เจ้าก้อนสีดำนั้นมันดูอย่างไรก็เต็มไปด้วยความไม่บริสุทธิ์
เทียบกับหญ้ากระดูกมังกรที่กู่เม่าหลอมแล้วนั้นมันย่อมจะมีคุณภาพต่ำกว่าอย่างสิ้นเชิง
แต่เขาก็ยังหลอมออกมาได้!
เย่หยวนส่ายหัวออกมาเมื่อได้เห็นผลงานของตนเอง “นี่หรือคือความเข้ากันได้? มันช่างยากเย็นเสียจริงๆ!”
ระหว่างการหลอมนั้นเขารู้สึกราวกับว่าหญ้ากระดูกมังกรมันเป็นของจากโลกอื่นที่เขาไม่อาจเอื้อมถึง
การหลอมอะไรเช่นนั้นมันเป็นครั้งแรกของเย่หยวนอย่างแท้จริง
สิ่งของบนโลกแห่งกฎมันช่างแตกต่างจากโลกเบื้องล่าง!
สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นมันเป็นโลกที่สุดแสนบริสุทธิ์แตกต่างจากโลกเบื้องล่างอย่างสิ้นเชิง
มันแยกออกจากกันอย่างชัดเจน!
เมื่อใดก็ตามที่เย่หยวนพยายามดึงส่วนประกอบของหญ้ากระดูกมังกรออกมาเขาก็จะรู้สึกได้ถึงแรงต้านอย่างมหาศาล
เย่หยวนนั้นคิดถึงแต่แรงต้านที่สัมผัสนี้จนไม่เหลือเวลาไปมองสีหน้าของคนทั้งสองในเวลานี้เลย
สีหน้าของกู่เม่าและถังหยูในเวลานี้มันแทบไม่ต่างกัน พวกเขานั้นเบิกตากว้างอ้าปากค้างขึ้นมาจนแทบเอามือล้วงเข้าไปได้
ชัดเจนเลยว่าคนทั้งสองนั้นตื่นตะลึงเพียงแค่ไหน
“หืม? จะมองข้าแบบนั้นทำไมเล่า? ข้าก็บอกไปแล้วว่าวิชาการควบคุมไฟของเจ้านั้นเป็นแค่วิชากระจอกๆ!” เย่หยวนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองและเห็นใบหน้าอันแสนแปลกประหลาดของคนทั้งสองจึงได้กล่าวขึ้น
“เจ้า… เจ้าเคยหลอมหญ้ากระดูกมังกรมาก่อนหรือ?” กู่เม่าอดถามขึ้นไม่ได้
เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “ย่อมไม่เคย นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นสมุนไพรสวรรค์”
“บ้าน่า! ผู้บรรลุสวรรค์อย่างเจ้านั้นกลับจะหลอมสมุนไพรสวรรค์จนสำเร็จได้ในคราแรกหรือ? เจ้าคิดว่าข้าโง่มากหรืออย่างไร!” กู่เม่าร้องลั่นพร้อมดีดตัวลุกขึ้น
เย่หยวนได้แต่ขมวดคิ้วแน่นมองดูท่าทางนั้น “เจ้าเรียกสิ่งนี้ว่าสำเร็จหรือ? เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์มีมาตรฐานต่ำปานนั้น? ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ในเมื่อมาตรฐานของเจ้ามันยังแค่นี้ วิชาการหลอมโอสถสวรรค์ของเจ้าเองมันก็คงไม่เท่าไหร่เช่นกัน”
กู่เม่านั้นแทบจะกระอักเลือดขึ้นมา คำพูดนี้มันสุดแสนหนักหน่วง!
เมื่อถูกผู้บรรลุสวรรค์ผู้หลอมหญ้ากระดูกมังกรออกมาได้กล่าวว่าต่อหน้าเช่นนี้ตัวกู่เม่าก็ย่อมจะเดือดดาลขึ้นมาอย่างถึงที่สุด
แต่เขานั้นกลับไม่อาจจะหาคำเถียงออกไปได้!
