ที่แห่งนี้มันเป็นโลกที่ดำมืด
เวลานี้แหล่งแสงสว่างเดียวนั้นคือดวงจันทร์ที่สาดส่องอยู่บนฟ้ากว้าง
ภายใต้แสงจันทร์นี้มันมีเงาร่างหนึ่งกำลังค่อยๆ เดินผ่านไปราวกับกำลังตรวจสอบหาซื้อที่ดินอยู่อาศัย
รอบๆ ตัวเขานั้นมันมีอีกหลายเงาร่างปรากฏให้เห็น แต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ชายผู้นี้
ตั้งแต่ที่เย่หยวนมาถึงยังมิตินรกนั้นเผ่าเทวาก็ได้เพิ่มระดับการป้องกันไปถึงขั้นสูงสุดในทันที
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นมันถูกรายงานต่อกันไปเป็นทอดๆ จนขึ้นไปถึงเบื้องบนของเผ่าเทวาในที่สุด
อีกไม่นานเหล่ายอดคนระดับบรรพกาลและบรรพบุรุษของแต่ละตระกูลก็คงได้รู้ถึงเรื่องราว
แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นเผ่าเทวาก็ได้มีการสั่งให้เฝ้าจับตาดูเย่หยวนไว้อย่างใกล้ชิด
เรื่องของคนทั้งหลายนี้ เย่หยวนย่อมจะสัมผัสได้ชัดเจนแต่ว่าเขาแค่ไม่คิดทำอะไรลงไป
หากเต๋าบรรพกาลทั้งเก้าไม่ได้ก่อเรื่อง ตัวเย่หยวนคงมาสำรวจที่มิตินรกนี้ก่อนไปนานแสนนานแล้ว
ตั้งแต่ได้เจอลี่เอ๋อมานั้นตัวเขาก็มีแต่ความสงสัยต่อเผ่าเทวาอย่างไม่สิ้นสุด
เพื่อที่จะแก้ปมนี้ เขามีแต่ต้องตามหาที่คนมัดมันขึ้นมาเท่านั้น หากคิดอยากทำให้ลี่เอ๋อกลับมาเป็นคนเดิมแล้วเขาก็มีแต่ต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของเผ่าเทวาเสียก่อน
ก่อนหน้านี้นอกจากสังหารแล้วมันก็มีแต่ต่อสู้กัน ตัวเขาจึงไม่ได้เข้าใจใดๆ เผ่าเทวาแม้แต่น้อย
แน่นอนว่ามันเพราะเขาไม่มีกำลังมากพอด้วย
เวลานี้เมื่อเขาก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรการกำเนิดแล้วเขาย่อมจะมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่สมบูรณ์แบบ สามารถจะป้องกันตัวเองได้อย่างหนักแน่นจึงกล้าที่จะเข้ามาสำรวจถิ่นศัตรูเช่นนี้
“เจ้าหมอนี่มันจะโอหังเกินไปแล้ว นี่มันคือว่ามิตินรกนี้เป็นสวนหลังบ้านมันเรอะ?!”
“ให้ตายสิวะ! ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่ท่านเทียนเหอนั้นยังเกือบตายเพราะตัวมันนี้! หากมิใช่ว่าข้าฝีมือไม่ถึงข้าคงฉีกร่างมันเป็นชิ้นๆ ไปแล้ว!”
“โอหังเกินรับ! ทำไมนายท่านทั้งหลายยังไม่มาอีกเล่า? ข้า… ข้าจะทนรับไม่ไหวแล้ว!”
…
เผ่าเทวานั้นเย่อหยิ่ง
แต่ว่าย่างก้าวของเย่หยวนในตอนนี้มันเหมือนกำลังย้ำลงบนหัวของคนทั้งหลาย
แต่กลับไม่มีใครกล้าโจมตี!
เพราะคนผู้นี้มันคือฝันร้าย!
คนผู้นี้คือมารร้ายที่สังหารพี่น้องของพวกเขาไปกว่าครึ่งเผ่าพันธุ์!
