เย่หยวนยกมือขึ้นมาลูบคางด้วยท่าทางครุ่นคิด
เขานั้นไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังแต่เขานั้นก็รู้สึกลำบากใจไม่น้อย
เพราะจุดเริ่มต้นของเขาในครั้งนี้มันต่ำจนเกินใคร
ใครจะไปคิดเล่าว่าเด็กหนุ่มพลังอาณาจักรแก่นแท้แห่งปราณคนนั้นมันจะกลับก้าวบรรลุสวรรค์ขึ้นมา ถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้?
แต่ว่าคนเรานั้นจะอย่างไรก็ไม่อาจเลือกเกิดได้
ความยากลำบากที่ชีวิตของเย่หยวนต้องพบเจอมานั้นมันมากมายเกินกว่าจะนับได้
เขานั้นไม่เคยกลัวความลำบากและไม่คิดยอมแพ้ในเส้นทางแห่งการโอสถไม่ว่าจะต้องเจอเรื่องราวใด แม้ว่าความเข้ากันได้ของเขาจะต่ำกว่าหนึ่งเขาก็ไม่ย่อท้อ
ในความเป็นจริงการที่เขาหลอมหญ้ากระดูกมังกรมาได้นั้นมันก็เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีแล้ว
มันเป็นเครื่องยืนยันว่าอย่างน้อยๆ เขาก็ยังหลอมหญ้ากระดูกมังกรได้ด้วยสัญชาตญาณ!
การที่เขายังหลอมให้มีคุณภาพไม่ได้นั้นมันเป็นเพราะว่าเขายังมีสัญชาตญาณไม่เข้มแข็งพอ!
มันมิใช่ว่าทำไม่ได้ เพียงแค่ว่ายังพยายามไม่มากพอ!
“ดูท่า… ข้าจะต้องลงแรงในการเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์นี้มากหน่อยแล้ว” เย่หยวนกล่าวขึ้น
“เป็นนักหลอมโอสถสวรรค์? หึๆ เด็กน้อย เจ้าไม่เข้าใจภาษาคนหรืออย่างไร? ต่อให้เจ้าจะบ่มเพาะฝึกฝนจนฟ้าดินแห้งเหือดมันก็ไม่มีทางใดที่เจ้าจะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ได้! ด้วยฝีมือของเจ้านั้นหากเจ้ามีความเข้ากันได้ถึงสามสิบแล้วเจ้าย่อมจะกลายเป็นสุดยอดนักหลอมโอสถสวรรค์ได้แน่นอน! แต่เฒ่าคนนี้ยังไม่เคยพบเจอใครที่ศิลาเมฆาก่อนกำเนิดไม่ตอบสนองจะก้าวขึ้นมาเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ได้! นี่มันคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้!” กู่เม่าร้องขึ้นมาด้วยความมั่นใจ
เวลานี้แม้แต่ถังหยูเองก็ยังได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ท่านพี่ อย่าได้เสียเวลาอีกเลย ความเข้ากันได้ของท่านนั้นมันไม่ถึงหนึ่งเสียด้วยซ้ำ มันย่อมจะไม่มีทางใดที่ท่านจะก้าวขึ้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ได้แน่! ท่านเองก็ได้ลองแล้ว ท่านนั้นหลอมหญ้ากระดูกมังกรให้สมบูรณ์ยังไม่ได้ ไม่ต้องไปพูดถึงโอสถสวรรค์ใดๆ เลย”
มันมิใช่ว่าเขานั้นไม่เชื่อใจเย่หยวน แต่มันเป็นเพราะว่าเย่หยวนนั้นขาดสิ่งที่สำคัญที่สุดไป
เย่หยวนนั้นมีความเข้ากันได้ไม่ถึงหนึ่งแต่กลับคิดอยากเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปแล้วคนทั้งหลายคงได้หัวเราะกันจนท้องแข็งตาย
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หญ้ากระดูกมังกรนี้มันไม่น่าจะแพงมากใช่ไหม? เตรียมห้องเก็บตัวให้แก่ข้าพร้อมกับหญ้ากระดูกมังกรหนึ่งพันกำ!”
ที่แห่งนี้มันมีหญ้ากระดูกมังกรวางอยู่มากมายบนโต๊ะด้านล่าง ดูท่าแล้วมันคงเป็นสิ่งที่เหล่าศิษย์ทั้งหลายใช้ในการฝึกฝนเป็นแน่ ราคาของมันไม่มีทางจะแพงไปได้
เย่หยวนเองก็ไม่คิดเกรงใจถังหยูใดๆ สั่งออกมาทันที
เมื่อกู่เม่าได้เห็นว่าเย่หยวนไม่คิดยอมแพ้เช่นนั้นแล้วเขาก็หัวเราะขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้ามันไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ! หากแม้แต่คนที่มีความเข้ากันได้ไม่ถึงหนึ่งก็เป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ได้แล้วมันก็คงเหมือนหมูที่ปีนขึ้นต้นไม้ได้! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย เพียงแค่เจ้าหลอมหญ้ากระดูกมังกรให้ขึ้นมาถึงระดับของเฒ่าคนนี้ได้เฒ่าคนนี้จะขอกราบเจ้าเป็นอาจารย์ต่อหน้า คนทั้งเมืองเลย!”
