เย่หยวนถือกระดูกนั้นไว้ในมือและค่อย ๆ เดินก้าวออกไปด้านหน้าพร้อมคลื่นพลังที่หนักหน่วงขึ้นในทุก ๆ ย่างก้าว
นั่นทำให้สีหน้าของเหล่าเผ่ากิเลนทั้งหลายต้องถอดสี
พวกเขานั้นได้แต่มองดูจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนอย่างตกตะลึงไม่คิดอยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้
เพราะในเวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนกำลังสั่นสะท้านไปทั้งกายภายในคลื่นพลังสายเลือดนี้!
ที่สำคัญไปกว่านั้นยิ่งเย่หยวนเดินเข้ามาใกล้มากเท่าใด ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนก็ยิ่งสั่นสะท้านมากขึ้นเท่านั้น!
“ชื่อเสียงเผ่ากิเลน? คิดแก้แค้นฉีเจิ้น? เหลวไหลสิ้นดี! ที่แท้แล้วพวกเจ้ามันก็แค่อยากจะได้สิ่งนี้ถึงได้เดินขบวนกันออกมามิใช่หรืออย่างไร?” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านี้เหล่าอสูรทั้งหลายต่างก็ตกตะลึงไปจนถึงขั้วหัวใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นที่เวลานี้แทบจะถลนตาออกจากเบ้า
เพราะยิ่งบ่มเพาะ คนเราก็จะยิ่งรู้ว่าความเหนือล้ำฟ้าดินของจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันสูงล้ำปานใด
แต่ทว่าต่อหน้ากระดูกจักรพรรดินี้มันกลับสามารถจัดการจักรพรรดิเทพสวรรค์ลงได้อย่างอยู่หมัด
จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
“เผ่ากิเลนนี้มันช่างโอ้อวดตนได้เก่งกาจจริง ๆ! พวกเจ้าสัมผัสได้ถึงสมบัตินี้และคิดว่ามันเป็นของตน? คิดบังคับให้ข้าส่งมันให้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังถึงขั้นคิดอยากให้ข้าก้มหัวร้องขอความเมตตา?”
“ถูกข้าสั่งสอนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เด็กน้อยพ่ายไป คนเฒ่าก็มาแทน คนเฒ่าพ่ายไป คนเฒ่ากว่าก็มาแทน! คิดวางเดิมพันกับข้าแต่กลับล้มเดิมพันลงง่าย ๆ ด้วยน้ำลายไม่กี่หยด ทั้งยังคิดจะขู่ให้ข้าเอากระดูกจักรพรรดินี้มอบให้ทั้งยังจะให้ข้ายอมรับผิดต่อเผ่ากิเลน!”
เย่หยวนเดินก้าวเข้ามาเรื่อย ๆ พร้อมกล่าวเสียงดังสะท้าน
ระหว่างที่พูดไปนี้เขาก็ได้ใช้เสียงเทพมังกรออกมาทำให้คลื่นพลังของมันนั้นรุนแรงเหนือจินตนาการ
เสียงเทพมังกรนั้นมันเป็นการโจมตีโดยตรงเข้าสู่จิตศักดิ์สิทธิ์ของผู้คน
แต่ละคำพูดของเขานั้นมันจึงได้ทำให้มุมมองของอสูรทั้งหลายแปลงเปลี่ยนไปด้วย
“เผ่ากิเลนเจ้ามันช่างยึดถือตัวเป็นเผด็จการ!”
“แต่ไม่ว่าอย่างไรเสียมันก็น่าเสียดาย! เจ้าคิดทำตัวไร้เหตุผล แต่ข้าจะยิ่งอยู่เหนือกว่าพวกเจ้า!”
“คุกเข่าลง!”
เสียงของเย่หยวนนั้นเหมือนดั่งสายฟ้าที่ฝ่าลงกลางสวรรค์ทั้งเก้า
ในเวลานี้เองพลังของกระดูกจักรพรรดินั้นมันก็พุ่งทะยานถึงขีดสุด
เมื่อเสียงนี้ถูกกล่าวแน่นอนว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนย่อมไม่อาจทนทานได้และต้องคุกเข่าลงต่อหน้าเย่หยวนในที่สุด
ที่ด้านหลังของเขานั้นพวกฉีเฉินและคนเผ่ากิเลนทั้งหลายต่างไม่อาจจะทนทานรับพลังใด ๆ นี้ต้องคุกเข่าลงตาม
ตอนนี้เผ่ากิเลนทั้งหมดทั้งสิ้นต่างกำลังคุกเข่าลงต่อหน้าเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
นั่นทำให้ภาพของเด็กหนุ่มตรงหน้านี้กลับกลายเป็นดั่งเทพเจ้าไป
จักรพรรดิเทพสวรรค์คุกเข่าลงมันย่อมจะส่งแรงสะท้านไปทั่ว
ตอนนี้เหล่าอสูรในเมืองต่างปิดปากเงียบกริบ
จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนนั้นมาด้วยท่าทางไม่คิดยอมใคร คิดจะมาหาเรื่องเต็มที่แต่สุดท้ายกลับถูกเย่หยวนสั่งจนต้องคุกเข่าลง?
