เย่หยวนนั้นอยู่บนเขาขนนกต่อไปอีกหลายวันเพื่อทบทวนวิเคราะห์เรื่องราวที่ได้ถกไป
การถกความรู้กับยอดคนอย่างมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นมันย่อมจะทำให้เกิดความเหนื่อยอ่อนอย่างมาก
แม้ว่าจะเก่งกาจระดับเย่หยวนนี้มันก็ยังต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะวิเคราะห์เรื่องราวทั้งหลายจนแตกฉานเป็นความรู้
หลังจากจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงเข้ามาถึงอาณาจักรหทัยเมฆานี้เขาก็ได้พาตัวเฒ่าขี้เมาออกเดินทางไปซื้อหาสมุนไพรวิญญาณที่เมืองหทัยเมฆา
เมืองหทัยเมฆานั้นคือสถานที่จัดงานหลักของงานประชุมโอสถสหภูมิภาคสมุนไพรที่หลั่งไหลเข้ามานี้มันก็มากมายจนเกินกว่าจะนับ
แต่จะอย่างไรนสมุนไพรวิญญาณระดับแปดนั้นมันมิใช่สิ่งที่หาได้ง่ายดายนัก แม้จะเป็นในงานประชุมโอสถสหภูมิภาคนี้มันก็ไม่อาจจะหาซื้อได้ง่ายๆ
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือสมุนไพรที่ใช้ในการหลอมโอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอมนั้นมันอยู่ในระดับที่หายาก หากคิดอยากหาซื้อมันให้ครบนั้นคงต้องลำบากไม่น้อย
เฒ่าขี้เมานั้นมาถึงยังที่แห่งนี้ย่อมจะอยากสัมผัสว่ามันเป็นอย่างไรและเดินทางออกไปกับจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงเพื่อดูเมือง
ครึ่งเดือนจากนั้นเย่หยวนก็ออกมาจากการเก็บตัวบ่มเพาะและได้เข้าใจยอดเต๋าต้นกำเนิดมากขึ้นกว่าเก่ามาก
แต่จะอย่างไรเรื่องที่ได้ยินได้รู้ในครั้งนี้มันก็ลึกล้ำอย่างมาก ยังมีอีกหลายเรื่องที่เย่หยวนในเวลานี้ไม่อาจเข้าใจได้ถ่องแท้และต้องใช้เวลาค่อยๆ ทำความเข้าใจไประหว่างการเดินทาง
การถกเต๋าในครั้งนี้มันได้ทำให้ตัวเย่หยวนเข้าใจถึงความเก่งกาจของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลและโอสถบรรพกาลอย่างแท้จริง
กำลังความสามารถของพวกเขานี้คงนับได้ว่าเป็นขุนเขายิ่งใหญ่จริงๆ
“เย่หยวน ผู้อาวุโสเจิ้งหมิงและเฒ่าขี้เมาออกไปกว่าเดือนแล้วแต่ยังไม่กลับมาเลย มันคงไม่ได้เกิดเรื่องใดใช่หรือไม่?” ไป่หลี่ชิงหยานกล่าวขึ้น
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่น “ยังไม่กลับมา? มันคงมีเรื่องแน่แล้ว! แต่เจ้าวางใจเถอะ จะอย่างไรคนทั้งหลายก็รู้ว่าทั้งเจิ้งหมิงและเฒ่าขี้เมานั้นเป็นคนของเรา พวกนั้นคงไม่เล่นงานกันถึงตาย”
เสียงของเย่หยวนยังกล่าวไม่ทันจบมันก็เกิดเสียงหนึ่งร้องเรียกขึ้นที่ด้านนอก
“ฉางตงแห่งอาณาจักรยอดมลานขอเข้าพบรองมหาปราชญ์!”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ยิ้มออกมา “เห็นไหมเล่าพูดยังไม่ทันขาดคำ? ข้าว่ามันคงมีคนเหงาคิดอยากท้าทายข้าแหละ”
ไป่หลี่ชิงหยานเบิกตากว้างขึ้นอย่างภาคภูมิ
ชายที่นางรักนั้นได้กลายเป็นตัวตนระดับสุดยอดของมหาพิภพถงเทียนไปแล้ว!
เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉางตงได้เห็นเย่หยวนเขาก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา
เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่ารองมหาปราชญ์ที่สร้างชื่อสนั่นโลกานั้นมันจะเป็นแค่เด็กหนุ่มขนาดนี้
แต่ไม่นานจิตใจของเขาก็สงบลง
หากเป็นเด็กหนุ่มแค่นี้ มีหรือที่จะเก่งกาจไปกว่านายน้อยของเขาได้?
