ณ ห้องขังมืดมิดในค่ำคืนอันเงียบงัน
กลิ่นหอมหวนลอยเข้าสู่จมูกของเหล่าทหารผู้เฝ้ายามทั้งหลาย
ตุบ!
ตุบ!
ไม่นานร่างกายของพวกเขาก็หมดสติตกร่วงลงกับพื้นไปตามๆ กัน
จากนั้นก็ปรากฏร่างของชายชุดดำผู้หนึ่งเดินเข้ามาในคุกอย่างลึกลับ
“นายท่าน!” เมื่อหลงเสี่ยวเห็นผู้มาถึงนั้นเขาก็ต้องร้องลั่นขึ้นมาด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจรีบคุกเข่าลงทันที
ชายชุดดำผู้นี้ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้และกล่าวขึ้น “อืม เรื่องวันนี้เจ้าทำได้ดี ไม่ทำให้จักรพรรดิผู้นี้ผิดหวังจริงๆ”
หลงเสี่ยวยิ้มรับ “แน่นอน! เจ้าเด็กคนนั้นมันคิดจะใช้ข้าน้อยนี้จัดการท่าน แต่มีหรือที่ข้าน้อยจะยอมให้มันได้สมหวัง? เจ้าเด็กคนนั้นมันคิดว่าตัวเองฉลาดหลักแหลม สุดท้ายก็ถูกเราปั่นหัวจนคับแค้นใจมิใช่หรือ?”
ชายชุดดำคนนี้มันก็คืออ่าวซู่อย่างไม่ต้องสงสัย!
อ่าวซู่ขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินก่อนจะถามเรื่องที่สงสัยที่สุดออกมา “พวกเจ้าทำบ้าอะไรกันแน่? ด้วยฝีมือระดับพวกเจ้าแล้วมีหรือที่จะถูกเจ้าเด็กเช่นนี้จับกุมมาได้?”
ได้ยินเช่นนั้นทางหลงเสี่ยวก็ได้แต่ต้องก้มหน้าต่ำกัดฟันแน่น “นายท่านต้องช่วยล้างแค้นให้เราด้วย! เจ้าเด็กคนนั้นมัน…มันเก่งกาจจนเกินไป มันฆ่า…ฆ่าสังหารพี่น้องข้าน้อยสิ้น!”
อ่าวซู่ที่ได้ยินต้องเบิกตากว้างร้องถามขึ้นอย่างไม่พอใจ “มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
หลงเสี่ยวจึงได้ค่อยเล่าย้อนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้อ่าวซู่ฟังด้วยน้ำตานองหน้า
อ่าวซู่ที่ได้ยินก็ต้องตื่นตะลึงอย่างสุดหัวใจ
เขานั้นคิดว่าตัวเองประเมินเย่หยวนจนสู่เกินจริงไปมากแล้ว ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนคนนี้มันกลับจะเก่งกาจได้กว่าที่เขาประเมิน!
พลังแนวคิดแห่งห้วงมิติที่ลึกล้ำเช่นนี้มันย่อมจะทำให้พวกหลงเสี่ยวไม่อาจต้านทานใดๆ ได้
เพราะแม้แต่เทพสวรรค์สามดาวอย่างหลงซีเองก็ยังต้องตายลงภายใต้ห้วงมิติทลาย
ในเวลานี้อ่าวซู่ยิ่งรู้สึกขึ้นมาว่าการตัดสินใจคิดสังหารของเขานี้มันถูกต้องแล้วอย่างแท้จริง
คนเช่นนี้หากปล่อยให้มันเติบโตไป คนอย่างอ่าวหยูจะไปมีค่าใดได้อีก?
“เจ้าเด็กคนนี้มันช่างเป็นตัวปัญหาเสียจริง! เอาล่ะ ข้าจัดการเหล่ายามเฝ้าทั้งหลายสิ้นแล้ว พวกเจ้าไปเสีย! หลังจากออกไปแล้วจงอย่าทำอะไรไปอีกอย่างน้อยๆ สิบปี ในเวลานี้อย่าได้คิดปรากฏตัวขึ้นบนยุทธภพอีก!” อ่าวซู่สั่ง
หลงเสี่ยวพยักหน้ารับ “ขอบพระคุณนายท่าน! เช่นนั้นเจ้าเด็กคนนั้น…”
อ่าวซู่ขมวดคิ้วแน่น “คนอย่างเจ้ามีสิทธิใดจะมาบอกสั่งจักรพรรดิผู้นี้ได้?”