คนผู้นี้คือคนที่ปิดฝันอันยาวนานนับหมื่นปีของพวกเขาให้มันลงกลับมาอยู่ยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง!
หากนี่เป็นบนมหาพิภพถงเทียนพวกเขายังจะทนรับได้
แต่นี่อีกฝ่ายกลับมาวางท่าในมิตินรก!
เหล่าชาวเผ่าเทวาแต่ละคนนั้นต่างได้แต่ยืนมองหน้าแดงหน้าดำ
เย่หยวนนั้นเข้ามาสัมผัสถึงทุกสิ่งอย่างด้วยตัวเองและสัมผัสได้ว่ามิตินรกนี้มันแตกต่างจากโลกใบน้อยอื่นๆ ไปมาก
เพราะเดิมทีแล้วเผ่ามารนรกนั้นเองก็เป็นเผ่าพันธุ์ของมหาพิภพถงเทียน
เพียงแค่ว่าพวกมันนั้นเป็นขี้ข้าที่ภักดีต่อเผ่าเทวาที่สุด
หลังจากที่เผ่าเทวาล่าถอยมาได้พวกเขาก็กลับมาตั้งหลักในฐานหลักของเผ่ามารนรก ซึ่งก็คือมิตินรกนี้
ที่แห่งนี้มันเปี่ยมล้นไปด้วยพลังงานชั่วร้าย เป็นแดนต้องห้ามแก่เผ่าพันธุ์อื่นๆ สิ้นเชิง
หากให้มนุษย์เข้ามาในนี้มันคงไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตาย
แต่ระหว่างที่เย่หยวนกำลังเดินเล่นอยู่นั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงมาดักหน้าไว้
ก่อนที่จะปรากฏเงาร่างหนึ่งก้าวออกมาจากห้วงมิติพร้อมมือไพล่หลังบังหน้าเขาไว้
ผู้มาถึงนั้นกล่าวขึ้น “เด็กน้อย ไม่นึกเลยว่า… เจ้ากลับจะเติบโตมาได้มากมายปานนี้! น่าเสียดายที่ข้าไม่อาจสังหารเจ้าได้ในวันนั้น! แต่จะอย่างไรเจ้าก็มามอบตัวถึงหน้าประตูแล้ว บรรพกาลผู้นี้จะไม่ขอเกรงใจ!”
เย่หยวนยกหัวเงยขึ้นมองและปรากฏว่าชายผู้นี้เป็นคนรู้จักกันแต่เก่าก่อน!
หยวนเว่ย!
ก่อนนั้นที่อาณาจักรทหัยเมฆาเย่หยวนเกือบต้องตายลงด้วยน้ำมือของคนผู้นี้
ได้เห็นหยวนเว่ยปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าเหล่าชาวเผ่าเทวาทั้งหลายต่างยิ้มกว้างทันที!
หยวนเว่ยนั้นคือยอดฝีมือเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นปลาย แม้ว่าจะเทียบเคียงกับเทียนเหอไม่ได้แต่ก็เก่งกาจกว่าเย่หยวนไปมาก!
คนทั้งหลายจึงได้แต่ตั้งตารอดูความตายอันน่าสมเพชของเย่หยวนผู้โอหัง
แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบไป “เป็นเจ้านี่เอง อย่าได้เปลืองแรงเลย เจ้ากลับไปและบอกเทียนชิงว่าข้าจะเดินเล่นในมิตินรกอีกสักสองสามวันก่อนจะไปหามัน”
หยวนเว่ยหรี่ตาลงทันที “เจ้าเด็กคนนี้ เจ้าโง่มากหรือ? แค่คนอย่างเจ้านี้ก็จะไปพบท่านเทียนชิงได้?”
เสียงหัวเราะเกิดขึ้นมารอบทิศ
คำของเย่หยวนมันน่าขันเกินไป
ก็จริงที่เขานั้นเก่งกาจ
แต่เวลานี้มันไม่มีมหาค่ายกลบนเขาแปดโมฆะให้ใช้แล้ว
ในมิตินรกนี้มันไม่มีมหาค่ายกลกฎใดปกป้องเขาอีก
แล้วเจ้าหมอนี่มันคิดว่ามิตินรกนั้นคือบ้านของมันหรืออย่างไร?
