ควันดำมันค่อยๆ พุ่งออกมาจากร่างของเย่หยวน
ความน่ากลัวของควันพิษนี้มันทำให้คนทั้งหลายต่างต้องวิ่งหนีไปเมื่อเห็น
ถังหยูได้แต่กล่าวขึ้นมาด้วยหน้าเหยเก “พิษที่รุนแรงพอจัดการนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่จนไม่มีแรงขัดขืนใดนั้น ความเสียดายที่มันจะสร้างต่อนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยคงเหนือล้ำเกินกว่าจะคาดเดาได้! ท่านพี่คิดจะทำอะไรกันแน่!”
ได้เห็นท่าทางของเย่หยวนในตอนนี้คนทั้งคฤหาสน์ราชครูต่างต้องตัวสั่นไปสิ้น
พวกเขานั้นคิดว่าเย่หยวนคงได้ตายลงแน่แล้ว
แต่ไม่นานควันสีดำก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของเย่หยวนจากนั้น
ควันสีดำนั้นมันก็ค่อยๆ จางลงหายไปสิ้น
สุดท้ายเย่หยวนก็กลับมามีสภาพเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง
คนทั้งหลายนั้นต้องอ้าปากค้างอย่างไม่รู้จะพูดกล่าวอะไรออกมาได้
พิษร้ายที่สามารถสังหารได้แม้แต่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่นั้น ท่านราชครูกลับรอดจากมันได้?
“นี่… ท่านกลับหายดีแล้วหรือ?” หลินหลานกล่าวขึ้นมา
เมื่อถังหยูได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ย่อมจะต้องยิ้มกว้างขึ้นอย่างโล่งอก
แต่พอได้ยินคำพูดของหลินหลานเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ทำไมเล่า? หรือเจ้าคิดหวังให้เกิดอะไรขึ้นกับท่านพี่เจ้าจะได้กลับมานั่งตำแหน่งราชครูอีก?”
หลินหลานส่ายหัวออกมา “เจ้าไม่รู้ถึงความอันตรายของมันเลย! พิษนี้มันสุดแสนจะลึกลับ นักยุทธไม่อาจจะตรวจพบมันได้ในระยะต้นแต่หากมันปะทุขึ้นมาแล้ว… ถ้าข้าเดาไม่ผิดต่อให้จะเป็นนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำเองก็คงไม่อาจจะรอดชีวิตไปได้! สำหรับนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยแล้วอย่าว่าแต่การทดสอบพิษด้วยร่างกายใดๆ แค่แตะเข้าพวกเขาก็คงตายลงทันที! ท่านอาจารย์นั้นช่างมากฝีมือเสียยิ่งกว่าที่ข้าเข้าใจ!”
เมื่อถังหยูได้ยินเขาก็ต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
วิชาฝีมือของพี่เขานี้มันเหนือล้ำจนเกินเข้าใจ!
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำนั้นมันคือตัวตนที่สูงส่งเกินกว่าอาณาจักรตะวันออกนี้จะเข้าถึงได้
หากนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำเดินทางมายังอาณาจักรตะวันออกนี้ ทั้งเมืองคงได้หายไปในชั่วพริบตา!
พิษนี้มันเป็นพิษที่จัดการยอดฝีมือระดับนั้นลงได้ แต่กลับไม่อาจจะทำอะไรเย่หยวนได้ แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าเขานั้นมากฝีมือแค่ไหน!
เฉียวไคหยวนกล่าวขึ้นมาด้วยความตกตะลึง“นี่ท่านราชครูเป็นผู้บรรลุสวรรค์จริงๆ หรือ? ข้าเองก็อยู่มาจนป่านนี้แล้วแต่ยังไม่เคยจะได้เห็นผู้บรรลุสวรรค์ที่ไหนเก่งกาจเช่นนี้มาก่อน!”
หลินหลานนั้นยิ้มขึ้น “หากอาจารย์นั้นมิใช่ผู้บรรลุสวรรค์แล้วการรักษาพิษนี้มันคงยากแค่ยกนิ้ว! หากข้าเดาไม่ผิดนั้นท่านอาจารย์คงมีวิชาการทดสอบพิษด้วยร่างกายที่เหนือล้ำมากๆ ดูท่าท่านจะมิใช่เป็นแค่ยอดฝีมือด้านการโอสถ แต่ท่านนั้นเป็นยอดฝีมือในด้านพิษด้วย!”
ระหว่างที่คนทั้งหลายยังตกตะลึงไม่หายนั้นเย่หยวนก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมาด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนไม่น้อย
พิษนี้มันรุนแรงจนเกินรับ ต่อให้เขาจะขับมันออกจากร่างได้แต่มันก็ยังสร้างความลำบากให้แก่ตัวเขาไม่น้อย
แต่ว่าสภาพของเฉิงฉงชานนั้นมันยังคงย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ปล่อยไว้นานกว่านี้คงไม่ได้!
เย่หยวนนั้นยกนิ้วขึ้นมาชี้เป็นดาบพร้อมปราณดาบพุ่งลงใส่ร่างของเฉิงฉงชานที่นอนกองอยู่กับพื้น
ใช้ดาบแทนเข็ม!
