ในสวนของราชวังมีชายหนุ่มและชายแก่สองคนกำลังพูดคุยกันอยู่
ชายหนุ่มในชุดไหมกล่าวขึ้น “อาจารย์หลิน เวลานี้ด้านนอกมันแตกตื่นกันยิ่งนัก! ผู้บรรลุสวรรค์คนหนึ่งทั้งยังเป็นคนที่ความเข้ากันได้ไม่ถึงหนึ่งแต้มดีกลับหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้ เวลานี้คนทั้งอาณาจักรตะวันออกนั้นต่างรุ่มร้อนกันด้วยความตื่นเต้น! หึ ดูเผินๆ นามของเจ้าผู้บรรลุสวรรค์ผู้นี้มันจะเหนือล้ำหัวท่านไปด้วยซ้ำ!”
ชายแก่จึงตอบกลับไป “เจ้าลูกคนรองของตระกูลเจ้านี่มันชอบสร้างเรื่องราวใหญ่โตเสียจริงๆ ช่วงนี้! หึๆ ผู้บรรลุสวรรค์ที่มีความเข้ากันได้แค่หนึ่งแต้ม ไม่ว่าเขาจะมากพรสวรรค์สักแค่ไหนมันก็ไม่มีทางจะหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้หรอก! ข้าเกรงว่าคนที่หลอมมันขึ้นมาคงเป็นเจียงยู่มากกว่าล่ะมั้ง?”
ชายหนุ่มในชุดไหมนั้นตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม “ลูกคนที่สองของตระกูลข้านั้นมันชอบสร้างปัญหาอย่างที่ท่านว่าจริง แต่ในครั้งนี้มันสร้างเรื่องใหญ่เกินมือไปแล้ว! เวลานี้ข่าวลือมันกระจายไปทั่วบอกว่าเจ้าผู้บรรลุสวรรค์คนนี้มันมีวิชาการโอสถที่เหนือล้ำอย่างมาก มีความเป็นไปได้อย่างไร้ที่สิ้นสุด พวกเขายังกล่าวถึงขั้นว่า…”
ชายแก่หันกลับมาด่าว่าด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเด็กคนนี้ พูดมาขนาดนี้แล้วจะมาหยุดหรือ?”
ชายหนุ่มในชุดไหมจึงตอบกลับไป “ข้าเกรงว่าหากข้าพูดออกไปแล้วมันจะทำให้อาจารย์หลินไม่พอใจ”
ชายแก่จึงหัวเราะขึ้นมา “เฒ่าคนนี้เองก็ไม่ได้หลงตัวเองไปถึงขนาดนั้น เจ้าคิดว่าข้าจะไร้ความคิดปานนั้นหรือ? พูดมา!”
ชายหนุ่มในชุดไหมจึงกล่าวขึ้นมา “พวกเขาว่ากันว่าผู้บรรลุสวรรค์คนนี้มันอาจจะก้าวล้ำเหนืออาจารย์หลินไปได้ด้วยซ้ำและกลายเป็นยอดคนอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรตะวันออก!”
ดวงตาของชายแก่กระตุกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำนั้น
แต่ว่าเขาก็ยังไม่ได้แสดงสีหน้าไม่พอใจใดๆ ออกมาอย่างชัดเจน
ชายแก่พูดขึ้นมาตอบ “หึๆ บนโลกนี้มันมีนักหลอมโอสถสวรรค์มากมายที่เก่งกาจกว่าเฒ่าคนนี้ มีอีกสักคนมันจะแปลกอะไรเล่า? เพียงแค่ว่าผู้บรรลุสวรรค์… หึๆ ข้าว่ามันคงยากเกินไปแล้ว!”
ชายหนุ่มในชุดไหมยิ้มตอบ “เรื่องนั้นมันย่อมแน่นอน! พวกนี้มันก็แค่ข่าวลือๆ กันไป ไม่มีอะไรให้เชื่อถือมากมาย ต่อให้หาทั้งอาณาจักรตะวันออกนี้มันจะยังมีใครเทียบเคียงวิชาโอสถของอาจารย์หลิน?”
