“ปฐมาจารย์เย่ได้สร้างรากฐานเต๋าโอสถขึ้นมาใหม่ เป็นยอดคนมากพรสวรรค์ความสามารถที่จะถูกกล่าวขานไปชั่วกาล! วันนี้ข้าขอยกย่องเขาเป็นปฐมาจารย์!”
“วันนี้เขาได้สั่งสอนเต๋าเป็นคุณให้แก่คนรุ่นหลังต่อไป! หากวันนี้เย่หยวนไม่ได้รับยกย่องเป็นปฐมาจารย์แล้วสวรรค์คงต้องพิโรธแน่!”
…
เรื่องการยกย่องเย่หยวนเป็นปฐมาจารย์นี้มันย่อมจะไม่มีใครขัด
แม้ว่าคนทั้งหลายที่มีฝีมือไม่มากมายจะไม่ได้เข้าใจถึงความหมายเบื้องหลังการบรรยายเต๋านี้ แต่เหล่ายอดคนระดับบรรพกาลทั้งหลายนั้นต่างเข้าใจถึงเรื่องราวและความหมายอย่างลึกซึ้ง
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายมนุษย์หรือทางอสูรนั้นมันก็ต่างมีเต๋าโอสถที่กระจัดกระจายไม่เป็นระบบใด
ใครที่คิดจะฝึกฝนมันก็ต้องเสี่ยงดวงหาที่เรียนรู้เอาสิ้น
เจ้าก็เรียนรู้เต๋าของเจ้าไป ข้าจะหลอมโอสถ
ต่อให้เป็นตัวโอสถบรรพกาลเองก็ยังไม่คิดสนใจจะทำให้ระบบการบ่มเพาะนี้พัฒนาขึ้นมา
แต่เย่หยวนกลับลงมือทำ!
และมิใช่เพียงแค่ทำ เขานั้นยังได้สั่งสอนวิชาของตนออกมาให้ทุกผู้คนเท่าที่คิดอยากฟัง
นี่มันเป็นคุณประโยชน์ต่อโลกหล้าอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ตั้งแต่อดีตกาลมา!
หนึ่งปีที่สั่งสอนบรรยายเต๋ามานี้ มันได้สร้างคุณประโยชน์ให้เกิดการพัฒนาที่ต้องใช้เวลานับพันๆ ปี
เหล่ายอดคนระดับบรรพกาลทั้งหลายนั้นต่างล้วนแล้วแต่ได้รับประโยชน์กันไปสิ้น
ตราบเท่าที่พวกเขากลับไปเก็บตัวทบทวนเข้าใจเรื่องราว กำลังฝีมือของพวกเขานั้นจะพัฒนาขึ้นไปได้อย่างไม่อาจเทียบเคียงกับก่อนหน้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลที่การสั่งสอนเต๋าของเย่หยวนนี้มันได้เปิดประตูบานใหม่ให้แก่เขา
หากมีเวลาตราบเท่าที่เขาได้นั่งวิเคราะห์ทำความเข้าใจเต๋าที่เย่หยวนบรรยายออกมา เขาก็มั่นใจมากว่าตนจะก้าวผ่านได้แม้แต่ตัวโอสถบรรพกาล!
เหล่านักหลอมโอสถนับสิบๆ ล้านในที่นี้เองก็มีคนนับหมื่นๆ ที่บรรลุขึ้นมาได้ระหว่างฟังไป
เหล่าจอมเทพโอสถแปดดาวทั้งหลายที่ติดค้างอยู่ที่ยอดอาณาจักรบรรพกาลขั้นสุดมาหลายล้านปีในที่สุดก็ได้บรรลุผ่านขึ้นมาได้ระดับของโอสถเต๋า
ไม่นานจากนี้ในหมู่คนทั้งหลายมันคงได้เกิดยอดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาอีกไม่น้อยแน่!
เย่หยวนหันหน้าลงไปมองดูคนทั้งหลายและต้องถอนหายใจมาอย่างเหนื่อยอ่อน
‘อ่า เวลา!’
เพราะสิ่งเดียวที่เขายังขาดไปก็คือเวลา!
เขานั้นต้องใช้เวลาบ่มเพาะและเหล่ายอดคนทั้งหลายนี้ก็ยังต้องใช้เวลาอีกมากเรียนรู้
แต่เผ่าเทวานั้นมันไม่คิดรอใดๆ แล้ว
ในเวลานี้มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นยกมือขึ้นคารวะฟ้ากล่าวลั่น “วิหารนักบวชแห่งเผ่าอสูรขอยกย่องเย่หยวนเป็นปฐมาจารย์แห่งเต๋าโอสถ!”
