“ไม่ๆๆ! ข้าจะเป็น… น้องท่านเอง! ข้าจะเป็นน้องท่าน!”
มีหรือที่ถังหยูจะยังกล้ามาคิดแค้นในความเจ็บปวดใด? เวลานี้เขารีบตอบรับกลับมาสุดตัว
หากความแค้นไม่คิดอภัยกันแล้วมันย่อมจะคิดแค้นกันไม่จบสิ้น!
การถูกตัดแขนนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน?
แต่มันก็ยังไม่สำคัญเท่าชีวิต!
เย่หยวนนั้นมองดูด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก “การจะเป็นพี่น้องกันนั้นมันก็ต้องดูโชคชะตาของกันและกันด้วย! เจ้าจะมาเป็นน้องข้าแค่เพราะเจ้าอยากเป็นไม่ได้หรอก!”
ถังหยูนั้นมึนงงขึ้นอย่างสุดใจเมื่อได้ยิน
ก่อนหน้านี้มันเป็นเจ้าเองมิใช่หรือที่บอกว่าอยากเป็นพี่น้อง? ทำไมเวลานี้มันกลายเป็นเรื่องโชคชะตาไปเล่า?
แม้ว่าคนทั้งหลายนั้นจะเป็นนายน้อยคุณหนูที่อยู่เหนือหัวผู้คนใดๆ แต่ความเป็นจริงแล้วพวกเขาไม่ได้เหนือล้ำมากมาย
เพราะพวกเขานั้นเกิดมาเป็นคนต่ำต้อยในโลกใบนี้ ไม่มีประสบการณ์ใดๆ มากมายและกลัวความเสี่ยงที่สุด
เหล่าผู้บรรลุขึ้นมาจากภพเบื้องล่างนั้น มีใครบ้างเล่าที่จะไม่ได้ก้าวเดินผ่านซากศพศัตรูและทะเลเลือดขึ้นมา?
หากวัดกันที่ด้านความโหดร้ายแล้ว ต่อให้เอาสิบถังหยูมาก็คงไม่อาจเทียบได้แม้แต่เศษเสี้ยวของเย่หยวน
และในครั้งนี้ตัวถังหยูนั้นกลัวเย่หยวนจนแทบฉี่ราดออกมาแล้ว
“ช-ชะตา? ท่านพี่ เรานั้นย่อมมีชะตาต้องกันแน่! จากวันนี้ไปท่านนั้นคือพี่ชายของถังหยูผู้นี้!” ถังหยูกล่าวขึ้นมา
เย่หยวนส่ายหัวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ตระกูลถังเจ้านั้นมีส่วนร่วมในการสังหารพ่อของหยางเสว่เจินหรือไม่?”
ถังหยูเบิกตากว้างขึ้นก่อนจะส่ายหัวรัวออกมา “ไม่! ไม่เกี่ยวด้วยเลย! เรื่องนี้มันเป็นหลี่ปาเถียนวางแผนคนเดียวสิ้น มันนั้นวางแผนสังหารหยางหยูและมาหานาย… น้องผู้นี้ก่อนจะมอบของขวัญล้ำค่าให้ จนสุดท้ายน้องต้องจำใจยอมรับมันไว้ ท-ท่านพี่ มันไม่เกี่ยวอะไรกับน้องจริงๆ!”
เวลานี้แล้วมีหรือที่ถังหยูจะยังมาวางท่านายน้อยใดๆ ได้? เขานั้นรีบเปลี่ยนคำเรียกตัวเองเป็น ‘น้อง’ ทันที
เย่หยวนนั้นมองดูคำพูดและสัมผัสได้ว่าถังหยูไม่ได้โกหก
แต่ต่อให้เขาจะโกหกนั้น เย่หยวนก็ไม่คิดสนใจ
หลี่เจิ้งชิวที่ได้ยินนั้นต้องรีบร้องขึ้นมา “นายน้อยหยู ท่านพูดเช่นนั้นได้อย่างไรกัน? เรื่องนี้ตระกูลหลี่เราได้รับคำสั่งมาจากตระกูลถังท่านแท้ๆ! ไม่เช่นนั้นมีหรือที่เราจะกล้าทำเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ขึ้นมา?”
เหล่ายอดฝีมือนั้นมีหลายคนที่พอจะฉลาดอยู่บ้าง เมื่อพวกเขาได้ยินนั้นแต่ละคนต่างต้องส่ายหัวออกมา
คำพูดของหลี่เจิ้งชิวนั้นมันอาจจะฟังดูฉลาด แต่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับสุดโง่
เพราะต่อให้เขาจะรอดจากมือเย่หยวนวันนี้ไปได้ มีหรือที่เขาจะรอดจากความเดือดดาลของตระกูลถังไปได้?
หลี่เจิ้งชิวนั้นลากตระกูลหลี่ทั้งหมดลงโคลนไปด้วยกัน!