หลงเสี่ยวที่ได้ยินต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายพร้อมร้องกล่าวว่ามิกล้าๆ ออกมาไม่ขาด
แต่ตัวเขานั้นสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่หนักแน่นจากตัวอ่าวซู่
ดูท่าแล้วความคิดที่จะจัดการเย่หยวนลงของอ่าวซู่มันจะยิ่งหนักหน่วงกว่าเก่า
อ่าวซู่ชี้นิ้วออกมาทำลายประตูห้องขังอันแข็งแกร่งนั้นลงอย่างไร้เสียงใด
หลงเสี่ยวและพวกทั้งหลายที่ถูกจับมาด้วยต่างร้องขอบคุณอ่าวซู่กันอย่างไม่ขาดสาย
“เอาล่ะ เลิกเสียเวลาสักทีเดี๋ยวก็มีคนมาเจอเสียก่อนหรอก ถึงเวลานั้นต่อให้จะอยากไปเช่นใดพวกเจ้าก็คงไม่อาจไปได้แล้ว!” อ่าวซู่รีบไล่
พวกหลงเสี่ยวทั้งหลายที่ได้ยินมีหรือที่จะยังกล้าอยู่ต่อได้? เวลานี้พวกเขารีบพุ่งตัวหนีหายไปจากคุกทันที
แต่อ่าวซู่ที่อยู่ต้านหลังกลับเผยยิ้มขึ้นมาพร้อมสะบัดมือเปลี่ยนชุดสีดำของตนออกและกลับมาใส่ชุดผู้อาวุโสที่ปกติใส่เป็นประจำ
หลงเสี่ยวและพวกทั้งหลายนั้นกำลังพุ่งตัวออกมาพ้นจากเขตปราการมังกรม่วงแต่จู่ๆ กลับได้เห็นว่ามีพลุสัญญาณจุดขึ้นจากทุกทิศทางพร้อมเสียงคนร้องลั่น
คนทั้งหลายที่เห็นเช่นนั้นต่างตกตะลึงจนแทบสิ้นลมหายใจ รีบพุ่งตัวไปอย่างไม่คิดสนอีกแล้วว่าจะมีใครเห็นพวกตนหรือไม่
แต่ในเวลานั้นเองมันกลับมีคลื่นพลังรุนแรงสายหนึ่งพุ่งตามติดหลังพวกเขามา
“โจรเสี่ยว เจ้ากล้ามากที่มาแหกคุกของพวกเรา สมควรตาย!” เสียงร้องนี้ดังสะท้านไปทั่วทั้งปราการมังกรม่วง
เสียงนี้มันทำให้หน้าของพวกหลงเสี่ยวทั้งหลายต้องเปลี่ยนสี เพราะมันมิใช่เสียงใครที่ไหนนอกจากตัวอ่าวซู่นั่นเอง!
ถึงเวลานี้แล้วพวกเขาทั้งหลายจะยังไม่เข้าใจเจตนาอีกฝ่ายอีกหรือ?
อ่าวซู่นั้นคิดจะฆ่าตัดตอนพวกเขามิให้ไปซัดทอดความผิดใดๆ ได้!
อ่าวซู่นั้นไม่ได้คิดปล่อยพวกเขาหนีไป เขานั้นเพียงแค่ต้องการข้ออ้างในการฆ่าสังหารคนทั้งหลายอย่างไร้ความผิด!
แล้วพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นรุนแรงปานใด?
เมื่ออ่าวซู่ซัดฝ่ามือนั้นออกมากดทับใส่พวกหลงเสี่ยว คนทั้งหลายก็ต่างต้องร่วงตกลงสู่เบื้องล่างไปพร้อมๆ กัน
แต่ก่อนที่พวกเขาจะสิ้นหวังใดๆ มันกลับเกิดคลื่นพลังอ่อนนวลสายหนึ่งเข้ามาห่อหุ้มและสกัดฝ่ามือนั้นไปอย่างง่ายดาย
อ่าวซู่ต้องร้องตะโกนขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ใครกัน?”
จากนั้นมันก็ปรากฏหลายเงาร่างขึ้นบนฟ้ากว้าง และผู้ที่นำคนทั้งหลายนี้มามันก็คือตัวเจ้ามังกรเอง!
และข้างๆ กายของเจ้ามังกรนั้นมันก็มีเย่หยวนยืนมองภาพตรงหน้าอยู่ด้วยรอยยิ้ม.ไอลีนโนเวล.
