ได้เห็นเช่นนั้นตัวเย่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างออกมา
“ต่อให้มันจะขยายออกไปอีกนับร้อยเท่ามันก็คงไม่อาจเทียบเคียงกับมหาพิภพถงเทียนได้แม้แต่เสี้ยว!”
เวลานี้โลกภายในของเย่หยวนนั้นมันมีคุณภาพไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่ามหาพิภพถงเทียนเลย
เพียงแค่ว่าหากดูกันที่ขนาดแล้วมันยังคงไม่อาจเทียบเคียงกันได้
เทียบกับมหาพิภพถงเทียนแล้วโลกภายในของเย่หยวนนี้มันคงเรียกได้ว่ามีขนาดเพียงฝ่ามือ
แต่เย่หยวนก็ไม่ได้คิดกังวลใดๆ
เพราะมหาพิภพถงเทียนนั้นมันเป็นโลกที่สมบูรณ์แต่โลกของเขานี้ยังมีช่องให้พัฒนาไปในทางต่างๆ อีกมากมาย
เขานั้นเชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาจะสามารถสร้างโลกที่เทียบเคียงกับมหาพิภพถงเทียนได้จริงๆ
“ข้าเพิ่งจะบรรลุขึ้นอาณาจักรมหาพิภพมาได้แท้ๆ แต่หากวัดกันแค่ที่ความหนาแน่นของปราณเทวะแล้วตัวข้าคงไม่ด้อยไปกว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวขั้นสุดเลย! ผสานกับพลังของเวลาชะงักและทักษะเทวะภายในอื่นๆ ข้าคงสามารถรับมือได้แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์สามดาวทั้งหลาย!”
บรรลุขึ้นมาครั้งนี้ตัวเขานั้นพัฒนาพลังขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ตอนที่เขายังอยู่อาณาจักรพิภพโกลาหลขั้นสุดนั้นเขาสามารถจัดการสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวลงได้
เวลานี้เมื่อบรรลุอาณาจักรขึ้นมาได้การจะเทียบเคียงกับจักรพรรดิเทพสวรรค์สามดาวได้มันจึงมิใช่เรื่องแปลกใดๆ
แต่จู่ๆ วินาทีถัดมาสีหน้าของเย่หยวนก็ต้องเปลี่ยนสีไป “ให้ตายสิ! มาจนได้!”
เวลานี้ทุกขจุติระดับแปดมันได้เริ่มขึ้นแล้ว!
ร่างกายของเย่หยวนทุกส่วนนั้นเหี่ยวย่นลงไปในพริบตา
ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังสัมผัสได้ว่าทุกขจุติในครั้งนี้มันไม่อาจจะขัดขืนหยุดยั้งไว้ได้เลย!
เย่หยวนหรี่ตาลงพร้อมหัวเราะลั่น “ขัดไม่ได้แล้วจะทำไมเล่า? ข้านั้นมีมหาพิภพทั้งโลกอยู่กับตัว มีหรือจะไม่อาจก้าวผ่านทุกขจุติน้อยๆ นี้ไปได้? พลังแห่งฟ้าดินเอ๋ย จงมาสถิตอยู่ในตัวข้า!”
เย่หยวนนั้นทำการผสานร่างกายเนื้อของเขานั้นเข้ากับมหาพิภพทั้งใบ ดึงพลังของมันออกมาอย่างไม่สิ้นสุด
นั่นทำให้ร่างกายที่แห้งเหี่ยวค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา!
แต่ทว่าจะอย่างไรความเร็วของทุกขจุติระดับแปดนี้มันก็เหนือล้ำ ต่อให้เย่หยวนจะดึงพลังจากมหาพิภพของตนออกมาได้แต่เขาก็ทำได้แค่ยับยั้งไม่ให้ร่างกายเหือดแห้งลงเท่านั้น
แต่จะอย่างไรมหาพิภพของเย่หยวนนี้มันก็ยังสามารถดึงพลังงานฟ้าดินจากภายนอกเข้ามาเติมเต็มพลังที่สูญเสียไป เวลานี้มันจึงเหมือนกับว่าเย่หยวนนั้นมีเขาแห่งถงเทียนทั้งหมดคอยช่วยเหลือส่งพลังงานให้เขาผ่านทุกขจุติครั้งนี้ไป
เพราะไม่ว่าทุกขจุตินี้มันจะหนักหนาทรมานปานใด มันก็คงไม่อาจจะเหนือล้ำไปกว่าเขาแห่งถงเทียนได้แน่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใดแต่สุดท้ายแล้วทุกขจุติระดับแปดนี้มันก็ได้จบลง
ความเร็วในการฟื้นฟูของเย่หยวนนั้นกลับมาเหนือล้ำกว่าการเหือดแห้งอีกครั้ง
เวลานี้กายเนื้อของเขาจึงได้ฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์
เมื่อผ่านทุกขจุตินั้นมาได้แล้วเย่หยวนก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ
“ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดมันถึงไม่มีใครคิดบ่มเพาะกายทองคำเก้าอหัตถ์สัมบูรณ์ แค่ทุกขจุติของระดับแปดนี้มันก็นับเป็นความตายอย่างแน่นอนสำหรับคนทั่วไปแล้ว แม้มหาพิภพของข้าจะแข็งแกร่งปานใดมันก็ยังแทบไม่อาจตอบรับพลังของทุกขจุตินี้ได้ หากเป็นคนทั่วๆ ไปที่มีเพียงแค่โลกใบน้อยแล้วพวกเขาคงได้ตายลงนับสิบๆ ครั้งแน่!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวจับใจ
แต่ยิ่งอันตรายเท่าใดมันก็จะยิ่งมากผลประโยชน์เท่านั้น
เวลานี้ร่างกายของเย่หยวนมันได้พลังที่มากพอจะเทียบเคียงกับสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้
แค่หมัดเปล่าๆ ของเขานั้นมันก็พอที่จะสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวลงได้!