ปราณดาบนั้นมันเข้าไปต่อต้านพิษร้ายในร่างของเฉิงฉงชานอย่างรุนแรงหนักหน่วง
แต่พิษนี้มันรุนแรงจนเกินไป เย่หยวนนั้นไม่ได้มีปราณดาบที่แข็งแกร่งปานนั้นเมื่อสัมผัสถึงกันมันก็แตกสลายลงทันที!
แต่เย่หยวนนั้นได้ทดสอบพิษด้วยร่างกายมาแล้วและได้เข้าใจถึงเส้นทางการเดินของพิษตัวนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง
เพราะฉะนั้นเขาจึงกล้าที่จะลงเข็ม!
และเมื่อเขารู้จักมันอย่างชัดเจนแล้วต่อให้จะเป็นพิษที่ร้ายแค่ไหนมันก็ไม่อาจจะต่อต้านไหว!
พิษร้ายนั้นมันค่อยๆ ระเหยขึ้นมาจากร่างของเฉิงฉงชาน
ไม่นานจากนั้นนิ้วของเฉิงฉงชานก็ขยับกระตุกขึ้น
“เดินปราณเทวะไปตามทิศที่ปราณดาบของข้าโจมตี!” เย่หยวนสั่งออกมา
เฉิงฉงชานนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกาย เพราะเวลานี้เขารู้สึกได้ว่าในร่างกายของเขาทุกส่วนมันมีปราณดาบกำลังวิ่งพล่านไปทั่ว
พร้อมๆ กันนั้นพิษในร่างของเขามันก็กำลังถูกขับออกมา!
เฉิงฉงชานนั้นไม่กล้าจะขัดคำรีบเดินปราณเทวะตามที่ได้รับคำสั่งทันที
เมื่อคลื่นพลังสองแหล่งโจมตีเข้าพร้อมๆ กัน พิษที่ตกค้างอยู่ในร่างนั้นมันก็ต้องถอยหนีไปในทันที
ราวหกชั่วโมงต่อมาเย่หยวนก็ล้มตัวลงนั่งกับพื้น
แต่ตัวเฉิงฉงชานนั้นได้กลับมามีสภาพสมบูรณ์เต็มที่
พิษของเขานั้นมันเรียกได้ว่าแทบจะหายดีแล้ว!
คนทั้งคฤหาสน์ราชครูนั้นต่างถอนหายใจยาวออกมาตามๆ กัน
“ท่านราชครูนั้นช่างเป็นหมอวิเศษโดยแท้! พิษเช่นนี้ท่านก็ยังสามารถรักษาได้!”
“เจ้าได้ยินที่อดีตราชครูท่านพูดหรือไม่เล่า? พิษนั้นมันเป็นพิษที่สามารถสังหารได้แม้แต่ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำแต่ท่านราชครูกลับสามารถทดสอบพิษนั้นได้ด้วยร่างกายของตน มันช่างเหนือล้ำอย่างมาก!”
“ชิๆ ข้าล่ะรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้ทำงานในคฤหาสน์ราชครู มีท่านราชครูอยู่ด้วยเช่นนี้แล้วต่อให้จะอยากตายมันก็คงทำไม่ได้เช่นกัน!”
…
ฝีมือนี้ของเย่หยวนคนทั้งหลายต่างร้องกล่าวชื่นชมออกมาตามๆ กัน
หากไม่ผิดคาดใดแล้วเรื่องราวในวันนี้มันคงได้กลายเป็นตำนานของเมืองจักรพรรดินี้ไปอีกครั้ง
ชื่อเสียงของราชครูนั้นจะโด่งดังสูงล้ำขึ้นมาราวกับดวงตะวัน!
“หลินหลาน จัดการพิษที่กระจายไปเสีย ระวังด้วย!” เย่หยวนกล่าว
เฉิงฉงชานมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าเหยเก
พิษนี้มันเข้าจู่โจมอย่างรุนแรงและกะทันหัน เขานั้นไม่ทันจะได้ตอบโต้ใดๆ ก็ถูกมันทำร้ายเข้าอย่างแรง
เขานั้นคิดว่าตัวเองคงต้องตายแน่แล้ว ไม่นึกฝันว่าตนเองกลับจะยังไม่ตายลง!
ผู้บรรลุสวรรค์คนนี้มันช่างมากฝีมืออย่างแท้จริง!
เฉิงฉงชานนั้นรู้ดีว่าพิษที่เขาโดนไปนั้นมันรุนแรงแค่ไหน ต่อให้จะเป็นเหล่าผู้อาวุโสของนิกายเองก็ไม่แน่ว่าจะรักษาได้
แต่เจ้าผู้บรรลุสวรรค์คนนี้มันกลับรักษาได้!
คิดย้อนกลับไปถึงหน้าโอหังของเย่หยวนก่อนหน้านี้เขายังไปบอกว่าเย่หยวนแค่ขู่เขา เวลานี้ตัวเฉิงฉงชานแทบจะอยากเอาหน้ามุดดินไปเสีย
แต่ว่าอย่างไรเสียเฉิงฉงชานนั้นก็ยังไม่พอใจ!
