บนท้องฟ้านั้นมีหลายเงาร่างพุ่งตัวติดตามกันมาเป็นสาย
ในเวลาเกือบครึ่งวันนี้ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายต่างย่นลงมาจนเหลือเพียงแค่ไม่กี่หมื่นกิโลเมตรแล้ว
ระยะห่างแค่นี้มันเป็นระยะโจมตีของเจ้าฟ้าดินทั้งหลาย
เพียงแค่ว่าวิชาการเคลื่อนไหวของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้นจนทำให้ยากจะแน่ใจได้ว่าการโจมตีระยะไกลนี้จะถูกเป้าหมายหรือไม่
เมื่อคิดโจมตีแล้วพวกเขาก็ต้องหยุดตัวลงชั่วเวลาหนึ่ง หากมันไม่โดนมันก็จะยิ่งทำให้เย่หยวนหลุดหนีไปได้ไกลกว่าเก่า
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือซุ่ยหยวนและกู้หวนทั้งสองคนนั้นต่างยังคงแข่งขันกันอยู่ในใจกับเกมการล่านี้ ไม่คิดมีใครยอมใคร
เพราะเหตุนั้นพวกซุ่ยหยวนทั้งสามจึงไม่ได้คิดโจมตีออกไป
“เด็กน้อย เจ้าหนีไม่พ้นแล้ว! หยุดลงเสียแล้วส่งธนูสาบานสังหารเทพออกมา จักรพรรดิผู้นี้จะไว้ชีวิตเจ้าให้!” กู้หวนร้องบอก
“เด็กน้อย เจ้ามันมากพรสวรรค์! ตราบเท่าที่เจ้าส่งธนูสาบานสังหารเทพมาแล้วนอกจากเจ้าฟ้าดินผู้นี้จะไม่สังหารเจ้าแล้วข้ายังจะรับเจ้าเข้าเป็นศิษย์ด้วย!” ซุ่ยหยวนร้องบอกอย่างไม่คิดน้อยหน้า
คนทั้งสองนั้นได้เห็นว่าเย่หยวนยังเป็นแค่เด็กหนุ่มจึงคิดใช้คำหวานล่อหลอก
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจใดๆ
ที่ด้านข้างนั้นตัวเทียนหยานต้องยิ้มเยาะขึ้น ได้แต่ด่าคนทั้งสองในใจว่าไร้สมอง
เขานั้นรู้ได้ตั้งแต่แรกเห็นว่าเย่หยวนนั้นเป็นเด็กหนุ่มที่มีสติปัญญาเหนือคนทั่วไป
การที่เขาจะหลบรอดจากการค้นหาของสองยอดฝีมือนี้ได้ ตั้งค่ายกลซ่อนเร้นพร้อมใช้วิชาห้วงมิติเปล่าออกมาหนีอย่างไม่ลังเล มันมิใช่สิ่งที่คนหนุ่มทั่วๆ ไปจะคิดขึ้นมาได้
เด็กหนุ่มคนนี้มิใช่เพียงแค่มากพรสวรรค์แต่ยังมีสติปัญญาที่เหนือล้ำผู้คน
การที่คนทั้งสองคิดใช้คำหวานหลอกล่อเย่หยวนเช่นนี้แล้วในสายตาของเขามันคงเป็นดั่งเรื่องตลก
แต่ตัวเทียนหยานก็ไม่ได้คิดกล่าวขัดใดๆ
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเย่หยวนก็ย่อมไม่มีทางหนีพ้น
ไม่นานจากนั้นก็มีเสียงของเย่หยวนตะโกนตอบกลับมาจากด้านหน้า
“พวกเจ้าทั้งสองไม่มีสมองแล้วหรือ? เรื่องโง่ๆ เช่นนั้นอย่าได้เอามาพูดต่อหน้านายน้อยผู้นี้เลย! หากเจ้ามีปัญญาจริงก็ตามมาจับข้าให้ได้แล้วกัน!”
เมื่อคนทั้งสองได้ยินพวกเขาก็ต้องมีใบหน้าแดงก่ำขึ้น
เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังนัก!
“เด็กน้อย หลังจากเจ้าฟ้าดินผู้นี้จับตัวเจ้าได้แล้วข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ถึงชะตากรรมที่โหดร้ายยิ่งกว่าความตาย!” ซุ่ยหยวนร้อง
จากนั้นระยะห่างของทั้งสองฝ่ายก็ยังคงลดลงมาเรื่อยๆ!
ราวเจ็ดหมื่นกิโลเมตร!
หกหมื่นกิโลเมตร!
…
สองหมื่นกิโลเมตร!
หนึ่งหมื่นกิโลเมตร!
ในระยะนี้แล้วคนทั้งสองย่อมจะเล็งเป้าโจมตีได้แม่นยำพอที่จะถูกตัวเย่หยวนได้อย่างแน่นอน
“เด็กน้อย เจ้าจะไม่ได้ตายดี!” กู้หวนร้อง
พูดจบเขาก็ยกมือขึ้นมาปล่อยคลื่นพลังโจมตีทะลุมิติออกมาด้านหน้า
แต่ในวินาทีนั้นเองสีหน้าของพวกเขาทั้งสองก็ต้องเปลี่ยนสี
เพราะจู่ๆ เย่หยวนกลับหายไปต่อหน้าต่อตา!
