พวกห่าวเฟิงทั้งหลายนั้นต้องเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้มันเป็นเทพสวรรค์เฉินเซียที่พวกเขารู้จักจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?
เทพสวรรค์เฉินเซียนั้นมีนิสัยเย่อหยิ่งไม่ยอมก้มหัวฟังใคร
แต่ตอนนี้เขากลับมีท่าทางอ่อนน้อมฟังคำสั่งเย่หยวนง่าย ๆ มีหรือที่พวกเขาทั้งหลายจะเชื่อสายตาของตนได้
“เย่หยวน เทพสวรรค์ผู้นี้ยอมรับความพ่ายแพ้! ข้าแค่ขอให้เจ้าเห็นแก่ความเป็นเผ่าพันธุ์ของเรา ปล่อยให้เราได้มีชีวิตรอดกลับไปด้วย!” เทพสวรรค์ห่าวเฟิงร้องบอก
แม้ว่าตัวเขาจะกล่าวยอมแพ้ออกมา แต่ดวงตาของเขานั้นมันก็ยังคงร้อนแรงดั่งไฟ
เหล่าเทพสวรรค์ฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายเองก็ได้แต่ถอนหายใจยาวออกมา วันนี้เทพสวรรค์ห่าวเฟิงผู้ยิ่งใหญ่ไม่ยอมแพ้ใคร กลับต้องก้มหัวให้แก่เทพถ่องแท้ผู้หนึ่ง
พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมจะเข้าใจดีว่าเทพสวรรค์ห่าวเฟิงนั้นเป็นคนเย่อหยิ่งมากมายเพียงใด
คนเช่นนี้วางตัวเหนือฟ้าเหนือสวรรค์ ปกติเวลาแล้วมีหรือที่จะยอมแพ้?
เย่หยวนมองดูเทพสวรรค์ห่าวเฟิงด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ “แน่นอนว่าเย่หยวนคนนี้มิใช่พวกชอบการฆ่าสังหารใด ๆ พวกเจ้าที่เหลือจงกลับไปเถอะ แต่เจ้าและเทพสวรรค์หลัวเฟิงนั้นต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล”
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงตะโกนร้องกลับมาอย่างโกรธแค้น “เจ้า…มารร้าย!”
เย่หยวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นเมื่อได้ยิน “มารร้าย? หึ ๆ ก่อนหน้าข้าก็ได้เตือนเจ้าไปแล้ว มันถือว่าเป็นการไว้หน้าให้โอกาสรอดเจ้า แต่เจ้ากลับไม่ยอมรับมันเอง ในเมื่อตัวตนของข้าถูกเปิดเผยเช่นนี้แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะนั่งรอให้เจ้ามาล้างแค้นง่าย ๆ?”
ตัวตนของเย่หยวนและลู่เอ๋อนั้นเป็นที่รู้กันไปทั่วแล้วในเวลานี้ ตราบเท่าที่เทพสวรรค์ห่าวเฟิงคิดทำการแก้แค้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็คงสามารถถามหาเรื่องราวของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ได้ไม่ยาก
มาถูกเทพสวรรค์เจ็ดดาวหมายหัวนั้นมันย่อมจะมิใช่เรื่องดีงามใด ๆ ต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจปานใดเขาก็ไม่อยากจะสร้างเรื่องให้ตัวเองต้องปวดหัวเล่น ๆ
เย่หยวนนั้นมิใช่คนที่ชอบการฆ่าสังหารมากมายนัก ความแค้นที่เขามีกับเทพสวรรค์ห่าวเฟิงนี้สุดท้ายมันก็แค่ความแค้นส่วนตัว ไม่คิดจะลากคนทั้งหลายตายตกลงไปด้วย
เพราะไม่ว่าอย่างไรคนทั้งหลายนี้ก็เป็นยอดฝีมือเสาหลักของเผ่ามนุษย์ในทุ่งราบสุดอุดร หากพวกเขาทั้งหลายตายลงสิ้นแล้วมนุษย์บนทุ่งราบสุดอุดรนี้ก็คงต้องเจอความยากลำบากอย่างมหาศาล
เรื่องราวเช่นนี้ เย่หยวนย่อมไม่คิดอยากให้มันเกิดขึ้น
เขาจึงได้หันไปมองดูเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายรอบ ๆ “วันนี้มันเป็นเรื่องราวความแค้นระหว่างข้าและห่าวเฟิง! หากพวกเจ้าไม่คิดจะตายตกไปกับเขา ก็จะรีบไสหัวไปเสียเถอะ!”