ยังจะมาบอกว่าเดินเล่นอีกสองสามวัน…
เย่หยวนนั้นไม่ได้ตอบใดๆ กลับไปเขาเพียงแค่ยกนิ้วขึ้นมากระดิกเรียกหยวนเว่ยด้วยท่าทางหาเรื่องเต็มที่
“รนหาที่ตาย!”
หยวนเว่ยนั้นหัวเราะขึ้นก่อนจะปล่อยวรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ของตนออกมาโจมตีใส่เย่หยวนทันที
คลื่นพลังรุนแรงนี้มันเหมือนที่ปะทะเข้ากับร่างของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเมื่อตอนนั้น!
ตูม!
ตรงจุดที่เย่หยวนยืนอยู่นั้นมันได้กลายเป็นหลุมลึก
เพียงแค่ว่าสีหน้าของหยวนเว่ยกลับเปลี่ยนสีไป
เพราะการโจมตีนี้มันกลับพลาด!
ราวร้อยก้าวไกลออกไปนั้นตัวเย่หยวนได้กล่าวขึ้น “เจ้าสังหารข้าไม่ได้ แต่ข้าสังหารมันได้สิ้น! อย่าได้คิดท้าทายข้า เพราะผลที่ตามมามันจะเกิดกว่าที่เจ้าจะรับไหว ข้ามาที่นี่เพื่อจะมาพูดคุยกับเทียนชิงเพียงเท่านั้น อย่า… ได้… ท้าทายข้า!”
เย่หยวนเน้นย้ำคำพูดสุดท้ายอย่างหนักหน่วง
พร้อมๆ กันนั้นจิตสังหารมันก็ถูกปล่อยออกมาจนผู้คนแทบหายใจไม่ออก!
หยวนเว่ยนั้นตกตะลึงสุดใจ ตัวเขานั้นปิดกั้นมิติไว้แล้วแท้ๆ แต่ทำไมเย่หยวนจึงสามารถหลบออกไปได้อย่างง่ายดายเช่นนี้?
เวลาที่ไม่ได้เจอกันนั้นมันเพิ่งผ่านมากี่ปี? ทำไมเจ้าหมอนี่มันจึงได้พัฒนาขึ้นมาจนถึงระดับที่เป็นภัยต่อเขาได้แล้ว?
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่านหยวนเว่ยนั้นกลับทำอะไรมันไม่ได้หรือ?”
“เจ้าหมอนี่มันโอหังอวดดีเกินไปแล้ว! มันกลับคิดใช้ชีวิตของพวกเราข่มขู่ท่านหยวนเว่ย!”
“ฮ่า อ่า ฮือ! มันจะไปคุยกับท่านเทียนชิง! คุยกับแม่เจ้าสิ! เจ้าหมอนี่มันจะโอหังไปถึงไหนกัน?”
…
ความรู้สึกอับอายกระจายไปทั่วจิตใจของคนทั้งหลาย
หยวนเว่ยนั้นกลับถูกเย่หยวนเหยียบหัวเช่นจนไม่กล้าลงมือใดๆ อีกต่อไป
‘อย่าได้ท้าทายข้า’ คำพูดนี้มันแฝงไปด้วยจิตสังหารอย่างหนักแน่น
ดูแล้วอารมณ์ของเย่หยวนมันคงไม่ได้ดีนัก
แม้ว่าเขานั้นจะไม่เข้าใจว่าเย่หยวนหลบรอดไปได้อย่างไรแต่เขานั้นก็ไม่คิดสงสัยเลยแม้แต่น้อยว่าเย่หยวนจะลงมือฆ่าสังหารล้างบางจริงๆ หรือไม่!
เหตุผลเดียวที่เขายังไม่ลงมือก็เพราะเขาไม่อยากจะสร้างเรื่องแตกหักกับเผ่าเทวาให้มากกว่าเก่าในเวลานี้
ไปหาเทียนชิงเพื่อพูดคุย… เรื่องนี้เขาไม่ได้ล้อเล่น!
