เย่หยวนนั้นมีจิตใจที่สงบมั่นดั่งขุนเขา เขานั้นไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นดีใจใดๆ มากมายหลังจากบรรลุแนวคิดแห่งกาลเวลามาได้
เวลานี้ความคิดเดียวที่ตัวเขามีคือการตามจับตัวเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตให้ทัน
เพราะข่ายเงินแก่นโลหิตนี้มันสำคัญกับตัวเขาจนเกินกว่าจะปล่อยให้มันหลุดมือไป!
หากไร้ซึ่งข่ายเงินแก่นโลหิตแล้ว นอกจากเขาจะช่วยให้หวู่เฉินคืนสติไม่ได้แล้วตัวจิตของมู่หลินเสวียเองจะยังค่อยๆ เหือดแห้งจางหายไปด้วย!
เวลานั้นไม่เคยคอยท่าใคร เย่หยวนเองก็ไม่อาจจะทนรอมันได้ไปนานกว่านี้แล้ว
ใกล้!
ใกล้กว่านี้!
จู่ๆ เจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นมันก็หยุดเท้าลงก่อนจะหันหน้ากลับมาหาเย่หยวนด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
ในเวลานี้ร่างกายของจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยูนั้นหายไปสิ้น ดูแล้วเขาคงถูกเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตกินจนหมดสิ้น
เรื่องนั้นทำให้หน้าของเย่หยวนต้องเปลี่ยนสีด้วยความกังวลอย่างสุดขีด!
จากนั้นเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตมันก็สูดหายใจเข้าลึกทำท่าเหมือนจะพ่นอะไรบางอย่างออกมาจากปาก
เย่หยวนต้องหรี่ตาลงก่อนจะเปิดปากพูดขึ้นมาทันที
“หยุด!”
เวลาชะงัก!
ข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นยังไม่ทันได้ปล่อยอะไรออกมาก็ถูกเย่หยวนหยุดลงอย่างไม่อาจจะขยับขัดขืนได้
เวลานี้ดวงตาของมันเบิกกว้างอย่างตกตะลึง
เพราะก่อนหน้านี้มันเองก็สัมผัสได้ถึงกระแสเวลาที่ไหลช้าลงทำให้มันรู้ตัวได้ทันทีว่าตนเองคงไม่อาจหนีไปทั้งๆ อย่างนี้ได้และหันกลับมาคิดโจมตีสวนกลับไป
แต่เขาก็ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนกลับจะยังมีไม้ตายเช่นนี้ซ่อนไว้อีก
“เจตจำนงดาบ ฟัน!”
เย่หยวนไม่คิดพูดพร่ำใดๆ ให้มากความรู้ใช้ดาบแห่งจิตนั้นฟันใส่เจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตทันที
ตัวข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นเองก็มีร่างกายที่ก่อขึ้นมาจากกายวิญญาณประเภทหนึ่ง
แน่นอนว่าเจตจำนงแห่งดาบนี้มันจะเป็นภัยอย่างใหญ่หลวงแก่ตัวมัน!
ข่ายเงินแก่นโลหิตได้แต่ร่ำร้องออกมาก่อนจะถูกเย่หยวนซัดจนลอยปลิวไป
เดิมทีตัวข่ายเงินแก่นโลหิตนี้มันก็อยู่ในระดับเทพสวรรค์ขั้นสุด เมื่อได้กินจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยูเข้าไปแล้วย่อมจะทำให้ตัวมันเข้าใกล้การบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปอีกขั้น
เพียงแค่ว่าเมื่อยังไม่บรรลุ มีหรือที่มันจะต่อต้านกลับของเย่หยวนได้?
เจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นบาดเจ็บหนักกลิ้งตัวไปตามพื้นแต่สุดท้ายมันก็ยังพุ่งตัวหนีหายเข้าไปในห้วงมิติได้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว!