อ่าวซู่ใจหายวาบทันทีที่ได้เห็นคนทั้งหลาย มีหรือที่เวลานี้เขายังจะไม่เข้าใจว่าตนเองนั้นติดกับเข้าเสียแล้ว?
เจ้ามังกรจ้องมองดูอ่าวซู่ด้วยดวงตาชิงชัง “อ่าวซู่ เจ้าทำให้ข้าผู้นี้ผิดหวังจนเกินไปแล้ว!”
เย่หยวนเองก็หันหน้ามามองหน้าพวกหลงเสี่ยวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ว่าไงเล่า? ข้าก็บอกแล้วมิใช่หรือ? พวกเจ้ามันเป็นได้แค่เบี้ยใช้แล้วทิ้งของอ่าวซู่! เวลานี้พวกเจ้าหมดประโยชน์ใดแล้วมันย่อมจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไป”
หลงเสี่ยวเองก็เป็นคนที่ทะเยอทะยานมากคนหนึ่ง แต่ในเวลานี้ตัวเขากลับทั้งเสียใจและโกรธแค้นขึ้นพร้อมๆ กัน
พวกเขาทั้งหลายนั้นทำงานให้อ่าวซู่อย่างหนักหน่วง เสี่ยงภัยอันตรายมากมายมาหลายต่อหลายปี แต่สุดท้ายกลับต้องรับผลเช่นนี้อย่างนั้นหรือ?
“อ่าวซู่ หลายปีมานี้ต่อให้พวกเราพี่น้องจะไม่ได้ทำเรื่องใหญ่โตใดๆ แต่เราก็พยายามอย่างหนักตามคำสั่งของเจ้า! เจ้ากลับไร้ความสำนึกคิดฆ่าสังหารพวกเราลงเช่นนี้! ตอนที่เย่หยวนบอกว่าเจ้าจะฆ่าสังหารพวกเรานั้นตัวข้า หลงเสี่ยวผู้นี้ไม่คิดเชื่อมันแม้แต่น้อย ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้ากลับจะหักหลังความเชื่อใจของพวกเราเช่นนี้ได้!” หลงเสี่ยวร้องลั่นด้วยความเคียดแค้น
ถึงเวลานี้อ่าวซู่ย่อมจะไม่คิดตื่นตกใจหรือลังเลใดๆ อีกต่อไป ใบหน้าของเขานั้นกลับมาสู่ความนิ่งสงบพร้อมยิ้มรับ “พวกเจ้ามันเป็นแค่หมารับใช้ในมือข้า ชีวิตของพวกเจ้านั้นมันขึ้นอยู่กับอารมณ์ของข้าสิ้น เวลานี้เมื่อเจ้าไม่อาจทำประโยชน์ใดๆ ได้อีกเจ้าก็ย่อมต้องตายไป!”
“เจ้า!” หลงเสี่ยวร้องลั่นออกมา ตัวเขาเองก็ไม่นึกว่าอ่าวซู่จะหน้าด้านคิดยอมรับตรงๆ เช่นนี้
อ่าวซู่นั้นไม่คิดสนใจเสียงร้องตะโกนใดๆ และหันไปหาทางเย่หยวน “ข้าไม่นึกเสียจริงๆ ว่าจักรพรรดิผู้เดินทางมาทั่วเมืองบูรพาโลกเสมือนนี้นับล้านๆ ปีจะมาพ่ายให้กับเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมผู้หนึ่ง!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “สิ่งที่เจ้าคาดไม่ถึงนั้นมันมีมากหลายใช่ไหมเล่า?”
อ่าวซู่หรี่ตาลงทันที่ได้ยิน สีหน้าของเขานั้นแสดงอย่างชัดเจนว่าอยากฆ่าสังหารเย่หยวนลงปานใด
เขานั้นคิดวางแผนการร้ายลงเพื่อฆ่าสังหาร มันย่อมเป็นแผนการชั่วร้ายที่เย่หยวนไม่อาจจะหลบรอดออกมาได้เป็นแน่
แต่สุดท้ายแล้วเขาไม่เคยนึกฝันว่านอกจากเย่หยวนจะรอด เขายังกลับจับตัวหลงเสี่ยวและพวกออกมา
ความลับที่หลงเสี่ยวรู้นั้นมันมีมากมายจนเกินกว่าที่จะปล่อยไว้ในมือเจ้ามังกร หากอีกฝ่ายรู้เข้าแล้วตัวเขาเองก็คงไม่อาจจะรอดพ้นไปได้
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้คิดเสี่ยงปล่อยตัวหลงเสี่ยวออกมาเพื่อฆ่าสังหาร
ใครจะไปคาดคิดว่าสุดท้ายเรื่องราวทั้งหลายนี้มันกลับอยู่ในแผนการของเย่หยวนสิ้น?