เจ้าหมอนี่…
แต่ระหว่างที่หยวนเว่ยกำลังยืนนิ่งอยู่นั้นเย่หยวนก็หันหน้าออกเดินต่อไปทันที
หยวนเว่ยได้แต่ต้องยืนทำหน้าดำคร่ำเครียดอยู่ตรงนั้น
เขาผู้นี้คือตัวตนระดับบรรพกาลของเผ่าเทวา แต่กลับถูกเด็กน้อยคนหนึ่งเมิน!
แต่เขาจะทำอะไรได้?
คนทั้งหลายเองก็ต่างมึนงงไม่คิดฝันว่าท่านหยวนเว่ยลงมาเองเช่นนี้แต่ก็ยังถูกมนุษย์คนนี้ข่มขู่ไปด้วย
และทางท่านหยวนเว่ยนั้นกลับไม่กล้าแม้จะเถียงไปสักคำ!
…
ข่าวเรื่องที่เย่หยวนเข้ามาถึงมิตินรกนั้นมันแพร่กระจายไปทั่วทั้งเผ่าเทวาอย่างรวดเร็ว
เหล่าชาวเผ่าเทวานั้นมีแต่ความรุ่มร้อนหัวใจเมื่อได้ยินข่าวนี้!
จอมมารตนนี้มันฆ่าสังหารชีวิตชาวเผ่าเทวาไปมากมายเท่าใดแล้ว?
แต่เวลานี้มันกลับบุกเข้ามาวางท่าถึงมิตินรก!
แต่ข่าวเรื่องที่ว่าตัวหยวนเว่ยคว้าน้ำเหลวเองก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน
คนทั้งหลายแทบไม่อยากเชื่อ
หยวนเว่ยนั้นคือหนึ่งในบรรพกาลและบรรพบุรุษของตระกูลสายเลือดลึก กำลังของเขาย่อมจะเหนือล้ำอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เขานั้นกลับไม่อาจทำอะไรมารร้ายตนนี้ได้ มันยิ่งฟังดูน่ากลัวไปใหญ่!
แต่สิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นคือฝั่งเบื้องบนของเผ่าเทวานั้นเหมือนจะไม่ได้สนใจการปรากฏตัวของเย่หยวนใดๆ เลยเสียด้วยซ้ำ
ราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สิ่งนี้มันยิ่งทำให้ชาวเผ่าเทวารู้สึกอับอายขายหน้า!
ในดินแดนกลางของตระกูลสายเลือดลึกหยวนเว่ยกำลังนั่งรายงานเรื่องราวต่อหน้าชายแก่ตรงหน้าตน “ท่านหยวนเซี่ยว เรื่องนี้เราจะปล่อยไปไม่ได้นะขอรับ! ท่านหยวนเซี่ยวโปรดลงไปจัดการเจ้าเด็กคนนี้ด้วยตนเองด้วยเถอะ! ไม่เช่นนั้นแล้วเผ่าเทวาเราจะยังเหลือศักดิ์ศรีใดๆ กันอีก?”
ชายแก่คนนี้มันคือบรรพบุรุษต้นตระกูลของตระกูลสายเลือดลึก หยวนเซี่ยว!
เขาคนนี้คือตัวตนที่สูงส่งอยู่ในระดับเดียวกับเทียนชิง!
แต่ตัวหยวนเซี่ยวนั้นกลับกำลังยิ้มด้วยใบหน้าสบายอารมณ์
เขานั้นเรียกให้หยวนเว่ยมานั่งลงด้วยกันก่อนจะบอก “หากมันอยากไปเจอเทียนชิงก็ให้มันไปเจอเสียสิ เรียกคนทั้งหลายกลับมาเถอะ ให้มันทำอะไรตามใจมัน”
หยวนเว่ยที่ได้ยินเช่นนั้นต้องตัวแข็งค้างขึ้นมาทันที
…..