จู่ๆ ในวินาทีนั้นคลื่นพลังบนร่างของเย่หยวนมันก็เปลี่ยนแปลงไป
ระหว่างฟ้าดินนี้มันได้เกิดคลื่นกระแสลมประหลาดพัดผ่าน
กระแสลมนี้มันค่อยๆ รุนแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
เวลานี้เสื้อผ้าบนร่างของเขานั้นมันถูกสายลมประหลาดที่ไม่มีอยู่จริงนี้พัดจนปลิวไหว
“หืม? ดาบข้า!”
“ดาบข้าเป็นอะไรไปกัน?”
“ดาบข้าด้วย!”
…
ไกลออกไปนั้นเหล่ายอดฝีมือที่หนีออกมาจากบ่อโลหิตอสุราได้ทันต่างสัมผัสได้ว่าดาบที่พกมาด้วยกำลังสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม!
แม้จะเป็นดาบทั้งหลายที่เก็บไว้ในแหวนเองต่างก็สั่นสะท้านขึ้นอย่างไม่อาจหยุดยั้งจนแทบจะหยุดออกมาสู่มิติภายนอก!
เย่หยวนนั้นยืนมั่นอยู่บนท้องฟ้าพร้อมด้วยคลื่นพลังชีวิตมากมายรายล้อมร่าง
สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันดูสง่าไม่คิดสนใจโลกหล้า เป็นท่าทางของปรมาจารย์ที่เหนือล้ำฟ้าดินของยุคสมัย
นี่มันมิใช่การแกล้งทำเป็นเหนือล้ำใดๆ ของเย่หยวนแต่มันคือสภาพจิตใจที่แท้ในเวลานี้ของเขา
ในวินาทีที่ดาบกระดูกหักคามือเย่หยวนไปนั้นเขาก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจ
ระหว่างการโจมตีที่ดุเดือดนั้น เขากลับยังใช้สมาธิส่วนมากไปกับการศึกษาเต๋า!
เต๋าโอสถและเต๋าดาบ แม้แต่เหล่าแนวคิดแห่งห้วงมิติ แนวคิดแห่งกาลเวลาและแนวคิดอื่นๆ เย่หยวนก็ล้วนแล้วแต่ศึกษามันมาอย่างมากมาย
แต่หากพูดกันถึงแค่วรยุทธการต่อสู้แล้ว พื้นฐานที่หนักแน่นที่สุดของเย่หยวนมันก็ย่อมจะยังเป็นเต๋าดาบ
แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขาเองนี้เดิมทีมันก็ถูกศึกษาด้วยเต๋าดาบ เขาจึงเริ่มที่จะเข้าถึงความลึกล้ำของแนวคิดแห่งห้วงมิติและศึกษามันมาได้
จะเรียกว่าเต๋าดาบนั้นคือเต๋าพื้นฐานของชีวิตเย่หยวนมันก็คงไม่ผิดนัก
คิดย้อนกลับไปแล้วเย่หยวนได้ศึกษาวิชาดาบท่ามกลางดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ร่วงหล่นสร้างวิชาดาบขึ้นมาด้วยตัวเอง
แม้ครั้งนั้นมันเป็นแค่การเล่นสนุก แต่เขาก็ยังสามารถเข้าใจถึงเจตจำนงแห่งดาบได้ง่ายๆ
ตั้งแต่ที่เริ่มการบ่มเพาะเส้นทางยุทธใหม่นี้เย่หยวนได้ลอยไปตามกระแสของเต๋าดาบมาเรื่อย
หลายต่อหลายปีที่ผ่านๆ มานี้เย่หยวนได้ใช้ดาบมากมายอยู่คู่กายเดินทางไปไหนมาไหนเสมอ
ดาบนั้นสังหารปีศาจอสูรได้สิ้น!
ดาบนั้นเอาชนะได้แม้แต่ตะวันจันทรา!
ดาบนั้นทำลายได้แม้กระทั่งดวงดาวบนท้องฟ้า!
