เยวี่ยเมิ่งลี่ในเวลานี้มีท่าทางที่สุดแสนสง่าราวกับไม่สนใจโลกหล้า นางนั้นเป็นเหมือนดั่งนางฟ้านางสวรรค์ที่จุติลงมาสู่โลกมนุษย์
ทั้งคลื่นพลังจากกายของนางเองก็ยังแตกต่างจากคนทั่วไปมากมายนัก
ความสูงส่งของนางในเวลานี้มันยิ่งเสริมความงดงามให้เยวี่ยเมิ่งลี่ไปได้อีกขั้น
“ช่างเป็นหญิงที่งดงามนัก! นางเป็นใครกัน? ไหนว่าเผ่าเทวานั้นมีบรรพบุรุษแค่แปดคนมิใช่หรือ? ทำไมมันจึงได้มีหญิงสาวอีกคนขึ้นมาได้?”
“ข้าได้ยินว่าคนรักของนักบุญฟ้าครามท่านตกไปในเงื้อมมือของเผ่าเทวาและนางนั้นก็มีพรสวรรค์สูงส่ง! หรือว่าจะเป็นนางนี้กัน?”
“ไม่ผิดแน่แล้ว! ก่อนนั้นตอนที่นักบุญฟ้าครามท่านได้พบเจอนางในสนามรบมันมีทหารหลายคนได้เห็นถึงคลื่นพลังของนางกับตา เพียงแค่ว่าในเวลานั้นนางยังไม่ได้แข็งแกร่งปานนี้ใช่หรือไม่?”
…
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างเริ่มจับกลุ่มพูดคุยวิเคราะห์คาดเดาถึงที่มาของเยวี่ยเมิ่งลี่ได้อย่างรวดเร็ว
เรื่องราวในคราวนั้นมันก็มิได้เป็นความลับใดๆ จะเดามันก็คงไม่ยากเย็น
เพียงแค่ว่ามันไม่มีใครคิดฝันว่าเยวี่ยเมิ่งลี่นั้นกลับจะพัฒนาขึ้นไปจนถึงระดับของบรรพบุรุษได้เช่นนี้!
หากเป็นเก้าต่อเก้าแล้ว มีหรือที่เต๋าบรรพกาลผู้สูญเสียพลังกฎจากเต๋าสวรรค์ไปจะยังต้านทานเผ่าเทวาได้?
นางนั้นก้าวออกมาก่อนจะหันไปหาหลินเฉาเถียน “ข้านั้นได้ยินมานานว่าเต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นคือเต๋าบรรพกาลอันดับหนึ่งของเผ่าพันธุ์ ข้าขอท่านชี้แนะด้วย!”
คำพูดเดียวของนางนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นลงสนามรบมาก็เลือกจะปะทะกับเต๋าบรรพกาลชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดทันที!
หลินเฉาเถียนนั้นเองก็ได้แต่ยืนนิ่งไปพักใหญ่ก่อนที่จะหัวเราะขึ้นในที่สุด “นังเด็กคนนี้ เจ้ามันช่างอวดดีโอหังเหมือนเย่หยวนเสียนี่กระไร! แต่เจ้านั้นแน่ใจนะว่าไม่ได้เลือกศัตรูผิด?”
เยวี่ยเมิ่งลี่ตอบกลับไป “ใช่แล้ว เจ้านั่นแหละ! มา!”
หลินเฉาเถียนนั้นตอบกลับไป “ในเมื่อเจ้ามารนหาที่ตายเองเย่หยวนมันก็คงไม่อาจจะมาโทษบรรพกาลผู้นี้ได้แล้ว!”
คลื่นพลังธาตุไม้รุนแรงพุ่งปะทุขึ้นทันที
เวลานี้คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันกลับหมุนวนจนกลายเป็นดั่งพายุคลั่ง
หลินเฉาเถียนนั้นมีกำลังเทียบเคียงสวรรค์!
