“เขานี้คือรองมหาปราชญ์ในตำนานนั้น? ดูธรรมดาเสียเหลือเกิน!”
“ใช่แล้ว อายุยังน้อยขนาดนี้จะเก่งกาจได้สักเท่าใด?”
“ดูท่านามของเขาคงอยู่เหนือหัว รองมหาปราชญ์นั้นคงเป็นยอดอัจฉริยะไร้เปรียบมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลจึงได้ให้ค่าเขาขนาดนั้น”
…
เย่หยวนนั้นมีชื่อเสียงที่โด่งดังไปทั่วทั้งมหาพิภพถงเทียน
ทุกผู้คนต่างจะตั้งความหวังไว้สูงล้ำ!
แต่เมื่อมาอยู่ตรงหน้าแล้วชื่อเสียงของเขามันกลับดูยิ่งใหญ่เกินตัว คนทั้งหลายจึงไม่อาจจะเชื่อถือเย่หยวนได้แม้แต่น้อย
เพราะต่อให้จะเป็นเหล่าศิษย์อัจฉริยะทั้งหลายอย่างพวกจ้าวซีซวนนี้เองก็ยังใช้เวลากว่าแสนๆ ปีในการศึกษาวิชาโอสถ
อัจฉริยะการโอสถอายุเท่าจ้าวซีซวนนี้เดิมทีแล้วตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนย่อมจะไม่รับไว้
เพราะเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้นต่างมีศิษย์แตกแยกออกไปทั่วมหาพิภพถงเทียนสิ้น
จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนนั้นเองกลับยกเว้นเรื่องราวนี้และรับจ้าวซีซวนเข้าเป็นศิษย์ แค่นี้มันก็มากพอจะแสดงให้เห็นแล้วว่าเขานั้นมากพรสวรรค์ปานใด
ส่วนคนทั้งหลายนั้นที่มาด้วยกันก็ย่อมจะมากพรสวรรค์ไม่แพ้จ้าวซีซวน
กลับกันแล้วตัวเย่หยวนมันกลับดูอ่อนแอเหลือเกิน
“หึๆ สงสัยเหลือเกินว่ารองมหาปราชญ์ท่านจะอธิบายเรื่องราวอย่างไร?” จ้าวซีซวนกล่าว
เขานั้นมีเหตุผลอยู่พร้อม ที่สำคัญตัวเขาเองก็มีเบื้องหลังลึกล้ำไม่แพ้กัน เขาย่อมจะไม่กลัวที่จะหาเรื่องเย่หยวนแล้ว
เย่หยวนที่ได้ยินก็หัวเราะตอบกลับไป “ผู้ติดตามของเย่หยวนผู้นี้กล่าวว่าเจ้าแล้วมันทำไม? ต่อให้พวกเขาจะแย่งชิงสมุนไพรของเจ้าแล้วมันทำไม? พวกเขาย่อมทำได้! เจ้าพอใจกับคำอธิบายนี้หรือไม่เล่า?”
โอหัง!
ไร้เหตุผล!
เขานั้นคือรองมหาปราชญ์ที่จะไม่ลดตัวลงมาเล่นเกมหาคนผิดใดๆ กับพวกเจ้า!
จ้าวซีซวนและพวกต่างต้องอ้าปากค้างเมื่อได้ยิน พวกเขาทั้งหลายนั้นต้องเตรียมการมากมายเท่าใดกว่าที่จะสร้างเรื่องราววางแผนเช่นนี้ออกมาได้
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดเล่นด้วยและใช้คำพูดไร้เหตุผลทำลายมันลงสิ้น
จ้าวซีซวนหัวเราะขึ้น “หึๆ หากรองมหาปราชญ์มีกำลังของรองมหาปราชญ์จริงแล้วมันก็คงไม่มีใครกล้ากล่าวว่า! แต่แค่ว่าเจ้ามีกำลังนั้นหรือไม่?”
“ไม่มีกำลังแล้วคิดจะใช้แค่สถานะมาข่มขู่เราหรือ?”
“ข้าต้องขอโทษด้วย แต่พวกเราเองก็มิใช่คนไร้ชื่อที่เจ้าจะมาข่มขู่ได้ง่ายๆ!”
คนทั้งหลายต่างแสดงสีหน้าท่าทางเหยียดหยามออกมาอย่างถึงที่สุดเพราะเจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี้กลับมาวางท่าต่อหน้าพวกเขา
รองมหาปราชญ์นั้นเหนือล้ำมากหรือ?
ข้าจะทำให้เจ้าได้เสียชื่อเสียงทั้งหลายลงในวันนี้!
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “พวกเจ้าคิดวางแผนการมากมายคิดอยากให้ข้าลงมือ? ก็ได้!”