เทียนหยานนั้นเบิกตากว้างกล่าวขึ้น “มากเล่ห์นัก! พื้นที่ด้านหน้านี้มันมีมิติบิดเบี้ยว ในที่เช่นนี้แนวคิดแห่งห้วงมิติของมันคงได้ใช้ประโยชน์ออกมาจนถึงที่สุด! ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดจู่ๆ มันก็หักทิศหันหน้าหนีมาทางนี้! ที่แท้ก็เพื่อมายังสถานที่เช่นนี้!”
เป็นตอนนั้นเองที่ซุ่ยหยวนรับรู้ถึงมันได้บ้างและกล่าวออกมาด้วยใบหน้าหนักใจ “เจ้าเด็กนรก เล่ห์เหลี่ยมจัดนัก!”
กู้หวนนั้นตอบกลับมา “หลังจากจับมันได้เจ้าฟ้าดินผู้นี้จะต้มมันทั้งเป็นให้ดู!”
ไก่ที่คาบอยู่ในปากกลับบินหลุดหนีหายไป มีหรือที่คนทั้งสองจะยังใจเย็นได้
แต่เท่านี้ระยะห่างที่เคยสิ้นลงมันก็ค่อยๆ เพิ่มกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง
ในเวลานี้พวกเขาเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลั้นใจติดตามเข้าไปภายใน
แต่เมื่อเข้ามาถึงมิติบิดเบี้ยวนี้แล้วความเร็วของพวกเขาทั้งหลายก็ตกฮวบลงอย่างมาก เวลานี้พวกเขามีความเร็วไม่ถึงเศษเสี้ยวของความเร็วก่อนหน้านี้
สำหรับคนทั้งหลายนี้มันเหมือนกับการขับรถบนทางเรียบอยู่ดีๆ ก็ต้องมาขับในขุนเขาคดเคี้ยว
มิติบิดเบี้ยวนี้มันเหมือนดั่งเขาวงกต การจะหลงเข้าไปกระแสมิตินั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ
ต่อให้จะเป็นเหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายเอง แนวคิดแห่งห้วงมิติมันก็ยังอยู่สูงเกินกว่าจะเข้าใจได้จริงๆ
ความเร็วของพวกเขาทั้งหลายในเวลานี้มันไม่อาจเทียบได้กับเทพสวรรค์ทั่วๆ ไปเสียด้วยซ้ำ
ยิ่งไม่อาจตามทันได้เช่นนี้ พวกเขาก็ยิ่งกังวลใจหนักกว่าเก่า
และยิ่งกังวล มันก็ยิ่งช้าลง
จนสุดท้ายระยะห่างของทั้งสองฝ่ายมันจึงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
“ให้ตายสิ! เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นใครมาจากไหนกัน? มันมากฝีมือปานนี้ได้อย่างไร?” ซุ่ยหยวนร้องถาม
กู้หวนนั้นยิ้มตอบ “มันมิใช่เพราะเจ้านั้นโง่เกินไปเองหรือ?”
ซุ่ยหยวนนั้นย่อมจะไม่พอใจอยากมากและร้องตะโกนกลับไป “ข้าโง่? หึๆ เจ้าพูดเหมือนตัวเองฉลาดมากนัก! ต่อให้จะเห็นต่อหน้าว่ามันหนีไป เจ้าเองก็ทำอะไรได้บ้าง?”
“เอาล่ะๆ เลิกเถียงกันเสียที! เถียงกันไปมากกว่านี้เจ้าเด็กนั่นยิ่งจะมีเวลาหนีไปไกล! มิติบิดเบี้ยวนี้มันคงถ่วงเวลาเราได้ไม่มากนักหรอก เวลานี้พวกเราเองก็ได้ทิ้งปราณเทวะไว้บนร่างของมันแล้ว ต่อให้มันจะหนีไปยังสุดขอบโลกเราก็ตามมันได้! ที่ข้ากังวลกว่าเวลานี้มันคือเป้าหมายที่เจ้าเด็กคนนี้มุ่งหน้าไปต่างหาก!” เทียนหยานกล่าว
ซุ่ยหยวนจึงตอบกลับขึ้นมา “มันจะทำอะไรได้? เราค่อยๆ ตามมันไปเถอะ! ด้วยพลังฝีมือของมันเพียงเท่านี้ ต่อให้มันจะหนีไปสุดขอบมหาพิภพถงเทียนมันก็คงไม่อาจหนีจากมือเราพ้น!”
กู้หวนหัวเราะขึ้น “หุบปากของเจ้าเสียแล้วฟังพี่เทียนหยาน!”