แต่ทว่าในวินาทีที่ดาบกระดูกนั้นแตกสลายลง เย่หยวนกลับเริ่มเข้าใจได้ถึงสัจธรรม
เพราะเขานั้นกำลังพึ่งพาพลังจากภายนอกอยู่
หากมีดาบอยู่ในจิตใจแล้ว เหตุใดยังจะต้องใช้ดาบจากภายนอกอีกเล่า?
ดาบมีอยู่ในอกนี้ เหตุใดจึงไปจับดาบจากภายนอก ยืมพลังของผู้คน?
ดาบนั้นมันคือทุกสิ่ง ใบไม้ดอกไม้ที่ร่วงลงมาก็ยังเป็นดาบได้ ก้อนหินที่ตกอยู่ริมทางเองก็เป็นดาบ ล้วนแล้วแต่เป็นดาบสิ้น!
แม้ว่าเหล่าสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ สมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมันจะเพิ่มพูนขยายพลังของผู้ใช้ดาบได้มากมายก็ตาม
แต่สุดท้ายแล้วต้นกำเนิดของพลังนั้นมันก็มาจากผู้ที่ใช้ดาบเอง!
“ดาบ จงมา!”
เย่หยวนยื่นมือออกไปด้านหน้าทำให้เหล่าดาบทั้งหลายที่สั่นไหวนั้นไม่อาจทนได้อีกต่อไปต้องพุ่งทะยานออกมา
แต่ว่าสิ่งที่พุ่งออกมานั้นมันมิใช่ตัวดาบที่เป็นวัตถุ แต่เป็นจิตของดาบนั้น!
เย่หยวนยื่นมือออกมาดึงจิตของดาบมากมายในระยะนับสิบๆ กิโลเมตรเข้ามาหา!
ในเวลานี้ฟ้าดินทั่วทิศมันจึงมีเงาจิตของดาบปกคลุมไปทั่วราวกับอุกกาบาตที่พุ่งตกลงสู่แผ่นดิน
มันเป็นภาพที่เหนือล้ำจินตนาการไปมาก!
เหล่า ‘อุกกาบาต’ นี้สุดท้ายก็ได้พุ่งเข้ามาถึงมือของเย่หยวนและรวมกันเป็นดาบแสงเล่มหนึ่ง!
เย่หยวนรวบมือลงจับมั่นปล่อยคลื่นพลังที่ทำให้ฟ้าดินต้องสั่นไหวออกมา
เทียนเหอนั้นต้องเบิกตากว้างออกมาอย่างตื่นตะลึง “เจ้าเด็กคนนี้มันกลับบรรลุต้นกำเนิดของเต๋าดาบได้! มัน… มันเป็นข้าเองที่ทำลายสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ของมันลง! มันจึงใช้โอกาสนี้ในการบรรลุต้นกำเนิดเต๋าอย่างนั้นหรือ?”
ในวินาทีนี้เทียนเหอต้องรู้สึกสับสนอยู่ในใจ
สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์แลกกับการบรรลุต้นกำเนิดเต๋าดาบ มันย่อมเป็นการแลกเปลี่ยนที่แสนถูก
แต่ทว่าตัวเขากลับมอบโอกาสนี้ให้อีกฝ่าย
เขานั้นได่แต่ต้องยืนตื่นตะลึง ไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดเย่หยวนจึงมีความสามารถในการทำความเข้าใจได้มากมายปานนี้
เพราะเขานั้นกลับศึกษาเต๋าไปด้วยระหว่างสู้!
แต่มีหรือที่เทียนเหอจะรู้ได้ว่านี่คือวิธีปกติที่เย่หยวนใช้?
เขานั้นศึกษาเต๋าด้วยการต่อสู้แลกชีวิตในมิติบ่มเพาะมรณามาเสมอๆ
เพราะว่าวิธีที่จะออกมาจากมิติบ่มเพาะมรณาได้มันก็คือทางนั้น!