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างหันมองหน้ากันอย่างลังเลจนเทพสวรรค์ห่าวเฟิงต้องกัดฟันร้องขึ้นมา “พวกเจ้าอย่าได้เชื่อมัน! มันนั้นคิดจะสุมหัวกับเผ่าอสูรเข้าทำลายมนุษย์ในทุ่งราบสุดอุดรเรา!”
“ฮ่า ๆ ห่าวเฟิง เจ้าพูดเช่นนั้นมันจะไม่ดูถูกพวกเราเกินไปหรือ? ดูอย่างไรเจ้าก็คิดจะลากเราให้ตายตกตามไปกับเจ้า ไม่มีทางเสียหรอก! เดิมทีเทพสวรรค์ผู้นี้ก็ถูกลากออกมาอย่างไม่เต็มใจอยู่แล้ว เฟิงเทียนหยางตายลงนั้นมันนับเป็นข่าวดีกับเราทั้งหลายด้วย ตอนนี้เมื่อมีคนคิดจัดการเจ้าให้ด้วยอีกคน มีหรือที่พวกเราจะไม่โห่ร้องดีใจ?” เทพสวรรค์เมี่ยหยูหัวเราะลั่น
“ห่าวเฟิง เจ้าวางตัวเป็นเผด็จการในทุ่งราบสุดอุดรนี้มานานเกินพอแล้ว! ในที่สุดวันนี้เจ้าก็จะได้ตายลงเสียที! ข้าเจิ้งหวงไม่ขอติดตามเจ้าไปด้วยหรอก” พูดจบเทพสวรรค์เจิ้งหวงก็หันหลังกลับไปทันที
ด้วยมีคนนำมันก็ย่อมจะมีคนตาม เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างพุ่งตัวจากไปทีละคน ๆ
เพราะพวกเทพสวรรค์เทียนจือทั้งหลายนั้นเดิมทีก็ไม่ได้คิดช่วยเทพสวรรค์ห่าวเฟิงอยู่แล้ว แต่พวกเขานั้นถูกกดดันด้วยพลังของอีกฝ่ายจึงได้ตามมาถึงเวลานี้ เมื่อตอนนี้เรื่องมันกลายเป็นเรื่องส่วนตัวไป พวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่คิดยุ่งเกี่ยวใด ๆ ด้วย
เวลานี้มีคนคิดจะฆ่าสังหารห่าวเฟิงให้ พวกเขาทั้งหลายย่อมจะได้แต่หัวเราะลั่นอยู่ในใจ
แค่เห็นเท่านี้มันก็มากพอจะบอกว่าการปกครองของห่าวเฟิงนั้นมันใช้เพียงแค่ความรุนแรงล้วน ๆ ไม่มีใครคิดจะตามติดตัวเขาอย่างจริง ๆ จัง ๆ แม้แต่คน
เมื่อได้เห็นเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายค่อย ๆ จากไป เทพสวรรค์ห่าวเฟิงก็ยิ่งรู้สึกจนปัญญา
เย่หยวนมองดูที่ตัวเขาด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก “ดูท่าความนิยมของเจ้ามันจะไม่ค่อยดีนักนะ ไม่มีใครอยู่กับเจ้าด้วยแม้สักคน ปกติเจ้าคงไม่มีใครรักใครชอบเลยใช่หรือไม่?”
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงมองดูเย่หยวนพร้อมกัดฟันแน่นก่อนจะตะโกนลั่น “เจ้าเด็กเวร! วันนี้ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วย!”