จ้าวซีซวนและพวกต่างยิ้มขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน เจ้าเด็กคนนี้มันมามอบตัวถึงหน้าประตูแล้วมีหรือที่จะยังมีใครมาว่าพวกเขาได้
พวกเขาทั้งหลายนี้ต่างล้วนเป็นศิษย์โดยตรงของเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมีตัวตนตำแหน่งสูงล้ำ
ตำแหน่งของรองมหาปราชญ์มันอาจจะข่มขู่ผู้คนได้แต่พวกเขาย่อมไม่กลัว
“หึ นี่รองมหาปราชญ์ท่านพูดเอง!” จ้าวซีซวนกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ
เย่หยวนตอบกลับไป “กับพวกเจ้าเหล่าผู้น้อยทั้งหลายนี้เดิมทีปราชญ์ผู้นี้ก็ไม่คิดจะลงมือด้วย แต่วันนี้หากไม่สั่งสอนเด็กน้อยอย่างพวกเจ้าทั้งหลายแล้ววันหน้ามันก็คงมีคนโง่ๆ เหมือนพวกเจ้าเกิดขึ้นมาอีก! เมื่อเป็นเช่นนั้นข้าก็จะเชือดไก่ให้ลิงมันดู”
ทุกผู้คนต่างยืนทำหน้ามึนงง
ผู้น้อย?
เด็กน้อย?
คำพูดนี้มันคือคำของผู้อาวุโส!
เขานั้นได้รับนามรองมหาปราชญ์มาจนลืมตัวตนที่แท้จริงของตนไปแล้วหรือ?
จ้าวซีซวนนั้นหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นเราเหล่าผู้น้อยทั้งหลายจะขอดูฝีมือของรองมหาปราชญ์หน่อยแล้วกัน!”
เย่หยวนที่ได้ยินก็หัวเราะขึ้นมา “ฝีมือข้า? แค่ลำพังพวกเจ้ามันคงไม่ได้เห็นหรอก ไปเรียกบรรพบุรุษพวกเจ้ามานู่น ถึงจะพอมีหวัง”
“โอหัง!”
“โอหังนัก!”
“ไม่รู้จักฟ้าดินเสียแล้ว!”
…
คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างไม่พอใจไปตามๆ กันเพราะคำพูดของเย่หยวนนี้มันคือการแสดงตนว่าตัวเองนี้เป็นหนึ่งในยอดนักหลอมโอสถผู้สูงล้ำของมหาพิภพถงเทียน
เจ้าหมอนี่มันจะอวดอ้างตนอย่างไร้ยางอายเกินไปแล้ว!
ดูท่าตั้งแต่ที่ได้ตำแหน่งรองมหาปราชญ์มาเขานี้จะกลายเป็นคนบ้าลืมตัว
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจกล่าวตอบกลับมา “อ่า จริงด้วยสิ หากข้าชนะเจ้าทั้งหลายต้องขอโทษพวกเขาทั้งสองนี้และส่งมอบสมุนไพรไปให้พวกเขา! ไม่เช่นนั้นแล้วเย่ผู้นี้จะไปถามหาคำอธิบายกับโอสถบรรพกาลเอง!”
จ้าวซีซวนหัวเราะขึ้นอย่างดูถูก “ได้สิ หากเจ้าชนะจริงขอโทษมันจะเป็นไรไป? เพียงแค่ว่าข้าเกรงว่าวันนี้เจ้าจะได้เสียชื่อเสียงที่สั่งสมมาทั้งหมดไป!”
“หึๆ ต่อให้เจ้าจะอยากไปถามหาคำอธิบายจากโอสถบรรพกาลแต่ข้าก็กลัวว่าเจ้าจะไม่มีปัญญาได้พบเจอเขาด้วยซ้ำ!”
“เจ้าก็จะดูถูกยอดคนทั้งหลายมากเกินไป! เราทั้งหลายนี้ติดตามอาจารย์มานานหลายปีได้รับความรู้อย่างถึงที่สุด เจ้ารอรับความพ่ายแพ้เถอะ!”
เย่หยวนไม่คิดตอบกลับใดๆ ไป “ไม่ต้องทำเรื่องให้ยุ่งยาก พวกเจ้าตั้งโจทย์มา แต่ละคนเลือกโอสถที่ตัวเองถนัดที่สุดและหากข้าให้พวกเจ้าแม้แต่คนเดียวมันก็จะนับว่าข้าพ่ายแพ้!”
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจคนทั้งหลายนี้
อ่อนแอจนเกินไป!
เพียงแค่ว่าคำพูดของเขานี้มันกลับฟังดูโอหังเหลือเกินในสายตาคนทั้งหลาย
พวกเขาทั้งหลายนี้ต่างล้วนเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการโอสถ เป็นตัวตนที่วันหน้าจะได้ก้าวล้ำขึ้นมาปกครองโลก
ไม่มีใครกล้าปฏิเสธพรสวรรค์ของคนทั้งหลายนี้
ที่สำคัญไปกว่านั้นแต่ละดินแดนมันก็จะมีความชำนาญเฉพาะทางของตนไป หากเป็นนักหลอมโอสถทั่วๆ ไปแล้วมันย่อมจะไม่มีใครกล้าพูดจาเช่นนี้
ในหมู่ยอดฝีมือทั้งหลายนั้นแต่ละคนมันย่อมมีเรื่องที่ถนัดและไม่ถนัดสิ้น
เรื่องที่ไม่ถนัดของคนเหล่านั้นมันอาจจะไม่เด่นชัดต่อหน้าคนทั่วไป แต่ต่อหน้าเหล่ายอดอัจฉริยะอย่างพวกจ้าวซีซวนนี้แล้วมันย่อมจะทำให้เกิดความแตกต่างมหาศาล
เมื่อจ้าวซีซวนได้ยินเขาก็ยิ้มตอบกลับมา “นี่เจ้าพูดเอง!”