ฝีมือของเขานั้นมันแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องถาม
“หมื่นดาบเหินฟ้า!”
หลินเฉาเถียนนั้นร้องขึ้นมาด้วยคลื่นพลังที่รุนแรงและหนักหน่วง
วินาทีต่อมามันก็เกิดหนามงอกขึ้นมาจากผืนดินนับไม่ถ้วน
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
ดอกหนามทั้งหลายนั้นงอกขึ้นมาและพุ่งเข้าใส่ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่
เวลานี้บนท้องฟ้ามันเปี่ยมล้นไปด้วยหนามมากมายที่ปิดทางหนีของเยวี่ยเมิ่งลี่ไว้สิ้น
หนามเหล่านี้มันดูเหมือนจะไม่ได้คมกริบเหมือนดาบหรือหอกแต่ที่ใดที่มันพุ่งผ่านนั้นกลับมีรอยมิติแตกแยกให้เห็นอย่างชัดเจน
เวลานี้มันเหมือนทั้งท้องฟ้าได้ถูกกรีดจนเป็นแผลย่อยๆ มากมาย
เมื่อเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นอย่างมีความหวัง
แม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจตัวหลินเฉาเถียนมากมายแต่เวลานี้เมื่อต้องมาอยู่ในสนามรบ พวกเขาย่อมจะเอาใจช่วยฝั่งที่จะทำให้ตัวเองรอดอย่างไม่ต้องสงสัย
“นี่หรือคือพลังของเต๋าบรรพกาลชีวิต? ต่อให้จะผ่านการกำเนิดแห่งเต๋าสวรรค์มาแล้วแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาอ่อนแอลงมากมายเลย!”
“หึ เผ่าเทวามันคงตกตะลึงมากแล้ว!”
“จัดการเผ่าเทวามันลงเลย!”
…
แม้ต้องเจอคลื่นพลังรุนแรงหนักหน่วงแค่ไหนแต่เยวี่ยเมิ่งลี่ก็ยังทำหน้านิ่งไม่เปลี่ยนแปลง
วินาทีต่อมานางก็เบิกตากว้างก่อนจะกล่าวขึ้น
“วรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ แสงจันทร์ไร้สุด!”
ม่านสีขาวนวลลอยลงปกคลุมโลกจนทำให้คนทั้งหลายต้องรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาจับใจ
ภาพเบื้องหน้าของคนทั้งหลายมืดดับไปเสี้ยววินาทีหนึ่ง แต่เมื่อได้เห็นอีกครั้งจุดที่เยวี่ยเมิ่งลี่ยืนมันก็ได้สลับตำแหน่งกับหลินเฉาเถียนไปแล้ว!
นั่นหมายความว่าหนามดอกมากมายนั้นมันกำลังพุ่งตรงมาหาตัวเขาเอง
หลินเฉาเถียนเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงพร้อมด้วยขนทั้งร่างที่ลุกตั้ง
เขานั้นกลับไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองถูกสลับตำแหน่งตั้งแต่ตอนไหนหรือโดนได้อย่างไร!
แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาให้คิดมากมายแล้วเพราะหนามทั้งหลายมันแทบจะมาถึงตัวของเขาแล้ว
เขารีบยกมือขึ้นโบกปัดไล่พลังออกไปทำให้หนามมากมายนั้นกลายเป็นแค่ฝุ่นในอากาศราวกับว่าไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
หลินเฉาเถียนนั้นหรี่ตาลงหันไปมองดูเยวี่ยเมิ่งลี่ที่อยู่ไม่ไกล
หญิงนางนี้มันทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาด
เขานั้นคือเต๋าบรรพกาลแต่กลับถูกเยวี่ยเมิ่งลี่สลับตำแหน่งโดยไม่รู้ตัว!
มันช่างเป็นวิชาที่เหนือล้ำความเข้าใจไปมากนัก!