…
เมื่อม่านพลังฟ้าดินนั้นจางหายไปคนทั้งหลายก็ได้เห็นถึงตัวเย่หยวนที่เป็นศูนย์กลาง
“ที่แท้มันเป็นแค่เด็กน้อยจักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาว! เด็กน้อย เจ้าทำเรื่องราวเช่นนี้คงเตรียมตัวรับผลแล้วใช่หรือไม่?”
“เจ้าเด็กไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หากวันนี้เจ้าไม่บอกอธิบายให้จักรพรรดิผู้นี้ฟังแล้วจักรพรรดิผู้นี้จะทำให้เจ้าต้องเสียใจที่ได้เกิดขึ้นมาบนโลกหล้า!”
“เด็กน้อย เจ้าทำให้เทพทั้งหลายในที่นี้โกรธเคืองสิ้นแล้ว! เจ้ารู้ใช่ไหมว่าเวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายบนเขาต่างไม่พอใจเจ้าสิ้น?”
…
เมื่อเย่หยวนปรากฏตัวขึ้นมาเหล่าคนทั้งหลายก็ต่างร้องลั่นออก
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์มากมายนั้นกำลังล้อมหน้าล้อมหลังเย่หยวนไว้ด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
เย่หยวนเองก็ได้แต่หันมองอย่างไม่เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องราวใดขึ้นกันแน่
ภายในกลุ่มคนนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงเป็นคนแรกที่ก้าวออกมาชี้หน้าว่าเย่หยวน “เด็กน้อย จักรพรรดิผู้นี้จดจำหน้าเจ้าได้แล้ว! เจ้ารอดูเถอะ ออกไปจากเขาแห่งถงเทียนเมื่อใดจักรพรรดิผู้นี้จะไล่ล่าเจ้าไปให้สุดโลกา!”
เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงกล่าวนำขึ้นมาเช่นนี้คนทั้งหลายเองก็ได้แต่ต้องเงียบปากลงพร้อมหันมองตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงด้วยสายตาสงสาร
เจ้าหมอนี่มันอับโชคจริง!
อุตส่าห์ดิ้นรนจนหาทางขึ้นผ่านอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวได้แล้วแต่กลับถูกเย่หยวนนี้มาแย่งชิงเอาพลังวิญญาณไปสิ้นทำให้ไม่อาจจะบรรลุใดๆ ได้
ไม่รู้ว่าโอกาสเช่นนี้มันจะมีมาอีกหรือไม่
“ใช่ ฆ่ามัน! ไม่ฆ่ามันแล้วเฒ่าคนนี้จะทนรับได้อย่างไร!”
“ฆ่ามัน!”
“ฆ่าเลย!”
…
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะหน้าไปอย่างมึนงง “ผู้อาวุโสทั้งหลาย ข้าไปทำอะไรให้หรือ? จำเป็นต้องลงมือกันถึงขั้นนั้น?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นกระทืบเท้าลงอย่างโกรธเคือง “เจ้าทำอะไรให้ข้า? เจ้าถามว่าเจ้าทำอะไรให้ข้า?! เจ้าลบหลู่ข้าแล้ว!”
แท้จริงแล้วเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายบนเขาเองต่างก็พยายามขัดขืนกันสิ้น
เมื่อเย่หยวนดูพลังงานวิญญาณไปนั้นพวกเขาทั้งหลายเองก็พยายามจะดึงดูดพลังนั้นกลับมา
เพียงแค่ว่าไม่ว่าพวกเขาจะมีพลังบ่มเพาะกันมากมายปานใด มันก็ไม่อาจจะเอาชนะเย่หยวนได้เลย!
