จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นครึ่งหนึ่งเคยเป็นตำนานของเขาแปดโมฆะนี้
เขานั้นศึกษาเต๋าค่ายกลไปจนถึงระดับสามพันกิโลเมตร เป็นเรื่องที่ไม่เคยจะมีใครทำได้มาก่อน
แต่หลังจากผ่านระยะสามพันกิโลเมตรไปแล้ว เขากลับไม่อาจจะก้าวย่างไปต่อได้แม้แต่ก้าวเดียว
เขานั้นคิดว่านี่มันคือช่วงคอขวด
แต่แท้จริงแล้วมันเป็นเพราะว่าเขานั้นเรียนรู้ทุกสิ่งอย่างผิดมาตั้งแต่ต้น!
“เด็กน้อย จำเรื่องวันนี้ไว้เถอะ! เรื่องราวในวันนี้เจ้าฟ้าดินผู้นี้จะจดจำมันไปตลอดกาล! หลังจากข้าฟื้นฟูพลังมาได้แล้วข้าจะกลับมาทำลายเจ้าให้สิ้นซาก!”
ซุ่ยหยวนร้องลั่นก่อนจะหันไปกล่าวต่อเทียนหยาน “สหายเทียนหยาน เจ้าจะยังยืนนิ่งเพื่อการใดอีก? ยังไม่ไปคิดจะอยู่รอความตายหรือ?”
เวลานี้ตัวซุ่ยหยวนนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะตัวเขาต้องเสียค่าจ้างไปมากมายเพื่อเรียกเทียนหยานคนนี้มาช่วยงาน แต่สุดท้ายเขากลับไม่อาจทำเรื่องราวใดๆ สำเร็จได้แม้แต่น้อย
ติดตามกันมานับแสนๆ กิโลเมตร สุดท้ายกลับมาแพ้ให้แก่วิชาของเด็กน้อยเทพสวรรค์คนหนึ่ง
แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่กล้าพูดกล่าวแสดงความไม่พอใจออกมาในเวลานี้ เพราะการจะออกจากเขาแปดโมฆะนี้ไปมันยังต้องพึ่งพาความสามารถของเทียนหยานอยู่ดี
เขานั้นย่อมรู้ดีว่าเย่หยวนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดระดับใดแต่ก็ไม่คิดจะยอมปล่อยให้ความแค้นนี้ต้องจางหายไปกับสายลม
ตัวตนของเจ้าฟ้าดินนั้นยิ่งใหญ่ปานใด? แต่พวกเขาทั้งหลายนี้กลับมาแพ้ให้แก่เด็กน้อยเทพสวรรค์คนหนึ่งต่อหน้าเหล่ายอดฝีมือทั้งหลาย เรื่องนี้มันเป็นการขายหน้าจนแทบอยากตาย!
เมื่อทางเทียนหยานได้ยินเขาก็รีบรับคำด้วยความกลัว
เวลานี้เขาไม่กล้าจะอยู่บนเขานี้ต่อไปอีกแล้ว!
“ไป!” เทียนหยานสั่งบอกก่อนจะนำคนทั้งสองเดินมุ่งหน้าลงจากเขาไป
เย่หยวนได้แต่ยิ้มเย้ยออกมา “ดูท่าพวกเจ้าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์! เจ้าคิดว่าข้าจะยืมมองดูพวกเจ้าเดินจากไปทั้งๆ อย่างนี้หรือ?”
คนทั้งสามที่ได้ยินต่างขนลุกชันขึ้นไปตามๆ กันก่อนจะรีบเดินลงเขาไปด้วยความเร็วสุดตัว
แต่ภายในพลังปิดกั้นมากมายนี้พวกเขาจะเร็วได้สักเท่าใด?
