ในชั่วพริบตาเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นก็พุ่งเข้าไปยังอ้อมกอดของคนผู้นั้น
เย่หยวนที่อาการบาดเจ็บยังไม่ฟื้นฟูดีได้แต่ต้องมองมันพุ่งตัวจากไปต่อหน้าต่อตา
สภาพของข่ายเงินแก่นโลหิตในเวลานี้มันอ่อนแออย่างมาก เมื่อคนผู้นั้นกอดมันไว้เขาก็ได้รีบปล่อยลายพระเจ้าออกมาห่อหุ้มตัวมันทันที
เมื่อถูกหุ้มไว้เช่นนั้นเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตมันกลับค่อยๆ ฟื้นฟูตัวขึ้นมาอย่างทันตาเห็น!
จากนั้นเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตมันก็ได้ส่งเสียงเล็กๆ ออกมาอย่างที่คนทั้งหลายไม่อาจเข้าใจได้ว่ามันกล่าวพูดใด
นั่นทำให้สายตาของคนผู้นั้นหันมามองที่เย่หยวนทันที
เย่หยวนนั้นยื่นตัวแข็งทื่อราวกับว่าลำคอของเขานั้นถูกใครมาบีบรัดไว้ ไม่อาจจะทำได้แม้แต่หายใจเข้าออก
คนผู้นี้น่ากลัวจนเกินไป!
เพียงแค่สายตาเดียวที่มองมานี้เย่หยวนก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนผู้นี้ดูท่าคงแข็งแกร่งกว่าตัวหยวนเจี่ยวเสียด้วยซ้ำ!
ใช่แล้ว เพราะว่าคนที่เดินก้าวออกมาจากบ่อโลหิตนี้มันมีคลื่นพลังรูปแบบเดียวกันกับหยวนเจี่ยว
หรือก็คือเขานั้นเป็นคนเผ่าเทวา!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขายังมีพลังที่หนักหน่วงกว่าตัวหยวนเจี่ยวเสียด้วยซ้ำ!
ยอดฝีมือชาวเผ่าเทวาผู้นั้นยกมือขึ้นมาลูบหัวเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตพร้อมบอก “วางใจเถอะ บรรพกาลผู้นี้ช่วยให้เจ้าได้มีปัญญาขึ้นมา มันก็เท่ากับว่าเจ้าคือคนของข้า หากใครมารังแกเจ้าแล้วบรรพกาลผู้นี้ย่อมจะทวงแค้นให้เจ้าแน่ หลังจากที่บรรพกาลผู้นี้จัดการคนทั้งหลายนี้แล้วข้าจะไปจัดการดึงวิญญาณของมันออกมาให้เจ้ากินเล่นเอง!”
ได้ยินเช่นนั้นตัวข่ายเงินแก่นโลหิตมันก็หัวเราะขึ้นมาด้วยท่าทางสุขใจ
ตัวเย่หยวนนั้นตกตะลึงไม่น้อยแต่เขาก็ไม่ได้คิดจะหนี
เจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตยังไม่ถูกจับ มีหรือที่เขาจะหนีไปไหนได้?
อย่างมากที่สุด… เขาก็คงต้องเข้าสภาวะไร้จิตใจอีกครั้งเพื่อปะทะกับคนผู้นี้!
แม้ว่าเผ่าเทวาผู้นี้จะดูเก่งกาจเหนือล้ำ แต่สภาพของเขาในเวลานี้มันก็ยังต่ำกว่าหยวนเจี่ยวไปมาก
แม้ว่าเย่หยวนจะกังวล แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นต้องหนีเอาตัวรอด
เผ่าเทวาผู้นั้นมองดูใบหน้าของเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “ภายใต้แรงกดดันจากบรรพกาลผู้นี้เจ้ายังกล้าจะไม่หนี เด็กน้อย เจ้าทำข้าประหลาดใจแล้ว”
เย่หยวนนั้นเป็นแค่แมลงตัวน้อยในสายตาของเขา แน่นอนว่าตัวเขาย่อมจะไม่คิดสนใจให้มากมาย
เวลานี้สิ่งที่เขาต้องจัดการเป็นอย่างแรงคือเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเสียคนทั้งหลายนี้มันก็ยังเป็นภัยแก่เขาไม่น้อย
เย่หยวนหรี่ตาลงกล่าวตอบไป “เจ้าคือบรรพบุรุษของเผ่าเทวา จึงเรียกตนเองว่าบรรพกาลหรือ?”