แน่นอนว่าเมื่อถังหยูได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องเบิกตาขึ้นด้วยความเดือดดาล
เขานั้นไม่คิดสนใจอาการเจ็บที่แขนใดๆ อีกและก้าวขึ้นมาเตะอกของหลี่เจิ้งชิวอย่างรุนแรง
“เจ้าขี้ข้านี่ กลับมาคิดโทษเอาความผิดป้ายข้าหรือ! วันนี้นายน้อยผู้นี้จะจัดการเจ้าลงเสีย! ไม่สิ! มิใช่แค่เจ้า! ตระกูลหลี่ของเจ้านั้นมันจะถูกขับไล่ออกจากเมืองจักรพรรดิไปให้สิ้น!” ถังหยูกล่าว
ภายใต้ความเดือดดาลของถังหยูนั้นเท้าที่เขาเตะออกมามันนั้นหนักหน่วงอย่างสุดแรง!
หลี่เจิ้งชิวนั้นรับไปเต็มๆ อย่างไม่อาจป้องกันจนตาเหลือกตายลงคาที่
เย่หยวนนั้นไม่คิดหยุดห้ามใดๆ เพราะเมื่อเริ่มลงมือแล้วมันก็ต้องทำให้ถึงที่สุด หลี่เจิ้งชิวและตระกูลหลี่นั้นมันต้องหายไป
หากทำเรื่องนั้นลงได้จนสิ้นแล้วมันก็จะถือว่าเย่หยวนตอบแทนหยางเสว่เจินแล้วสิ้น
“ท-ท่านพี่ ท่านอย่าได้ไปฟังคำไร้สาระของมัน! เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้าจริงๆ!” ถังหยูนั้นแทบจะร้องไห้ออกมา
เย่หยวนนั้นยิ้มตอบกลับไป “เราพี่น้องกัน ข้าย่อมเชื่อเจ้า! แต่สหายของข้านั้นเสียขวัญจากเรื่องนี้มากทีเดียว เจ้าคิดจะทำอย่างไร?”
สหายที่เย่หยวนกล่าวถึงมันย่อมจะหมายถึงหยางเสว่เจิน
ถังหยูพยักหน้ารับราวกับเป็นไก่ “ท่านพี่วางใจเถอะ น้องเข้าใจดี! น้องเข้าใจมันอย่างแจ่มชัด! พรุ่งนี้ไป ไม่สิ ตั้งแต่วันนี้ไปอาณาจักรตะวันออกมันจะไม่มีตระกูลหลี่อีกต่อไป!”
เย่หยวนยิ้มตอบไปจนทำให้หัวใจของถังหยูต้องสั่นสะท้านก่อนจะหันไปมองดูลู่หยวนเจี๋ยและกุ้ยเทียนหยู
“ท่านพี่โปรดวางใจ ตระกูลลู่และตระกูลกุ้ยเองก็จะหายไปเช่นกัน!” ถังหยูกล่าวขึ้นเสริม
ลู่หยวนเจี๋ยและกุ้ยเทียนหยูสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย หัวใจของพวกเขานั้นมันแทบหยุดเต้นลง
เรื่องนี้มันหนักหนาเกินไป!
แค่การกระทำโง่ๆ ของตัวเขาเพียงอย่างเดียวนั้นมันกลับจะทำให้ทั้งตระกูลต้องฉิบหาย
ราคาของมันนั้นหนักเกินกว่าจะรับ!
“ท-ท่านเย่ น้องผู้นี้มีตาหามีแววไม่ ทำการลบหลู่นายท่านไปมากมาย! ข้า… ข้าขอนายท่านโปรดมีเมตตาด้วย!”
ลู่หยวนเจี๋ยนั้นซ้ำสุดใจ!
เขานั้นไม่นึกฝันว่าตระกูลของเขากลับจะต้องมาเสียที่ตั้งหลักไปเพราะผู้บรรลุสวรรค์คนหนึ่ง!
“ท่านเย่ ข้า… ข้าขอโทษ อ-อภัยให้ข้าด้วย!” กุ้ยเทียนหยูกล่าวขึ้นอย่างหวาดกลัว
เย่หยวนยิ้มขึ้น “หึ พวกเจ้านั้นมีเรื่องติดข้ากับข้ามาไม่น้อย การจะอวดอ้างตัวเองนั้นมันก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดนักหรอกแต่กุ้ยเทียนหยูนั้นมันคิดสังหารข้ามาหลายที เมื่อกี้นี่เองมันก็คิดจะยืมมือถังหยูสังหารข้า! หึๆ เจ้าคิดว่าข้าจะใจกว้างขนาดนั้นหรือ?”
ฟุบ!