คนทั้งหลายได้แต่ต้องเบิกตากว้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ
แต่เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นย่อมไม่คิดปล่อยให้คนทั้งหลายได้ยืนนิ่งตื่นตะลึงมากนัก
เวลานี้นางค่อยๆ ปล่อยลายพระเจ้าออกมาจากร่างกาย!
หนึ่ง!
สอง!
…
สิบ!
เมื่อหลินเฉาเถียนเห็นภาพตรงหน้านี้ดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้างจนแทบจะหลุดออกจากเบ้า
และมิใช่แค่ตัวเขาเท่านั้น เต๋าบรรพกาลทั้งแปดที่เหลือเองก็มีสีหน้าดูไม่จืดเช่นกัน
“อาณาจักรเต๋าสวรรค์สิบลาย! นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไรกัน? ยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสวรรค์สิบลายสองคนได้ปรากฏขึ้นในเผ่าเทวา!” หลินเฉาเถียนนั้นร้องลั่นขึ้นมา
ฝั่งด้านยอดฝีมือชาวมนุษย์เองก็มีสภาพแตกตื่นไม่แพ้กัน
เพราะไม่มีใครคิดฝันว่าสาวงามนางนี้กลับจะเป็นยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสวรรค์สิบลายในตำนาน!
เทียนชิงนั้นคือยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสวรรค์สิบลาย!
ตัวตนระดับเขานั้นมันกลับปรากฏขึ้นมาอีกคนหนึ่ง!
“ยอดฝีมือสิบลายนั้นมีพลังเชื่อสวรรค์เจาะแผ่นดิน ไม่มีวันตายดับสลายลง!”
“ก่อนนั้นมหาบรรพกาลมิติเวลาท่านได้ผสานสองสุดยอดแนวคิดแต่ก็ยังไม่อาจจะทำอะไรเทียนชิงยอดฝีมืออาณาจักรสิบลายลงได้! เวลานี้มันกลับมียอดฝีมือสิบลายปรากฏขึ้นมาอีกคนในเผ่าเทวา!”
“นี่… มันคงถึงเวลาหายนะของเผ่ามนุษย์เราแล้ว?”
…
ในเวลานี้เหล่ายอดฝีมือชาวมนุษย์ทั้งหลายต่างต้องร้องขึ้นด้วยความสิ้นหวัง
แค่เทียนชิงคนเดียวนั้นพวกเขาก็แทบไม่อาจจะทำอะไรได้แล้ว
เวลานี้มันกลับมีเยวี่ยเมิ่งลี่ขึ้นมาอีกคน!
จะอย่างไรเสียตัวเทียนชิงนั้นก็ปะทะกับเต๋าบรรพกาลถึงสามคนได้ด้วยตัวคนเดียว!
เวลานี้เมื่อมีสองเทียนชิงแล้ว มันย่อมจะเท่ากับกำลังของหกเต๋าบรรพกาล!
เช่นนั้นแล้วเหล่าบรรพบุรุษที่เหลือนั้นจะให้ใครไปรับมือได้เล่า?
วินาทีที่เยวี่ยเมิ่งลี่ปรากฏตัวขึ้นมานั้น ความพ่ายแพ้มันก็ได้มาถึงหน้าคนทั้งหลายทันที!
“ให้ตายสิวะ! ให้ตายเถอะ! เจ้าหมูของนักบุญฟ้าครามนั้นเองก็เป็นถึงยอดฝีมือพลังกฎ กำลังของมันนั้นเหนือล้ำกว่าเต๋าบรรพกาลเสียด้วยซ้ำไป! หากมิใช่เพราะเจ้าระยำพวกนี้มันไปหาเรื่องนักบุญฟ้าครามจนสุดขีดแล้วเขาจะต้องออกมาปกป้องพวกเราแน่!”
“น่าเสียดาย! ได้แต่เศร้าเสียใจ! ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นคงเอาใจออกห่างคำว่าเผ่าพันธุ์ไปไกลแล้วใช่ไหม?”
