“นี่มันไม่ใช่แล้ว! ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ายิ่งได้เห็นมันยิ่งชัดเจนว่าสิ่งที่เหล่าเต๋าบรรพกาลทำนั้นมันเพื่อจะแย่งชิงความลับของเย่หยวนไปกัน?”
“เออ! ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น! เรื่องนี้มันจะน่าสงสัยเกินไปแล้ว!”
“มันย่อมจะไม่มีอะไรต้องปิดบัง! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของผู้คนทั้งหมดทั้งสิ้น! หากเย่หยวนนั้นทรยศเผ่าพันธุ์จริงแล้วทำไมถึงจะไม่พูดกันต่อหน้าผู้คนกันเล่า?”
…
เวลานี้ที่ด้านหน้าปากเทือกเขากำเนิดตรัสรู้นั้นมันมียอดฝีมือมากมายกำลังพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
ที่แห่งนี้มันมีเจ้าฟ้าดินสี่และห้าทลายมารวมตัวกันอยู่ไม่น้อย
เพราะนี่มันคือเรื่องราวระหว่างเต๋าบรรพกาลทั้งหลายและนักบุญฟ้าคราม เรื่องที่จะส่งผลต่อหลากเผ่าพันธุ์ในภาพรวมแน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะต้องหันมาสนใจ
เพราะอย่างไรเสียสงครามสิ้นโลกนั้นมันก็ยังไม่จบสิ้นลง
สิ่งที่ตามมาหลังจบเรื่องนี้มันจะเป็นสงครามที่หนักหนากว่าเก่า!
เมื่อเรื่องราวนี้มันเกิดปานปลายมาจนถึงเวลานี้คนทั้งหลายย่อมจะอยากเห็นจุดจบของมันให้ได้
แต่ใครจะไปคิดฝันว่าในวินาทีสุดท้ายนั้นเต๋าบรรพกาลกลับปิดประตูใส่หน้าคนทั้งหลายไม่ให้พวกเขาได้เห็นเรื่องราวอีก!
…
“พี่ใหญ่!”
“นายน้อย!”
“เย่หยวน!”
…
เมื่อพวกอิ้งหมัวหู่และลู่เอ๋อทั้งหลายได้เห็นเย่หยวนพวกเขาต่างก็ต้องทำหน้าเหยเกไปตามๆ กัน
เพราะพวกเขานั้นไม่อยากให้เย่หยวนมา แต่สุดท้ายเขาก็ยังมา
ฟุบ!
เงาสีชมพูร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาใส่อกของเย่หยวนพร้อมพยายามกอดรัดเขาไว้
เย่หยวนยกมือขึ้นมาลูบหัวหมูสมบัติก่อนจะหยิบเอาโอสถออกมาให้มันกิน
หมูสมบัติทำหน้าตาพอใจก่อนจะทิ้งตัวหลับลงตรงนั้นไป
แต่มันก็ช่างแปลกแม้จะด้วยพลังของเย่หยวนในเวลานี้ตัวเขาก็ยังไม่อาจจะมองทะลุอาณาจักรพลังเจ้าหมูน้อยตัวนี้ได้
“เย่หยวน เจ้าได้เจอคนของเจ้าแล้ว ทีนี้ได้เวลาจะมานั่งคุยกันหรือยัง?” หลินเฉาเถียนนั้นกล่าวขึ้น
เต๋าบรรพกาลทั้งเก้านั้นปล่อยคลื่นพลังออกมาจับตัวพวกลู่เอ๋อทั้งหลายไว้
หากมันมีอะไรผิดปกติแล้ว พวกเขาทั้งหลายย่อมจะสังหารตัวประกันทันที
และนี่มันก็คือการเตือนเย่หยวนไปด้วย
การจะสังหารเขานั้นมันยากแต่การสังหารพวกลู่เอ๋อทั้งหลายนั้นมันไม่ได้ยากเย็นเลย!
แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบกลับไป “พูดเรื่องอะไรเล่า?”
หลินเฉาเถียนกล่าวขึ้น “เรื่องของ… ความลับที่เจ้ามี!”
เย่หยวนที่ได้ยินต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา “กว่าจะเปิดเผยหน้าตาที่แท้จริงออกมาได้นะ? หลินเฉาเถียน คนอย่างเจ้านี้มันทำเอาข้าจะอ้วกเสียให้ได้จริงๆ!”
เต๋าบรรพกาลไฟนั้นหัวเราะขึ้น “เลิกพูดจาไร้สาระเสียที! เย่หยวน ส่งความลับใดๆ ของเจ้านั้นออกมา! ไม่เช่นนั้นพวกมันจะต้องตายสิ้น!”