ดูเหมือนว่าเรื่องราวของรองมหาปราชญ์ที่ได้ยินมามันจะเป็นการพูดกันเกินจริงเสียแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ความเลื่อมใสใดๆ ต่อรองมหาปราชญ์ของเขาก็เสื่อมลง
“มาหาข้ามีธุระใด?” เย่หยวนถาม
ฉางตงยืนเขามือไขว่หลังกล่าวออกมา “ฉางตงนั้นมาเพื่อส่งข้อความแทนนายน้อย นายน้อยของข้านั้นคือศิษย์ของจักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนแห่งอาณาจักรยอดมลาน ท่านจ้าวซีซวน ข้าว่าท่านรองมหาปราชญ์ก็คงเคยได้ยินนามนั้นมาบ้าง”
เย่หยวนเลิกคิ้วขึ้นตอบ “ขอโทษด้วย ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน อ่า… จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนแห่งอาณาจักรยอดมลานนี้โด่งดังมาก?”
ฉางตงยืนนิ่งไปพีกหนึ่งก่อนจะร้องขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “อาณาจักรยอดมลานของเรานั้นคือยอดแดนศักดิ์สิทธิ์การโอสถแห่งมหาพิภพถงเทียน เจ้ากลับมาบอกว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน?! ที่พูดมานี้คงคิดท้าทายอาณาจักรยอดมลานแล้ว!”
เย่หยวนผายมือตอบกลับมา “ไม่เคยได้ยินก็ไม่เคยได้ยิน เจ้าจะให้ข้าทำท่าเหมือนเคยได้ยินมาก่อนหรือ?”
เขานั้นย่อมจะไม่เคยได้ยินเรื่องของอาณาจักรยอดมลานใดๆ เพราะแม้แต่อาณาจักรหทัยเมฆานี้เองตัวเย่หยวนก็เพิ่งจะเคยได้ยินถึงมาก่อนนี้ไม่นาน
ส่วนเรื่องจักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนใดๆ นั้น เขาย่อมจะไม่เคยได้ยินถึง
ตั้งแต่ที่ขึ้นมหาพิภพถงเทียนมานี้ความเข้าใจต่อโลกการโอสถของเย่หยวนมันมีแค่ตัวโอสถบรรพกาลและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเท่านั้น
เขาย่อมจะไม่ได้สนใจไปถามหาว่าใครคือเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถทั้งหลาย
ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉางตงกัดฟันแน่นด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ดีมาก! คำพูดของรองมหาปราชญ์นี้ฉางตงจะนำกลับไปบอกท่านอี้เซียนให้รู้!”
เย่หยวนยักไหล่ตอบกลับไป “ก็ตามใจเจ้าสิ แล้วเจ้ามาหาข้ามีธุระใด?”
ฉางตงกล่าวขึ้นพร้อมกัดฟัน “ผู้ติดตามทั้งสองของรองมหาปราชญ์นั้นได้ไปล่วงเกินนายน้อยของข้าเข้าและถูกเราจับตัวไว้! หากรองมหาปราชญ์คิดอยากได้ตัวพวกเขากลับไปก็จงเดินทางไปยังเมืองหทัยเมฆากับข้า!”
ฉางตงนั้นคิดว่าเย่หยวนที่ได้ยินย่อมจะไม่พอใจร้องลั่นกล่าวด่าเขา แต่เย่หยวนกลับตอบมาด้วยคำพูดสั้นๆ “อ่า งั้นก็ไปเถอะ”
พูดจบเขาก็เดินนำออกประตูไป
ฉางตงได้แต่ยืนมึน ที่แท้เรื่องราวใดๆ ที่เขาเตรียมการไว้นั้นมันไร้ประโยชน์สิ้น
เย่หยวนนั้นจะอย่างไรก็เป็นถึงรองมหาปราชญ์แห่งวิหารนักบวช ตัวตนที่เป็นอันดับสองของวิหารนักบวช ย่อมจะมีตำแหน่งสูงล้ำ
หากเขาคิดจะหาเรื่องท้าทายเย่หยวน เขาย่อมจะต้องเตรียมการไว้มากมาย
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเขายังไม่ทันได้ทำอะไร ตัวเย่หยวนก็เดินออกไปอย่างไม่ต้องรอตัวเขา เรื่องราวที่เขาเตรียมการมาทั้งหมดนั้นมันสูญเปล่า
ไม่นานฉางตงนั้นก็กลับมาตั้งสติได้และเดินตามเย่หยวนออกมาภายนอก
… .
“เจ้าตาถั่ว! สมุนไพรวิญญาณของเรานี้เจ้าก็กล้าจะมาแย่งชิงไป? ตีมัน! ตีมันให้ข้าดู! เจ้าขี้ข้าชั้นต่ำ ไม่ตีเจ้าแล้วเจ้าจะไม่ได้รู้ว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียที!” จ้าวซีซวนกล่าว
ที่ด้านข้างนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งก็ได้กล่าวขึ้นตาม “หึๆ พี่ซีซวน ท่านจะไปโกรธขี้ข้ามันทำไม? หลังจากนายมันมาแล้วท่านค่อยถามหาความยุติธรรมก็ยังไม่สาย”
จากนั้นเด็กหนุ่มอีกคนก็กล่าวขึ้น “ไม่นึกเลยว่านามของรองมหาปราชญ์นั้นลือลั่นแต่กลับไม่อาจจะสั่งสอนลูกน้องได้เช่นนี้! น่าอับอายนัก!”
