เย่หยวนนั้นยกมือขึ้นมาลูบหัวกระทิงนั้นด้วยรอยยิ้ม “อะไรกัน? ไม่คิดสังหารข้าแล้วเหรอ?”
ต้าหวงได้แต่ต้องหัวเราะแห้งๆ ตอบกลับไป “อาจารย์ท่านมีวิชาที่ลึกล้ำเหนือคาดเดา ต้าหวงลบหลู่อาจารย์เย่ไว้มาก! จากนี้ไปต้าหวงจะขอฝากตัวเป็นคนรับใช้ของอาจารย์เย่ตลอดไป!”
ถึงเวลานี้แล้วมีหรือที่เขาจะยังไม่เข้าใจอีกหรือว่าทำไมนักบุญสูงมารกระทิงถึงได้เรียกนับถือเย่หยวนเป็นพี่น้อง?
โอสถสวรรค์ระดับสามกลับช่วยให้เขาบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวได้ มันย่อมจะเกินกว่าสิ่งใดที่เขาเคยพบเคยเจอมา!
คำว่าลึกล้ำเหนือคาดเดานี้มันไม่ได้เกินจริงไปแม้แต่น้อยเลย
เย่หยวนนั้นหัวเราะขึ้นมา “อืม หลังจากกลับไปแล้วข้าจะเอารายงานสมุนไพรสวรรค์ให้เจ้าดู หากเจ้าสามารถหามันมาได้ครบข้าย่อมจะสามารถหลอมโอสถสวรรค์หยกล้ำศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้าได้เมื่อถึงเวลา ช่วยให้เจ้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนจริงๆ”
ต้าหวงนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่างกายกล่าวขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง “นะ นี่ท่านพูดจริง?”
เย่หยวนยิ้มตอบ “แน่นอนว่าข้าพูดจริง ไม่เช่นนั้นแล้วคำพูดของท่านพี่ที่ว่าเจ้าจะได้ประโยชน์มันคงกลายเป็นคำเย้ยหยันไปมิใช่หรือ?”
เมื่อเดินมาถึงหน้าพวกราชาขาลเจิดทั้งห้านั้น เหล่าราชาทั้งห้าต่างก็ก้มหัวลงต่อหน้าต้าหวง
“ขอคารวะท่านแม่ทัพต้าหวง ยินดีท่านแม่ทัพด้วยที่บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวขึ้นมาได้!”
ต่อหน้าคนทั้งห้านี้แล้วต้าหวงย่อมจะมีอำนาจเหนือกว่าและตอบกลับไปด้วยแค่การพยักหน้ารับ “ขอบคุณพวกเจ้าทั้งหลายด้วย แต่คนที่ใหญ่ที่สุดในวันนี้มันคืออาจารย์เย่ท่าน พวกเจ้าฟังคำสั่งของท่านให้ดีแล้วกัน”
คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างสั่นสะท้านไปทั้งกาย “อาจารย์เย่?”
แม่ทัพต้าหวงนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหนแต่กลับนั้นกลับเรียกเย่หยวนราวกับเป็นแค่คนรับใช้? นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?
เย่หยวนหายไปพักใหญ่แต่พอกลับมาได้นั้นเขากลับกลายเป็นอาจารย์เย่ผู้ยิ่งใหญ่ไป
แม้ว่าพวกเขานั้นจะเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่วินาทีที่เห็นเย่หยวนขี่หลังต้าหวงมาว่าเย่หยวนคงไปเจอกับนักบุญสูงมารกระทิงมาแน่แล้วแต่เมื่อได้ยินกับหูมันก็ยังเหลือเกินกว่าที่จะทำใจเชื่อได้ลงอยู่ดี!
ต้าหวงนั้นกล่าวขึ้นมา “อาจารย์เย่ท่านนั้นได้กลายเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับท่านนักบุญสูงไปแล้ว แน่นอนว่าเขาย่อมจะเป็นนายของข้าด้วยเช่นกัน!”
“อะไรนะ?! กะ กลายเป็นพี่น้องร่วมสาบาน?” ราชาขาลเจิดนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายพูดกล่าวออกมาด้วยปากสั่นๆ จนแทบกัดลิ้นตัวเองไป
ในเวลานี้ความดีใจที่ได้เห็นเย่หยวนกลับมานั้นมันกลับกลายเป็นความหวาดกลัวแทนแล้ว
นี่มันมิใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว!
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำกลับกลายเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับนักบุญสูง มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?
เพราะสถานะของเย่หยวนในดินแดนของเขานั้นมันเป็นได้แค่ตัวประกัน
พวกเขานั้นกลับเอาน้องชายของนักบุญสูงมาเป็นตัวประกัน!
นี่มันโทษหนักถึงตาย!
เพราะเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวทั้งห้านั้นไม่มีใครรู้ถึงตัวตนของเต๋าทุกข์จักรพรรดิเซียน
พวกเขาย่อมจะไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมนักบุญสูงมารกระทิงถึงได้ทำเรื่องเช่นนี้ลง
“ใช่แล้ว! ท่านนักบุญสูงนั้นบอกว่าวันหน้าหากพวกเจ้าได้เห็นท่านอาจารย์เย่มันก็เหมือนพวกเจ้าได้เห็นท่านนักบุญสูงเอง หากพวกเจ้าคิดจะทำให้อาจารย์เย่ต้องลำบากมันก็เท่ากับพวกเจ้าคิดต่อท่านนักบุญสูงแล้ว!” ต้าหวงกล่าวขึ้นตาม
คนทั้งห้านั้นหน้าซีดขาวลงไปพร้อมๆ กัน
“ขะ ขอคารวะอาจารย์เย่!” ราชาขาลเจิดนั้นร้องขึ้นมาด้วยความกลัวสุดใจ
“ขอคารวะอาจารย์เย่!” พวกราชาหมื่นคชสารเองก็ก้มหัวลงทำความเคารพตาม
แต่คำพูดของพวกเขานั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความกลัว
พวกเขานั้นกลัวว่าเย่หยวนจะหันมาแก้แค้น!
เมื่อมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนหนุนหลังเช่นนี้แล้วการจะทำลายพวกเขาลงมันย่อมง่ายดาย!
มีหรือที่เย่หยวนจะมองไม่เห็นถึงความกังวลของพวกเขานั้น? แต่เขาก็แค่ยิ้มตอบกลับไป “พวกท่านทั้งหลายไม่ต้องกลัวไปหรอก ข้าไม่ได้คิดจะล้างแค้นอะไรใดๆ สิ่งที่ข้าสัญญาเอาไว้ข้าก็จะทำให้ตามที่สัญญา แต่ตอนนี้เรามาจัดการเรื่องตระกูลของราชาขาลเจิดกันก่อนจะดีกว่า”
“ตระกูลของข้าหรือ?” ราชาขาลเจิดนั้นถามขึ้นมาอย่างมึนงง
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวแน่นอนว่าพวกเฮ่อเฟิงทั้งหลายที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังราชาขาลเจิดย่อมจะหน้าซีดไปตามๆ กัน
เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่ข้าและซั่วเหยียนถูกล้อมตีในหุบเขาสามเซียนนั้นมันเป็นฝีมือของลูกๆ เจ้า?”
“อะไรนะ?!” ราชาขาลเจิดสั่นสะท้านหันกลับไปมองเหล่าลูกๆ ของตน
“เสด็จพ่อ มันไม่จริง!” ชาบากล่าวขึ้นมาปฏิเสธเป็นคนแรก
“ใช่แล้วเสด็จพ่อ ท่านคิดว่าด้วยพลังฝีมือของพวกเรามันจะมีปัญญาไปสั่งเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกเป็นสิบได้หรือ? เย่หยวนนั้นมาด้วยนามของผู้ยิ่งใหญ่และคิดกล่าวว่าร้ายพวกเรา!” เฮ่อเฟิงกล่าวขึ้นมาตาม
พวกหมาป่าศึกแสงม่วงทั้งหลายนั้นต่างหนีไปหลบซ่อนไม่มีใครตามตัวเจอ
ไม่ว่าจะอย่างไรมันก็ไม่มีหลักฐาน ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ยอมรับมีหรือที่เย่หยวนจะเอาผิดพวกเขาได้?