นั่น…นั่นมันจักรพรรดิเทพสวรรค์เชียวนะ!
จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นกลับถูกเทพถ่องแท้กดดันจนต้องคุกเข่าลงต่อหน้าคนทั้งหลาย?
ต่อให้เย่หยวนจะใช้พลังที่ยืมมาจากกระดูกจักรพรรดิก็ตาม แต่การจะได้รับการยอมรับจากกระดูกจักรพรรดินั้นมันก็ย่อมเป็นเรื่องเหนือล้ำที่ไม่อาจเลียนแบบได้ง่าย ๆ
สมบัติของใครมันก็เป็นพลังของคนผู้นั้น
จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันเป็นดั่งเทพเจ้าในความคิดของคนทั้งหลายนั้น
ต่อจากจักรพรรดิเทพสวรรค์ลงมา แม้แต่เทพสวรรค์เองก็เป็นได้แค่มดปลวก
หากมิใช่เรื่องราวใหญ่โตเกิดขึ้นแล้วจักรพรรดิเทพสวรรค์ย่อมจะไม่ออกมาเดินในโลกภายนอกและเก็บตัวอยู่แค่ในวังพำนักของตน
แต่เวลานี้ตัวตนที่พวกเขาบูชาเป็นเทพเจ้านั้นกลับกำลังคุกเข่าลง!
จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนจ้องมองเย่หยวนด้วยดวงตาที่ร้อนแค้นราวกับจะพ่นไฟออกมาได้
ตอนนี้ลมหายใจของเขานั้นติดขัดอยู่ในอกจนแทบจะทำให้เขาอกแตกตาย
แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามขัดขืนมันอย่างไรเขาก็ไม่อาจหลบหนีจากพลังสายเลือดนี้ได้
เพราะนี่มันคือความสั่นกลัวที่เกิดขึ้นจากก้นบึ้งของจิตวิญญาณ!
ต่อหน้ากระดูกจักรพรรดิชิ้นนี้ตัวเขาไม่อาจจะขัดขืนได้แม้แต่น้อย
ในเวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนนั้นเป็นดั่งหุ่นเชิดที่ถูกตัดสายเชิดออก
แม้ว่าเขาจะตื่นมีสติ แต่ร่างกายและจิตวิญญาณของเขามันกลับไม่ฟังคำสั่งของตัวเขาไม่ว่าเขาจะพยายามขัดขืนสักเพียงใด
นอกเหนือไปจากความเคียดแค้นแล้วจักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนนั้นก็ตื่นตกใจอย่างมาก
เพราะตัวเขานั้นก็เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ของเผ่ากิเลนคนหนึ่ง ตัวเขาย่อมจะรู้จักกระดูกจักรพรรดิกิเลนเป็นอย่างดี กระดูกในร่างกายของเขาเวลานี้เองมันก็คงนับได้ว่าเป็นกระดูกจักรพรรดิกิเลนเช่นกัน
เพียงแค่ว่าเมื่อได้เจอกระดูกตรงหน้านี้แล้วมันเหมือนดั่งเด็กน้อยไปยืนอยู่ต่อหน้ายักษา
ในเวลานี้เหล่าเผ่ามังกรที่ด้านล่างเองก็ตนตะลึงกันมาก
แต่สิ่งที่พวกเขาตกตะลึงนั้นมิใช่กระดูกจักรพรรดิกิเลนใด ๆ แต่เป็นการที่เย่หยวนใช้เสียงเทพมังกรออกมา!
“นี่มันเสียงเทพมังกรแน่แท้แล้ว! หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะผสานสายเลือดมังกรฟ้าในร่าง? แต่ต่อให้จะมีสายเลือดมังกรฟ้ามันก็คงไม่อาจจะใช้วิชาลับอย่างเสียงเทพมังกรออกมาได้แน่!” หลงฉือจ้องมองดูเย่หยวนบนท้องฟ้านั้นอย่างตกตะลึง
เสียงเทพมังกรนั้นมันคือวิชาลับสุดยากเย็นของเผ่ามังกร แม้ว่ามันจะมีพลังเหนือล้ำแต่มันก็ขึ้นชื่อเรื่องความยากในการฝึกฝนบ่มเพาะด้วย
ในสายตาของพวกเขาแล้วการที่เย่หยวนใช้เสียงเทพมังกรออกมาได้ถึงระดับนี้มันย่อมจะเป็นเรื่องสุดแสนประหลาด
ด้วยความที่เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์หลงฉือย่อมจะประเมินพลังของเสียงเทพมังกรที่เย่หยวนใช้นี้ได้
หากเย่หยวนใช้เสียงนี้คำรามออกไปยังนักยุทธทั้งหลายในรุ่นระดับเดียวกันแล้ว เขาคงฆ่าสังหารอีกฝ่ายลงได้ในทันที!