การถูกผู้บรรลุสวรรค์ตบหน้าเช่นนี้สำหรับตัวเขาผู้สูงส่งแล้วเขาย่อมจะไม่อาจรับมันได้!
สายตานั้นมันเชือดเฉือนจิตใจของเขา
มดปลวกนั้นมันกลับไม่เห็นค่าในตัวเขา
แล้วตอนนี้มันยังทำเอาแทบตาย
คนเรานั้นมันก็แปลก บางครั้งกลับคิดแค้นคนที่ช่วยเหลือก็ยังได้
เป็นเจ้าเองแท้ๆ ที่ไปขอร้องเขา
แต่เฉิงฉงชานเองก็ไม่ได้โง่เง่ามากนัก เวลานี้เขาย่อมจะไม่อาจระบายมันออกได้
หวู่ชวงและศิษย์น้องอีกคนของเขายังต้องการการรักษาจากตัวเย่หยวนอยู่
คนที่ไม่มีทางเลือกนั้นมีแต่ต้องก้มหัว!
การจะเดินทางจากอาณาจักรตะวันออกไปยังนิกายสวรรค์หยกแท้นั้นมันต้องใช้เวลาหลายปี
มันเป็นระยะทางที่ยาวไกลเกินกว่าพวกเขาจะทนทานรับได้ หากพวกเขากลับไปรักษายังนิกายแล้วพวกหวู่ชวงคงได้ตายก่อนแน่
“พี่เย่ มันเป็นเฉิงผู้นี้เองที่ผิดไป! บุญคุณที่ช่วยชีวิตนี้เฉิงผู้นี้จะจดจำมันอย่างดีและตอบแทนให้แน่!” เฉิงฉงชานยกมือขึ้นมาคารวะ
เย่หยวนยกมือขึ้นโบกปัด “หากเจ้าอยากจะขอบคุณใครก็ไปขอบคุณฝ่าบาทเถอะ ด้วยท่าทางก่อนหน้าของเจ้านั้นข้าย่อมจะไม่คิดรักษาใดๆ ให้แน่! มันเป็นเขาที่ช่วยขอร้องให้ข้าช่วยเหลือเจ้า!”
เฉิงฉงชานนั้นได้แต่ยิ้มตอบกลับไปด้วยหน้าเหยเก “จะอย่างไรเสียพี่เย่นั้นก็ช่วยชีวิตเฉิงคนนี้ไว้ บุญคุณครั้งนี้ข้าจะจดจำมันไว้! ส่วนเรื่องของราชวงศ์อาณาจักรตะวันออกนั้น เฉิงผู้นี้ย่อมจะต้องตอบแทนแน่นอน!”
‘หึ!’
‘เจ้าคนโอหังนี่มันเหมือนอุจจาระในโถ ทั้งเหม็นทั้งแข็ง!’
‘หากมิใช่เพราะศิษย์น้องแล้วเจ้าคิดว่าข้าจะมาก้มหัวให้คนอย่างเจ้านี้หรือ?’
‘หลังจากศิษย์น้องหายดีแล้วข้าจะมาฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ!’
‘ไม่เช่นนั้นแล้วความแค้นของข้ามันจะไปลงที่ใดได้!’
‘เจ้าคิดว่าแค่รู้กฎแห่งห้วงมิติแล้วจะเก่งกาจเหนือสวรรค์หรือ?’
‘อ่อนหัด!’
เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกไล่ “ไปเสีย เวลานี้ปราณเทวะของข้ามันแทบจะหมดสิ้นแล้ว ต้องไปเก็บตัวฟื้นฟูพลัง!”
เมื่อเฉิงฉงชานได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องรีบกล่าวขึ้นมา “พี่เย่ ศิษย์น้องของเฉิงผู้นี้ยังโดนพิษ…”
เย่หยวนตอบกลับไป “ข้านั้นหัวรั้น! หากเจ้าคิดเจรจาพูดคุยกันดีๆ เรื่องราวมันย่อมไม่ยาก แต่ข้านั้นให้โอกาสเจ้าไปแล้ว! คิดอยากให้ข้าช่วยเหลือพวกมันก็ย่อมได้ เพียงแค่เจ้าต้องแสดงความจริงใจออกมา!”
พูดจบเย่หยวนก็เดินกลับเข้าไปภายในทิ้งคนทั้งหลายให้ทำหน้าเหยเกไปตามๆ กัน
เฉิงฉงชานได้แต่มองดูเงาหลังของเย่หยวนด้วยสายตาที่ดุดันราวจะกัดกินคิดอยากสังหารเย่หยวนลงให้สิ้น
ในดินแดนบ้านนอกเช่นนี้ตัวเขากลับถูกผู้บรรลุสวรรค์มาเหยียบหน้า
หากความแค้นนี้ไม่สะสางแล้วเขาจะยังเอาหน้าไปพบใครได้
เฉียวไคหยวนนั้นได้แต่เงียบปากลงอย่างไม่รู้ต้องพูดกล่าวอะไรออกมาแล้วในตอนนี้
……………………….