“มุก? เย่ผู้นี้ไม่มีเวลามาเล่นมุกกับเจ้าหรอก! หรือที่ว่ามานี้เพราะเจ้าไม่กล้ากันแน่? หรือว่ายอดฝีมือนักหลอมโอสถสวรรค์อันดับหนึ่งอย่างเจ้านี้แท้จริงจะเป็นแค่ไอ้ขี้ขลาดคนหนึ่ง?”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาคนทั้งหลายก็ต้องสูดหายใจลึกไปพร้อมๆ กัน
เย่หยวนนั้นทำการเย้ยหยันราชครูต่อหน้าทุกผู้คน!
เรื่องราวเช่นนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นมานานสักแค่ไหนกันเล่า?
หลินหลานนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมา
ดูอย่างไรเย่หยวนนั้นก็อวดอ้างตัวแต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังทำให้จิตใจของเขาเกิดไฟปะทุขึ้นมาไม่ได้
เพราะต่อให้จะเป็นฝ่าบาทองค์จักรพรรดิเองก็ยังไม่กล้าจะมาเย้ยหยันเขาต่อหน้าผู้คนเช่นนี้
แต่ผู้บรรลุสวรรค์ที่มีค่าความเข้ากันได้แค่หนึ่งนั้นกลับกล้าทำอย่างไม่เกรงกลัว
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังกล้ามาเย้ยหยันในวิชาการโอสถที่เขาภาคภูมิอีกด้วย!
หากเรื่องเช่นนี้เขาทนได้แล้ว มันจะมีสิ่งใดที่เขาทนไม่ได้กัน?
“หึๆ ดีมาก! ราชครูผู้นี้เองก็จะขอรับคำท้าของเจ้าไว้! แต่หากราชครูผู้นี้รู้ว่าเจ้านั้นแค่ล้อเล่นกับข้าและไม่อาจจะหลอมโอสถสวรรค์ได้แล้ว…”
“หากเย่ผู้นี้พ่ายแก่เจ้าข้าจะทำลายพลังบ่มเพาะของตนเองและปล่อยให้ตระกูลถังตกอยู่ในมือเจ้าตามต้องการ!”
เขานั้นไม่รอให้หลินหลานพูดจบ เย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาขัดทันทีไม่เปิดช่องให้ตัวเองได้หลุดรอดไป
เพราะสิ่งที่หลินหลานกล่าวขึ้นมานั้นมันคือเรื่องการหลอมโอสถ
แต่สิ่งที่เย่หยวนกล่าวออกมานั้นมันคือเรื่องพ่ายแพ้แก่หลินหลาน!
หรือก็คือเย่หยวนนั้นมีความมั่นใจอย่างมากว่าจะเอาชนะการประลองโอสถครั้งนี้ได้!
และคำพูดของเขานั้นมันก็เหมือนการเอาตัวเองไปวางไว้บนหน้าผา!
คนทั้งหลายนั้นต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นมา
เคยเห็นคนบ้าบิ่นมาก็มากมายแต่ไม่เคยเห็นใครที่บ้าบอเช่นนี้มาก่อน!
แต่คนทั้งหลายนั้นไม่นึกฝันว่าเย่หยวนจะยังพูดไม่จบ
เพราะหลังจากหยุดไปพักหนึ่งเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาต่อ “แต่หากเย่ผู้นี้ชนะ ราชครูคิดจะทำอะไร?”
หลินหลานหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยิน “คนอย่างเจ้ามีสิทธิอะไรมาเรียกร้องเรื่องราวจากข้ากัน?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าสังหารข้าไม่ได้แต่วันหน้าข้าจะสังหารเจ้าลงได้แน่! ต่อให้เจ้าจะมุดหัวอยู่ในราชวังมันก็เปล่าประโยชน์! เพราะฉะนั้นการดวลนี้เจ้าต้องรับคำท้า!”
คนทั้งหลายนั้นต่างหันมามองเย่หยวนด้วยสีหน้าแปลกๆ ตกตะลึงกับความหลงตัวเองของชายหนุ่มผู้นี้
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางกลับคิดขู่จะฆ่าราชครูผู้อยู่ถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ท่ามกลางการป้องกันของทหารมากมาย
พวกเขานั้นไม่อาจจะเข้าใจความคิดของผู้บรรลุสวรรค์ผู้นี้ได้เลย!
แน่นอนว่าเขานั้นมีความสามารถในการปล่อยทุกที่เป็นเลิศ!
หลินหลานนั้นหัวเราะขึ้นมา “เจ้าจะบอกว่าราชครูชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ผู้นี้ต้องมุดหัวกลัวเจ้า? น่าขันนัก! เจ้าเชื่อหรือไม่เล่าว่าราชครูนี้พร้อมจะสังหารเจ้าลงทุกเมื่อ?”