ทุกผู้คนนั้นต่างไม่คาดคิดว่าเทพสวรรค์ห่าวเฟิงจะพุ่งทะยานตัวออกไปพร้อม ๆ คำพูดนั้น
พลังของเทพสวรรค์คลั่งนั้นมันจะรุนแรงหนักหน่วงปานใด? ต่อให้เป็นเทพสวรรค์เลี่ยเฟิงเองก็ไม่อาจจะเข้าไปขวางทัน
แต่ไม่ว่าอย่างไรตัวเขาเองก็เป็นยอดฝีมือในระดับเดียวกัน ต่อให้มันจะช้ากว่าหน่อย เขาก็จะตามเทพสวรรค์ห่าวเฟิงไปได้ติด ๆ
เขายกฝ่ามือขึ้นมาซัดฟาดไปด้วยคลื่นพลังอันหนักหน่วงมหาศาล
แต่ทว่าเทพสวรรค์ห่าวเฟิงนั้นไม่คิดจะหลบเลี่ยงใด ๆ เขาแต่พุ่งตัวเข้าโจมตีเย่หยวนอย่างสุดกำลังต่อไป
นั่นทำให้จู่ ๆ คลื่นพลังที่ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือนได้พุ่งทะยานเข้าหาตัวเย่หยวนในทันที
ปัง!
เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นพร้อมร่างของเทพสวรรค์ห่าวเฟิงที่ลอยลิ่วอย่างไม่อาจควบคุม
แต่ว่าการโจมตีของตัวเขาเองก็ถูกปล่อยออกไปเช่นกัน
แม้ว่าฝ่ามือนี้มันจะถูกขัดไว้ แต่พลังของเทพสวรรค์เจ็ดดาวนั้นรุนแรงปานใด?
ต่อให้จะเป็นแค่ฝ่ามือเบา ๆ มันก็มากพอจะทำลายร่างกายของเทพถ่องแท้ลงได้มิใช่หรือ?
เมื่อได้เห็นว่าเทพสวรรค์ห่าวเฟิงรับการโจมตีของตนไว้อย่างไม่คิดปัดป้องใด ๆ เทพสวรรค์เลี่ยเฟิงก็ได้แต่รู้สึกจนลุกไปทั้งกาย
หากรองมหาปราชญ์ตายลงในที่นี้แล้ว มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลท่านคงเดือดดาลอย่างมากแน่ใช่หรือไม่?
“ระวังท่านรองมหาปราชญ์!”
เทพสวรรค์เลี่ยเฟิงน้องตะโกนออกมา แต่พลังของฝ่ามือนั้นมันก็ได้เข้าไปถึงตัวเย่หยวนแล้ว!
ตูม!
ที่ ๆ เย่หยวนเคยยืนลอยตัวอยู่แตกสลายพร้อมด้วยคลื่นพลังงานพุ่งกระจายไปทั่วทิศ แสงที่เกิดขึ้นจากการปะทะนี้มันรุนแรงจนผู้คนไม่กล้าจะลืมตาขึ้นดู
เมื่อแสงนั้นจางหายไป ที่ ๆ เย่หยวนคอยลอยตัวอยู่มันก็ไม่ได้เหลือแม้แต่เงาของเย่หยวนอีกแล้ว
เหล่ายอดฝีมือเผ่าอสูรทั้งหลายหน้าขาวซีดลงทันที รองมหาปราชญ์กลับตายลงภายใต้การคุ้มกันของพวกเขา?
นี่มัน… นี่มันคือบาป!
หากท่านมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเดือดดาลขึ้นมาแล้ว ทุ่งราบสุดอุดรนี้มันคงไม่เหลือแม้แค่เศษหญ้าสักใบ
“ให้ตายสิ ๆ ๆ! ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เทพสวรรค์เลี่ยเฟิงร้องลั่นก่อนจะซัดฝ่ามือใส่เทพสวรรค์ห่าวเฟิงอีกครั้ง
ปัง!
เมื่อถูกการโจมตีนี้ของเทพสวรรค์เลี่ยเฟิงมีหรือที่เทพสวรรค์ห่าวเฟิงผู้บาดเจ็บจากการโจมตีก่อนหน้าจะรับมือใด ๆ ได้?