กู้หวนนั้นย่อมเข้าใจได้ว่าคนที่ฉลาดที่สุดในพวกเขานั้นคือเทียนหยานนี้
เทียนหยานส่ายหัวออกมา “ข้าไม่รู้หรอกว่ามันคิดจะทำอะไร แต่… หากให้ข้าเดาแล้วเจ้าเด็กคนนี้มันย่อมไม่ได้คิดหนีอย่างไร้ทิศทางแน่! ตามไปก่อน! ค่อยว่ากันว่ามันจะมุ่งหน้าไปที่ใด!”
คนทั้งสองหยุดพูดกล่าวลงก่อนจะทุ่มสุดตัวกับการฝ่ามิติคดเคี้ยวนี้ไป
หนึ่งวันต่อมาเทียนหยานก็สัมผัสได้ว่าความเร็วของจิตที่เขาฝังติดตามเย่หยวนไว้นั้นมันเพิ่มขึ้นอย่างเฉียบพลัน
“เจ้าเด็กคนนี้มันออกจากมิติบิดเบี้ยวนี้ได้แล้ว มันกำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ! ตะวันตกเฉียงเหนือ มันมีที่ใดที่จะหนีจากการติดตามของเราได้หรือ?” เทียนหยานขมวดคิ้วแน่นคิด
คำพูดนี้ของจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานมันทำให้คนทั้งสองเองก็ต้องหยุดคิดตาม
“ทางตะวันตกเฉียงเหนือมันมีสถานที่สุดอันตรายมากมาย หุบเขาไร้ลม ทะเลสายฟ้า บึงนิลวารีต่างล้วนอยู่ในทิศนั้น ข้าว่ามันคงคิดหลบในที่เช่นนี้เพื่อไม่ให้เรากล้าตามติดเข้าไปไล่จับมัน!” ซุ่ยหยวนบอก
เทียนหยานพยักหน้ารับ “มันก็เป็นไปได้! แต่ระหว่างทางนี้มันยังมีสถานที่อันตรายอยู่มากมายล้น เป้าหมายของมันคือที่ใดกันแน่?”
กู้หวนเองก็กล่าวขึ้นบ้าง “ที่อันตรายไหนๆ มันก็เหมือนกัน สุดท้ายมันต้องตาย! ข้าว่ามันคงคิดหนีเข้าไปเพราะว่าจนมุมแล้วจริงๆ!”
เทียนหยานส่ายหัวออกมา “ไม่ใช่! มันต้องมีเป้าหมายสิ! เพียงแค่ว่าเรายังคิดไม่ถึงก็เท่านั้น! เจ้าเด็กคนนี้มันน่าสนใจจริงๆ!”
ระหว่างทางมานั้นเทียนหยานได้เห็นวิธีการของเย่หยวนอย่างมากมายจนทำให้ไฟในใจของเขามันลุกโชนขึ้น
คนทั้งหลายต่างรู้ว่าเขานั้นเบิกตาที่สามได้ แต่สิ่งที่ผู้คนไม่รู้ก็คือตาที่สามนี้มันได้เบิกจิตใจของเขาขึ้นด้วย
หากจะอธิบายถึงตัวเขานี้แล้วมันคงต้องพูดถึงความละเอียดอ่อนในทุกๆ เรื่อง
หลายล้านปีมานี้ตัวเขายังไม่เคยจะพบเจอใครที่มากเล่ห์ฉลาดเท่าตนเองมาก่อน
มันเป็นเพราะแบบนั้นทำให้ไม่ว่าจะเป็นมิติวิเศษใดๆ ที่เขาไป เขาก็จะสามารถจัดการแย่งชิงสมบัติจากคู่แข่งมาได้สิ้น
แต่ระหว่างทางมานี้เย่หยวนได้วางแผนอย่างแยบยลทำให้เขาไม่อาจจะหาความได้เปรียบได้เลย
เขานั้นไม่เคยจะนึกฝันว่าเทพสวรรค์น้อยๆ คนหนึ่งกลับสร้างปัญหาให้เขาได้มากขนาดนี้
เรื่องนี้มันทำให้เขาอับอายอยู่ในใจ!
หากไม่ตามจับเย่หยวนให้ได้แล้วมันก็คงส่งผลกระทบถึงจิตเต๋าของเขาทำให้อาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นในทุกข์ทลายครั้งต่อไป
สี่วันต่อมาในที่สุดพวกซุ่ยหยวนทั้งสามก็ออกมาจากมิติบิดเบี้ยวนี้ได้ เวลาที่เสียไปนี้มันทำให้พวกซุ่ยหยวนแทบต้องคลั่ง
พื้นที่มิติบิดเบี้ยวนี้มันสุดแสนใหญ่โต พวกเขาหลงไปหลายต่อหลายครั้งกว่าที่จะหาทางออกมาได้
เวลานี้เย่หยวนย่อมจะหนีไปไกลสุดขอบฟ้าแล้ว
แต่จู่ๆ ทางเทียนหยานกลับเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง “ข้าเข้าใจแล้ว! ที่แท้เจ้าเด็กคนนี้มันคิดหนีไปยังยอดเขาแปดโมฆะ!”
………………..