ชายหนุ่มชุดไหมนั้นย่อมจะเป็นองค์ชายใหญ่ของอาณาจักรตะวันออกแล้ว
และชายแก่คนนี้มันก็คือยอดนักหลอมโอสถสวรรค์อันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรตะวันออก หลินหลาน
องค์ชายใหญ่นั้นแค่ยกเรื่องขึ้นมาเปิดประเด็นและไม่ได้ลงลึกใดๆ ให้มากมายก่อนจะหาเรื่องอื่นขึ้นมาพูดคุย
เขานั้นเป็นคนฉลาดและพอจะเข้าใจว่าอย่าได้พูดถึงเรื่องอะไรจนเกินขอบเขตไม่เช่นนั้นมันจะกลายดูเป็นความน่าสงสัย
อาจารย์หลินนั้นมิใช่คนที่เขาจะสามารถโน้มน้าวได้ เขานั้นแค่ต้องการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความกังวลขึ้นในใจของอาจารย์หลิน
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขานั้นไม่ได้สร้างเรื่องขึ้นมาเพราะเวลานี้คนทั้งหลายก็กำลังเชิดชูเย่หยวนขึ้นเหนือฟ้าบอกว่าเรื่องราวเท่านี้มันคงไม่แปลกประหลาดใด
เพราะจะอย่างไรเสียผู้บรรลุสวรรค์ที่มีความเข้ากันได้ไม่ถึงหนึ่งแต้มนั้นกลับหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้มันย่อมจะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหน้าประวัติศาสตร์
…
ตัวเย่หยวนเองก็ไม่นึกฝันว่าเรื่องการที่เขาหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้มันกลับถูกทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เช่นนั้นไป
เวลานี้บ้านตระกูลถังนั้นแทบจะถูกผู้คนเหยียบจนแบน
เขานั้นประมาทผลที่จะตามมาจากเรื่องนี้มากจนเกินไป การที่ผู้มีความเข้ากันได้แค่หนึ่งกลับหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้นั้นมันย่อมจะกลายเป็นเรื่องที่ใหญ่โตที่สุดในสายตาของคนทั้งหลาย!
แม้แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับการโอสถนั้นเองก็ยังรู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้
แต่ว่าเรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นมามันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายต่างสนใจกันสิ้น
เพราะฉะนั้นคนทั้งหลายจึงได้เดินทางมาจากต่างทิศเพื่อขอพบกับเย่หยวนทุกวี่วันไม่มีขาดสาย
เรื่องนั้นมันได้ทำให้ธุรกิจของตระกูลถังโด่งดังขึ้นมาในระยะสั้นๆ
แต่ไม่นานท่าทีของผู้คนมันก็เริ่มเปลี่ยนไป
เหตุผลนั้นก็เพราะว่าเย่หยวนนั้นไม่คิดจะรับแขกสิ้น ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากที่ไหน!
เพราะว่าโอสถสวรรค์แรกที่เขาหลอมขึ้นมาได้นี้ ตัวเย่หยวนเองรู้สึกสุดแสนจะผิดหวัง
เพราะว่าคุณภาพของมันช่างต่ำตม
ใช้งานใดๆ ไม่ได้!
