จีโมโบกแขนเสื้อออกมาพร้อมส่งกระดานหมากอันน้อยออกสู่โลกภายนอก
คลื่นพลังเต๋าอันรุนแรงสูงล้ำพุ่งทะยานออกมาจากกระดานหมากนี้จนแทบจะปกคลุมโลกหล้าไว้
ราวกับว่าเจ้ากระดานหมากนี้มันเป็นตัวแทนของโลกใบนี้!
เมื่อเหล่าผู้คนที่มีความรู้หน่อยได้เห็นมันพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะร้องร่ำขึ้น “อย่าถาม! นี่มันอย่าถาม! มีเพียงแค่อย่าถามเท่านั้นที่จะมีคลื่นพลังลึกล้ำได้ปานนี้!”
แต่กลับมีคนพูดขัดขึ้นมา “อย่าถาม? มิใช่ว่ารองมหาปราชญ์ท่านเคยผ่านอย่าถามมาแล้วหรือ? จะใช้ของเช่นนั้นมาทดสอบแสดงพลังใด ๆ ได้เล่า?”
“อย่างเจ้าจะไปรู้อะไร! มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลท่านได้ทำการปรับปรุงแก้ไขอย่าถามไปมากมายกว่าจะส่งมันออกมาให้วิหารแต่ละแห่งครอบครองไว้ แต่นี่มันคืออย่าถามระดับสูง สูงส่งจนไม่อาจจะเอาอย่าถามระดับต่ำที่มีในวิหารนักบวชไปเทียบได้ เพราะอย่าถามของในแต่ละวิหารนั้นมันน่าจะมีพลังไม่ถึงหนึ่งในหมื่นของอย่าถามของจริง!”
“เช่นนั้นแล้วหมากล้อมนิรันดร์ ‘อย่าถาม’ กระดานนี้มันคงเป็นของระดับสูงแล้ว?”
“เรื่องนั้นยังจะต้องสงสัยอีกหรือ? ของที่ท่านมหานักบวชเคลื่อนดารานำมาเองกับมือ มีหรือที่มันจะเป็นของธรรมดาทั่วไปได้?”
…
ตอนนี้เหล่าอสูรมากมายเริ่มแสดงสีหน้าท่าทางสงสัยหนักหน่วงออกมา ได้แต่มองดูกระดานหมากตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง
จีโมหันไปมองดูที่เย่หยวนพร้อมบอก “รองมหาปราชญ์ อาจารย์บอกว่าท่านนั้นคงสนใจในอย่าถามมาก ท่านจึงได้สั่งให้ข้านำกระดานอย่าถามของจริงนี้ออกมา!”
เย่หยวนต้องเบิกตากว้างมองดูกระดานหมากตรงหน้าอย่างสนใจ
จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซู จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุน หลงฉือและพวกทั้งหลายต่างต้องเบิกตากว้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง
ชื่อเสียงของอย่าถามนั้นต่อให้พวกเขาจะเอาแต่เก็บตัวอยู่ในโลกเสมือนแต่ก็ยังพอได้ยินมาบ้าง
และนี่มันคืออย่าถามฉบับจริง มันย่อมจะเป็นหมากล้อมนิรันดร์อันเปี่ยมพลังล้นนั้น!
“หึ ๆ คนที่เข้าใจข้าดีก็ยังเป็นมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลจริง ๆ! การท้าทายอย่าถามครั้งก่อนนั้นโอสถบรรพกาลอ่อนแอจนไม่อาจทำให้ข้าคิดสนใจได้เลย!” เย่หยวนหัวเราะลั่นออกมา
เมื่อได้ยินคำของเย่หยวนทุกผู้คนต่างก็ตกตะลึงอ้าปากค้าง
โอสถบรรพกาลอ่อนแอเกินไป…คำพูดเช่นนี้ทั้งโลกหล้ามันคงมีแค่เย่หยวนที่จะพูดออกมา
แต่จีโมเองก็ตื่นตะลึงไม่น้อยเมื่อได้ยิน เพราะตัวเขานั้นยังคงจำตอนที่ตัวเองได้ลองท้าทายอย่าถามเมื่อครั้งยังหนุ่มได้
ตอนนั้นตัวเขาได้ท้าทายอย่าถามและแทบจะเอาชีวิตไม่รอดออกมา
แต่เมื่อมันมาอยู่ต่อหน้าเย่หยวน อย่าถามนั้นมันกลับอ่อนแอจนเกินไป
นั่นมันคือโอสถบรรพกาล!
แม้ว่าตัวเขานั้นจะไม่ได้เห็นเย่หยวนเอาชนะกับตาแต่ตัวอาจารย์ของเขาก็เล่าออกมาด้วยท่าทางสนใจ
ตอนนั้นเย่หยวนได้แทนตัวอาจารย์ของเขาและเริ่มต่อสู้ปะทะกับโอสถบรรพกาลจนสุดท้ายก็กินขาดเอาชนะโอสถบรรพกาลมาได้
การประลองนั้นมันจะต้องเหนือล้ำสุดตระการตาปานใด!