เย่หยวนหันกลับไปมอง “ไม่ต้อง เจ้ามันไร้พรสวรรค์เกินไป ข้าไม่ขอรับเจ้าเป็นศิษย์! หากคิดอยากพนันกันจริงๆ แล้วแค่สอนสิ่งที่เจ้ารู้มาให้หมดก็พอ หากข้าแพ้ข้าจะช่วยเจ้าทุกวิถีทางกำจัดพิษไฟนั้นออกจากร่าง ส่วนเรื่องกราบเป็นอาจารย์อะไรนั้น ไม่ต้องพูดถึงกันอีกจะดีกว่า”
ถังหยูได้แต่นั่งฟังเงียบๆ ส่วนกู่เม่านั้นหน้าแดงก่ำขึ้นมา
เจ้าหมอนี่มันกลับยังคิดมาดูถูกเขา!
“ได้! เฒ่าคนนี้จะพนันกับเจ้า! หากคนที่มีความเข้ากันได้ไม่ถึงหนึ่งอย่างเจ้ากลายเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ได้จริงๆ นักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งเมืองนี้ก็คงกลายเป็นตัวตลกสิ้นแล้ว!” กู่เม่าร้องลั่นขึ้น
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจและเดินจากไปทันที
ถังหยูนั้นวิ่งตามออกมาก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “ท่านพี่ ทำไมท่านต้องไปพนันเพราะความคับแค้นเช่นนั้นด้วย?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปโดยไม่พูดอะไร
ด้วยความคับแค้น?
เย่หยวนนั้นไม่เคยจะทำอะไรบ้าบิ่นหากมิใช่เรื่องสำคัญจริงๆ แน่นอนว่าคนอย่างเขานี้จะไม่มีทางพนันกับกู่เม่าเพราะแค่คับแค้นที่ถูกกล่าวว่า
เขานั้นดูถูกความสามารถของกู่เม่า สิ่งเดียวที่เขาอยากได้จากกู่เม่านั้นมันคือพื้นฐานเท่านั้น
เขานั้นไม่เคยคิดจะเดินตามหลังใครอยู่แล้ว
แต่เขานั้นก็ไม่ได้หยิ่งยโสจนไม่เห็นฟ้าดิน
การที่กู่เม่าถูกยกย่องจากคนมากมายทั้งตระกูลถังนั้นมันย่อมจะหมายความว่าเขามีดีอยู่
การเริ่มใช้เขาเป็นแท่นเหยียบนั้นเองมันก็ไม่เลว
…
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงได้เริ่มเข้าสู่การเก็บตัว
สถานที่ที่ถังหยูเตรียมไว้ให้เย่หยวนนั้นมันย่อมจะเป็นห้องเก็บตัวที่ดีที่สุด
แม้ว่าเต๋าไฟในห้องนี้มันจะไม่ดีเท่าเต๋าไฟของกู่เม่าแต่มันก็ถือว่ามีคุณภาพไม่น้อย
เต๋าไฟนั้นมันเป็นเพียงแค่ไฟระดับต่ำของโลกนี้ มีคุณภาพเรียกว่าไม่สูงล้ำและยังมีความพกพร่องมากมาย
เพราะฉะนั้นพิษไฟมันจึงแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ไปบ้างไม่มากก็น้อย
เพียงแค่ว่าบางเต๋าไฟนั้นมีข้อพกพร่องมาก บางเต๋าไฟนั้นมีข้อบกพร่องน้อย
เต๋าไฟของกู่เม่านั้นมันสุดแสนจะแข็งแกร่งรุนแรงแต่ก็ผสานไปด้วยหลายไฟและยังยากแก่การควบคุม ทำให้พิษไฟมันยากที่จะจัดการกว่า
จะอย่างไรนักหลอมโอสถสวรรค์นั้นก็เป็นหมอ พวกเขาย่อมจะรู้วิธีการจัดการพิษไฟดี
เพียงแค่ว่าเมื่อมันสะสมไปจนถึงระดับหนึ่งแล้วการจะจัดการมันนั้นก็จะยิ่งกลายเป็นเรื่องยากยิ่ง
กู่เม่านั้นเป็นคนที่สนใจแต่อำนาจชื่อเสียงจนทำทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มพลังเต๋าไฟของตน
แต่เย่หยวนนั้นมีวิชาการควบคุมไฟที่เหนือล้ำกว่ากู่เม่าไปมาก
เต๋าไฟนั้นมันจึงได้แต่ทำตามคำสั่งของเย่หยวนมีหรือที่พิษไฟใดๆ จะแทรกเข้าร่างเขาได้?