ต่อให้จะเป็นนักยุทธที่มีพลังบ่มเพาะเหนือกว่าไปหน่อย ตัวเขาก็คงใช้เสียงเทพมังกรนี้เอาชนะได้ไม่ยาก
พลังในระดับนี้มันเหนือล้ำกว่าที่คนหลอมกลั่นสายเลือดมังกรฟ้าจะเอาออกมาใช้ได้
หลงเสี่ยวฉุนเบิกปากพูดขึ้นอย่างตกตะลึง “พระเจ้าช่วย! เย่หยวนเก่งกาจปานนี้! นั่นมันจักรพรรดิเทพสวรรค์เชียวนะ แต่เขากลับสั่งให้อีกฝ่ายคุกเข่าได้! ดูท่าแล้วคุณหนูคนนี้เองก็คงไม่ต้องออกหน้าใด ๆ แล้ว แต่…มันสะใจจริง ๆ! พวกเฒ่าเผ่ากิเลนนั้นข้าเกลียดชังพวกมันมาแสนนาน อยากจะรู้จริง ๆ ว่ามันยังจะว่าทางใดได้อีก!”
หลงฉือได้แต่หันไปมองดุหลงเสี่ยวฉุน
“เย่หยวน เจ้ากล้าฉีกหน้าจักรพรรดิผู้นี้! จักรพรรดิผู้นี้จะทำให้เจ้าต้องเสียใจที่ได้เกิดมาบนแผ่นดิน!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนร้องบอก
เขานั้นมาด้วยท่าทางหาเรื่องเหนือหัวผู้คนร้องด่าว่าเย่หยวนไปคิดสั่งให้เย่หยวนคุกเข่า สุดท้ายเย่หยวนกลับยืนนิ่งไม่สะทกสะท้าน
แต่ตอนนี้เมื่อเสียงของเย่หยวนถูกเปล่งออกมาคลื่นพลังที่กดดันเขานี้มันทำให้เผ่ากิเลนทั้งหมดทั้งสิ้นกลับต้องคุกเข่าลงแทน
ตอนนี้ใบหน้าของเขาถูกฉีกจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว!
หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง
เผ่ากิเลนออกมาจากการเก็บตัวอย่างสันโดษครานี้ไม่นึกไม่ฝันว่าจะไม่อาจใช้พลังของเผ่าออกมาได้และต้องถูกคน ๆ เดียวนี้ตบจนหน้าหันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมน่าอับอายจนไม่กล้าพูดถึง
จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนนั้นอับอายมากแต่ตัวเขานั้นก็ทำได้แค่ร้องลั่นระบายมันออกมา
“ฮ่า ๆ ๆ …เผ่ากิเลนเจ้านี่มันสมเป็นเผ่าเดียวกันจริง ๆ! แม้แต่คำพูดยังลอกกันมา! คำพูดของเจ้านี้มันเหมือนกับตอนที่ฉีเจิ้นคุกเข่าลงในเวลานั้นไม่มีผิด! แต่ทว่าเรื่องนี้พวกเจ้าเป็นฝ่ายรนหาที่เอง! ข้าเย่หยวนไม่ได้เป็นคนไร้เหตุผลวางตัวเหนือหัวคนอย่างไม่ฟังใคร แต่หากมันมีคนมาทำเช่นนั้นบนหัวข้าแล้ว ข้าก็จะกระทืบมันลงมาด้วยเท้านี้เอง!” เย่หยวนหัวเราะลั่น
ตั้งแต่ที่เย่หยวนมาถึงอาณาจักรวิญญาณประจิมนี้เผ่ากิเลนก็เอาแต่หาเรื่องเขาอย่างไม่ว่างเว้น
แต่สุดท้ายที่พวกมันทั้งหลายกล้าทำก็เพียงเพราะว่าเห็นเขาอ่อนแอมีพลังบ่มเพาะต่ำต้อยมิใช่หรือ? หากเขาเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์พวกมันจะกล้าทำเช่นนี้?
แต่เผ่ากิเลนนั้นย่อมไม่นึกไม่ฝันว่ากระดูกจักรพรรดิในมือเย่หยวนนั้นมันจะทรงพลังปานนี้
เมื่ออยู่ต่อหน้าเผ่ากิเลนแล้วมันก็แทบจะทำให้เขากลายเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทาน!
ตอนนี้แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์ก็ยังต้องคุกเข่าลงต่อหน้าเขา
ทุกผู้คนที่เห็นเรื่องราวต่างปิดปากเงียบไม่รู้จะต้องพูดอะไรออกมา เรื่องราวในวันนี้มันเหนือล้ำกว่าที่สมองของพวกเขาจะจินตนาการได้ไปนานแสนนานแล้ว
“หึ! ศักดิ์ศรีเผ่ากิเลนข้ามีหรือจะปล่อยให้เจ้าทำตามใจชอบเช่นนี้? เจ้าเด็กนรก ส่งกระดูกจักรพรรดิมาแล้วตายเสียเถอะ!”
ในเวลานั้นเองมันก็มีเสียงหนึ่งถูกส่งออกมาจากช่องว่างมิติ มันเป็นคลื่นเสียงที่องอาจและไม่ยอมต่อรองใด ๆ
…………………………