ยิ่งเวลาผ่านไปมาก ฝึกฝนจนชำนาญ การเรียนรู้ศึกษาเต๋าไปด้วยต่อสู้ไปด้วยมันจึงมิใช่เรื่องแปลกใหม่ที่ยากเย็นใดๆ กับเย่หยวนอีก
“ทุกสิ่งบนโลกหล้านี้ล้วนเป็นดาบได้สิ้น ดาบทั้งหลายบนโลกนี้รับฟังเขา! นี่… นี่มันคือต้นกำเนิดของเต๋าดาบแล้วมิใช่หรือ!”
“เจ้าเด็กคนนี้มันมีสมองกี่อันกันแน่? มันกลับผ่านเต๋าดาบแปดดาวและขึ้นสู่ต้นกำเนิดของเต๋าดาบได้เสียอย่างนั้น? นี่มันมีแต่ระดับเจ้าฟ้าดินเท่านั้นที่จะทำได้!”
“บ้าไปแล้ว! มันคือสัตว์ประหลาดโดยแท้! แนวคิดต่างๆ ที่เจ้าเด็กคนนี้บรรลุล้วนแต่เป็นสิ่งที่เหนือล้ำโลกสิ้น! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้ไม่คิดกลัวเกรงเผ่าเทวาใด! ข้าแค่ไม่แน่ใจว่าระหว่างเขานี้กับเจ้าบรรพกาลเผ่าเทวานั้นใครมันจะเก่งกว่ากัน!”
…
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างตื่นตะลึงจนแทบลืมหายใจ
พลังของเผ่าเทวานั้นพวกเขาได้รับรู้ถึงกระดูก
แต่ความเป็นสัตว์ประหลาดของเย่หยวนนี้มันกลับเหนือล้ำกว่าที่พวกเขาจะเข้าใจ
แต่ในเวลานี้พวกเขาต่างจะอยากให้เย่หยวนชนะ!
เพราะไม่ว่าจะดูอย่างไรเจ้าเผ่าเทวาผู้นี้มันก็ไม่ได้เป็นมิตร
หากทางบรรพกาลเผ่าเทวาชนะไปได้ พวกเขาทั้งหลายคงได้ตายสิ้น
จู่ๆ เทียนเหอก็หรี่ตาลงอย่างหนักแน่น “จะเป็นต้นกำเนิดเต๋าดาบแล้วทำไม? สิ่งที่บรรพกาลผู้นี้มีคือเต่าสวรรค์! เต๋าสวรรค์นั้นคือข้า มีหรือที่เต๋าดาบใดๆ มันจะมาเทียบเคียงได้? เต๋าสวรรค์ครามทอง จัดการมันเสีย!”
บนร่างของเทียนเหอนั้นมันได้ปรากฏลายพระเจ้ามากมายพุ่งพวยลงมาจากสวรรค์เบื้องบน
คลื่นพลังนี้มันรุนแรงจนทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะเทือน
ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะใด พลังแนวคิดไหนมันก็ไร้ค่าสิ้น
หากวัดกันแค่ที่พลังแล้วบรรพกาลเผ่าเทวานี้ย่อมจะเอาชนะเย่หยวนได้ขาดลอย
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตัวเขานี้ก็คือผู้มีพลังระดับเต๋าบรรพกาล!
เมื่อถูกหุ้มห่อไปด้วยพลังของเต๋าสวรรค์ตัวเทียนเหอก็ยิ่งมีพลังที่เหนือล้ำฟ้าดิน
จากนั้นเขาก็ได้ยกมือขึ้นมาวาดเป็นวงและพร้อมชี้อออกทุกเมื่อ
ทุกผู้คนต่างได้แต่คาดเดาว่าการโจมตีนี้มันคงรุนแรงมากมายปานใด
แต่ทว่าก่อนที่มันจะทันได้ชี้ออกมานั้นมันกลับมีเสียงหนึ่งดังลั่นขึ้นมาจนทำให้ทุกสิ่งอย่างหยุดชะงักลง!
“หยุด!”