เมื่อราชาขาลเจิดได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นทันที
เพราะแม้ว่าเขาจะรักซั่วเหยียนกว่าใครๆ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมสังหารลูกๆ คนอื่นๆ เพราะคำพูดแค่ไม่กี่คำ
“อาจารย์เย่ ท่านนั้นเป็นพี่น้องร่วมสาบานของท่านนักบุญสูงแล้วก็จริงแต่ท่านจะมากล่าวหาคนไปทั่วเช่นนี้ไม่ได้มั้ง? ราชาผู้นี้รู้ฝีมือของลูกๆ ทั้งหลายดีและรู้ว่าพวกมันนั้นคงไม่มีปัญญาไปใช้งานยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้หรอก!” ราชาขาลเจิดปฏิเสธ
ได้ยินเช่นนั้นพวกเฮ่อเฟิงต่างก็ถอนใจยาวออกมาก่อนจะหันมามองเย่หยวนอย่างเย้ยหยัน
ซั่วเหยียนนั้นจะอย่างไรก็เป็นแค่เด็กน้อย เมื่อได้เห็นพี่ๆ ของตนพูดจาเช่นนี้ออกมาเขาก็ย่อมไม่อาจจะทนเฉยได้
“นี่พวกเจ้ายังมียางอายกันหรือไม่? เสือแปดดาวกับพวกนั้นมันได้ยอมรับออกมาจากปากแล้วว่าพวกเจ้าสั่งการมา แค่พวกเจ้ากลับยังมีหน้ามาทำเป็นคนดีอีกหรือ! เสียดายที่ข้าไว้ใจรักพวกเจ้าเป็นพี่ แท้จริงแล้วพวกเจ้ามันกลับเป็นแค่มารร้าย!” ซั่วเหยียนนั้นร้องลั่นขึ้นมา
“เจ้าสิบหก เจ้าพูดอะไรเรื่อยเปื่อยเช่นนี้ไม่ได้! พวกเราทั้งหลายนั้นต่างรักและเอ็นดูเจ้ามาเสมอๆ! ข้าว่าเรื่องนี้เสด็จพ่อเองก็เห็นมันดี! เวลานี้พอเจ้ามีคนหนุนหลังแล้วเจ้ากลับคิดจะหันมาทำร้ายพี่ๆ ของตนหรือ? เจ้าสิบหก เจ้าจะไม่เนรคุณมากเกินไปหน่อยหรือ?” ชาบากล่าวขึ้นมา
“เจ้าสิบหก จะอย่างไรเจ้าก็ยังต้องมีกำลังพอที่จะสืบต่อตำแหน่งของท่านพ่อ ต่อให้เจ้าจะสังหารพวกเราทั้งเก้าลงวันนี้เจ้าก็ไม่ได้บัลลังก์ไปครองง่ายๆ หรอก!” เฮ่อเฟิงกล่าวขึ้นมา
เมื่อราชาขาลเจิดได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดพยักหน้ารับไม่ได้
เขานั้นเห็นว่าคนทั้งหลายนั้นอยู่ฝ่ายที่ถูกต้อง
คนทั้งเก้านี้แสดงความรักต่อซั่วเหยียนออกมาจริงๆ
เพียงแค่ว่าเขาไม่ได้รู้เลยว่าปีที่ผ่านมามันได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาบ้าง
“เจ้าสิบหก เจ้าเองก็โตแล้ว! กลับคิดใช้วิธีเช่นนี้มันทำให้ข้าผิดหวังนัก!” ราชาขาลเจิดนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างผิดหวัง
“พวกเจ้า… พวกเจ้า…” ซั่วเหยียนนั้นหน้าแดงก่ำขึ้นมาด้วยความคับแค้น
ซั่วเหยียนนั้นได้รู้ตัวแล้วว่าเขานั้นช่างเป็นแค่เด็กน้อยไร้ประสบการณ์
พูดแค่ไม่กี่คำสุดท้ายเขาก็ไม่อาจตอบโต้ใดๆ ได้อีก
เขานั้นไม่รู้จะต้องตอบอย่างไรกลับไป
แต่ในเวลานั้นเองที่เย่หยวนได้เดินเข้ามาตบบ่าของเขาก่อนค่อยๆ กล่าว “เด็กน้อย เจ้าอย่าได้คิดเครียดจนหน้าแดงดำเช่นนั้นเลย ข้าจะสอนเจ้าให้ว่าในโลกนี้คำพูดมันไร้ค่าหากไม่มีพลังฝีมือพอที่จะพิสูจน์ตัว!”
พูดจบเขานั้นก็โจมตีวิญญาณดั่งเดิมขึ้นทันที
ชาบานั้นร้องลั่นก่อนจะลงไปนอนตายบนพื้น
หน้าของคนทั้งหลายเปลี่ยนสีไปทันที
ไม่มีใครคิดฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับจะกล้าสังหารคนลงอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้!
“เย่หยวนเจ้า!” ราชาขาลเจิดนั้นร้องลั่นขึ้นมา
เขานั้นเฝ้าระวังเย่หยวนมาตั้งแต่แรกแต่ไม่นึกฝันว่าเย่หยวนกลับจะใช้การโจมตีวิญญาณดั่งเดิมออกมา!
เย่หยวนไม่คิดสนใจเขาและหันหน้าไปบอกซั่วเหยียน “ข้าเริ่มให้แล้ว ที่เหลือเจ้าจัดการต่อเถอะ”
ซั่วเหยียนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่างกายก่อนจะพยักหน้ารับในที่สุด
ในเมื่อพูดกันไม่ได้ มันก็มีแต่ต้องฆ่ากันแล้ว!
ซั่วเหยียนนั้นจะอย่างไรก็เป็นภูติแท้เลือดร้อนลึกๆ ในใจ
เวลานี้เขาไม่มีเหตุผลให้ต้องหยุดมืออีกต่อไป
ราชาขาดเจิดนั้นกัดฟันแน่นกล่าวขึ้นมา “ซั่วเหยียน เจ้ากล้า?!”
ต้าหวงนั้นหัวเราะตอบกลับไปแทน “แม่ทัพผู้นี้อยากเห็นนักว่ามันมีใครกล้ามาขวาง!”
………………….