เย่หยวนนั้นหันไปมองเต๋าบรรพกาลไฟด้วยสายตาสมเพชก่อนจะถอนใจยาว
เต๋าบรรพกาลไฟนั้นขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็น “ทำท่าทางเช่นนั้นหมายความว่าอย่างไร? เจ้าจะส่งมันมาหรือไม่?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้าแค่สงสารพวกเจ้า! วางแผนการกันหนักหนาใหญ่โต สุดท้ายสิ่งที่พวกเจ้าได้ไปมันกลับไร้ประโยชน์ใดๆ สิ้น! หึๆ น่าสงสารเสียจริงๆ!”
เต๋าบรรพกาลน้ำกล่าวขึ้นสวน “มันจะมีประโยชน์หรือไม่นั้นเจ้าไม่ต้องมาคิดแทนพวกข้า! รีบๆ ส่งมันมาเถอะ ไม่เช่นนั้นหากพวกข้าหมดความอดทนเรื่องมันจะเกินแก้ไป”
เย่หยวนยกฝ่ามือขึ้นมาก่อนจะเผยให้เห็นถึงเขาลูกน้อยในมือ
พร้อมๆ กันนั้นมันก็ปรากฏคลื่นพลังยอดเต๋าพุ่งทะยานออก!
สีหน้าของเต๋าบรรพกาลทั้งเก้านั้นเปลี่ยนไปทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังนี้
เพราะคลื่นพลังนี้มันเหมือนสายน้ำที่หนักแน่นจบทั้งเทือกเขากำเนิดตรัสรู้ลงไปทันที
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น คลื่นพลังสายนี้มันยังคงไหลแผ่กว้างออกไปเรื่อยๆ
คนที่อยู่ด้านนอกทางเข้าเทือกเขานั้นต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน!
“นี่มันอะไรกัน? คลื่นพลังยอดเต๋าที่สุดแสนรุนแรงเช่นนี้! ทำไมข้าจึงรู้สึกเหมือนเขาแห่งถงเทียนมันย้ายมาอยู่ที่เทือกเขากำเนิดตรัสรู้นี้กัน?”
“มันมาจากทิศของโถงใหญ่! นี่มันหรือว่าความลับของเย่หยวนที่ว่ากันนั้น?”
“ฮ่าๆๆ… น่าขันเสียจริง! ทรยศเผ่าพันธุ์ห่าเหวใด! เพื่อความถูกต้องห่าเหวใด! เต๋าบรรพกาลทั้งเก้ามันคิดว่าพวกเรานั้นโง่เง่ามาก! เป้าหมายที่แท้จริงของพวกมันสุดท้ายก็เป็นความลับที่เย่หยวนครอบครองอยู่จริง!”
“หน้าไม่อาย! ชั่วร้ายถึงกระดูก! คนเรานั้นสามารถทำตัวหน้าไม่อายได้ปานนี้?”
…
เสียงของคนทั้งหลายต่างร่ำร้องขึ้นมาตามๆ กัน
คลื่นพลังยอดเต๋าในระดับนี้มีหรือที่คนทั้งหลายจะยังไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น? พวกเขาย่อมเข้าใจได้ทันทีว่าเรื่องที่ผ่านๆ มามันก็แค่คำโกหก!
เก้าเต๋าบรรพกาลหมายหัวเย่หยวนเพราะเรื่องนี้!
ทุกสิ่งอย่างมันชัดเจนแก่ตา!
เย่หยวนนั้นไม่ได้ทรยศหักหลังเผ่าพันธุ์ใดๆ เรื่องต่างๆ นั้นมันเป็นแค่คำกล่าวหาของเต๋าบรรพกาลทั้งเก้าเท่านั้น!
มันไม่มีหลักฐานใดที่จะหนักแน่นไปกว่าภาพตรงหน้านี้แล้ว!
เพราะฉะนั้นหน้าปากทางเข้าเขานั้นมันจึงมีเสียงด่าว่าระงม
แต่เวลานี้เหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งเก้านั้นต่างอ้าปากค้างขึ้นมาอย่างตื่นเต้นดีใจ
พวกเขานั้นไม่ได้รู้สึกถึงอารมณ์ที่รุนแรงเช่นนี้มานานแค่ไหนแล้วกัน?
“ไม่ดีแล้ว!” หลินเฉาเถียนนั้นเป็นคนแรกที่ตั้งสติได้และกล่าวออกมา
คลื่นพลังยอดเต๋าระดับนี้เมื่อมันแผ่ออกไปแล้วคนทั้งมหาพิภพถงเทียนคงได้รู้เรื่องแน่
เช่นนั้นแผนการใดๆ ของพวกเขามันก็จะกลายเป็นแค่เรื่องตลก!
ก่อนหน้านี้เย่หยวนเองก็ได้พยายามบอกให้คนทั้งหลายได้ยินได้ฟังเกิดเป็นความสงสัยมาก่อนแล้ว
เวลานี้เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังสายนี้ มีหรือที่พวกเขาจะยังลังเลไม่เชื่ออีก?