ด้วยความเข้ากันได้ที่ไม่ถึงสามแต้มนั้นเย่หยวนกลับสามารถจะหลอมหญ้ากระดูกมังกรขึ้นมาได้จนสำเร็จในครั้งแรก มันย่อมชัดเจนแล้วว่าพื้นฐานของเขานั้นหนักแน่นเพียงใด!
หากจะให้พูดแล้ว นอกจากเรื่องความเข้ากันได้นั้นเย่หยวนก็คงมีวิชาการโอสถที่เหนือล้ำกว่าเขาไปในทุกด้าน!
กู่เม่าร้องตอบกลับไป “เด็กน้อย เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! หากไม่มีความเข้ากันได้แล้วต่อให้เจ้าจะมากล้นพรสวรรค์สักแค่ไหนมันก็ไม่มีทางที่จะหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้หรอก! ความเข้ากันได้นั้นมันคือความห่างชั้นของสวรรค์ มันเป็นหุบเหวที่เจ้าจะไม่อาจก้าวข้ามได้!”
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจและหันไปถามทางถังหยู “ความเข้ากันได้นั้นมันคืออะไรกันแน่?”
ถังหยูที่ได้ยินก็ต้องส่ายหัวตอบกลับมา “สมุนไพรสวรรค์นั้นมันเกิดขึ้นมาจากฟ้าดินและจัดว่าเป็นสิ่งก่อนกำเนิด ส่วนคนเรานั้นแม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดหลักแหลมที่สุดแต่เราก็นับเป็นสิ่งหลังกำเนิด เหล่าคนพื้นถิ่นของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นต่างเกิดมาพร้อมพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์สิ้น แม้ว่าพวกเรานั้นจะเป็นสิ่งหลังกำเนิดแต่เราก็ยังอยู่ใกล้กับสิ่งก่อนกำเนิดมากกว่าเหล่าผู้บรรลุสวรรค์ เพราะฉะนั้นสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายมันจึงมีความเข้ากันได้กับเรามากกว่า แต่เหล่านักยุทธจากโลกเบื้องล่างนั้นค่อยๆ ก้าวเดินขึ้นมาจากจุดต่ำต้อยจนบรรลุเต๋า เรียกได้ว่าเป็นสิ่งหลังของหลังกำเนิด”
“เพราะฉะนั้น… ยิ่งคนผู้นั้นเกิดมาจากจุดที่ต่ำต้อยเท่าใดมันก็จะยิ่งอยู่ห่างไกลสิ่งก่อนกำเนิดและห่างจากสมุนไพรสวรรค์ทั้งหลายเท่านั้น ดูจากที่ท่านพี่ทำแล้ว ข้าเกรงว่า… ท่านคงมีความเข้ากันได้ต่อสมุนไพรสวรรค์ไม่เกินสามแต้ม!”
พูดถึงตอนหลังนั้นถังหยูเองก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา
ด้วยพรสวรรค์ของเย่หยวนอันนี้หากเขามีความเข้ากันได้ที่มากพอแล้วเขาย่อมจะก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดนักหลอมโอสถสวรรค์ได้เป็นแน่
แต่น่าเสียดาย สวรรค์นั้นมันห่างชั้นเหมือนดั่งที่กู่เม่าบอก ปิดเส้นทางโอสถของเหล่าผู้บรรลุสวรรค์ลงจนสิ้น
ที่สำคัญเย่หยวนนั้นยังต่ำต้อยกว่าผู้บรรลุสวรรค์คนอื่นๆ เสียด้วย!
เย่หยวนนั้นกลับไม่ได้คิดจิตตกใดๆ เขาแค่ถามขึ้นมา “แล้ว… สามนี่มันมากหรือน้อยอย่างไร?”