เงาร่างหนึ่งพุ่งผ่าน เท้าของถังหยูเตะเข้ากลางตัวกุ้ยเทียนหยูจนแทบสิ้นใจ
จากนั้นเขาก็หันไปมองที่ลู่หยวนเจี๋ยจนทำให้อีกฝ่ายแทบฉี่ราด
ถังหยูนั้นกกำลังจะยกเท้าขึ้นมาอีกครั้งแต่เย่หยวนกลับพูดขึ้นขัดก่อน “พอเถอะ ก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้ พวกเจ้าทั้งสองตระกูลจงไสหัวออกไปจากเมืองจักรพรรดิเสียแล้วข้าจะถือว่าเรื่องมันจบกันเท่านี้ แต่หากวันพรุ่งนี้แล้วเจ้ายังไม่คิดย้ายไปไหน ข้าจะไปเยี่ยมเยียนถึงบ้านเอง!”
เมื่อลู่หยวนเจี๋ยได้ยินเช่นนั้นเขาก็เหมือนได้รับการยกโทษจากสวรรค์รีบพยักหน้ารับออกมา “นายท่านวางใจเถอะ ข้าน้อยจะรีบนำคนในตระกูลออกจากเมืองไปทันที!”
พูดจบแล้วเขาก็พุ่งตัวหายไปทันที
เมื่อเรื่องราวทั้งหมดจบสิ้นแล้วถังหยูก็กล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางเกรงๆ “ท่านพี่พอใจหรือยัง?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่เลวๆ ในเมื่อจบเรื่องได้แล้วเจ้าก็กลับไปก่อนเถอะ! แน่นอนว่าหากเจ้าคิดอยากพาคนตระกูลถังมาจัดการข้าก็พามาได้เลย แต่… ครั้งหน้าข้าจะไม่แสดงความปรานีอีกแล้ว! ไปเสีย!”
ถังหยูนั้นเหมือนได้รับการอภัยโทษรีบก้มหัวลาเย่หยวนและพาคนคุ้มกันของตนกลับไป
ไม่นานเสียงดังวุ่นวายในคฤหาสน์บ้านตระกูลหยางมันก็เงียบลง
ภายในโถงใหญ่นี้มันเหลือเพียงแค่หยางเสว่เจิน หยางจินและหญิงวัยกลางคนผู้นั้น พวกเขาทั้งสามต่างได้แต่ต้องอ้าปากค้างจนถึงตอนนี้
ไม่มีใครคิดว่าเรื่องราวที่มันจบไปตั้งแต่ก่อนเริ่มนั้นมันกลับจะผลิกกลับมาได้ในวินาทีสุดท้ายเช่นนี้!
หยางเสว่เจินนั้นเป็นเหมือนเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งแต่กลับขึ้นมาผงาดได้ด้วยการช่วยเหลือของผู้บรรลุสวรรค์คนหนึ่ง!
การเปลี่ยนแปลงนั้นมันรวดเร็วจนเกินกว่าที่จะมีใครตั้งตัวได้ทัน!
หญิงวัยกลางคนผู้นั้นรีบก้มหัวลงกราบเย่หยวน “น-นายท่าน ไว้ชีวิตข้าด้วย! เรื่องนี้ข้าน้อยไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย!”
แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบไปด้วยรอยยิ้ม “เรื่องภายในครอบครัวของเจ้า ข้าจะไม่ยุ่งให้มากหรอก แต่ข้าคิดว่าการให้หยางเสว่เจินขึ้นเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปนั้นมันคงไม่มีใครคิดขัดใช่หรือไม่?”
มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะขัด!
ไม่มีใครในตระกูลหยางกล้าจะพูดขึ้นมาแทรก มันก็เหมือนดั่งเป็นการยอมรับตำแหน่งของหยางเสว่เจินไป
หยางเสว่เจินนั้นยังคงอ้าปากค้างมาจนถึงตอนนี้ นางนั้นก็ไม่นึกฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับจะลงทุนทำถึงขนาดนี้
แต่ภาพตรงหน้านี้มันก็ทำให้นางไม่รู้ต้องตอบรับอย่างไรเช่นกัน
หญิงวัยกลางคนผู้นั้นทำสีหน้าเหมือนอยากจะขัดแต่เมื่อได้เห็นสายตาของเย่หยวนที่มองมาแล้วนางจึงได้แต่ต้องกล่าวขึ้นเสริมแทนลง “เจ้าค่ะ! ใครคิดอยากขัดเรื่องนี้ให้ลุกขึ้นมาได้ตอนนี้เลย!”
ไม่มีใครกล้าพูดหรือขยับใดๆ มันย่อมจะเหมือนเป็นการยอมรับไปในตัว!
แต่หยางเสว่เจินที่ได้สติกลับมากลับต้องร้องขึ้น “เย่หยวน เจ้าไม่ควรปล่อยถังหยูมันกลับไป! เจ้าไม่รู้ว่าตระกูลถังมันมีอำนาจมากมายเพียงใด หากมันกลับไปได้แล้วมันย่อมจะทำให้คนทั้งตระกูลหยางเผชิญกับความฉิบหายแน่!”
แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย “วางใจเถอะ ถังหยูมันดูฉลาดกว่าทั้งสองคนนั้นนัก แน่นอนว่าหากมันคิดรนหาที่ตายแล้ว ข้าก็พร้อมที่จะส่งมันลงนรกให้เช่นกัน”
..