“เต็ม! มันกลับ…เต็มมาตรวัด!”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? มันกลับมีโอสถที่ทำให้มาตรวัดของศิลามารดาก่อเมฆาเต็มได้ด้วยหรือ?”
“มันเป็นระดับใดกันแน่?”
…
เวลานี้ทุกผู้คนในโถงนั้นต่างเบิกตากว้างไม่เว้นแม้แต่จ้าวซุนหรืออู้จี้อัน
เทียบกับโอสถระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์ของเย่หยวนแล้วโอสถระดับเก้าขั้นสูงของจ้าวซุนและอู้จี้อันมันกลับยังอยู่ห่างไกลไปมาก
“ท่านเจ้าหอทั้งสอง หากพวกท่านคิดว่าสามารถหลอมมันให้ถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์ได้จะลองอีกสักครั้งไหมเล่า? ไม่ต้องเอาโอสถสวรรค์ระดับสองก็ได้ หากท่านคิดว่ามันไม่ไหวจริงๆ จะเปลี่ยนไปหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งก็มิใช่ปัญหา! ตราบเท่าที่พวกท่านหลอมถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์ได้แล้วข้าก็ย่อมจะแสดงการหลอมระดับแท้ให้พวกท่านได้ดู” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
จ้าวซุนนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาก่อนจะกล่าวสวนไป “เจ้าหอผู้นี้หลอมโอสถมานับไม่ถ้วนแล้ว ข้าไม่เชื่อหรอกว่าก้าวย่างแค่ครึ่งก้าวนี้มันจะยากเย็นถึงขนาดนั้น!”
อู้จี้อันเองก็กล่าวขึ้นเสริม “ระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์? หึๆ มันจะแสดงอะไรได้? เรานั้นหลอมระดับแท้ไม่ได้แต่จะหลอมระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์นี้ไม่ได้ด้วยหรือ?”
สำหรับยอดฝีมืออย่างจ้าวซุนแล้วการหลอมให้ถึงระดับเก้าขั้นสูงมันย่อมจะมิใช่เรื่องยากเย็น
เพียงแค่ว่าพวกเขานั้นไม่เคยคิดจะเสาะหาวิธีการหลอมให้มันได้ขั้นสุดสมบูรณ์มาก่อน
ขึ้นไปถึงระดับเก้าขั้นสูงได้นั้นมันก็เรียกได้ว่าแทบจะสมบูรณ์แล้ว
หากวัดกันที่ฤทธิ์ของโอสถแล้วนั้นระดับเก้าขั้นสูงและระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์มันย่อมจะไม่ได้แตกต่างกันมากมายนัก
และการฝึกฝนให้ขึ้นไปถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์นั้นมันก็ใช้เวลามากจนเกินไปไม่คุ้มค่าเวลาที่เสีย
แต่ว่าพวกจ้าวซุนนั้นจะอย่างไรก็เป็นสุดยอดนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่ขั้นสุด
ในความคิดของพวกเขานั้น ระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์มันย่อมจะไม่ยากเกินพยายาม
บางทีหากมันเป็นโอสถสวรรค์ระดับสี่แล้วมันอาจจะยากเย็นแต่สำหรับโอสถสวรรค์ระดับสองนั้นพวกเขาย่อมจะเชื่อมั่นว่าตนเองทำได้แน่
คนทั้งสองที่ไม่คิดยอมแพ้จึงได้ลงมืออีกครั้งหนึ่ง
หลังจากผ่านไปได้ราวหนึ่งชั่วโมงในที่สุดคนทั้งสองก็ได้เอาโอสถของตนมาวางบนศิลามารดาก่อเมฆาอีกครั้งหนึ่งด้วยสีหน้าเหยเก
เพราะครั้งนี้มันก็ยังอยู่ห่างจากระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์ไปช่วงหนึ่ง!
“อีกครั้ง!”
จิตใจของคนทั้งสองนั้นเย่อหยิ่งเพียงใด? มีหรือที่พวกเขาจะมายอมแพ้ลงต่อหน้าระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์ง่ายๆ?
เพียงแค่ว่าพวกเขานั้นลงมือต่อไปอีกสามครั้งแต่มันก็ยังไม่อาจจะก้าวขึ้นถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์ได้!
แม้ว่ามาตรวัดนั้นมันจะพุ่งทะยานผ่านระดับเก้าขั้นสูงไปทุกครั้งแต่สุดท้ายมันก็จะไปหยุดลงก่อนถึงสุดมาตรวัด
มันจะมีช่องว่างระหว่างโอสถของพวกเขากับระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์อยู่เสมอๆ
เหล่ายอดคนทั้งหลายในโถงนั้นต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน
พวกเขานั้นคิดไปว่าด้วยกำลังฝีมือของนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่ขั้นสุดทั้งสองคนนี้การจะหลอมให้ถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์มันคงไม่เป็นเรื่องยากมาก
แต่ทั้งอย่างนั้นพวกเขากลับไม่อาจจะทำมันได้เสียที!