เพียงแค่ว่าการหลอมมันกลับไม่ราบรื่นเหมือนการควบคุมไฟ
หนึ่งกำ สองกำ…
เย่หยวนใช้เวลากว่าเดือนจนสุดท้ายก็หลอมหญ้ากระดูกมังกรทั้งหนึ่งพันกำจนหมดสิ้น
แต่ผลลัพธ์นั้นมันกลับไม่เป็นดั่งคาดหวัง
เย่หยวนนั้นได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่าความเข้ากันได้นั้นมันมิใช่สิ่งที่จะเพิ่มพูนได้จริง
ไม่ว่าเขาจะพยายามสักเท่าใดเบื้องหน้าของเขานั้นมันก็มีแต่ความปั่นป่วนโกลาหล
เขานั้นเป็นเหมือนดั่งคนตาบอดที่ไม่อาจเห็นและแยกแยะอะไรตรงหน้าได้
ต่อให้เขาจะมีวิชาการควบคุมไฟที่เหนือล้ำสวรรค์ปานใดมันก็ไม่อาจจะช่วยเหลือได้!
หนึ่งเดือนต่อมาเย่หยวนก็ได้เรียกถังหยูและบอกให้เขาเตรียมหญ้ากระดูกมังกรมาให้อีกพันกำ
ถังหยูนั้นมองดูไปรอบๆ ห้องเก็บตัวนั้นก่อนจะพบว่ามันเกลื่อนกลาดไปด้วยก้อนหญ้ากระดูกมังกรสีดำ เขารู้ได้ทันทีว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้เย่หยวนไม่อาจจะพัฒนาขึ้นได้แม้แต่น้อย
และตัวเขาเองก็คาดไว้เช่นนี้มาแต่แรกแล้ว
แค่การสามารถหลอมหญ้ากระดูกมังกรให้กลายเป็นก้อนได้มันก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว
หากคิดอยากจะก้าวขึ้นไปให้ถึงระดับของกู่เม่านั้นมันคงต้องพึ่งหนึ่งหมื่นหรือหนึ่งแสนปาฏิหาริย์เท่านั้น!
นี่มันเป็นอะไรที่ย่อมจะไม่มีวันเกิดขึ้น!
“ท่านพี่ ท่านนั้นมีวิชายุทธที่สุดแสนแข็งแกร่ง ทำไมท่านต้องมาเสียเวลากับอะไรที่เป็นไปไม่ได้ด้วย? บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้อย่าว่าแต่หนึ่งแต้ม ต่อให้จะเป็นยี่สิบเก้าแต้มเองมันก็ไม่อาจจะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ได้! สามสิบแต้มความเข้ากันได้นั้นมันคือจุดต่ำสุดของที่สุดแล้ว! ที่สำคัญไปกว่านั้นความเข้ากันได้ของท่านมันยังไม่ถึงหนึ่งเสียด้วยซ้ำ!” ถังหยูได้แต่บ่น
แต่ว่าเย่หยวนนั้นกลับไม่คิดขยับและตอบกลับมา “ต่อๆ ไปนี้เจ้าจงสั่งให้คนส่งหญ้ากระดูกมังกรหนึ่งพันกำมาให้ข้าทุกเดือน”
ถังหยูได้แต่ต้องถอนใจยาวเดินจากไป
เขานั้นได้รู้แล้วว่าเย่หยวนนั้นเป็นคนหัวรั้นแค่ไหน ไม่มีใครจะเปลี่ยนใจเขาได้
ในห้องเก็บตัวนั้นเย่หยวนได้หลอมหญ้ากระดูกมังกรไปกำแล้วกำเล่าราวกับว่าเขานั้นไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เย่หยวนในตอนนี้เหมือนได้กลับไปใช้ชีวิตก่อนหน้า
เพื่อที่จะทดสอบคุณสมบัติของสมุนไพรมากมายนั้นเขาเคยใช้เวลานับร้อยปีไปกับการศึกษาสมุนไพรวิญญาณ
ระดับสาม
ในตอนนั้นเขาเองก็หลอมกลั่นดูวิเคราะห์เช่นนี้ไปเรื่อยๆ
เวลานี้เขาได้กลับมาสู่จุดนั้นอีกครั้งหนึ่ง
เพียงแค่ว่าในครั้งนี้มันยากกว่าเก่านับพันๆ เท่า!
เพราะจะอย่างไรเสียในตอนนั้นเขาก็ยังพอมองและแยกส่วนประกอบของสมุนไพรออกได้
แต่เวลานี้เขาไม่อาจจะทำมันได้เลย!
มันเหมือนเป็นพลังงานธรรมชาติที่พยายามปฏิเสธการเข้าถึงของเขา
แต่เย่หยวนก็ไม่สนใจ
ความยากเย็นในการหลอมอย่างถึงที่สุดนี้หากนักหลอมโอสถสวรรค์คนอื่นๆ มาได้เห็นพวกเขาคงต้องเบือนหน้าหนี
แต่เย่หยวนนั้นมีความอดทนมากพอ!
ใบไม้ผลิ ร้อน ใบไม้ร่วง หนาว วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ปีแล้วปีเล่า
พริบตาเดียวนั้นมันก็ผ่านไปถึงสิบแปดรอบฤดู
รอบๆ กายเย่หยวนนั้นมันมีแต่ก้อนหญ้ากระดูกมังกร
เพียงแค่ว่าก้อนหญ้ากระดูกมังกรรอบๆ กายเขาในตอนนี้มันดูใสขาวจนแทบจะมองทะลุได้!
……………