เย่หยวนนั้นไม่ลังเลยิงพลังปราณเทวะมากมายออกมาในวินาทีนั้นกระตุ้นให้พลังปิดกั้นมากมายทำงานขึ้นมาใส่ตัวเจ้าฟ้าดินทั้งสาม
เทียนหยานนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายไม่กล้าจะประมาทแม้แต่น้อยรีบยกมือขึ้นมาปิดพลังงานของเย่หยวนไว้
แต่ความเข้าใจต่อค่ายกลในเขาแปดโมฆะนี้ของเย่หยวนมันเหนือล้ำกว่าเขาไปอย่างไม่อาจเทียบเคียง ตัวเทียนหยานจะปัดป้องการโจมตีนี้ได้สักเท่าใด?
ตูม!
ตูม!
ตูม!
เวลานี้ทั้งพลังของแสง น้ำแข็ง ไฟ ดาบและพลังต่างๆ มากมายต่างปะทุขึ้นมารุมล้อมคนทั้งสามไว้
คลื่นพลังทั้งหลายนี้มันส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั้งเขาทำให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต้องทรุดตัวลงอย่างหวาดกลัว
เวลานี้สามเจ้าฟ้าดินนั้นกลับไม่อาจจะต่อต้านการโจมตีของเย่หยวนได้มากมาย
ตัวเทียนหยานนั้นแทบจะต้องกระอักเลือดออกมาเพราะการป้องกันใดๆ ของเขามันแทบจะไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หยวน
แต่จะไร้ค่าอย่างไรเขาก็ยังต้องทำ
เพราะหากเขาไม่ขัดขืนแล้วพลังที่เย่หยวนปลดปล่อยออกมาได้มันจะยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าตัว
ถึงตอนนั้นเมื่อพลังปิดกั้นทุกสิ่งอย่างถูกปล่อยออกมาแล้วมันก็คงจะรุนแรงมากกว่านี้อย่างไม่อาจเทียบเคียง
แม้ว่าระยะต่ำกว่าสองพันแปดร้อยกิโลเมตรนั้นมันจะเป็นระยะที่ไม่รุนแรงเท่าระดับเจ้าฟ้าดินแต่มันก็ยังมีพลังพอจะทำลายจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้
แถมยังอาการบาดเจ็บของคนทั้งสามนั้นทำให้พลังปิดกั้นนี้ส่งผลต่อพวกเขามากขึ้นกว่าเก่า
แต่ทว่าจะอย่างไรพวกเขาก็ยังเป็นเจ้าฟ้าดิน เมื่อปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาต้านรับไว้มันก็ยังพอจะทนทานพลังปิดกั้นนั้นได้
แต่แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บของพวกเขามันจะมีแต่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เหล่ายอดฝีมือบนเขาแปดโมฆะนั้นต่างมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง เทพสวรรค์น้อยคนหนึ่งกลับไล่ล่าเจ้าฟ้าดินสามคนจนสุดล่าฟ้าดิน มันเป็นภาพที่ทั้งชีวิตนี้คงไม่ได้มีโอกาสเห็นอีก
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนี้มีใครบ้างที่มิใช่ผู้ปกครองโลกหล้า?
แต่ภายใต้พลังของเย่นหยวนนี้ พวกเขาต่างแทบไม่อาจเอาตัวรอด
ตูม!
จู่ๆ คลื่นแสงอีกลำหนึ่งมันก็พุ่งทะลวงผ่านเข้าไป
ผีจักรพรรดิเทพสวรรค์กู้หวนนั้นได้แต่ร้องลั่นก่อนจะไม่อาจทนรับอาการไหวต้องจางหายไปต่อหน้าต่อตาผู้คน
เจ้าฟ้าดินคนหนึ่งกลับตายลงไปเช่นนั้น! เขาตายลงไปในเขาแปดโมฆะต่อหน้าต่อตาทุกผู้คน!
“ข้ากลับได้มาเห็นความตายของเจ้าฟ้าดินต่อหน้าต่อตาหรือนี่!”
“มันนานแค่ไหนกันแล้วที่ไม่มีเจ้าฟ้าดินตายลง? เจ้าหนุ่มคนนี้น่ากลัวเสียจริงๆ!”