จีโมกล่าวขึ้น “อาจารย์นั้นได้ผนึกพลังมันไว้ครึ่งหนึ่งอย่างสุดความสามารถ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นภายในอย่าถามนี้มันก็ยังมีพลังอยู่อีกครึ่งหนึ่ง แต่ต่อให้จะเป็นแค่พลังครึ่งเดียวของมันนี้ จักรพรรดิผู้นี้เองก็ไม่อาจจะเอาชนะมันได้! รองมหาปราชญ์กล้าจะท้าทายมันหรือไม่?”
.ไอรีนโนเวล.
“หา? พลังแค่ครึ่งเดียวนั้นแต่ท่านมหานักบวชเคลื่อนดาราก็ยังไม่อาจเอาชนะมันได้?”
“เจ้าอย่าถามนี้มันคืออะไรกันแน่!”
“แค่อย่าถามของปลอมที่มีพลังหนึ่งในหมื่นมันก็ยังมีพลังพลิกฟ้าดินได้ ส่วนนี้คือพลังครึ่งหนึ่งจากของจริง น่ากลัวเกินไปแล้ว! รองมหาปราชญ์เองสุดท้ายก็ยังเป็นแค่นักบวชหกดาว หากสมองเขายังอยู่ดี ตัวเขาก็คงไม่คิดจะไปท้าอย่าถามนี้แน่!”
…
นี่มันคืออย่าถามที่แท้จริง มันคือการละเล่นของโอสถบรรพกาลและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลสองยอดตัวตนด้านโอสถนั้น
ตัวตนเช่นพวกเขานี้สามารถทำลายฟ้าดินลงได้ด้วยฝ่ามือเดียว
แม้ว่าสุดท้ายสิ่งนี้มันจะเป็นแค่กระดานถกเต๋า แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายเองก็ยังไม่กล้าพอจะก้าวเท้าย่างเข้าไปภายใน แล้วมีหรือที่เย่หยวนจะกล้า?
“ข้านั้นติดใจสงสัยอย่าถามนี้มานาน มีหรือที่จะปล่อยโอกาสผ่านไป? เปิดมันเถอะ!” เย่หยวนบอก
จีโมที่ได้ยินก็หัวเราะลั่นออกมาทันที “ฮ่า ๆ ๆ …สมเป็นรองมหาปราชญ์! จักรพรรดิผู้นี้เองก็อยากจะรู้ว่ารองมหาปราชญ์จะเก่งกาจได้เท่าใด!”
จากนั้นเขาจึงได้ยกนิ้วขึ้นมาชี้แสงสีแดงพุ่งทะยานไปยังกระดานหมากนั้นจนมันต้องส่องแสงสว่างล้ำไปทั่วฟ้าดิน
คลื่นพลังอันน่าหวาดกลัวปะทุขึ้นมาในทันที!
เดิมทีแล้วกระดานหมากนี้มันทำให้ผู้คนแค่รู้สึกขนลุกจากความลึกล้ำของพลัง
แต่ในเวลานี้คนทั้งหลายจะได้สัมผัสถึงสนามประลองเต๋าของสองยอดคนอย่างแท้จริง
“นี่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลคิดมาทดสอบพลังหรือมาฆ่าผู้คนกัน? มีหรือที่เทพถ่องแท้จะทนพลังเช่นนี้ได้?” หลงฉือร้องลั่นขึ้น
เมื่อซือซูได้เห็นเช่นนั้นตัวเขาก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ “มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นคงพลาดแล้ว! แค่เทพถ่องแท้หากมันจะทนการต่อสู้ของสองยอดคนจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดเช่นนี้ได้แล้วจักรพรรดิผู้นี้จะยื่นหัวให้มันเตะเล่นเลย!”
“หึ ข้าว่าเรื่องมันจบไม่สวยแน่! พลังในระดับนี้ต่อให้จะเป็นเราทั้งหลายที่เข้าไปมันก็คงได้แต่ต้องตาย! แค่พลังของเทพถ่องแท้น้อย ๆ ผู้หนึ่งมีหรือที่จะรอดกลับออกมาได้?” จักรพรรดิเทพสวรรค์เช่าหยุนร้องขึ้นตาม
ตูม!
จู่ ๆ ในเวลานี้ฟ้าดินรอบทิศก็ได้มืดดับ ท้องฟ้าในระยะสายตามันได้ดับแสงหายไปจนสิ้น
ภาพตรงหน้าของทุกผู้คนได้เปลี่ยนแปลงไปราวกับว่าพวกเขาได้ก้าวเข้ามายังอีกมิติหนึ่ง
นั่นทำให้พวกเขาทั้งหลายหน้าซีด ไม่อาจจะขยับเคลื่อนร่างกายใด ๆ ได้
เพราะเวลานี้พวกเขาทั้งหลายได้ถูกดึงจิตศักดิ์สิทธิ์เข้ามาภายใน แน่นอนว่าย่อมจะรู้สึกอ่อนแอเป็นธรรมดา
ที่ด้านบนฟ้ามืดดำนั้นมันได้ปรากฏเงาร่างยักษ์ของคนสองผู้ ตัวตนของทั้งสองนั้นมันยิ่งใหญ่ราวเทพเจ้าก็ไม่ปาน
จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูได้แต่จ้องมองภาพตรงหน้านั้นอย่างตื่นตะลึง “ใช้ฟ้าดินเป็นกระดาน ชีวิตนับล้าน ๆ นั้นเป็นหมากเบี้ย! ช่างเป็นพลังที่น่าหวาดกลัวยิ่ง!”