สำหรับคนอื่นๆ แล้วมันอาจจะเป็นเรื่องน่าอวด
แต่สำหรับเย่หยวนแล้วมันคือความอับอาย
เวลานี้ในที่สุดเย่หยวนก็ได้ลิ้มรสถึงการไร้ความเข้ากันได้
แม้ว่าเขานั้นจะฝึกฝนสัญชาตญาณไปจนถึงระดับที่เหนือความเข้าใจแล้วแต่เมื่อต้องหลอมโอสถสวรรค์จริงๆ มันก็ยังถูกความซับซ้อนของโอสถสวรรค์เล่นงานจนย่อยยับ
หากเป็นคนอื่นๆ นั้นพวกเขาคงจะยอมแพ้ลงไปสิ้นแล้ว
เพราะต่อให้จะเป็นโอสถสวรรค์พื้นฐานอย่างโอสถสวรรค์ปรับฐานเองก็ยังต้องใช้สมุนไพรสวรรค์กว่าสิบชนิด
การหลอมดึงส่วนประกอบของสมุนไพรออกมานั้นมันมิใช่เรื่องยากสำหรับเย่หยวน
แต่การผสานพวกมันเข้าด้วยกันให้กลายเป็นโอสถนั้นมิใช่เรื่องง่ายดาย
ความซับซ้อนของกระบวนการนั้นมันเหนือล้ำกว่าวิชาการโอสถใดๆ ที่เขาเคยรู้
และก็เพราะว่าเช่นนี้เองสถานะของนักหลอมโอสถมันจึงได้สูงล้ำนัก
และก็เพราะว่าเรื่องนั้นเองที่ทำให้คนทั้งหลายเชื่อสุดใจว่าหากผู้บรรลุสวรรค์มีความเข้ากันได้ต่ำมันย่อมจะไม่มีทางเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ได้
แต่เย่หยวนนั้นไม่คิดยอมแพ้ สัญชาตญาณไม่แกร่งพอ? เช่นนั้นก็ฝึกเพิ่ม!
จนสุดท้ายแปดปีผ่านไปเขาก็ได้หลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมา!
แม้ว่ามันจะเป็นแค่โอสถสวรรค์ห่วยๆ เม็ดหนึ่งก็ตาม
แน่นอนว่าแปดปีที่ผ่านมานี้เจียงยู่เองก็ย่อมจะช่วยเหลือเขามากมาย
“ท่านพี่ แค่ออกไปพบเจอคนหน่อยเถอะ! แค่ครั้งเดียวก็ได้นะ?” ถังหยูนั้นก้มหัวลงขออย่างสุดตัว
แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมา “ไม่ไป ข้าจะออกไปให้อับอายขายหน้าทำไมเล่า!”
ถังหยูนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างเศร้าหมอง “แต่ด้านนอกนั้นมันมีแต่ข่าวต่างๆ กระจายไปมากมาย บอกว่าท่านนั้นโกหกหลอกลวง บอกว่าตระกูลถังเรานั้นหลอกลวงผู้คน เวลานี้มันเริ่มจะมีคนด่าว่าไปถึงตัวองค์ชายรองแล้วด้วยซ้ำ!”
เย่หยวนตอบกลับมา “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า?”
ถังหยูนั้นแทบจะกระอักเลือดขึ้นมา “ท่านพี่ ท่านนั้นทำเรื่องใหญ่โตขึ้นมาจริงๆ! ต่อให้โอสถสวรรค์ปรับฐานมันจะมีคุณภาพไม่ดีนักแต่ท่านก็ทำมันได้จริง แค่หลอมมันขึ้นมาเป็นโอสถสวรรค์ได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้ว! แต่ท่าน… กลับไม่คิดอยากออกไปพบเจอผู้คน!”
เย่หยวนนั้นตอบกลับไป “สิ่งนี้มันก็เรียกว่าเป็นโอสถสวรรค์ได้หรือ? มันมีนามว่าโอสถสวรรค์ปรับฐานแท้ๆ แต่คนที่กินมันเข้าไปคงถูกทำลายพื้นฐานการบ่มเพาะลงสิ้น! ไปๆๆ! อย่าได้มากวนเวลาเก็บตัวของข้า! หลังจากข้าหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้จริงๆ แล้วเจ้าจะเอาข้าไปอวดที่ไหนก็ค่อยทำตอนนั้น!”