…
ภายในเมืองที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายนี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงและเฒ่าขี้เมานั้นกำลังถูกแขวนห้อยหัวลงพร้อมรอยแส้ที่ฟาดลงทั่วร่าง
เมื่อเย่หยวนได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่น
คนทั้งสองนี้ย่อมจะไม่มีอันตรายใดๆ ถึงชีวิตแต่การทำเช่นนี้มันก็เหมือนการตบหน้าเขาเข้าอย่างจัง
แม้ว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นจะเก่งกาจมากมายแต่มีหรือที่เขาจะเทียบเคียงกับกำลังของอาณาจักรยอดมลานที่มีจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวไม่ขาดมือแบบนี้?
จักรพรรดิเทพสวรรค์ฉางตงผู้นั้นเองก็เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ก้าวดาวคนหนึ่งเช่นกัน
ฉางตงเดินมาก้มหัวลงรายงานต่อจ้าวซีซวน “นายน้อย รองมหาปราชญ์มาถึงแล้ว”
ชายหนุ่มทั้งหลายนั้นจึงได้หันมามองดูที่เย่หยวนตามๆ กัน เมื่อได้เห็นหน้าตาเด็กน้อยของเย่หยวนแล้วคนทั้งหลายก็ยิ่งดูถูกสุดใจ
“นี่หรือคือรองมหาปราชญ์ผู้มีชื่อลือลั่น? หึๆ ลูกน้องทั้งสองของท่านนี้มันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงดอกทานตะวันสวรรค์ที่นายน้อยผู้นี้ซื้อมาได้แล้วแต่พวกมันกลับหวังแย่งชิงไป! นายน้อยผู้นี้ไม่คิดมอบให้แต่มันก็เริ่มด่าว่า เมื่อไม่มีทางเลือกนายน้อยผู้นี้จึงต้องช่วยท่านสั่งสอนพวกมันให้” จ้าวซีซวนมองดูเย่หยวนพร้อมหัวเราะ
เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงเห็นเย่หยวนเขาก็มีสีหน้าละอาย
ดอกทานตะวันสวรรค์นั้นมันคือสมุนไพรหลักในการหลอมโอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอม เขานั้นเดินตามหาไปทั่วทั้งอาณาจักรยอดมลานกว่าที่จะเจอร้านที่ขายมัน
แต่ก่อนที่เขาจะได้เข้าไปซื้อมัน ดอกทานตะวันสวรรค์นั้นก็ถูกทางพวกจ้าวซีซวนซื้อตัดหน้าไป
เขานั้นรุ่นร้อนอยู่ในใจจึงได้เข้าไปถามพวกจ้าวซีซวนทั้งหลาย คิดอยากขอซื้อต่อมัน
จ้าวซีซวนและพวกต่างไม่คิดสนใจจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงและกล่าวว่าดูถูกด้วยคำพูดที่หาเรื่องเต็มที่
แต่ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นก็ได้เห็นว่าฝ่ายพวกจ้าวซีซวนทั้งหลายไม่ได้เก่งกาจมากมายทั้งยังใส่เสื้อผ้าธรรมดาๆ จึงไม่ได้คิดใดๆ และทำการโดยประมาท
เมื่อด่าว่ากันไปสักพักทางจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงก็เริ่มเกิดความไม่พอใจขึ้นมาและคิดลงมือสั่งสอนพวกจ้าวซีซวนทั้งหลาย
แต่ในวินาทีนั้นยอดฝีมือมากมายก็ปรากฏกายออกมาจับตัวเขาไว้ทันที
เป็นเวลานั้นเองที่พวกจ้าวซีซวนทั้งหลายได้แสดงตัวตนว่าตนนั้นเป็นใครทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงกลัวจนหัวหด
พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างมีเบื้องหลังลึกล้ำ ล้วนแล้วแต่เป็นยอดอัจฉริยะของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งการโอสถสิ้น
ไม่ว่าเขาจะโง่เง่าเพียงใดเขาก็พอเข้าใจได้
ว่าเขาติดกับเข้าแล้ว!
คนทั้งหลายนี้แกล้งเป็นหมูเพื่อกินเสือ คิดหลอกล่อเขาให้ลงมือก่อนจะได้มีข้ออ้าง เพราะเช่นนั้นเองไม่ว่าเขาจะหาเท่าใดมันก็ไม่มีร้านไหนเลยที่มีดอกทานตะวันสวรรค์ขาย
……………