“อาณาจักรคลื่นฟ้าแห่งเผ่ามนุษย์ขอยกย่องเย่หยวนเป็นปฐมาจารย์แห่งเต๋าโอสถ!”
“อาณาจักรเก้ารัชกาลแห่งเผ่ามนุษย์ขอยกย่องเย่หยวนเป็นปฐมาจารย์แห่งเต๋าโอสถ!”
…
เหล่าบรรพกาลทั้งหลายนั้นต่างร้องลั่นประกาศต่อฟ้าให้ผู้คนทั้งโลกหล้าได้ยิน
เหล่าบรรพกาลทั้งหลายนั้นกลับยกย่องให้เย่หยวนผู้นี้ได้เป็นปฐมาจารย์!
หลังจากเหล่าบรรพกาลทั้งหลายกล่าวกันสิ้นแล้วมันก็เป็นตาของเหล่ายอดจอมเทพโอสถแปดดาวทั้งหลาย
“วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ไม้จันทน์ชาดขอยกย่องเย่หยวนเป็นปฐมาจารย์แห่งเต๋าโอสถ!”
“วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์วันรู้ขอยกย่องเย่หยวนเป็นปฐมาจารย์แห่งเต๋าโอสถ!”
…
พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างล้วนแล้วเป็นยอดคนผู้ปกครองวงการโอสถ คำพูดของพวกเขาทั้งหลายนี้ย่อมจะมีน้ำหนักที่เหนือล้ำ
การที่ยอดคนมากมายยกย่องเชิดชูเย่หยวนเช่นนี้มันย่อมจะแสดงได้อย่างชัดเจนว่าการบรรยายเต๋าของเย่หยวนนี้มันได้เอาชนะโลกการโอสถได้สิ้น
เหล่านักหลอมโอสถที่พลังฝีมือยังไม่ถึงขั้นนั้นต่างไม่ได้เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่
ยอดคนชื่อลั่นฟ้าดินมากมายนั้นต่างก้มหัวยกย่องเย่หยวนเป็นปฐมาจารย์ เรื่องนี้มันย่อมทำให้คนทั้งหลายต้องสั่นสะท้านไปทั้งจิตใจ
“พระเจ้าช่วย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ยอดคนชื่อก้องฟ้าดินมากมายทั้งหลายนี้กลับกำลังกล่าวยกย่องให้รองมหาปราชญ์ท่านเป็นปฐมาจารย์!”
“รองมหาปราชญ์นั้นจะอย่างไรก็เพิ่งบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์มาได้ไม่นาน แต่เวลานี้เขากลับถูกยอดคนทั้งหลายยกย่องเป็นปฐมาจารย์เช่นนี้?”
“ที่สำคัญไปกว่านั้นนี่มันยังมิใช่แค่การยกย่องเป็นบรรพกาลเสียด้วย! แม้แต่ตัวโอสถบรรพกาลเองก็ยังไม่เคยจะได้รับการยกย่องเช่นนี้มาก่อน!”
…
การยกย่องของเย่หยวนนี้มันแตกต่างจากการยกย่องที่เหล่าบรรพกาลทั้งหลายได้รับ
เพราะเหล่ายอดคนที่ถูกยกย่องเป็นบรรพกาลทั้งหลายนั้นต่างล้วนเป็นถึงเจ้าฟ้าดินสามหรือสี่ทลายกันสิ้น
แม้แต่เจ้าฟ้าดินหนึ่งหรือสองทลายก็ยังไม่เคยจะมีใครได้รับการยกย่องเช่นนี้มาก่อน
แต่เย่หยวนนั้นกลับเป็นแค่เด็กหนุ่มที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์มาได้ไม่นาน เวลานี้เขานั้นมีกำลังเทียบเคียงได้กับแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวเท่านั้น ทั้งอย่างนั้นเขากลับถูกเหล่าบรรพกาลทั้งหลายยกย่องให้เป็นปฐมาจารย์!
เขานั้นถูกยกย่องให้เป็นปฐมาจารย์อย่างพร้อมเพรียง!
นั่นมันจะหมายความว่าเหล่ายอดคนในเต๋าโอสถทั้งหลายรวมไปถึงตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเองก็จะมีสถานะต่ำกว่าเย่หยวนไปขั้นหนึ่ง!