“หลังจากวันนี้ไปทั้งมหาพิภพถงเทียนคงต้องสั่นสะเทือนขึ้นแน่!”
…
เมื่อได้เห็นความตายของเจ้าฟ้าดินต่อหน้าต่อตาเช่นนั้นเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างก็ต้องถอนหายใจยาว
ยอดฝีมือในระดับนี้ต่างล้วนเป็นผู้ปกครองฟ้าดิน ตัวตนที่เป็นสัญลักษณ์ของความไร้เทียมทาน!
สิ่งเดียวที่จะสังหารพวกเขาลงได้นั้นมันคงมีแต่ทุกข์ทลายเท่านั้น
หรืออย่างน้อยๆ หากจะตายก็ต้องตายลงด้วยมือของเหล่าเจ้าฟ้าดินด้วยกันเอง
แต่ผีจักรพรรดิเทพสวรรค์กู้หวนกลับตายลงด้วยน้ำมือของเทพสวรรค์น้อยคนหนึ่ง
เดิมทีกู้หวนนั้นก็เป็นผีเต๋ามาแต่แรก แน่นแนว่าเขาย่อมจะบ่มเพาะร่างกายวิญญาณมาอย่างหนักหน่วง
แต่ไม่ว่าจะบ่มเพาะมากมายปานใดสุดท้ายจุดอ่อนก็ยังเป็นจุดอ่อน ร่างกายของเขานั้นยังคงเป็นร่างกายฐานอย่างที่ไร้ตัวตนจริง
แท้จริงหากบ่มเพาะมาจนถึงระดับของผีจักรพรรดิกู้หวนนี้ แนวคิดแห่งแสงที่จะทำอันตรายเขาได้มันก็เหลืออยู่แค่ไม่กี่อย่าง
แต่สถานที่แห่งนี้มันคือสุดยอดของเต๋าค่ายกล มันคือเขาแปดโมฆะ!
พลังของค่ายกลในที่แห่งนี้มันไม่มีที่ไหนในโลกหล้าจะเทียบเคียงได้
เมื่อถูกพลังของแสงนั้นโจมตีเข้าต่อเนื่อง สุดท้ายมีหรือที่จะรอดจากความตายได้?
แต่เป็นอีกสองคนต่างหากที่ทนทานได้มากกว่าตัวเขานัก
แต่เวลานี้พวกเขาเองก็อ่อนแอลงอย่างมากเช่นกัน
“ไม่ได้การ! เป็นเช่นนี้ต่อไปข้าเองก็คงตายลงด้วย! ซุ่ยหยวนเจ้าโง่นี่ มันไปสร้างศัตรูระดับนี้มาจากที่ไหนกัน? ข้าถูกมันหลอกใช้หนักหนาแล้ว! เวลานี้พามันไปด้วยก็มีแต่เป็นภาระ ข้าทนรับต่อไม่ไหวแล้ว!”
เทียนหยานนั้นกังวลเป็นอย่างมาก เดิมทีการพาคนทั้งสองมาด้วยนี้เพราะเขามั่นใจว่าจะจัดการเย่หยวนได้
แต่เวลานี้เขากลับถูกรุมล้อมโจมตีจากรอบทิศจนแทบไม่อาจทนรับได้อีกต่อไป
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ได้เขาก็ไม่ลังเลและร้องบอก “ตาสวรรค์จงเบิกขึ้น!”
ตัวซุ่ยหยวนที่ด้านข้างนั้นไม่ทันระวัง เขารู้สึกเหมือนจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนนั้นถูกค้อนหนักทุบเข้าจนแทบสิ้นสติ
“เทียนหยาน เจ้า!”
เขานั้นมีเวลาแค่นั้นก่อนที่จะถูกเทียนหยานส่งตัวออกจากระยะป้องกันไปด้วยฝ่ามือ
จากนั้นมันก็เกิดคลื่นพลังปิดกั้นนับไม่ถ้วนปะทุขึ้นใส่ร่างของเขา
เดิมทีตัวซุ่ยหยวนเองก็บาดเจ็บอย่างมาก เวลานี้ยังมาโดนลอบโจมตีจิตศักดิ์สิทธิ์ มีหรือที่จะยังทนรับการโจมตีของพลังปิดกั้นรอบๆ ได้อีก?
