เวลานี้ดวงตาของเย่หยวนมันเริ่มกลายเป็นสีขาวเทา
ร่างกายของเขานั้นกลายเป็นดั่งรูปปั้นน้ำแข็งปล่อยพลังเย็นเยือกออกมาตั้งแต่หัวจรดเท้า
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันมิใช่เพราะว่าเขาบ่มเพาะวรยุทธธาตุน้ำแข็งใดๆ แต่มันเป็นเพราะว่าบนร่างกายของเขานี้ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆ
พร้อมๆ กันนั้นระยะความห่างระหว่างตัวเขาและหยวนเจี่ยวก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ!
หยวนเจี่ยวนั้นอดไม่ได้ที่จะตื่นตกใจเพราะแรงกดดันของเขานี้มันไม่อาจจะหยุดตัวเย่หยวนลงไว้ได้อีก
“น่าตกใจจริงๆ! เทพสวรรค์เผ่ามนุษย์คนหนึ่งก็สามารถจะใช้ลายพระเจ้าได้! เจ้าหนุ่ม เจ้าทำให้ข้าต้องประเมินเผ่ามนุษย์ใหม่เสียจริงๆ!” หยวนเจี่ยวไม่ได้ตื่นตกใจกลัวใดๆ แต่กลับกล่าวชื่นชมออกมาแทน
เพราะแม้เขาจะตื่นตกใจ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหวาดกลัวใดๆ
เพราะด้วยอาณาจักรบ่มเพาะของเย่หยวนนี้ต่อให้จะมีพลังต่อสู้เหนือล้ำฟ้า พรสวรรค์เหนือล้ำคนปานใดมันก็ไม่อาจจะทำอันตรายเขาได้
เรื่องนี้เขามั่นใจได้!
จักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวนั้นต่อให้จะเป็นในมหาพิภพถงเทียนเองก็คงนับได้ว่าเป็นตัวตนที่เหนือล้ำชีวิตเบื้องล่าง
พวกเขานี้มีสิทธิที่จะก้มมองดูโลกหล้าจากเบื้องบนได้!
เย่หยวนนั้นค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาเรื่อยๆ จนอยู่ในระยะแค่ประมาณร้อยก้าวจากตัวหยวนเจี่ยวก่อนที่จะหยุดเท้าลงในที่สุด
หยวนเจี่ยวนั้นยิ้มขึ้น “เจ้าหนุ่ม เก่ง! เจ้ามีความกล้าพอที่จะมายืนอยู่ต่อหน้าข้าได้ นับว่าเจ้านั้นเก่งกาจกว่าคนเกือบทั้งโลกหล้าแล้ว!”
ตัวตนของหยวนเจี่ยวนี้คือใคร?
การจะต่อต้านเขานี้ต้องมีความกล้าหาญมหาศาล!
เรื่องนี้มันไม่อาจล้อเล่น หากขึ้นมาถึงระดับที่เขาอยู่นี้แล้วร่างกายของเขามันย่อมจะปล่อยแรงกดดันมหาศาลออกมาอย่างไม่อาจห้าม
อย่าว่าแต่เย่หยวนที่เป็นเทพสวรรค์สามดาว ต่อให้จะเป็นยอดเทพสวรรค์ขั้นสุดเองก็คงไม่อาจจะยืนอยู่ต่อหน้าเขาได้เช่นนี้แน่
เวลานี้แม้เท้าของเย่หยวนจะหยุดลงแต่ปากของเขากลับพูดกล่าวขึ้นแทน “สิ่งที่จะทำให้เจ้าต้องมองข้าใหม่นั้นมันยังมาไม่ถึงหรอก!”
ดวงตาของเย่หยวนเปล่งประกายขึ้นมาหลังกล่าวคำพูดนั้น
จากนั้นร่างกายของคนทั้งสองก็จางหายไปต่อหน้าต่อตาผู้คน!
ซินได้แต่ต้องเบิกตากว้างพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันเต็มใบหน้า
“กลับคิดดึงลุงหยวนเจี่ยวเข้าโลกใบน้อย มันช่างโง่เง่าไร้ที่สิ้นสุดจริงๆ!” ซินร้องบอก
เหล่ามารนรกทั้งหลายเองก็ต่างพากันแตกตื่นพูดกล่าวขึ้น
“เจ้าเด็กคนนี้มันคงไม่ได้กลัวจนสมองเพี้ยนแล้วใช่หรือไม่?”
“หากท่านหยวนเจี่ยวโจมตีออกมาโลกใบน้อยของมันจะไม่พังทลายลงเลยหรือ?”
“โลกใบน้อยของคนเรานั้นสุดแสนอ่อนแอ คนอื่นกลัวกันแทบเป็นแทบตายว่าจะถูกศัตรูบุกเข้าไปภายในแต่เจ้าหมอนี่กลับเชิญท่านหยวนเจี่ยวเข้าไปเองเสียอย่างนั้น!”
“หากมันเป็นคนอื่นๆ แล้วก็ช่างเถอะ แต่นี่มันท่านหยวนเจี่ยวเชียวนะ!”