กู่เม่าหัวเราะขึ้นมา “ความเข้ากันได้นั้นมันมีทั้งหมดหนึ่งร้อยระดับ ยิ่งใกล้หนึ่งร้อยมากเท่าใดมันก็จะยิ่งแสดงว่าคนผู้นั้นมีความเข้ากันได้สูงล้ำ! แน่นอนว่านอกจากเหล่าผู้มีกายก่อนกำเนิดในตำนานทั้งหลายแล้วมันย่อมจะไม่มีใครที่ก้าวขึ้นไปถึงหนึ่งร้อยแต้มได้ หากคิดอยากเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์นั้นอย่างน้อยๆ มันก็ต้องมีความเข้ากันได้สักสามสิบ! เฒ่าคนนี้เองก็มีความเข้ากันได้ที่สามสิบเก้า! ส่วนผู้บรรลุทั่วๆ ไปนั้นน้อยที่สุดก็คงเป็นแปดแต้มส่วนที่มากที่สุดก็พอจะขึ้นมาถึงระดับสามสิบแต้มได้! ส่วนเจ้าน่ะหรือ… หึๆ”
คำพูดหลังๆ นั้นกู่เม่ากล่าวออกมาด้วยความเย้ยหยันอย่างมาก
ถังหยูนั้นยิ้มตอบกลับไป “ดูจากฝีมือของท่านพี่ก่อนหน้านี้แล้วข้าเกรงว่ามัน… คงไม่เกินสามแต้มแน่! แน่นอนว่าหากอยากวัดให้แน่นอนมันจำเป็นต้องตรวจสอบกันด้วยศิลาเมฆาก่อนกำเนิด บางที… มันอาจจะมากกว่าสามก็ได้”
คำพูดประโยคหลังนั้นแม้แต่ถังหยูเองก็ยังไม่คิดเชื่อถือ
มันเป็นการปลอบใจที่สุดแสนปลอม!
เขานั้นจึงได้เปลี่ยนเรื่องคุยขึ้นมา “แต่ท่านพี่นั้นเองก็กลับมีความสามารถที่เหนือล้ำฟ้าดินจนหลอมหญ้ากระดูกมังกรขึ้นมาได้! ข้าล่ะนึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าหากท่านมีความเข้ากันได้ถึงสามสิบ… ไม่สิ แค่สิบก็พอ!”
เพราะเขานั้นตกตะลึงอย่างสุดใจจริง!
หากให้พูดแล้วด้วยความเข้ากันได้อันต่ำตมของเย่หยวน ไม่ต้องไปพูดถึงร้อยอึดใจ แค่ครึ่งอึดใจมันก็คงไม่อาจจะทนหลอมได้อีกต่อไปแล้ว
แต่เย่หยวนนั้นกลับฝืนจนหลอมหญ้ากระดูกมังกรออกมาได้สำเร็จ
นั่นย่อมหมายความว่าฝีมือของเขานั้นมันเหนือล้ำจนเกินกว่าจะบรรยาย!
เหนือจินตนาการ!
แน่นอนว่าเพราะเรื่องนี้ด้วยที่ทำให้ถังหยูยิ่งรู้สึกเสียดาย
ความเข้ากันได้นั้นมันมีติดตัวมาแต่กำเนิดมิใช่สิ่งที่จะฝึกฝนกันได้
ด้วยความเข้ากันได้ของเย่หยวนนี้ไม่ว่าเขาจะมีฝีมือล้ำฟ้าดินปานใดมันก็คงไม่มีทางจะก้าวขึ้นไปเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ได้
เพราะจะอย่างไรเสียหญ้ากระดูกมังกรนั้นก็เป็นแค่สมุนไพรพื้นๆ ของเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์
การหลอมโอสถสวรรค์ที่แท้จริงนั้นมันยากเย็นกว่านี้นับพันนับหมื่นเท่า!