ทุกสิ่งอย่างหยุดลงทันที!
เทียนเหอนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ!
ในสายตาของเขานั้นเขาย่อมจะเห็นว่าดาบของเย่หยวนมันได้ผ่าลงมาที่กลางหัวของเขา!
ฟู…
คลื่นพลังดาบนั้นมันได้ทะยานผ่านท้องฟ้าเข้ามาจนทำให้ตัวเทียนเหอต้องสั่นสะท้านขนลุกไปทั้งร่างกาย
กลิ่นของความตายนั้นมันมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
เขานั้นเดินทางไปทำศึกมาทั่วทิศนานหลายต่อหลายล้านปี มันยังไม่เคยจะมีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความตายอย่างชัดเจนเช่นนี้มาก่อน
ต่อให้จะเป็นเหล่าแปดเจ้าฟ้าดินสี่ทลายในตอนนั้นมันก็ยังไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความตายได้เช่นนี้
ดาบที่ฟันลงมานี้มันได้ฟันทำลายห้วงมิติลงสิ้น
ในวินาทีสุดท้ายนั้นมีหรือที่เทียนเหอจะยังกล้าออมมือใดๆ?
ลายพระเจ้าบนร่างของเขานั้นพุ่งพล่านขึ้นอย่างรุนแรงพยายามขัดพลังของคำบัญชาเต๋าสวรรค์จนสลายลงอย่างรวดเร็ว
เร็วกว่าเสี้ยววินาที!
เย่หยวนย่อมรู้ดีว่าเวลาชะงักมันไม่อาจจะขังคนอย่างเทียนเหอได้นานนัก แต่สิ่งที่เขาต้องการนั้นมันก็คือเวลาแค่เสี้ยววินาทีนี้เท่านั้น!
ฉัวะ!
เทียนเหอขยับหัวออกมาได้ทัน หลบดาบสังหารนี้ไปได้
แต่ตัวเขาก็ยังไม่อาจจะหลบมันจนพ้นได้ทั้งหมด
เวลานี้แขนซ้ายของตัวเทียนเหอจึงได้ถูกตัดขาดออกไปด้วยดาบนี้
คลื่นพลังรุนแรงของดาบนั้นมันได้ทำลายแขนของเขาจนสิ้นไม่เหลือแม้แต่เศษซากใด
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นดูท่าไม่พอใจอย่างมาก
“ดูท่าข้าจะยังประเมินเจ้าต่ำไป! แต่ว่าหากดาบเดียวไม่ตาย ข้าก็แค่ต้องฟันอีกดาบเท่านั้น!”
เย่หยวนไม่คิดรีรอใดๆ อีกง้างดาบขึ้นอีกครั้งทันทีพร้อมฟันมันลงทุกเมื่อ
ตัวเทียนเหอนั้นต้องเบิกตากว้างโยนบางอย่างสีเงินพุ่งออกมาพร้อมร้องลั่น “เอาข่ายเงินแก่นโลหิตของเจ้าไปเถอะ!”
พร้อมๆ กันนั้นเขาก็พุ่งตัวไปยังทิศตรงกันข้ามกับที่โยนเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตออกมา หนีหางจุกตูดไปอย่างไม่มีสภาพของยอดคนใดๆ
เย่หยวนเบิกตากว้างขึ้นพร้อมพุ่งร่างออกไปจับเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นไว้ด้วยมือที่ว่าง
แน่นอนว่าตัวเทียนเหอย่อมจะใช้โอกาสนี้หนีจนหายลับไป
เย่หยวนจับเจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตไว้และกางค่ายกลขังมันทันทีพร้อมความรู้สึกอ่อนล้าทั่วทั้งร่างกาย
เขาได้แต่ยิ้มแห้งๆ ออกมา “โชคดีที่มันกลัวหัวหดไปก่อน ข้าจะไปเอาแรงที่ไหนมาฟาดฟันดาบเช่นนั้นออกมาอีกครั้งกันเล่า?”
…………….