เมื่อไม่มีการป้องปกจากเทียนหยานแล้ว ตัวเขาก็ย่อมจะเหยียบเข้าถูกพลังปิดกั้นทั้งหลายจนทำให้เกิดคลื่นพลังทลายฟ้าดินปะทุขึ้น
ภายในอึดใจเดียวพลังปิดกั้นมากมายก็ได้สับร่างของเขานั้นให้แหลกเหลว!
เจ้าฟ้าดินอีกคนหนึ่งตายลง!
เพียงแค่ว่าซุ่ยหยวนนั้นไม่ได้ตายเพราะเย่หยวนแต่ตายด้วยน้ำมือของเทียนหยานเอง
โลกของนักยุทธมันโหดร้ายเพื่อพบเจอภัยจริงๆ แล้วเทียนหยานก็ย่อมไม่ลังเลที่จะคิดเอาตัวรอดไปคนเดียว
“ซี๊ด… โหดร้ายนัก!”
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นพวกขเต่างล้วนต้องสูดหายใจเข้าลึก
เมื่อไม่มีคนทั้งสองมาถ่วงความเร็วของจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานจึงเพิ่มพูนขึ้นอย่างมากล้ำ
ในหมู่คนทั้งสามนั้นตัวเขาย่อมจะบาดเจ็บน้อยที่สุด
เทียนหยานนั้นเป็นเจ้าฟ้าดินผู้ชำนาญเต๋าค่ายกล ความสามารถของเขานี้มันสูงล้ำจนเกินจะคาดเดาทำลายพลังของค่ายกลปิดกั้นมากมายไปได้
เวลานี้เมื่อไม่มีตัวถ่วงทั้งสองความเร็วการหนีของเขามันก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เย่หยวนที่เห็นต้องทำหน้าหนักใจ สุดท้ายเขาก็ยังประเมินอีกฝ่ายต่ำจนเกินไป
ยิ่งลงไปมากพลังของค่ายกลปิดกั้นมันก็ยิ่งอ่อนแอจนไม่อาจจะสร้างความเสียหายให้แก่จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานได้มากมายอีก
ตราบเท่าที่เขาผ่านระยะสองพันกิโลเมตรลงไปได้ มันจะยิ่งเป็นการยากหากเย่หยวนต้องการจะทำอะไรต่อตัวเขาอีก
ในหมู่คนทั้งสามนั้นผู้ที่เป็นปัญหาที่สุดย่อมจะเป็นเทียนหยาน เย่หยวนย่อมไม่อยากจะปล่อยอีกฝ่ายให้หนีไปง่ายๆ
ต่อให้จะฆ่าไม่ลงแต่ก็ต้องเอาให้เจ็บหนัก จะได้ไม่อาจฟื้นฟูพลังกลับมาได้ในเวลาสั้นๆ
ไม่เช่นนั้นแล้วหากถูกเจ้าฟ้าดินหมายหัว ชีวิตของเย่หยวนมันคงลำบากเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
คนทั้งสองนี้หนึ่งหนีหนึ่งไล่จนมาถึงตีนเขาในที่สุด
“เด็กน้อย มีปัญญาก็ซ่อนอยู่ในเขาแปดโมฆะไปทั้งชีวิตเถอะ! ตราบเท่าที่เจ้าออกจากเขาแปดโมฆะมาเจ้าฟ้าดินผู้นี้จะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้นๆ ให้ดู!”
เมื่อออกมาจากเขาแปดโมฆะได้ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานก็พุ่งตัวหนีหายไปทันที
แต่ก่อนจะไปเขาก็ยังทิ้งคำขู่เอาไว้อย่างหนักแน่น
เย่หยวนหรี่ตาลงหันไปมองเจียงซือ “ผู้อาวุโส ข้าขอยืมธนู!”
……………..