เย่หยวนเองก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังราวกับว่าตนเองได้เผชิญหน้าของโลกทั้งใบอยู่
“รองมหาปราชญ์เชิญร่วมสนาม!” มหานักบวชเคลื่อนดาราร้องบอกเย่หยวน
เย่หยวนยิ้มตอบพร้อมก้าวเท้าเข้าไปด้านในโลกนั้น
เย่หยวนถูกดูดกลืนลงไปในโลกนั้นอย่างทันที
จีโมที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ต้องผงะไปไม่น้อย “ไม่ต้องนับเรื่องราวอื่นใด เพียงแค่วัดกันที่ความหนักแน่นนี้ บนโลกนี้มันก็คงไม่มีใครเทียบเขาได้แล้ว!”
เกมระหว่างสองยอดคนเช่นนี้มันจะต้องมีคลื่นพลังที่น่าหวาดกลัวปานใด
หากเข้าร่วมสนามแล้ว มันคงมีโอกาสรอดชีวิตแค่หนึ่งในเก้า
สำหรับเทพถ่องแท้อย่างเย่หยวนแล้ว เกมหมากกระดานตรงหน้านี้มันคือดินแดนไร้ซึ่งความหวังใด ๆ มันคือความตายอย่างแท้จริง
ภาพตรงหน้าของเย่หยวนเปลี่ยนแปลงไป ตอนนี้เขาได้พบว่าตัวเองนั้นได้ก้าวเข้ามาเป็นทหารเลวคนหนึ่งบนกระดาน
ต่อหน้าสองยอดฝีมือนี้เย่หยวนนั้นย่อมจะเป็นได้แค่มดปลวก
“ตาย!”
จู่ ๆ มันก็เกิดเสียงสั่งหนึ่งดังลั่นขึ้นทำให้จิตของผู้คนทั้งหลายที่ถูกดูดเข้าไปต้องขยับอย่างราวกับว่ามีใครมาชักจูง เข้าปะทะกับทหารเบี้ยของอีกฝ่ายทันที
มันไม่มีใครจะขัดคำสั่งนี้ได้
เย่หยวนเองก็ถูกห้อมล้อมอยู่ภายในเป็นดั่งแค่ฝุ่นผงในพายุ ไม่อาจจะควบคุมร่างกายของตนได้แม้แต่น้อย
สงครามของทหารทั้งสองฝั่งจึงได้ดำเนินไปอย่างดุเดือดเช่นนั้น
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ยอดฝีมือทั้งหลายก็ได้เริ่มตายตกไปตาม ๆ กัน
สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันเป็นดั่งแค่ทหารเลวคนหนึ่ง เป็นดั่งหุ่นไม้ที่ถูกสายเชิดชักใย
ภายใต้การควบคุมของสองยอดฝีมือนี้เย่หยวนนั้นช่างอ่อนแอเป็นได้แค่เพียงฝุ่นผง
และแน่นอนว่าผู้คนทั้งหลายก็ย่อมจะเห็นภาพนี้กับตา
“เหอะ ข้าบอกว่าอย่างไรเล่า? แค่เทพถ่องแท้มันจะมาทำอะไรในเกมระหว่างยอดฝีมือได้? เมื่อมันเข้ามาแล้วมันก็ย่อมจะเป็นได้แค่มดปลวก มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลสั่งไปเหนือ มีหรือที่มันจะลงใต้ได้? ได้เห็นเช่นนี้มันก็น่าสนุกไปอีกแบบ!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเย้ยหยันพร้อมมองดูเย่หยวนท่ามกลางสนามรบนั้น
คนอื่น ๆ ทั้งหลายเข้ามาภายในด้วยแค่จิตศักดิ์สิทธิ์ หากต่อให้ตายมันก็คงไม่ได้ส่งผลใด ๆ กับร่างจริงมากมาย
แต่เย่หยวนนั้นเข้ามาด้วยกายเนื้อทั้งตัว หากถูกฆ่าสังหารแล้วมันคงไม่มีทางย้อนกลับได้
จักรพรรดิเทพสวรรค์ซือซูนั้นเสียหน้าไปมากมายเพราะเย่หยวน แน่นอนว่าเขาย่อมจะคิดอยากให้เย่หยวนตายลงสักทางใดทางหนึ่ง
และนี่มันก็คือผลลัพธ์ที่เขาคาดหวังไว้ในหัวใจ!
………………………….