เย่หยวนตอบกลับไป “ลงมือเถอะ”
ปัง!
คนทั้งหลายนั้นต่างยกเอาหม้อหลอมโอสถของตนออกมาจากแหวนและเริ่มทำการหลอมโอสถขึ้นบนถนน
“นั่นมัน… หม้อหลอมโอสถสูง!”
“นั่นมันหม้อหลอมลมทารุณ หม้อหลอมหมอกเมฆา… พระเจ้าช่วย มันเป็นยอดสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดสิ้น!”
“นี่มันคือเหล่าหม้อหลอมที่พวกท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนใช้กันมาก่อนที่จะสร้างชื่อ ไม่นึกเลยว่าพวกเขานี้จะได้เอามันมาใช้!”
“ด้วยหม้อหลอมล้ำค่านี้โอสถของพวกเขามันย่อมจะมีคุณภาพสูงล้ำขึ้นได้แน่! หึๆ อยากรู้จริงๆ ว่ารองมหาปราชญ์จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร!”
…
คนทั้งหลายนี้ต่างเป็นศิษย์รักของผู้อาวุโสตน พวกเขาจึงได้รับสมบัติสร้างชื่อเหล่านี้มาใช้งาน
ด้วยหม้อหลอมล้ำค่าทั้งหลายนี้กำลังของพวกเขาทั้งหลายมันย่อมจะเหมือนเสือติดปีก
ถึงเวลานี้มันย่อมจะมีคนมากมายคิดมาดูเรื่องสนุก
รองมหาปราชญ์นั้นอาจจะมากพรสวรรค์ แต่เขานั้นมีท่าทางโอหังจนเกินทน เพราะเหล่านายน้อยทั้งหลายนี้เองก็มิใช่คนธรรมดา!
จ้าวซีซวนและพวกนั้นปรึกษากันอยู่พักหนึ่งก่อนที่พวกเขาทั้งหลายจะยิ้มเย้ยออกมาพร้อมๆ กัน
เมื่อคนทั้งหลายเห็นภาพนี้พวกเขาต่างก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ
เพราะคนทั้งหลายนี้คงได้วางแผนสร้างความยากลำบากให้เย่หยวนแล้ว!
“รองมหาปราชญ์ โอสถที่ข้าจะหลอมคือโอสถเจ็ดสมบัติเร้นโลหิต ดูให้ดีเถอะ!”
จ้าวซีซวนหัวเราะขึ้นมาก่อนจะโยนสมุนไพรต่างๆ ลงไปในหม้อหลอมนั้น
หลังจากนั้นอีกคนหนึ่งก็ยิ้มขึ้นมาตะโกนบอก “รองมหาปราชญ์ ข้าจะหลอมโอสถเก้าม่านหมอกฟ้า ดูให้ดี!”
“รองมหาปราชญ์ ข้าจะหลอมโอสถยอดจักรพรรดิเจิ้งยี้!”
…
จ้าวซีซวนและพวกนั้นมีจำนวนทั้งหมดห้าคนด้วยกัน แต่ละคนนั้นต่างร้องบอกชื่อโอสถที่จะหลอมออกมาทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
เพราะแต่ละอย่างนี้มันล้วนเป็นโอสถลับ!
มันไม่เพียงแค่ลับเท่านั้นแต่ยังมีความยากมากล้น
โอสถทั้งหลายชนิดนี้มันคงนับได้ว่ายากจนถึงที่สุดของห้าธาตุ
มันย่อมไม่มีทางใดที่นักหลอมโอสถทั่วๆ ไปจะหลอมโอสถทั้งห้าอย่างนี้ขึ้นพร้อมๆ กัน
ต่อให้เย่หยวนจะหลอมได้ มันก็คงไม่มีทางที่จะวได้คุณภาพที่เทียบเคียงกับคนทั้งห้าได้
“หึๆ น่าสนุกแล้ว!”
“นี่มันคือราคาที่เขาต้องจ่ายหลังคิดดูถูกยอดศิษย์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์! ราคาของมันคือชื่อเสียงที่มีทั้งหมด!”
“ไม่ว่าจะอย่างไรเสียรองมหาปราชญ์ก็คงไม่กล้ารับคำท้าเช่นนี้แน่ นี่มันเท่ากับรนหาที่ชัดๆ!”
…
ทุกผู้คนต่างส่ายหัวออกมาพร้อมๆ กัน
………………