ตัวเย่หยวนนั้นเหมือนหลุมดำที่ดูดกลืนพลังฟ้าดินลงไปสิ้นอย่างบ้าคลั่ง
ไม่ว่าพวกเขาทั้งหลายจะพยายามสักเท่าใด มันก็เปล่าประโยชน์
เย่หยวนเองก็ได้แต่ทำน้าเหยเกก่อนจะยิ้มตอบกลับมา “ในเมื่อพวกท่านอยากสังหารข้าแล้ว ข้าก็คงไม่อาจจะปล่อยพวกท่านลงเขาแห่งถงเทียนไปได้!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “ไม่คิดปล่อยเราลง…”
ปัง!
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงยังกล่าวไม่จบคำใบหน้าของเขาก็ต้องถูกเย่หยวนตบเข้าจนหัน
ปัง!
ปัง!
ปัง!
…
คลื่นพลังบนกายของเย่หยวนนั้นพุ่งทะยานล้ำตบตีเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายจนฟ้าถล่มดินทลาย
ไม่ว่าพวกเขาทั้งหลายจะเก่งกาจปานใดพวกเขาก็ไม่อาจจะทนรับฝ่ามือหนักหน่วงนี้ของเย่หยวนได้
“อ่า! ทำไมเล่า! ทำไมเขาแห่งถงเทียนถึงไม่ลงโทษมันเล่า?”
“เขาแห่งถงเทียน เบิกตาดูมันสิ จัดการมันสิ!”
“ให้ตายสิ! ทำไมเขาแห่งถงเทียนถึงไม่แสดงท่าทีใดๆ ตอบกลับมาเลย?”
…
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องร้องลั่นแต่ทางเขาแห่งถงเทียนก็ยังสงบนิ่งไร้ท่าทีใดๆ
ไม่นานจากนั้นเหล่ายอดคนแห่งฟ้าดินทั้งหลายก็ต้องร่วงลงไปนอนกองกับพื้นดิน
พวกเขานั้นไม่กล้าจะต่อต้านขัดขืน ได้แต่ต้องทนรับฝ่ามือทั้งหลายนั้นไว้
เย่หยวนเองก็ไม่ได้ถึงขั้นคิดฆ่าสังหารแต่ก็ตบตีพวกเขาจนต้องร้องไห้หาพ่อแม่
กายทองคำสัมบูรณ์ระดับแปดนั้นมันมิใช่เรื่องที่จะล้อเล่นได้เลย!
เย่หยวนจับเส้นผมของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงพร้อมทุบหน้าเขาลงกับพื้นก่อนจะถาม “ยังจะสังหารข้าหรือไม่?”
“ฆ่า! การปิดทางบรรลุผู้คนนั้นมันเหมือนดั่งสังหารพ่อแม่! เจ้ามีปัญญาก็สังหารข้าเสีย! ไม่เช่นนั้นแล้วจักรพรรดิผู้นี้จะหาทางจัดการสังหารเจ้าลงให้จงได้!”
ปัง!
“ยังจะสังหารหรือไม่?”
“สังหาร!”
ปัง!
“ยังจะสังหารหรือไม่?”
“ไม่ฆ่าสังหารแล้ว! ไม่คิดสังหารใดๆ แล้ว! เจ้า… เลิกทุบตีข้าเถอะ!”
เย่หยวนปล่อยมือจากผมของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงก่อนจะถอนหายใจยาว “หากกล่าวออกมาตั้งแต่ต้นก็ไม่ต้องเจ็บตัวแล้วใช่หรือไม่เล่า? สาบานต่อเต๋าสวรรค์เสีย!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นมีใบหน้าท่าทางเหมือนเด็กที่พ่อแม่เพิ่งตายจากไป ภายใต้ท่าทางอันโอหังล้ำของเย่หยวนนี้เขามีแต่ต้องสาบานกล่าวต่อเต๋าสวรรค์
เย่หยวนนั้นไม่สังหารแต่จะทรมานคนทั้งหลายอย่างเจ็บปวดสาหัสและให้พวกเขายอมที่จะสาบานต่อเต๋าสวรรค์จนสิ้น
หลังจากจบเรื่องราวได้แล้วเย่หยวนก็ค่อยถอนหายใจยาว
การถูกจักรพรรดิเทพสวรรค์มากมายตามล่าหัวนั้นมันคงมิใช่เรื่องสนุกสักเท่าใด
หลังทุกผู้คนสาบานต่อเต๋าสวรรรค์ได้แล้วเย่หยวนก็เดินมาหยุดลงที่ด้านหน้าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงก่อนจะตบบ่าของเขา
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นสะดุ้งไปทั้งตัวจนต้องร้องกล่าวออกมา “ข้า… ข้าได้สาบานต่อเต๋าสวรรค์ไปแล้ว!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “พี่ชาย จะอย่างไรเรื่องวันนี้ข้าก็เป็นคนเริ่มก่อน เพื่อจะชดเชยให้แก่ท่านแล้ว เย่ผู้นี้จะช่วยหลอมโอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอมให้ท่านฟรีๆ เลย!”
……………….