“หรือว่าระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์นี้มันจะยากปานนั้น?” ซุนหยุนจิงกล่าวขึ้นมา
ข้างกายเขาเจียงหลี่ก็ได้กล่าวขึ้นตอบแทน “มันยิ่งกว่ายาก! มันไม่ต่างอะไรกับการขึ้นสวรรค์ทีเดียว! ข้าเองนั้นก็เคยไปรับการสั่งสอนการอาจารย์เย่มาก่อนและเขาก็ได้ใช้ให้ข้าหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์เช่นนี้ด้วย ข้านั้นจึงได้ลองหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งไปนับร้อยชนิดแต่มันก็ไม่มีโอสถสวรรค์ไหนที่ข้าทำได้สำเร็จเลย!”
ซุนหยุนจิงนั้นแทบจะต้องลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยิน “หะ?! มัน… เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
เจียงหลี่นั้นยิ้มตอบกลับไป “มันไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่ว่าโอสถสวรรค์ระดับเก้าขั้นสูงที่ข้าหลอมนั้นมันก็ยังมีคุณภาพแย่กว่าของท่านเจ้าหอใหญ่และของท่านอาจารย์ไปมาก! แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นต่อให้พวกท่านจะเก่งกาจแค่ไหนข้าก็คิดว่าต่อให้พวกท่านจะหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่ง มันก็คงไม่มีทางไปถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์ได้!”
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นได้แต่อ้าปากค้างเมื่อได้ยิน
“เปลี่ยนเป็นโอสถสวรรค์ระดับหนึ่ง!” ในเวลาเดียวกันนั้นเองที่จ้าวซุนได้กล่าวขึ้นมาสั่ง
คนทั้งหลายนั้นแทบลืมหายใจเพราะนี่มันเท่ากับว่าท่านเจ้าหอใหญ่ยอมแพ้แล้ว!
ดูท่าเขานั้นคงรู้สึกได้ว่าตนไม่มีทางหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองได้ถึงขั้นนั้น!
แต่มันจะเป็นอย่างที่เจียงหลี่ว่าหรือ? แม้แต่โอสถสวรรค์ระดับหนึ่งเองมันก็ไม่อาจจะขึ้นไปถึงขั้นสุดสมบูรณ์ได้?
แต่อย่างน้อยๆ มันก็ต้องลอง ตัวจ้าวซุนนั้นเลือกที่จะหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานขึ้นมาทันที!
โอสถสวรรค์ปรับฐานระดับหนึ่งคือพื้นฐานของพื้นฐานในวิชาการหลอมโอสถทั้งหมดทั้งสิ้น
“หากแม้แต่โอสถนี้ยังไม่อาจทำให้ถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์ได้ เจ้าหอผู้นี้เองก็ไม่ขอดูระดับแท้ใดๆ แล้ว!” จ้าวซุนกล่าวออกมา
คนทั้งหลายนั้นต่างหันมามองหน้ากันอย่างมึนงง แต่เย่หยวนนั้นยิ้มตอบกลับไป
ระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์นั้นมันมิใช่สิ่งที่จะหลอมได้เพียงเพราะพลังบ่มเพาะที่สูงล้ำ
ต่อให้จะสามารถหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าหรือระดับหกไปได้ มันก็ไม่แน่ว่าจะสามารถหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งให้ถึงขั้นสุดสมบูรณ์ได้
การจะหลอมให้ถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์นั้นมันคือความสมบูรณ์แบบ!
ระหว่างขั้นตอนการหลอมนั้นมันไม่อาจจะผิดพลาดได้แม้แต่น้อย
เพราะหากมันมีความผิดพลาดเกิดขึ้นแม้แต่น้อยแล้ว โอสถนั้นย่อมจะไม่มีทางขึ้นไปถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์ได้
แต่พูดนั้นมันง่าย ลงมือทำนั้นต่างหากที่ยากเสียยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์!
มันเหมือนการวาดวงกลมด้วยมือเปล่าที่ต่อให้จะวาดได้กลมแค่ไหนสุดท้ายมันก็ไม่มีทางจะกลมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
เรียกได้ว่าความกลมนั้นมันเป็นเพียงแค่ทฤษฎีก็คงไม่ผิดนัก
และการทำโอสถสวรรค์ให้ถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์นั้นมันก็เหมือนการทำให้ทฤษฎีมีชีวิตขึ้นมา!