แน่นอนว่าเวลานี้มันได้มีเสียงด่าร้องขึ้นมาจากด้านนอกไม่ขาดสาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเจ้าฟ้าดินสี่และห้าทลายที่ร้องด่าออกมาด้วยปราณเทวะจนเสียงนั้นมันดังก้องไปทั้งเทือกเขาทีเดียว
หน้าไม่อาย มารร้าย เห็นแก่ตัว ชาติหมาและคำด่าอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่อาจจะหาฟังที่ไหนได้อีกมันดังสะท้อนไปทั่วทั้งเทือกเขากำเนิดตรัสรู้
หลินเฉาเถียนนั้นหรี่ตาลงมองเย่หยวนก่อนจะร้องด่า “เจ้าจงใจ!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ใช่ ข้าจงใจทำ! ทำไมเล่า? กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าตนเองทำอะไรไว้? ตัวเองเป็นโสเภณีแท้ๆ แต่กลับจะบอกผู้คนว่าเป็นสาวบริสุทธิ์หรืออย่างไร?”
แน่นอนว่าตัวเย่หยวนย่อมจะเป็นคนปล่อยคลื่นพลังยอดเต๋านั้นออกไป
เพราะตัวเขานั้นหลอมเขาน้อยแห่งถงเทียนมาจนถึงระดับที่สามารถควบคุมได้สมบูรณ์แบบ
หากเขาไม่อยากจะปล่อยคลื่นพลังใดๆ ออกไป มันย่อมจะไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สัมผัสถึง
แต่หากเขาคิดอยากจงใจปล่อยคลื่นพลังออกไปแล้วมันย่อมจะไหลทะลักจนทำให้คนทั้งหลายได้รู้เห็นแผนการของเต๋าบรรพกาลทั้งหลายนี้!
หลินเฉาเถียนนั้นหรี่ตาลงกล่าว “หึ! รู้แล้วจะทำไม? บรรพกาลผู้นี้คือจุดสูงสุดของมหาพิภพถงเทียน หลังจากได้สมบัตินี้มาแล้วข้ายังต้องเกรงกลัวอะไรอีก?”
เย่หยวนยักไหล่ตอบกลับไปก่อนจะโยนเขาน้อยแห่งถงเทียนลงหน้าหลินเฉาเถียน “หากเจ้าชอบใจมันนักก็เอามันไปเถอะ เราจะไปได้หรือยัง?”
เต๋าบรรพกาลคนอื่นๆ นั้นแทบลืมหายใจรอจังหวะที่เขาน้อยแห่งถงเทียนนั้นหลุดออกมาจากมือเย่หยวนมานาน
เมื่อได้เห็นว่าเย่หยวนโยนเขาน้อยแห่งถงเทียนออกมาพวกเขาก็พุ่งตัวออกมาทันที!
แต่หลินเฉาเถียนนั้นยังนั่งนิ่ง!
“พวกเจ้าหยุดมือเดี๋ยวนี้! โง่เสียสติกันไปหมดแล้วหรือ? เด็กคนนี้มันคิดจะให้พวกเราสู้กันจนตายไปเหลือรอดแค่คนเดียวมันจะได้เอาสมบัตินี้กลับไปได้! หึๆ ถึงเวลานั้นพวกเจ้าจะยังมีชีวิตมาแย่งชิงสมบัติและศึกษามันอีกหรือไม่?” หลินเฉาเทียนนั้นกล่าวขึ้นมาคืนสติให้คนทั้งหลายพร้อมยังคงใช้ปราณจับพวกลู่เอ๋อไว้มั่น
คำพูดของเขานั้นมันเหมือนสายฟ้าผ่าลงกลางหัวเต๋าบรรพกาลอีกแปดคน
เหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นสะท้านไปทั้งใจ เกือบที่จะติดกับดักไปเสียแล้ว!
เย่หยวนนั้นมีรากฐานที่มั่นคงไปแล้ว ต่อให้ไม่มีตัวสมบัตินี้หลังจากได้มีเวลาบ่มเพาะอีกหน่อยแม้แต่เหล่าเต๋าบรรพกาลนั้นก็คงไม่อาจจะเทียบเคียงเขาได้
หลินเฉาเถียนนั้นปล่อยคลื่นพลังออกมาจับเขาน้อยแห่งถงเทียนและย้ายไปวางไว้ไกลจากเต๋าบรรพกาลทั้งเก้า
เท่านี้พวกเขาก็คงวางใจได้มากกว่าเก่า
“เจ้าเล่ห์นัก! เจ้าเด็กคนนี้มันต้องตาย!” เต๋าบรรพกาลไฟนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“หึ! จะยังรออะไรเล่า? สมบัติก็ได้มาแล้ว สังหารมันให้จบๆ ปัญหาไปเสียสิ!” เต๋าบรรพกาลทำลายบ้างร้องกล่าวขึ้นเสริม
“สังหาร? จะสังหารอย่างไร? เจ้าสังหารมันได้ไหมเล่า?” หลินเฉาเถียนถามขึ้นด้วยความปวดหัว
ปัญหาที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้มันต้องรับมืออย่างระมัดระวัง!