หากไม่มีความเข้ากันได้แล้ว มันย่อมจะไม่มีทางใดที่จะหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นได้
“หึ เฒ่าคนนี้เองก็มีศิลาเมฆาก่อนกำเนิดอยู่เช่นกัน เราลองวัดดูเดี๋ยวก็จะได้รู้! หากเจ้าเด็กคนนี้มันมีความเข้ากันได้มากกว่าสามแต้มแล้วเฒ่าคนนี้จะตัดหัวตนเองให้มันไปเตะเล่นเลย!” กู่เม่ากล่าวเย้ยขึ้น
หากไร้ซึ่งความเข้ากันได้แล้ว เย่หยวนก็ย่อมจะเป็นแค่ขยะ
เขานั้นรู้แน่ชัดแล้วว่าเย่หยวนไม่มีทางจะช่วยเหลือรักษาตัวเขาได้ เวลานี้จึงไม่ต้องเกรงกลัวใดๆ อีกต่อไป
ไม่นานกู่เม่าก็กลับมาพร้อมศิลาเมฆาก่อนกำเนิด
เย่หยวนนั้นไม่คิดปฏิเสธ เขานั้นสงสัยเหมือนกันว่าความเข้ากันได้ของตนเองมันจะสูงเท่าใด
ศิลาเมฆาก่อนกำเนิดนั้นมันมีรูปร่างเหมือนก้อนเมฆอัดแน่นไปด้วยรอยเกล็ด สิ่งนี้เองที่มันจะใช้ตรวจสอบความเข้ากันได้ของผู้คน
เย่หยวนยกมือขึ้นวางบนศิลาเมฆาก่อนกำเนิดแต่วินาทีต่อมานั้นกู่เม่าและถังหยูก็ต้องจ้องมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“หืม? ทำไมมันจึงไม่เกิดอะไรขึ้นเลยเล่า? หรือว่าศิลาเมฆาก่อนกำเนิดจะมีปัญหา?” เย่หยวนถามขึ้น
เขานั้นยกมือขึ้นวางบนหินนี้มานานแต่เจ้าศิลาเมฆาก่อนกำเนิดมันกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
“ฮ-ฮ่าๆ ปัญหา? เด็กน้อย ดูเหมือนข้าจะประเมินเจ้าสูงไป! มันมิใช่ศิลาเมฆาก่อนกำเนิดหรอกที่มีปัญหาแต่เป็นตัวเจ้าต่างหากที่มีปัญหา! ความเข้ากันได้ของเจ้านั้นมันไม่ถึงหนึ่งเสียด้วยซ้ำ! จะบอกว่าเจ้านั้นเป็นแค่ขยะไร้ค่าในเส้นทางแห่งการโอสถสวรรค์ก็ไม่ผิดแล้ว! ไม่ว่าเจ้าจะมีวิชาการควบคุมไฟที่เหนือฟ้าดินสักแค่ไหนมันก็ไม่มีทางใดที่เจ้าจะกลายเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ได้! เพราะฉะนั้นจงเลิกวางท่าเหมือนเป็นยอดฝีมือต่อหน้าเฒ่าคนนี้เถอะ!” กู่เม่าร้องขึ้นมาด้วยเสียงหลง
คำพูดของเขานั้นมันเปี่ยมไปด้วยความดูถูกและความตกตะลึง
เย่หยวนนั้นเป็นคนแรกที่ความเข้ากันได้มีไม่ถึงหนึ่งเช่นนี้!
มีหรือที่เขาจะไม่ตกใจ?
ถังหยูเองก็ได้แต่ต้องหรี่ตาลงอย่างไม่อยากเชื่อ “ท่านพี่ ท่านนั้นมาจากโลกใบไหนกันแน่? ในหมู่ผู้บรรลุสวรรค์นับสิบล้านนั้นมันคงไม่มีใครที่มีค่าความเข้ากันได้ไม่ถึงหนึ่งเช่นนี้!”
…………………………