เย่หยวนนี้คือปฐมาจารย์แห่งการโอสถ ผู้ยืนอยู่เหนือหัวเหล่าบรรพกาลทั้งหลาย!
ภาพตรงหน้านี้… มันราวกับว่าเป็นพิธียิ่งใหญ่ก็ไม่ปาน
เหล่ายอดฝีมือที่ถูกขนานนามว่าเป็นบรรพกาลทั้งหลายย่อมจะมีศักดิ์ศรีของตน
เหล่าบรรพกาลทั้งหลายนั้นยอมรับว่าโอสถบรรพกาลนั้นเก่งกาจแต่ก็ไม่มีใครคิดยกย่องให้เขาเป็นปฐมาจารย์
เจ้าเก่งก็เก่งไป ไม่เกี่ยวใดๆ กับข้า
แต่วันนี้พวกเขาทั้งหลายนั้นกลับลดหัวลงยกย่องเย่หยวน
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อนตั้งแต่โลกหล้านี้ถือกำเนิด!
จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งนั้นกลับก้าวเหนือหัวเหล่าบรรพกาลทั้งหลาย
เรื่องราวเช่นนี้มันเป็นสิ่งที่คนทั้งหลายไม่กล้าแม้แต่จะคิด
พวกเขานั้นไม่ได้เข้าใจ แต่พวกเขาก็รู้ว่าบรรพกาลทั้งหลายมิใช่คนโง่เง่า
การทำให้เหล่าบรรพกาลทั้งหลายยอมก้มหัวให้อย่างพร้อมใจเช่นนี้มันย่อมจะหมายความว่าการบรรยายเต๋าของเย่หยวนครั้งนี้มีความหมายลึกล้ำ
พวกเขานั้นมีพลังต่ำจนเกินกว่าที่จะเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้
แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าวันนี้มันคงเป็นจุดเปลี่ยนสู่ยุคสมัยใหม่ในวงการโอสถแล้ว!
ตัวโอสถบรรพกาลนั้นจะได้กลายเป็นแค่เมฆที่เลื่อนผ่านไปและคนที่เข้ามาแทนที่เขาก็คือปฐมาจารย์แห่งการโอสถ เย่หยวนผู้นี้!
ในหมู่คนทั้งหลายนั้นดันหยู่ได้แต่ต้องนั่งมองดูหยุนยี่ด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “ยี่เอ๋อ เฒ่าผู้นี้ต้องขออภัยแก่เจ้าแล้ว! ยิ่งเวลาผ่านไปนานวันเข้า เรื่องที่ว่าการตัดสินใจของเจ้ามันถูกต้องนั้นก็ยิ่งชัดเจน! มันเป็นข้าเองที่มีตาหามีแววไม่ เอาแต่มองดูเรื่องเล็กๆ ตรงหน้าตน”
ศึกในอาณาจักรทหัยเมฆานั้นดันหยู่รอดออกมาได้ด้วยการปกป้องของเย่หยวน
เขาและเย่หยวนนั้นต่อสู้กันมายาวนานนับพันปี แต่เป็นเวลาที่เย่หยวนได้รับยกย่องเป็นปฐมาจารย์นี้เองที่เขาได้เข้าใจถึงความโง่เง่าของตนเอง
ตอนที่เย่หยวนสั่งสอนบรรยายเต๋าออกมานั้น ด้วยความรู้ของเขา ตัวเขายังไม่อาจจะเข้าใจมันได้หมด
แต่เขาก็ยังได้เข้าใจว่าเวลานี้เย่หยวนกำลังทำเรื่องใหญ่ที่จะพลิกฟ้าดินลงได้
เพราะอย่าว่าแต่เย่หยวน เวลานี้แม้แต่เหลนของเขาเองก็ยังก้าวข้ามหัวดันหยู่ไปในวิชาโอสถ
เขานั้นได้เห็นเหล่ายอดคนชื่อลั่นฟ้าดินนั้นต่างต้องมาก้มหัวเคารพหยุนยี่
เรื่องราวเช่นนี้ก่อนๆ มาเขาย่อมจะไม่เคยแม้แต่หลับฝันถึงมัน
หยุนยี่หันกลับมามองด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “ท่านทวดกล่าวอะไรเช่นนั้น? ท่านนั้นเลี้ยงยี่เอ๋อมา ฟูมฟักยี่เอ๋อมา ยี่เอ๋อจำมันได้ทุกสิ่งอย่าง ยี่เอ๋อนั้นไม่เคยจะโทษท่านทวดเลยแม้สักครั้ง ท่านอย่าได้กังวลไปเลย เพราะแท้จริงที่ข้าเลือกจะติดตามอาจารย์ท่านไปก็เพราะข้าหวังจะได้พัฒนาในเต๋าโอสถ ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าอาจารย์ของข้าจะก้าวขึ้นมาจนถึงจุดนี้ได้ มันราวกับว่าข้าได้ฝันไป!”