เย่หยวนนั้นดันตัวถังหยูออกมาก่อนจะปิดประตูลงศึกษาโอสถสวรรค์ต่อไป
การที่เขาอยู่เก็บตัวไม่ออกไปไหนนั้นมันยิ่งทำให้ผู้คนที่พบเห็นด่าว่าเหมือนเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ สุดท้ายมันจึงไม่มีใครเชื่อถืออีกต่อไป
เดิมทีแล้วตอนที่เรื่องราวในครั้งนี้แพร่ออกไปมันย่อมทำให้คนทั้งเมืองตกตะลึง ธุรกิจของตระกูลถังเองก็เจริญขึ้นอย่างมาก
แต่เวลานี้ตระกูลถังนั้นเป็นเหมือนคนบาปที่เดินไปบนถนนมีแต่คนด่าว่าสุดทาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการโอสถนั้น พวกเขาถึงขั้นลงมติตัดขาดการค้ากับตระกูลถัง
ไม่นานถังหยูก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นมา!
เพราะหลังจากเรื่องราวลุกลามไปได้สักพักมันก็เกิดหายนะตกลงมาจากฟากฟ้า!
ในวันนี้มันมีชายวัยกลางคนพากลุ่มทหารมากมายเดินมาล้อมบ้านตระกูลถังไว้จนแม้แต่มดก็ยังไม่อาจจะหนีออกไปได้
ถังจินหัวและถังหยูนั้นออกมาต้อนรับคนทั้งหลายด้วยความหวาดกลัว
“ท่านเซี่ยหัว ตระกูลถังเราไปทำอะไรให้ท่านเดือดร้อนหรือ?” ถังจินหัวกล่าวถามขึ้นมา
ตำแหน่งสถานะของคนผู้นี้มันสูงล้ำ เขานั้นคือศิษย์คนโตของยอดนักหลอมโอสถแห่งแผ่นดินอาจารย์หลิน
เรื่องราวในวงการโอสถของอาณาจักรตะวันออกนั้นส่วนมากแล้วมีเขานี่เป็นผู้จัดการ
การที่เขาออกมาพร้อมกำลังใหญ่โตเช่นนี้มันย่อมจะไม่ได้มาดีแน่แล้ว
ถังจินหัวและถังหยูนั้นหน้าซีดขาวลงไม่นึกฝันว่าเรื่องราวมันจะไปถึงอาจารย์หลินเข้า
เซี่ยหัวหัวเราะขั้นมา “พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าทำอะไรลงไป? ตระกูลถังนั้นมันปล่อยข่าวลือจนทำให้วงการโอสถตกสู่ความโกลาหล เซี่ยผู้นี้มาก็เพื่อจะจัดการกับตระกูลถังเสีย!”
ถังหยูขมวดคิ้วแน่นขึ้น “นายท่าน ข้าสงสัยเหลือเกินว่าตระกูลถังเราเคยไปแพร่ข่าวลือสร้างความวุ่นวายใด?”
“ถุย! พวกเจ้าไม่ได้แพร่ข่าวลือ? พวกเข้านั้นบอกว่าผู้บรรลุสวรรค์ที่มีความเข้ากันได้แค่หนึ่งหลอมโอสถสวรรค์ได้มิใช่หรือ? แล้วไหนเล่าโอสถสวรรค์”
“ใช่แล้ว! ความเข้ากันได้แค่หนึ่งมีหรือมันจะหลอมโอสถสวรรค์ได้? ตระกูลถังเจ้ามันโม้ปากเหม็นเกินไปแล้ว!”
“เวลานี้มันกลายเป็นความวุ่นวายไปทั้งทั้งเมืองจักรพรรดิ ตระกูลถังเจ้านี่แหละคือคนร้าย!”
…
เมื่อถังหยูกล่าวถามขึ้นมามันก็ย่อมจะทำให้เกิดเสียงหัวเราะจากคนทั้งหลายอย่างมากล้น
……………