“เจ้ารู้จักเผ่าเทวา?” คนผู้นั้นได้แต่ต้องหันหน้ากลับมาอย่างตื่นตะลึง
ทางด้านจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นเองก็ต้องหันมามองที่เย่หยวนด้วยความมึนงงเพราะพวกเขาเองก็ไม่เคยจะได้ยินเรื่องของเผ่าเทวาใดๆ มาก่อน
“ข้ามิใช่แค่รู้ แต่ข้าก็ได้ต่อสู้กับพวกมันมาก่อนด้วย น่าเสียดายที่มันช่างอ่อนแอ!” เย่หยวนกล่าว
เผ่าเทวานั้นเย่หยวนย่อมจะคับแค้นไม่พอใจมันอยู่เต็มอก ย่อมจะไม่คิดไปทำตัวมีมารยาทใดๆ ด้วยทั้งสิ้น
เมื่อยอดฝีมือเผ่าเทวาได้ยินเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา “ฮ่าๆๆ… อ่อนแอ? มันเป็นครั้งแรกเลยที่มีคนกล้ามาพูดกล่าวว่าเผ่าเทวาอ่อนแอต่อหน้าบรรพกาลผู้นี้! เด็กน้อย เจ้ามันโอหังนัก! แต่ว่าก่อนจะว่าอวดใดๆ เจ้าก็ต้องคิดเสียก่อนบ้าง! เผ่าเทวาของข้านั้นหากอยู่ในระดับเดียวกันแล้ว ต่อให้มีเจ้าสิบคนมันก็ไม่มีทางสู้พวกเขาได้!”
“เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นแล้วเจ้าคิดว่ามันต้องใช้บุตรเทวะของเจ้าสักกี่คนถึงจะเอาชนะข้าได้?” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มเย้ย
ยอดฝีมือเผ่าเทวาผู้นั้นหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยิน เวลานี้เขาได้รู้แล้วว่าความรู้ที่เย่หยวนมีต่อเผ่าเทวานั้นมันไม่ธรรมดา!
อดีตที่ขมขื่นนั้นผู้คนย่อมปล่อยมันเลื่อนหายไปตามกาลเวลา คนในมหาพิภพถงเทียนที่รู้ถึงตัวตนของเผ่าเทวานั้นมันมีแค่เหล่าปีศาจเฒ่าที่ไม่ยอมตายจากยุคก่อนทั้งหลายเท่านั้น
แล้วเจ้าเด็กน้อยคนนี้มันไปรู้มาจากที่ใด?
เขาจึงได้แต่ต้องจ้องมองมาด้วยดวงตาดุร้าย “หึ! เด็กน้อย เจ้ากล้ามาลบหลู่บรรพกาลผู้นี้! ดีมาก หลังจัดการพวกมันทั้งหลายนี้ลงแล้วข้าจะไปจัดการกับเจ้าด้วยมือของข้าเอง!”
พูดจบเขาก็หันหน้าไปหาเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย “เอาล่ะ ข้าจะส่งพวกเจ้าทั้งหลายไปก่อนแล้วกัน!”
พูดจบเขาก็ปล่อยคลื่นพลังของเผ่าเทวาออกมาจากร่างกายนั้นทำให้ลายพระเจ้าบินว่อนเต็มถ้ำ
คลื่นพลังกดดันอันนี้มันทำให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต้องหน้าถอดสี
เพราะเวลานี้พวกเขาทุกคนต่างก็บาดเจ็บกันถ้วนหน้า ไม่มีโอกาสจะหลบหนีไปได้
แต่ก่อนที่จะทันได้ลงมือใดๆ กันมันก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น!