ดันหยู่นั้นได้แต่ต้องก้มหน้าลงอย่างอับอายสุดใจ
เขานั้นรู้ดีว่าหากมิใช่เพราะหยุนยี่แล้ว เย่หยวนคงทำลายยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาลงสิ้น
ด้วยกำลังฝีมือของเย่หยวนในเวลานี้ การจะทำลายยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาลงนั้นมันไม่ได้ยากเย็นเลย
ทางจักรพรรดิเทพสวรรค์จั่วหยุนเองก็คงไม่กล้าแม้แต่จะเปิดปากบ่นใด!
บนท้องฟ้านั้นสีหน้าของเย่หยวนสงบนิ่ง ยังคงรักษาความนิ่งเงียบไม่ว่าจะถูกชมเชยหรือเย้ยหยัน
เรื่องราวที่เหล่าบรรพกาลทั้งหลายทำนี้ตัวเขาเองก็ย่อมจะตกตะลึงอยู่ไม่น้อย แต่เขาก็รู้ว่าตนนั้นมีความสามารถพอรับมันไว้
แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องตื่นตะลึงที่สุดก็คือเหล่าบรรพกาลทั้งหลายนั้นกลับทิ้งศักดิ์ศรีของตนและยกย่องเขาเป็นปฐมาจารย์
ร้อยปีที่ประลองกับโอสถบรรพกาลมานั้นเย่หยวนได้เข้าใจถึงพลังของแนวคิดต้นกำเนิดอย่างมาก
แม้ว่ามันยังจะดูเลือนรางแต่เขาก็ยังได้รับผลประโยชน์อย่างมหาศาล
ในวินาทีนี้เขาได้เข้าใจจนชำนาญเรื่องราวผ่านการศึกษาอย่างมากล้น ทำให้เขาได้จัดงานบรรยายเต๋าในครั้งนี้ขึ้นมา
เย่หยวนนั้นหันหน้าลงไปมองด้านล่างก่อนจะกล่าวขึ้น “วันนั้นในอาณาจักรทหัยเมฆาข้าเชื่อว่าทุกผู้คนก็คงเข้าใจเรื่องราว เวลานี้เต๋าโอสถของมนุษย์เรามันตกต่ำมานานแสนนานแล้ว แม้แต่พวกเผ่าเทวาก็ยังดูถูกเรา! ในเมื่อพวกเจ้าทั้งหลายคิดยกย่องข้าเป็นปฐมาจารย์แล้วก็คงทิ้งความคิดแคบๆ ของตนไป สั่งสอนสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้ทั้งชีวิตออกมา แบ่งปันความรู้และพัฒนาไปด้วยกัน!”
เผ่าเทวานั้นกังวลกลัวต่อเต๋าโอสถของเผ่ามนุษย์อย่างมาก แต่ในยุคก่อนนั้นเหล่ายอดคนในการโอสถทั้งหลายต่างตายตกลงไปสิ้น
เวลานี้แม้แต่ตัวหยวนเว่ยก็ยังดูถูกเต๋าโอสถของมนุษย์ทั้งหลาย
ตราบเท่าที่เต๋าโอสถพัฒนาขึ้นไปได้ มันก็ย่อมจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสงครามระหว่างมนุษย์และเผ่าเทวาทั้งหลาย
แต่สิ่งที่ขาดไปก็คือเวลา!
“เฒ่าผู้นี้จะขอทำตามที่ปฐมาจารย์เย่ต้องการ! หลังจากปฐมาจารย์เย่ออกเดินทางไปแล้วข้าจะสั่งสอนเต๋าของข้าให้สิ้น!” มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นยกมือขึ้นรับคำ
“เราจะเคารพคำของปฐมาจารย์เย่!”
“เราจะเคารพคำของปฐมาจารย์เย่!”
…
เรื่องที่เย่หยวนกล่าวออกมานี้เหล่าบรรพกาลทั้งหลายต่างขานรับอย่างไม่มีตก
…………………………