เขานั้นวางแผนร้ายใส่ผู้คนมาทั้งชีวิต คิดคำนวณไว้เสียด้วยซ้ำว่าเจ้ามังกรจะรับมือเรื่องนี้อย่างไรแต่กลับถูกตัวแปรอย่างเย่หยวนผู้เพิ่งลืมตาดูโลกมาไม่นานนี้ทำลายแผนการใดๆ จนพังสิ้น!
มันเป็นสิ่งที่ตัวเขานั้นไม่อาจคาดคิดได้ที่สุด
อ่าวซู่หัวเราะขึ้นมาพร้อมพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว! มันเป็นจักรพรรดิผู้นี้เองที่ประเมินเจ้าต่ำไป!”
เย่หยวนยิ้มรับ “เดิมทีข้าเองก็ไม่เข้าใจ เจ้าและข้าไม่ได้มีความแค้นบาดหมางใดๆ กันเหตุใดถึงคิดถึงขั้นฆ่าสังหาร? จนมาถึงวันนี้ที่ข้าได้รู้ว่าหลานของเจ้าเองก็เป็นทายาทมังกรสวรรค์แห่งปราการมังกรม่วงนี้ข้าจึงได้เข้าใจเสียทีว่าที่เจ้าทำไปมันก็เพื่อตัวเขาสิ้น เป็นลุงที่ดีจริงๆ” เย่หยวนแสยะยิ้มออกมา
อ่าวซู่ผงะไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะลั่นขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้ามันช่างมีสมองและความคิดที่ชั่วร้ายอย่างที่ข้าไม่อาจคาดเดาจริงๆ! เมื่อจักรพรรดิผู้นี้ทำการใดมันก็ย่อมเป็นเรื่องที่จักรพรรดิผู้นี้คิดทำเอง มันไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับอ่าวหยู! อ่าวเจิ้น ข้านั้นไม่อยากจะยอมรับเสียจริงๆ! เหตุใดคนอย่างเจ้าจึงได้นั่งบัลลังก์เจ้ามังกรแต่ข้าไม่อาจนั่งได้เล่า!”
พูดจบคลื่นพลังบนร่างของอ่าวซู่ก็พุ่งทะยานพุ่งตัวเข้าใส่เจ้ามังกรอ่าวเจิ้นทันที
คลื่นพลังรุนแรงของจักรพรรดิเทพสวรรค์นี้มันทำให้คนทั้งหลายแทบไม่อาจหายใจได้
ความโกรธแค้นของจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันรุนแรงจนเกินจริง!
หากพลังนี้ตกกระแทกแล้วทั้งปราการมังกรม่วงนี้คงแตกสลายกลายเป็นแค่เศษซาก!
อ่าวเจิ้นได้แต่ถอนหายใจยาวพร้อมยกมือขึ้นมา
คลื่นพลังอ่อนนวลสายหนึ่งถูกปล่อยออกมาห่อหุ้มมิติพื้นที่โดยรอบจนสิ้น
และคลื่นพลังใดๆ ของอ่าวซู่มันก็ไม่อาจจะส่งออกไปจากม่านมิตินี้ได้
ภายในห้วงพลังนี้อ่าวซู่ไม่อาจจะขัดขืนใดๆ ได้และต้องแตกสลายลงไป
พลังของเจ้ามังกรมันรุนแรงจนเกินรับ!
เมื่อเย่หยวนได้เห็นภาพนี้เขาก็ตื่นตะลึงอยู่ไม่น้อย
นี่คือพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นกลาง!
พลังที่รุนแรงจนแม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นต้นยังเป็นได้แค่มดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกเขา! มันเป็นพลังที่ทำให้อีกฝ่ายไร้ฝีมือจะต่อต้านใดๆ สิ้นเชิง!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้เหนือโลกนามอ่าวซู่จึงได้ตายตกลงในที่แห่งนี้!
ภายในความมืดมิดของค่ำคืนนั้นอ่าวหยูได้มองดูเรื่องราวเหนือฟ้ากว้างพร้อมสาบานต่อตัวเอง “ลุงรอง ท่านจะต้องไม่ตายเปล่า! ความแค้นนี้ข้าจะสะสางให้ท่านให้จงได้!”
…………….