แต่ในเวลานั้นเองที่หลู่หยุนก็กล่าวขึ้นมาแทรก “ไม่ มันมิใช่เรื่องตลกใด! เจ้าสังหารเขาไม่ได้หรอก!”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวสายตาของคนทั้งหลายก็ต้องหันไปมองต้นเสียงตามๆ กัน
หลินหลานขมวดคิ้วแน่น “หลู่หยุน เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่าพูดเช่นนี้ขึ้นมามันฟังดูโง่น่ะ?”
แต่หลู่หยุนนั้นส่ายหัวออกมา “เฒ่าคนนี้ไม่ได้หมายถึงว่าข้าจะปกป้องเขา ข้าแค่พูดตามหลักเหตุและผล! เจ้ารู้หรือไม่เล่าว่าทำไมเฒ่าคนนี้ถึงได้มาในวันนี้? เจ้าคิดว่าแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางคนหนึ่งมันก็จะมีค่าพอให้เฒ่าคนนี้เดินทางออกมาปกป้องหรือ?”
หลินหลานนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น
หลู่หยุนนั้นไม่รีบร้อนและค่อยๆ กล่าวขึ้นมาต่อ “เย่หยวนนั้นครั้งหนึ่งเคยลอบเข้าไปในราชวังและเดินผ่านหน้าเฒ่าคนนี้ไปแต่เฒ่าคนนี้กลับไม่อาจสัมผัสได้ถึงตัวเขาแม้แต่น้อย! กฎแห่งห้วงมิติของเขานั้นมันเหนือล้ำฟ้าไปแล้ว เจ้าสังหารเขาไม่ได้หรอก! แต่วันหน้าเขาจะเก่งกาจพอที่จะสังหารเจ้าได้แน่! แน่นอนว่าหากเจ้าไม่คิดเชื่อแล้วจะลองดูก็ได้!”
หลู่หยุนนั้นกล่าวออกมาอย่างชัดเจนทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางเดินผ่านหน้ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่แต่อีกฝ่าย
กลับไม่รู้ตัวเลยหรือ?
มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?
“มั่วแล้ว! อาจารย์หยุนโกหกแล้ว!”
“เพื่อจะปกป้องตระกูลถังนั้น อาจารย์หยุดไปสุดตัวเสียจริงๆ!”
“โกหกหน้าตายเช่นนี้ออกมาได้ ไม่นึกเลยว่าอาจารย์หยุนจะกล้าทำ!”
…
ไม่มีใครเชื่อว่าหลู่หยุนกล่าวความจริงออกมาเพราะเรื่องราวเช่นนั้นมันเกิดกว่าที่จะเชื่อถือได้
มันเหลือเชื่อในระดับเดียวกับเรื่องของนักหลอมโอสถสวรรค์หนึ่งแต้มนั้นทีเดียว
เพราะจะอย่างไรเสียหลู่หยุนนั้นก็บอกว่าเดินผ่านหน้า มิใช่การหลบซ่อนผ่านไป
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางเดินผ่านหน้ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่
แต่ตัวเขากลับไม่รู้เรื่องราวใด
มันเป็นไปได้หรือ?
หลินหลานนั้นหรี่ตาลงพร้อมปิดปากเงียบ
เขานั้นเข้าใจหลู่หยุนดี การมาโกหกหน้าตายเช่นนี้มันมิใช่สิ่งที่คนอย่างหลู่หยุนจะทำ
ที่สำคัญไปกว่านั้นหลู่หยุนยังกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหวาดกลัวไม่น้อย
เวลานี้จิตใจของหลินหลานมันจึงเกิดความสั่นสะท้านขึ้นมา
“ได้! ราชครูผู้นี้จะรับคำท้าเจ้าเอง! เอาล่ะ ลองว่ามาสิ!” หลินหลานกล่าว
คนทั้งหลายนั้นเบิกตากว้างไม่นึกฝันว่าราชครูจะรับคำ!
หรือว่าสิ่งที่อาจารย์หยุนนั้นกล่าวจะเป็นเรื่องจริง?
จิตใจของคนทั้งหลายสั่นสะท้านขึ้นมาตามๆ กัน!
เย่หยวนชี้นิ้วไปทางพ่อลูกตระกูลถัง “ง่ายมาก ใครที่มันทำร้ายพ่อลูกตระกูลถังจนตัดแขนตนทิ้งเสียพร้อมคุกเข่ากราบขอโทษคนตระกูลถัง! แล้วก็เจ้า ท่านราชครูผู้นี้เองก็ก้มหัวขอโทษต่อพ่อลูกถังต่อหน้าทุกผู้คนเสีย!”
“ซี๊ด…”
เกิดเสียงสูดลมยาวขึ้นมาเมื่อเย่หยวนกล่าวจบ
เรื่องวันนี้มันใหญ่เกินต้านแล้ว!
การจะให้ราชครูก้มหัวลงขอโทษคนนั้น แม้แต่องค์จักรพรรดิเองก็ยังไม่กล้าจะกล่าวเลยมิใช่หรือ?