ในเวลาเดียวกันนี้ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งก็ได้มาถึง
เย่หยวนหันหน้ากลับมาจ้องมองด้วยดวงตาเย็นเยือกทันที
ในเวลานี้ใครก็ตามที่คิดแย่งชิงข่ายเงินแก่นโลหิตไปจากเขานั้นมันย่อมจะได้เป็นศัตรูแค้นของเขาไปอย่างแน่นอน
เย่หยวนจะไม่ปรานีพวกมันเด็ดขาด
เมื่อได้เห็นดวงตานั้นของเย่หยวนแม้แต่ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งเองก็ยังอดยืนตัวสั่นไม่ได้ เวลานี้เขากลับไม่กล้าที่จะก้าวตามข่ายเงินแก่นโลหิตไป
เย่หยวนเองก็ไม่ได้มีเวลามากมายพอจะมาต่อเถียงกับจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่ง เขาจึงได้แต่รีบหันหน้ากลับไปตามตัวข่ายเงินแก่นโลหิตอีกครั้ง
ข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นบาดเจ็บอย่างสาหัสทำให้ความเร็วของมันตกลงกว่าก่อนมาก การติดตามของเย่หยวนครั้งนี้มันจึงเข้าใกล้ถึงตัวมันได้อย่างไม่ยากเย็น
ไม่นานนักสุดท้ายเย่หยวนก็ตามมาถึงตัวเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตอีกครั้ง
“หยุด!”
“เจตจำนงแห่งดาบ!”
การผสานวิชาอีกหนึ่งครั้ง!
เจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตจึงได้แต่ต้องกลิ้งไปตามพื้นด้วยอาการที่บาดเจ็บหนักกว่าเก่าอย่างไม่อาจเลี่ยง!
แต่เมื่อใช้เวลาชะงักออกมาติดๆ กันเช่นนี้ แม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็ยังรู้สึกเหนื่อยอ่อนขึ้นมา
แต่ว่าเพื่อที่จะเอาข่ายเงินแก่นโลหิตมาแล้ว เขาย่อมยอมที่จะทุ่มสุดตัวอย่างไม่ลดละ
ข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นย่อมจะมิใช่แค่สมบัติธรรมชาติทั่วๆ ไป กำลังของมันนี้เหนือล้ำกว่าเทพสวรรค์ขั้นสุดทั่วๆ ไปมากมาย
แม้ว่าเจตจำนงดาบของเย่หยวนทั้งสองครั้งนี้จะโดนตัวมันเข้าอย่างจังแต่มันก็ยังไม่ยอมตายลงง่ายๆ
สุดท้ายเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นมันก็กลิ้งตัวพุ่งหนีหายเข้าห้วงมิติไปอีกครา!
เย่หยวนได้แต่ร้องด่ามันอยู่ในใจก่อนจะพุ่งตัวตามออกไปอีกครั้ง
ปัง! ปัง! ปัง!
เพื่อหน้าของเขานั้นมันเกิดเสียงกระแทกกระทบอย่างรุนแรงเหมือนว่ามียอดฝีมือหลายคนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
บางครั้งบางครามันก็จะถึงขั้นมีคลื่นพลังหลงทิศถูกปล่อยออกมาทางเย่หยวน
หากมิใช่เพราะเย่หยวนมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำแล้ว ตัวเขาคงถูกเจ้าคลื่นพลังหลงทิศทั้งหลายนี้โจมตีจนต้องเสียเวลาไปไม่น้อย
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นการติดตามข่ายเงินแก่นโลหิตของเย่หยวนมันก็ยังช้าลงไปมาก
เวลานี้เจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นมันหนีอย่างสุดชีวิตไม่กลัวอาการบาดเจ็บใดๆ อีก
แต่ไม่นานนักเบื้องหน้าของเขามันก็ปรากฏทางตันขึ้นมา!