เพราะลายพระเจ้าที่ออกมาจากร่างของเผ่าเทวาผู้นั้นมันได้ไปกระตุ้นทำให้ตัวถ้ำสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง
ครืน!
เวลานี้มันได้เกิดพลังงานบ้าคลั่งหนักหน่วงพุ่งพวยขึ้นมาจากถ้ำใหญ่นี้
ภายในโพรงถ้ำอันนี้แสงเลือดใดๆ นั้นมันค่อยๆ จางหายไปแทนที่ด้วยแสงสว่างแปดสายที่ส่องขึ้นมาจากแปดทิศ
และต้นตอของแสงทั้งแปดทิศนั้นมันก็คือรูปปั้นทั้งแปดที่ถูกสลักไว้บนถ้ำนั้นเอง
ตูม!
เวลานี้รูปปั้นทั้งแปดดนั้นมันค่อยๆ ลุกกลับขึ้นมามีชีวิตพร้อมๆ กัน!
รูปปั้นทั้งแปดนั้นขยับไปพร้อมด้วยท่าทางสุดแปลกประหลาด
เวลานี้ปากของพวกมันทั้งแปดนั้นได้กล่าวท่องอะไรออกมาบางอย่างเหมือนเป็นคาถาอะไร
หลังจากนั้นมิติมันก็เกิดสั่นสะเทือนขึ้น!
แสงสีทองสว่างจ้าส่องขึ้นมาภายในถ้ำ ราวกับว่าเวลานี้ถ้ำมันได้รับแสงจากดวงอาทิตย์โดยตรงส่องสว่างในทุกซอกมุมราวกับว่าในถ้ำนี้ได้กลายเป็นเวลากลางวันไป
คลื่นแสงสีแดงเลือดใดๆ นั้นจางหายไปสิ้น เหลือไว้เพียงแค่แสงทองอร่ามนี้
พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีคลื่นพลังงานโบราณปะทุออกมาจากห้วงมิติ
สีหน้าของจักรพรรดิเทพสวรรค์เผ่าเทวานั้นเปลี่ยนสีไปทันทีที่ได้เห็น “ธนูสาบานสังหารเทพ! พวกมันทั้งหลายนั้นขนาดตายไปแล้วก็ยังวุ่นวายไม่เลิก! ยังมีหน้าจะมาวางกับดักเช่นนี้รอไว้อีก!”
เย่หยวนเงยหน้ามองที่ด้านบนอย่างตกตะลึง เพราะที่ตรงนั้นมันได้มีคันธนูและลูกศรสีทองสว่างหนึ่งปรากฏขึ้น
คลื่นพลังของธนูคันนี้มันเหนือล้ำอย่างไม่อาจวัด
เย่หยวนนั้นย่อมจะรู้จักพลังของสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ แต่ต่อให้จะเป็นโคมผีผสานระกาของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งเองก็ยังไม่อาจเทียบได้แม้แต่กับเศษฝุ่นจากธนูและลูกศรนี้
คลื่นพลังที่มันปล่อยออกมานี้ราวกับว่าเป็นพลังที่มาจากเต๋าสวรรค์โดยตรง
เหนือล้ำกว่าทุกสิ่งอย่าง!
“เครื่องรางเต๋า! มันเป็นเครื่องรางเต๋า! บ่อโลหิตนี้มีอยู่มานับแสนล้านปี ข้าไม่นึกเลยว่า… มันจะยังมีเครื่องรางเต๋าเช่นนี้ซ่อนอยู่!”
เมื่อมองเห็นธนูและลูกศรนี้ ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางก็ต้องหน้าซีดขาวลง
จากนั้นเจ้าธนูคันนั้นมันก็เริ่มง้างออก
ถ้ำใต้ดินนี้สั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง
มิติบิดเบี้ยว ตัวถ้ำทั้งหลายเริ่มถล่มลงมา
คลื่นพลังจากเจ้าธนูและลูกศรนี้มันรุนแรงจนเกินไป!