ความยากของมันนั้นหนักหนาแค่ไหนคงไม่ต้องอธิบายกัน
ไม่ว่าโอสถของจ้าวซุนนั้นมันจะทรงคุณภาพแค่ไหนแต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังอยู่ห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบไปไม่น้อย
เหตุผลนี้เองที่ทำให้เขาไม่อาจจะหลอมขั้นสุดสมบูรณ์ขึ้นมาได้
จ้าวซุนและอู้จี้อันนั้นต่างหลอมได้ไร้ที่ติและควรจะทำได้ถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์
แต่แท้จริงแล้วมันก็เหมือนการวาดวงกลมด้วยมือเปล่า
แม้ว่ามันจะดูกลมแค่ไหน จะดูสมบูรณ์แบบเท่าใด
สุดท้ายมันก็มิใช่วงกลมที่สมบูรณ์
ความยากของก้าวสุดท้ายนี้มันสุดแสนจะยากเกินคาดเดาได้
เมื่อเปลี่ยนมาหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับหนึ่งแล้วการหลอมของคนทั้งสองมันย่อมจะราบรื่นยิ่งขึ้นกว่าเก่า
ในเวลาไม่กี่สิบนาทีนั้นโอสถสวรรค์มันก็เสร็จสมบูรณ์
คนทั้งสองนั้นรีบเอามันวางลงบนศิลามารดาก่อเมฆาส่วนคนอื่นๆ นั้นต่างแทบลืมหายใจจ้องมองดูเรื่องราว
มาตรวัดของศิลามารดาก่อเมฆานั้นมันค่อยๆ พุ่งทะลุระดับเก้าขั้นสูงไปและเข้าใกล้ถึงระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์เต็มที
“ไป! ไป! ไป! ไปให้ถึง!”
เวลานี้แม้แต่จ้าวซุนผู้ยิ่งใหญ่นั้นเองก็ยังต้องกัดฟันแน่นออกมาด้วยความหน้าลุ้นเต็มที่
แน่นอนว่าเมื่อเปลี่ยนมาเป็นโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับหนึ่งแล้ว กำลังฝีมือของคนทั้งสองมันยิ่งจะดุดันขึ้นกว่าเก่า
มาตรวัดนั้นมันพุ่งเหนือล้ำกว่าจุดของโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับสองไป
จ้าวซุนและอู้จี้อันนั้นต่างยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างมีความหวัง
เวลานี้มาตรวัดมันอยู่ห่างจากจุดสูงสุดไปเพียงแค่เส้นผม!
“ไป! ขึ้นไปให้ถึง!” จ้าวซุนนั้นร้องลั่นขึ้นมา
เหล่ายอดฝีมือคนอื่นๆ นั้นต่างก็จ้องมองดูที่มาตรวัดนั้นจนลืมหายใจ
แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมันกลับทำให้คนทั้งหลายต้องผิดหวัง
เพราะมาตรวัดนั้นมันหยุดลงในที่สุด
ไม่สมบูรณ์!
จ้าวซุนนั้นจ้องมองดูศิลามารดาก่อเมฆาด้วยแววตาสิ้นหวัง “มัน…มันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าหอใหญ่ ข้ารู้ดีว่าท่านนั้นไม่คิดยอมแพ้แค่นี้ เชิญต่อเถอะ”
จ้าวซุนนั้นหันกลับมามองเย่หยวนด้วยดวงตาแดงก่ำ
สุดท้ายเขาก็กัดฟันร้องตอบกลับไป “ได้ อีกครั้ง!”
แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนสุดท้ายแล้วโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับหนึ่งนั้นมันก็จะยังอยู่ห่างจากระดับสุดสมบูรณ์ไปเสี้ยวหนึ่งในที่สุด
แต่เสี้ยวเดียวนี้มันกลับยิ่งใหญ่เหมือนดั่งสวรรค์
ไม่ว่าจะพยายามไปแค่ไหน สวรรค์ก็อยู่เหนือล้ำมือของคน!
จนสุดท้ายจ้าวซุนได้ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดสิ้นแรง ใบหน้าของเขานั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความมึนงง “ทำไมกัน? ทำไมมันกลับยังขาดไปเสมอ? มันขาดอะไรกันแน่?”
เขานั้นยอมแพ้!
เขานั้นคิดจนหัวแทบแตกหาจุดที่ตัวเองบกพร่อง
แต่สุดท้ายแล้วมันกลับไม่ได้ผลดั่งที่หวัง
เขานั้นไม่อาจจะเข้าใจได้เลยว่าปัญหานั้นมันอยู่ที่ใดกันแน่
เมื่อเจียงหลี่ได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดส่ายหัวขึ้นมาไม่ได้ “ข้าไม่นึกเลยว่าแม้แต่ท่านเจ้าหอใหญ่เองก็จะมีท่าทางไม่ต่างจากข้านั้น! ความรู้สึกพ่ายแพ้นี้มันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะแบกรับไว้ได้จริงๆ!”
…………………………
นิยายเรื่องนี้เข้าร่วมโปรโมชั่น
อัปเพิ่มต่อ +1
เพิ่มตอนจากปกติ เวลา 16.00 น. ตลอดช่วงแคมเปญ
15-28 ก.ย. 65 เท่านั้น!