และที่สุดทางตันนี้มันได้มีบ่อโลหิตเลือดสีแดงฉานใหญ่โตราวทะเลอยู่
ส่วนตรงกลางบ่อโลหิตนี้มันได้มีน้ำเลือดหมุนวนอย่างรุนแรงส่งคลื่นพลังที่ทำให้คนทั้งหลายต้องขนลุกชันไปทั้งตัว
คลื่นพลังนี้มันเป็นสัญญาณการเกิดของสมบัติล้ำค่า
และต้นตอแสงที่สาดส่องทำลายถ้ำมาตลอดทางนั้นมันก็ถูกส่องขึ้นมาจากเจ้าน้ำเลือดวนนี้เอง
ภายในโพรงถ้ำใหญ่โตนี้มันมีร่างกายของสัตว์อสูรต่างๆ มากมายนอนตายกองอยู่
ร่างกายทั้งหลายนี้มันเพิ่งจะตายลงและยังคงส่งคลื่นพลังออกมาได้ไม่แพ้ตอนยังมีชีวิต
ดูท่าแล้วตอนที่ยังมีชีวิต พวกมันทั้งหลายนี้คงมีระดับถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายเป็นอย่างน้อยๆ
เหนือโถงโพรงถ้ำใหญ่นี้มันได้มีแปดรูปปั้นถูกสลักไว้ด้านบนแปดทิศ ใบหน้าของแต่ละรูปปั้นนั้นมันดูบิดเบี้ยวจนสยดสยอง
พร้อมๆ กันนั้นที่ด้านบนของน้ำเลือดวนนั้นมันก็มีคลื่นพลังปิดกั้นรุนแรงอยู่
เวลาเหล่าผีจักรพรรดิเทพสวรรค์ระดับสูงทั้งหลายต่างกำลังลงมือช่วยกันทำลายม่านพลังนั้น
เวลานี้เจ้าม่านพลังปิดกั้นเองก็เริ่มจะไม่อาจทนรับพลังและเริ่มเผยให้เห็นรอยแตกแยกออกมา
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งไล่หนึ่งหนีนั้นสุดท้ายพวกเขาก็ได้เข้ามาถึงทางตันบ่อโลหิตนี้!
สัญชาตญาณของเย่หยวนบอกตัวเขาทันทีว่ามันมีบางอย่างผิดปกติไป
แต่เขาก็ไม่อาจจะแบ่งสติไปสนใจมันได้
เวลานี้เป้าหมายของเขามันเป็นข่ายเงินแก่นโลหิตเพียงเท่านั้น!
“เจ้าหนีไม่พ้นแล้ว!”
เย่หยวนหัวเราะบอกก่อนจะปล่อยเจตจำนงดาบออกมาอีกครา
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองมันก็เกิดคลื่นพลังสุดหนักหน่วงปะทุขึ้น
เย่หยวนนั้นไม่มีเวลาจะขยับหนีใดๆ ต้องถูกคลื่นพลังนั้นซัดจนร่างลอยปลิวไปพร้อมๆ กับเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิต
เย่หยวนกระอักเลือดออกมาคำโตก่อนจะหนีหลบร่างเข้าไปในห้วงมิติเพื่อหลบคลื่นพลังนั้น
เวลานี้ม่านพลังปิดกั้นสีแดงเลือดนั้นมันได้แตกสลายลงแล้ว!
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างตกตะลึงไปตามๆ กันก่อนจะถูกคลื่นพลังนั้นซัดจนปลิวไปทั่วทิศ
คลื่นพลังอันนี้แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เองก็ไม่อาจจะต่อต้านมันได้!
โชคยังดีที่เย่หยวนนั้นอยู่ห่วงจากส่วนกลางของแรงระเบิดพลังนี้ จึงไม่ได้รับแรงกระแทกเข้าอย่างเต็มตัวนัก
ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เย่หยวนจะมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับแปดมันก็คงไม่อาจจะรอดชีวิตมาได้
ในวินาทีนี้เย่หยวนได้ใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาจนสุดตัวหลบคลื่นพลังลำแสงพลังงานนั้นอย่างสุดตัว จึงพอที่จะรอดพ้นความตายมาได้
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นตัวเขาก็ยังบาดเจ็บอย่างสาหัส!