ยอดฝีมือเผ่าเทวาผู้นั้นราวกับบ้าคลั่งไปหัวเราะออกมาอย่างสุดตัว “ฮ่าๆๆ… มันคือธนูสาบานสังหารเทพและลูกศรขนจักรพรรดิไร้ขาด! แต่พวกเจ้าทั้งหลายมันจะมาทำอะไรข้าได้? ข้า เทียนเหอ นี้จะยืนรับธนูของเจ้าตรงๆ เอง!”
เทียนเหอปล่อยคลื่นพลังรุนแรงเหนือฟ้าออกมาพร้อมด้วยลายพระเจ้าที่ปกปิดฟ้าดิน
พลังที่ดูถูกฟ้าดินนั้นมันได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา
คลื่นพลังที่ออกมาจากร่างของเขานี้มันดูแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่าทางธนูสาบานสังหารเทพเลยแม้แต่น้อย!
เมื่อเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางทั้งหลายเห็นเช่นนั้นพวกเขาแต่ละคนต่างก็ต้องอ้าปากค้าง
“ช่างเป็นคลื่นพลังที่เหนือล้ำนัก! ไม่ว่าจะดูอย่างไรพลังบ่มเพาะของเขาก็อยู่แค่อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์หกดาวเท่านั้น เหตุใดจึงแข็งแกร่งได้ปานนี้? เจ้าเผ่าเทวานี้มันคืออะไรกันแน่? ทำไมข้าจึงจะไม่เคยได้ยินมันมาก่อน?”
เวลานี้แม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็ต้องเบิกตากว้าง!
เพราะเทียนเหอนั้นใช้ลายพระเจ้าออกมาได้รุนแรงกว่าหยวนเจี่ยวไปมาก!
เจ้าหมอนี่มันแข็งแกร่ง
เย่หยวนนั้นลองคิดดูแล้ว แม้ตัวเขาจะดึงเอาเทียนเหอเข้าไปต่อสู้ภายในพิภพโกลาหลมันก็ไม่แน่ว่าจะจัดการอีกฝ่ายลงได้จริงๆ
โชคยังดีที่ยอดฝีมือในยุคก่อนได้ทิ้งเรื่องมือไว้จัดการกับเทียนเหอ
ต่อให้ธนูนี้มันจะจัดการสังหารเทียนเหอลงไม่ได้แต่ก็คงทำให้ตัวเขาบาดเจ็บได้ไม่น้อย!
ในเวลานั้นเองที่ธนูสาบานสังหารเทพมันก็ถูกง้างจนสุดคัน
คลื่นพลังเปี่ยมฟ้าล้นดินพุ่งทะยานออกมาจากถ้ำนี้จนสูงล้ำเมฆบนฟ้าไป!
ในวินาทีนี้คนในมิติผีไร้แดนทั้งหมดทั้งสิ้นต่างสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังนี้
ที่ด้านนอกนั้นมันได้มีดวงดาวค่อยๆ เลื่อนคล้อยลง
ธนูนั้นถูกง้างด้วยพลังรุนแรงราวกับเป็นจันทร์ส่องสว่างฟ้า!
เป็นเวลานี้เองที่เย่หยวนได้เข้าใจว่าเหตุใดเทียนเหอจึงคิดรับมันไว้ตรงๆ
เพราะต่อให้อยากหนีมันก็ไม่มีที่จะหนีไปได้!
พลังเช่นนี้ต่อให้จะมีพลังระดับเก้า มันก็คงไม่อาจจะหลบธนูนี้พ้น!
เทียนเหอยืนหัวเราะคลั่งพร้อมกล่าวลั่น “มา!”
และราวกับว่ามันได้ยินคำท้าทายของเทียนเหอ เจ้าธนูสาบานสังหารเทพมันจึงได้ปล่อยลูกศรออกมาจากคัน!
…………….