยี่เข่งในสนามรบเทพโบราณ เดิมทีนั้นเขาเก็บมันไว้กับตัวในฐานะไม้ตายเพื่อรักษาชีวิต
แม้แต่ตอนที่ทัพนับแสนเข้าโจมตีเมืองอินทรีสวรรค์นั้นเขาก็ยังไม่คิดจะใช้มันออกมา
แต่วันนี้เพื่อลู่เอ๋อแล้ว เขาจะใช้มัน
เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นเป็นคนชั่วร้ายมากเล่ห์ ไม่สังหารนางลงแล้วเย่หยวนคงไม่อาจดับไฟแค้นในใจนี้ได้
เมื่อได้คิดถึงเวลาพันปีที่ผ่านมานี้หัวใจของเย่หยวนก็รู้สึกปวดร้าวขึ้นมาอีกครั้ง
เทพสวรรค์หลัวเฟิงนั้นยังว่ากล่าวเรื่องจะทวงถามความแค้นเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้า แต่เวลานี้สีหน้าของเขานั้นมันขาวซีดไม่เหลือพลังใด ๆ
ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในมือของเย่หยวนนั้นมันกำลังพุ่งเป้าไปหาเทพสวรรค์ปิงหยุน เขานั้นไม่อยากจะไปทำให้เย่หยวนไม่พอใจมากกว่านี้และหันมันมาใส่ตัวเขาด้วยไปอีกคน
ร่างกายของเขานี้จะรับพลังของมันได้อย่างไร?
“ย-เย่หยวน เจ้าเข้าใจผิดแล้ว! มันเข้าใจผิดกันไปหมดสิ้น! เจ้าฟังก่อน ไม่ว่าอย่างไรเทพสวรรค์ผู้นี้ก็เลี้ยงดูสั่งสอนวิชาวรยุทธบ่มเพาะให้ลู่เอ๋อมานานแสนนาน” เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นมีเหงื่อหยดไหลลงมาตามใบหน้าพยายามหาทางที่จะหลบรอดออกไปจากสถานการณ์นี้
เย่หยวนที่ได้ยินก็หรี่ตาลงด้วยรอยยิ้ม “เข้าใจผิด? หึ ๆ! ลู่เอ๋อนั้นติดตามข้ามาตั้งแต่ตัวน้อย ๆ แต่ข้ายังไม่เคยจะตบตีนางแม้แต่ครั้ง เจ้าลองนับดูเถิดว่าตั้งแต่นางมาถึงหอเมฆาน้ำแข็งนี้นางต้องทนทุกข์ทรมานมากปานใด? ที่สำคัญในสายตาของเจ้าแล้วการสั่งสอนวิชาใด ๆ มันก็ไม่ต่างจากการสร้างเครื่องมือขึ้นมาใช้งานมิใช่หรือ? ถึงเวลานี้เจ้ายังจะหน้าด้านมาบอกว่าเป็นการเข้าใจผิด?”
เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นมิใช่เด็กน้อยที่จะหลอกได้ง่าย ๆ ความคิดเช่นนี้มันเป็นแค่เด็กหนุ่มอายุพันกว่าปีจริง ๆ หรือ?
คำพูดกล่าวใด ๆ เช่นนี้มันไม่อาจจะหลอกลวงเขาได้แม้แต่น้อย
เพราะฉะนั้นนางจึงได้แต่ต้องกัดฟันแน่น “มหาศาสตร์เคลือบแข็ง จงมาหาข้า!”
“อ้า!”
“อาก!”
“อ้าก!”
…
เหล่าศิษย์หอเมฆาน้ำแข็งทั้งหลายได้แต่ร้องร่ำขึ้น
เพราะเวลานี้ปราณเทวะในร่างกายของพวกนางนั้นได้ถูกสูบออกจากร่างไปอย่างบ้าคลั่งพุ่งไปรวบตัวกันอยู่ที่เทพสวรรค์ปิงหยุน
พร้อมกันนั้นคลื่นพลังจากกายของเทพสวรรค์ปิงหยุนก็พุ่งทะยานขึ้นไปอีกระดับอย่างเห็นได้ชัด
…………………..
Related