…
เพราะต่อให้เป็นตัวเยวี่ยเมิ่งลี่เองก็ยังต้องมึนงงไม่อาจเข้าใจเรื่องราวได้
โลกใบน้อยนั้นคือรากฐานพลังของนักยุทธ มันคือแก่นที่ส่งพลังมาหล่อเลี้ยงพวกเขาทั้งหลาย
แต่พร้อมๆ กันนั้นโลกใบน้อยมันก็ถือว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญด้วยเช่นกัน
นักยุทธแต่ละคนนั้นย่อมจะพยายามป้องกันโลกใบน้อยไว้อย่างสุดชีวิต หวาดกลัวว่าศัตรูจะเข้าไปถึงมันได้
หากศัตรูนั้นอ่อนแอกว่ามากก็ยังพอทน แต่ตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าตนเองนั้นมันสามารถทำลายโลกใบน้อยนั้นลงได้อย่างง่ายดาย
ต่อให้จะไม่ได้เก่งกาจมากมายแต่หากไปสู้กันในโลกในน้อยแล้ว มันก็คงสร้างความเสียหายให้โลกใบน้อยอย่างมหาศาล
ฆ่าศัตรูหนึ่งพันด้วยชีวิตของทหารแปดร้อย!
เหมือนที่ตอนนั้นเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเข้าไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของจอมเทพนิรันดร์และแม้จะเป็นแค่การปะทะกันเล็กๆ น้อยๆ มันก็มากพอจะสร้างความเสียหายให้แก่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้น
หากมิใช่เพราะเย่หยวนทุ่มสุดตัวช่วยเหลือไว้ มีหรือที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะยังอยู่มาได้จนถึงวันนี้
เย่หยวนนำพาจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวเข้าไปยังโลกของเทพสวรรค์สามดาว หากมิใช่รนหาที่แล้วจะเรียกมันว่าอะไรได้?
หยวนเจี่ยวหันหน้ามาหาเย่หยวนด้วยรอยยิ้มประหลาดใจ “นี่คือไม้ตายของเจ้า? โลกใบน้อยของเจ้ามันคงไม่อาจต้านทานพลังการโจมตีข้าได้แม้แต่ครั้งเดียว! ไม้ตายของเจ้านี้มันทำให้ข้าผิดหวังมากแล้ว!”
หยวนเจี่ยวนั้นมีความคิดเหมือนกับคนด้านนอกทั้งหลายเพราะเขาไม่ได้คิดเลยว่าไม้ตายของเย่หยวนมันจะกลายเป็นเรื่องราวเช่นนี้ ไม่ว่าจะดูอย่างไรมันก็เป็นเรื่องโง่ๆ
บางทีเย่หยวนนั้นอาจจะมั่นใจในพลังของโลกใบน้อยตนมาก แต่ต้องเป็นคนเช่นไรจึงจะกล้าดึงจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวเข้ามายังโลกของตน?
ทั้งยังเรื่องที่ว่าคนที่ถูกดึงเข้ามานี้คือหยวนเจี่ยว ยอดคนที่จักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวทั่วไปไม่อาจเทียบเคียงได้!
การที่เขาสามารถจะก้าวขึ้นมาเป็นเก้าผู้อาวุโสนี้ได้มันย่อมจะเพราะว่าตัวเขานั้นมีฝีมือเหนือล้ำกว่าเหล่าคนเผ่าเทวาทั้งหลายอย่างไม่ต้องสงสัย
ต่อหน้าคนระดับนี้จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปจะมีค่าใด?
“อ่า? เป็นเช่นนั้น?”
เย่หยวนผู้มีดวงตาสีเทาขาวกล่าวตอบกลับมาก่อนที่ร่างจะหายไปทันที
ทางหยวนเจี่ยวนั้นได้แต่ยิ้มขึ้นมา ไม่คิดสนใจใดๆ การกระทำของเย่หยวน
แต่ในวินาทีต่อมารอยยิ้มบนหน้าของเขากลับต้องจางหาย สิ่งที่มาแทนที่คือความจริงจัง
เพราะเขานั้นรับรู้ถึงอันตรายได้จากรอบทิศ!
นี่มันคือพลังของเต๋า!
ลายพระเจ้า!
แต่หยวนเจี่ยวก็ไม่มีเวลาคิดให้มากต้องใช้พลังจากเต๋าของตนออกมารับหมัดของเย่หยวนนั้นไว้
ปัง!
แรงปะทะนี้ทำให้พิภพโกลาหลสั่นสะเทือน ร่างของหยวนเจี่ยวลอยลิ่วพร้อมทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ที่ปั่นป่วนเต็มทน
เขานั้นได้แต่ต้องจ้องมองดูร่างของเย่หยวนอย่างตื่นตะลึง
“ว่าอย่างไรเล่า?” เย่หยวนถาม
หยวนเจี่ยวนั้นหรี่ตาลงมองก่อนจะเริ่มหันไปมองรอบๆ พิภพโกลาหล
ตอนที่ยังไม่ได้มองดูมันก็ธรรมดา แต่พอได้มองดูแล้วดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้าง!