ส่วนทางด้านตัวข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นร่างกายของมันถูกซัดเข้าอย่างแรงจนกายวิญญาณเริ่มจางหายลง
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บอย่างมากมาย
ในเวลานี้ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งที่ยังไม่คิดยอมแพ้ก็ได้ตามมาถึงและถูกคลื่นพลังนี้ซัดเข้าใส่ด้วยพอดี
ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งนั้นบาดเจ็บสาหัสจนร่างกายเบาบางแทบจางหายไป เวลานี้ตัวเขาได้แต่นอนแน่นิ่งดูท่าจะหมดสติไปเสียแล้ว
พร้อมๆ กันนั้นมันก็ได้ปรากฏเงาร่างหนึ่งก้าวเดินขึ้นมาจากบ่อทะเลโลหิต
คลื่นพลังของร่างกายนี้มันเหนือฟ้าเหนือสวรรค์!
ท่ามกลางความตื่นตะลึงนั้นเย่หยวนก็ได้แต่ต้องมองไปอย่างสั่นสะท้าน
ผู้ที่ก้าวขึ้นมาจากบ่อโลหิตนั้นหันมองดูหน้าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายรอบๆ ด้วยใบหน้าเย้ยหยัน
“เจ้า… เจ้าเป็นใคร?” จักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาว จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางกล่าวถามขึ้นด้วยท่าทางหวาดกลัว
คลื่นพลังลึกลับที่ออกมาจากกายของคนผู้นี้มีระดับอย่างมากก็แค่จักรพรรดิเทพสวรค์ขั้นกลาง
แต่ความรู้สึกในจิตใจของจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางกลับบอกตัวเขาว่าคนผู้นี้อันตรายจนเกินกว่าจะรับมือได้!
คนผู้นั้นหันมองดูที่ใบหน้าของจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางอย่างเย้ยหยัน “ข้าเป็นใคร? เจ้ายังไม่มีสิทธิจะรู้ได้หรอก! เจ้าพวกโง่! แค่สมบัติวิญญาณอันหนึ่งมันก็มากพอทำให้พวกเจ้าต้องสู้กันจนปางตายเช่นนี้! แต่มันก็ต้องขอบคุณพวกเจ้าทั้งหลายที่ในที่สุดบรรพกาลผู้นี้ก็ได้กลับขึ้นมายังมหาพิภพถงเทียนอีกครั้ง! ฮ่าๆๆ… จนหวาดกลัวเสียเถอะเหล่ามนุษย์!”
คนผู้นี้ถือแผ่นหยกไว้ในมือและสิ่งนั้นคือต้นตอของคลื่นพลังที่ทำให้ผู้คนแทบไม่อาจหายใจ
ดูท่าแล้วความปั่นป่วนทั้งหลายก่อนหน้าเองก็คงเป็นเพราะเจ้าแผ่นหยกนี้
เวลานี้สีหน้าของจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นจางซีดลง เป็นตอนนี้เองที่เขาได้รู้ว่าตัวเองถูกคนอื่นหลอกใช้แล้ว!
“บ-บรรพกาลผู้นี้? หรือว่า… เจ้าจะเป็นเต๋าบรรพกาล? นี่มัน… ไม่มีทางน่า!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางร้องกล่าว
แต่คนผู้นั้นกลับหันมามองด้วยสายตาเหยียดหยาม “เต๋าบรรพกาล? หึ หลังจากบรรพกาลผู้นี้ได้พลังฟื้นกลับมาแล้วเด็กน้อยทั้งหลายนั้น… จงนั่งรอด้วยตัวสั่นเถอะ!”
ทางตัวเย่หยวนนั้นเวลานี้ได้หยิบเอาโอสถมากมายขึ้นมากลืนกินใช้งานรักษาอาการบาดเจ็บอย่างไม่ลังเล
ด้วยโอสถขั้นเทวะวิญญาณมรณานี้บาดแผลใดๆ ของเย่หยวนมันจึงหายลงไปราวกับมีเวทมนตร์
เมื่อเสร็จสิ้นแล้วตัวเขาก็พุ่งเข้าไปหมายคิดจับตัวข่ายเงินแก่นโลหิตไว้
แต่ก่อนที่จะทันไปถึงตัวข่ายเงินแก่นโลหิต เจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตมันก็ได้พุ่งเข้าไปหาคนผู้นั้นที่กลางบ่อโลหิต!
นั่นทำให้ใบหน้าของเย่หยวนเหยเกขึ้นมาทันที!
…………………