ในวินาทีแห่งความสิ้นหวังนั้นคนทั้งหลายย่อมจะพยายามมองหาความหวังเท่าที่มี
เวลานี้พวกเขาย่อมจะนึกไปถึงหมูสมบัติและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล
หากยอดฝีมือระดับกฎทั้งสองนั้นออกหน้าแล้ว มันคงแก้ไขสถานการณ์ให้เผ่าพันธุ์ได้บ้าง
เพียงแค่ว่าในสองยอดฝีมือนั้น ตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเองก็ถูกหลินเฉาเถียนหลอกให้หลอมโอสถให้ก่อนจะตระบัดคำไม่คิดทำตามสัญญา ส่วนหมูสมบัตินั้นเองก็ถูกเต๋าบรรพกาลทั้งหลายไล่ล่าจนสุดฟ้าดิน
นักบุญฟ้าครามเองก็ถูกจับคนรักเป็นตัวประกันและบังคับแย่งชิงเอาเขาน้อยแห่งถงเทียนไป!
หากมิใช่เพราะเรื่องนี้แล้วด้วยกำลังของนักบุญฟ้าคราม มันย่อมมากพอที่จะรับมือบรรพบุรุษเผ่าเทวาสักคนสองคน!
แต่น่าเสียดายที่ว่าทั้งสองฝ่ายนั้นคงเคียดแค้นกันไปจนวันตายแล้ว!
“แสงจันทร์ไร้สุด จุติอนันต์!” ในเวลานั้นเองปากสีแดงอวบอิ่มของเยวี่ยเมิ่งลี่มันก็ได้กล่าวขึ้นอีกครั้ง
เวลานี้มันปรากฏเงาภาพจันทราสองดวงขึ้นในดวงตาของนาง
พร้อมกันนั้นมันก็ปรากฏเงาสีขาวนวลร่วงลงมาห่อหุ้มแผ่นดิน
หลินเฉาเถียนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายเพราะรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้เข้ามาในโลกอีกมิติหนึ่ง
ที่แห่งนี้ฟ้าดินมันช่างแสนสงบ
เสียงพูดคุยร้องว่าของคนทั้งหลายมันได้เงียบหายไปสิ้น
เวลานี้แม้แต่เงาร่างของเต๋าบรรพกาลที่เหลือทั้งแปดเองมันก็ไม่มีอยู่แล้ว
ตรงหน้าของเขานั้นมันมีเพียงแค่ตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ยืนอยู่
หลินเฉาเถียนนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนจะกล่าวขึ้นมา “นังเด็กนี่ เจ้าคิดจะขังบรรพกาลผู้นี้ไว้ในที่แห่งนี้? จะคิดง่ายเกินไปแล้ว!”
เยวี่ยเมิ่งลี่ตอบกลับไป “นี่คือแดนฝันจันทร์สว่าง ขอให้สนุก!”
พูดจบร่างของนางก็เลือนหายไป
พร้อมๆ กันนั้นรอบข้างมันก็เกิดบรรยากาศวังเวงขึ้นมา
ที่โลกด้านนอกมุมปากของเทียนชิงเผยอขึ้นยิ้ม “หึๆ แสงจันทร์ไร้สุด จุติอนันต์ นี่มันคงเป็นศาสตร์วิชาลวงตาที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา! หากติดอยู่ภายในนั้นมันจะเหมือนได้พบเจอการจุตินับครั้งไม่ถ้วน! เจ้านั้นรู้ดีว่ามันคือภาพลวงแต่เจ้ากลับไม่อาจจะควบคุมตนเองได้! แม้แต่บรรพบุรุษคนนี้เองก็ยังต้องทุ่มแรงกายใจหนักหน่วงกว่าที่จะทลายมันออกมาได้ หลินเฉาเถียนนี้มันคงต้องทรมานอย่างหนักหน่วงแน่! ใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์เถอะ! พวกเจ้าทั้งหลาย ไปโจมตีและจัดการคนอื่นๆ ลงให้สิ้น!”
…………………………