พิภพโกลาหลนี้มันแตกต่างจากโลกใบน้อยที่เขารู้จักอย่างสิ้นเชิง!
คลื่นเต๋าสวรรค์ที่รุนแรงล้ำ พร้อมๆ กันกับปราณเทวะที่หนาแน่นและลายพระเจ้าลอยวนบนท้องฟ้าแทนเทฆ
ภาพตรงหน้านี้มันทำให้เขานึกไปเสียด้วยซ้ำว่านี่คือมหาพิภพถงเทียนในช่วงก่อตัวขึ้นใหม่ๆ!
สำหรับนักยุทธเผ่ามนุษย์แล้วเมื่อขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์มันย่อมจะหมายความว่าเป็นเวลาที่โลกใบน้อยมากชีวิตเกิดกำเนิดสมบัติธรรมชาติมากมาย
แต่โลกของเย่หยวนนี้กลับเหมือนเพิ่งจะถูกสร้างขึ้นใหม่ๆ!
ทุกสิ่งอย่างมันยังอยู่ในช่วงแห่งความโกลาหล
แม้ว่าโลกใบนี้มันจะเพิ่งอยู่ในช่วงก่อตัวแต่มันกลับมีเต๋าสวรรค์ที่หนาแน่นเทียบเคียงกับตัวเขา หนึ่งในเก้าผู้อาวุโสแห่งเผ่าเทวานี้ได้!
เย่หยวนนั้นสามารถที่จะควบคุมเต๋าของโลกนี้เพื่อเข้าต่อสู้กับศัตรูได้
หยวนเจี่ยวจึงได้แต่ต้องหันไปมองเย่หยวนอย่างตกตะลึง “ที่นี่คือโลกใบน้อยของเจ้า? โลกใบน้อยมันมีสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้าใช้วรยุทธบ่มเพาะประเภทไหนกัน?!”
แต่เย่หยวนกลับตอบมาอย่างนิ่งเฉย “เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องคิด! เตรียมตัวตาย!”
หยวนเจี่ยวที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะขึ้นมา “เจ้าเองก็จะดูถูกเผ่าเทวาจนเกินไปแล้ว! แน่นอนว่าโลกใบน้อยของเจ้ามันเหนือคาดไปมาก แต่… มันก็ยังอ่อนแอจนเกินไป! หลังจากผ่านศึกนี้ไปแล้วโลกใบน้อยของเจ้านี้… คงพังทลายลง! และตัวเจ้าก็จะได้กลายเป็นคนพิการไป!”
แต่เย่หยวนกลับตอบกลับมาด้วยใบหน้านิ่ง “แล้วทำไมเล่า?”
พูดไปเขาก็ต่อยอีกหมัดหนึ่งออกมา
หยวนเจี่ยวต้องยกหมัดขึ้นมารับ!
เพราะหมัดของคนทั้งสองนี้มันมีพลังของเต๋าอยู่อย่างหนักแน่น
นี่คือสงครามแห่งหายนะ!
แต่ละครั้งที่คนทั้งสองแลกหมัดกัน พวกเขาก็จะทำให้พิภพโกลาหลนี้สั่นสะท้านจนแทบแตกสลายลง
ท้องฟ้าแตกแยก ทะเลศักดิ์สิทธิ์กระจายไปทั่ว
หมัดแต่ละหมัดของหยวนเจี่ยวนี้มันทำให้เย่หยวนได้รับบาดเจ็บไปมาก
แต่เขาไม่ได้สนใจ
ปัง!
ปัง!
ปัง!
…
เวลาค่อยๆ ผ่านไปไม่รู้นานเท่าไหร่แต่หยวนเจี่ยวก็ยังไม่ออกมา
ในเวลานี้เหล่ามารนรกทั้งหลายก็เริ่มที่จะสัมผัสได้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
“มันเกิดอะไรขึ้นกัน? หรือว่า… ท่านหยวนเจี่ยวจะกำลังสู้กับเจ้าเด็กคนนั้นจริงๆ?”
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร? โลกใบน้อยของเทพสวรรค์นั้นมันย่อมไม่อาจทนรับแรงหายใจของท่านหยวนเจี่ยวได้ด้วยซ้ำ!”
“ทั้งสองนั้นกำลังทำอะไรอยู่ในโลกใบน้อยกันแน่? คงไม่ได้ไปนั่งคุยเล่นกันหรอกใช่หรือไม่?”
…
ทุกผู้คนนั้นต่างสงสัยอย่างไม่อาจห้ามใจ พวกเขาอยากจะรู้เหลือเกินว่าภายในโลกใบน้อยนั้นมันเกิดอะไรขึ้น
แต่มีเพียงเย่หยวนเท่านั้นที่จะเปิดทางสู่พิภพโกลาหลได้
หากตัวเขาไม่คิดเปิด คนอื่นๆ ก็ย่อมไม่มีทางเข้าไปได้!
…………………
Related