ผู้บรรลุสวรรค์คนนี้มันไปกินใจหมีดีเสือมาจากที่ใดถึงได้กล้าหาญปานนี้!
นี่มันคือการลบหลู่ราชครูไปถึงแก่น!
ต่อให้จะเป็นองค์ชายรองเองเวลานี้เขาก็ยังร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “เย่หยวน เรื่องนั้นมันเกินไป!”
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นขึ้นมากพร้อมหันมององค์ชายรอง
องค์ชายรองนั้นผงะหลังไปทันทีเพราะรู้สึกถึงแรงกดดันอันมหาศาลที่ทำเอาเขาแทบลมจับ
หลู่หยุนกล่าวขึ้นมาแทรกเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ “สหายหนุ่มเย่ ไม่ว่าเจ้าจะเลือกอะไรในวันนี้หลู่ผู้นี้จะขอสนับสนุนเต็มที่!”
ได้ยินเช่นนั้นเย่หยวนจึงค่อยๆ คลายแรงกดดันลงและพยักหน้ารับ
องค์ชายรองนั้นยังไม่คิดยอมรับและกำลังจะกล่าวขึ้นมาขัดอีกครั้งแต่ก็ต้องถูกสายตาดุร้ายของหลู่หยุนห้ามไว้
หลู่หยุนย่อมรู้ว่าองค์ชายรองคิดอะไรอยู่ ราชครูนั้นคือตำแหน่งที่มีผลต่อการตัดสินใจของฝ่าบาทอย่างมาก
เรื่องการแย่งชิงบัลลังก์นั้นแค่คำพูดเดียวของราชครูมันก็มากพอจะเปลี่ยนผลลัพธ์ได้!
เขามีค่ามากขนาดนั้น!
การไปลบหลู่ราชครูจนถึงแก่นเช่นนี้มันย่อมจะเหมือนการตัดแขนตัวเองทิ้ง!
เมื่อองค์ชายรองเห็นเย่หยวนกล่าวเกินเลยมีหรือที่เขาจะยังไม่คิดกล่าวขึ้นขัด?
แต่ว่าหลู่หยุนนั้นมองไปลึกกว่านั้น!
การลบหลู่ราชครูมันคงเกิดขึ้นแล้วแน่
เวลานี้จะลุกขึ้นมาทำอะไรมันก็สายเกินแก้ไปแล้ว
แต่หากเขามาลบหลู่เย่หยวนไปอีกครั้ง วันหน้าองค์ชายรองคงได้หมดอนาคตอย่างแท้จริง!
เพราะว่าหลู่หยุนนั้นรู้ดีว่าการลบหลู่เย่หยวนนั้นมันจะเป็นผลร้ายแรงกว่าการลบหลู่ราชครูไปมาก!
เขาจึงได้แต่ต้องเลือกทางที่เสียน้อยกว่า!
เพราะฉะนั้นเวลานี้เขาจึงตัดสินใจจะยืนหยัดข้างเย่หยวนอย่างไม่หวั่นไหวใดๆ อีก!
ตัดสินสายสัมพันธ์กับราชครู!
ยืนเคียงข้างเย่หยวน!
หลู่หยุนนั้นเดิมพัน!
เขานั้นเดิมพันว่าเย่หยวนจะก้าวขึ้นมาเป็นยอดคนที่ทำให้ทั้งอาณาจักรตะวันออกต้องสั่นสะท้านได้ในวันหน้า!
บางทีแล้วในวันหน้าเย่หยวนนั้นอาจจะมีตำแหน่งที่หนักมากกว่าราชครูไปเสียด้วยซ้ำ!
แน่นอนว่าหลินหลานที่ได้ยินนั้นต้องหัวเราะขึ้นมาพร้อมมองดูองค์ชายรองด้วยสายตาดูถูก
ดูท่าเขาคงตัดสินใจได้แล้ว
“หึๆ สัญญาแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าราชครูผู้นี้ก็จะกลัวผู้บรรลุสวรรค์ที่มีความเข้ากันได้แค่หนึ่งอย่างเจ้ากัน? ในเมื่อมันเป็นการเดิมพันถึงชีวิตแล้ว ราชครูผู้นี้ย่อมจะต้องขอวางพันธะวิญญาณดั้งเดิมกับเจ้าก่อน! คนที่ทำลายพันธะนั้นจะต้องถูกสวรรค์ทำลายล้างสิ้น!” หลินหลานนั้นกล่าวขึ้นมา
เขานั้นรู้ว่าเย่หยวนนั้นมีกฎแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำ จึงกลัวว่าหลังจากแพ้ไปแล้วเย่หยวนจะหนีหายไปต่อหน้าต่อตาเขา
ส่วนเรื่องการแพ้ต่อเย่หยวนนั้น เขาย่อมจะไม่เคยคิดถึงมัน
เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้!
เย่หยวนพยักหน้ารับ “มันต้องเช่นนั้นอยู่แล้ว!”