ฝ่ามือนี้เขาจึงได้แต่ต้องรับมันไว้ด้วยร่างกาย
แต่ทว่าสีหน้าของเขานั้นไม่ได้แสดงท่าทางหวาดกลัวหรือจนตรอกใด ๆ เขานั้นหัวเราะขึ้นมาแทนที่ “ฮ่า ๆ…แค่ก ๆ ฮ่า ๆ ๆ…รองมหาปราชญ์ใด?! สุดท้ายมันก็ตายด้วยน้ำมือของเทพสวรรค์ผู้นี้มิใช่หรือ? เทียนหยาง พ่อได้…แค่ก ๆ แก้แค้นให้เจ้าแล้ว…”
เทพสวรรค์ห่าวเฟิงนั้นหัวเราะขึ้นมาพร้อม ๆ กับกระอักสำลักเลือดที่ท่วมปาก
เทพสวรรค์เลี่ยเฟิงได้แต่จ้องมองชายตรงหน้านี้ด้วยความโกรธแค้น แต่กับเทพสวรรค์ห่าวเฟิงที่พร้อมยอมตายแล้วมันย่อมจะไม่มีค่าใด ๆ
ประมาทแค่นิดเขากลับปล่อยให้รองมหาปราชญ์ตายลง! เรื่องนี้เขาคงไม่อาจจะหลบพ้นโทษไปได้แน่!
“เจ้าดีใจอะไร?” ในเวลานั้นเองที่มีเสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อม ๆ กับเงาร่างของชายหนุ่มที่ทำให้เทพสวรรค์ห่าวเฟิงต้องหยุดเสียงหัวเราะลง
เมื่อชายหนุ่มคนนั้นก้าวออกมาพ้นช่องว่างมิติ มันจะเป็นใครไปได้นอกจากเย่หยวน?
เทพสวรรค์เลี่ยเฟิงเบิกตากว้างกล่าวขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “ท่านรองมหาปราชญ์ ท่าน…ท่านยังไม่ตาย?”
เหล่าเทพสวรรค์เผ่าอสูรคนอื่น ๆ เองก็ได้แต่มองภาพนั้นอย่างตกตะลึง แม้ว่าฝ่ามือก่อนหน้านี้มันจะไม่ได้รุนแรงสุดกำลังแต่มันก็พอจะเป่าเทพสวรรค์ขั้นต้นให้ปลิวหายไปได้
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่มีแม้แต่บาดแผลใด ๆ!
“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร? ฝ่ามือของข้านั้นมันถูกเจ้าแล้วแน่ ๆ!” เทพสวรรค์ห่าวเฟิงถามขึ้นมาด้วยสีหน้ามึนงง
เย่หยวนได้แต่ส่ายหัวออกมา “ดูเหมือนเจ้าจะไม่เข้าใจสินะว่าวิชาห้วงมิติเปล่าที่พวกกู้หงใช้นั้นมันเป็นข้าเองที่สร้างไว้ ด้วยความเข้าใจห้วงมิติของข้าแล้วต่อให้พวกเลี่ยเฟิงทั้งหลายจะไม่ได้อยู่ในที่นี้ข้าก็คงไม่ถูกเจ้าสังหารลงได้ง่าย ๆ หรอก ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเจ้าแค่ฝ่าวงล้อมเข้ามาโจมตีเสี่ยงตายกับข้าเลย การโจมตีในระดับนี้แม้มันจะรุนแรงพอฆ่าเทพถ่องแท้อื่น ๆ จนสิ้นพิภพ แต่ข้านั้นได้วางจุดห้วงมิติไว้โดยรอบพื้นที่นี้ ตราบเท่าที่ข้าคิดใช้มัน ข้าก็ย่อมจะพุ่งตัวหายไปยังอีกพื้นที่ได้ทันที มีหรือที่เจ้าจะสังหารข้าลงได้ง่าย ๆ ปานนั้น?”
“นี่มัน…นี่มัน…” เทพสวรรค์ห่าวเฟิงได้แต่มองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าซีดขาว
ฝ่ามือที่เขาใช้ชีวิตเฒ่า ๆ นี้แลกมามันกลับไม่อาจทำอันตรายเย่หยวนได้แม้แต่ปลายเส้นผม!
……………..
Related