“เจ้าเมืองสวรรค์ใต้จ้าวซุนขอคารวะท่านนักบุญสูง!”
เมื่อได้เห็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนทั้งห้าที่ตามหลังเย่หยวนมานั้นจ้าวซุนก็แทบจะหยุดหายใจลง
เย่หยวนทำได้จริง!
พวกเขาเหล่านี้คือยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน พลังที่พวกเขาทั้งหลายได้แต่ฝันหาแต่ไม่มีใครสามารถเข้าถึงมันได้จริง!
เวลานี้ตัวจ้าวซุนนั้นรับทั้งตำแหน่งเจ้าเมืองสวรรค์ใต้และเจ้าหอใหญ่
“หึๆ น้องจ้าวไม่ต้องก้มหัวให้พวกเราหรอก ที่พวกเราทั้งห้ามาในวันนี้มันก็เพื่อขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้น!” ขาลเจิดนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ใช่แล้ว ห้าสิบปีก่อนนั้นมันเป็นพวกเราเองที่ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ทำให้ลงมือเลวร้ายลงไป!” นักบุญสูงชวดสวรรค์กล่าวตาม
“วันนี้พวกเรานั้นเอาของมาแทนคำขอโทษด้วย หวังว่าน้องจ้าวจะรับมันไว้” นักบุญสูงหมื่นคชสารกล่าวขึ้นตาม
การที่ห้ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นกลับมาเรียกเขาเป็นน้องนั้นมันย่อมทำให้จ้าวซุนแทบหมดสติลง
นักบุญสูงทั้งหลายนั้นกลับเรียกเขาเป็นน้อง!
ที่สำคัญไปกว่านั้นพวกเขานั้นยังมาเพื่อขอโทษ!
มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?
ตัวจ้าวซุนนั้นคิดไปว่าเย่หยวนจะตายไม่อาจกลับมาได้แล้วด้วยซ้ำ
แต่เวลานี้นอกจากว่าเย่หยวนจะกลับมาได้แล้วท่าทางของยอดฝีมือทั้งห้านั้นมันกลับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
“อ่า! ท่านนักบุญสูงท่านจะกังวลเกินไปแล้ว ที่แห่งนี้มันมิใช่ที่จะมาคุยกัน เข้าไปในเมืองก่อนเถอะ”
แต่จะอย่างไรจ้าวซุนนั้นก็ยังไม่กล้าทำตัวใหญ่เหนือหัวอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
เพราะอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็คือนักบุญสูง!
การถูกคนทั้งห้านั้นเรียกว่าเป็นน้องมันย่อมทำให้จ้าวซุนลำบากใจอย่างมาก
“อาจารย์เย่ เชิญก่อนเลย!” แต่คนทั้งห้านั้นกลับปล่อยให้เย่หยวนเดินนำไปก่อน
จ้าวซุนเบิกตากว้างจนแทบถลนออกมา
“เจ้าหอสามนั้นช่างเก่งกาจล้ำนัก! ห้ายอดนักบุญสูงนั้นกลับให้เกียรติเขาถึงขนาดนี้!”
“หึ ตอนที่ห้าราชามาโจมตีแดนสวรรค์ใต้นั้นพวกเขาต่างวางตัวเหนือทุกชีวิต เวลานี้พวกเขาบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้แต่ท่าทางของพวกเขานั้นกลับเกรงใจเราขึ้นอย่างมาก!”
“ชิๆ เจ้าหอสามนั้นผูกมิตรกับทะเลหนามใต้และสยบเขาหมื่นอสูร! เวลานี้เมืองสวรรค์ใต้เราคงไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีกแล้ว!”
…
เมื่อเหล่านักยุทธในเมืองได้เห็นภาพนั้นพวกเขาต่างก็ต้องกล่าวขึ้นมาด้วยความภาคภูมิอย่างสุดใจ
แดนสวรรค์ใต้นั้นเดิมทีเป็นดินแดนที่แสนรันทดต้องมาอยู่กึ่งกลางระหว่างสองกองกำลังภูติแท้ที่ยิ่งใหญ่
แต่เมื่อเย่หยวนมาถึงนั้นทุกสิ่งอย่างมันกลับเปลี่ยนแปลงไปสิ้นเชิง
เย่หยวนนั้นเดินทางลงไปยังทะเลหนามใต้ก่อนที่ไม่นานทะเลหนามใต้จะส่งทูติขึ้นมาบอกว่าจะไม่คิดรุกรานแดนสวรรค์ใต้อีก
เย่หยวนนั้นเดินทางขึ้นไปยังเขาหมื่นอสูรก่อนที่จะกลับมาพร้อมคำขอโทษของห้านักบุญสูง!
เจ้าหอสามผู้นี้มันกลายเป็นดั่งเทพเจ้าในความคิดของคนทั้งหลายแล้ว!
หลังจากเข้าเมืองมาแน่นอนว่าการพูดคุยมันย่อมจะไม่จบลงง่ายๆ
ระหว่างที่คุยถามสารทุกข์สุกดิบกันไปเรื่อยนั้นเหล่านักบุญสูงทั้งห้าต่างก็วางตัวนอบน้อมอย่างมากจนทำให้พวกจ้าวซุนนั้นต้องถอนใจยาว
พวกเขานั้นรู้ว่าคนทั้งห้านั้นวางตัวเช่นนี้เพราะเห็นแก่หน้าเย่หยวน
หากลองคิดดูแล้ว เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นมันช่างโง่เง่าที่ทิ้งเพชรในมือไปหาเศษหินอันห่างไกล!
ใต้เท้าของเขานั้นมีสุดยอดตัวตนเหนือสวรรค์อยู่แท้ๆ แต่ว่าเขานั้นกลับไปใช้วิธีชั่วร้ายจนทำให้คนเกลียดชัง
ครืน!
จู่ๆ วินาทีนั้นเองมันก็เกิดคลื่นพลังรุนแรงล้ำฟ้าดินกระแทกเมืองสวรรค์ใต้เข้า
“ตอนนี้ใครเป็นเจ้าเมืองสวรรค์ใต้กัน ข้าผู้นี้คือเมิ่งฮั่นเฟิง! ทำไมยังไม่รีบออกมาทักทายอีก?” เสียงดังลั่นฟ้าดินนั้นดังไปทั่วทุกซอกมุมของเมืองสวรรค์ใต้
เมิ่งฮั่นเฟิงกลับมาถึงแล้ว!
ภายในจวนเจ้าเมืองนั้นคนทั้งหลายต่างหน้าเปลี่ยนสีไป
“เจ้าเมืองเมิ่งฮั่นเฟิงบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้แล้ว!” จ้าวซุนกล่าวขึ้นมาอย่างตกตะลึง
เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเสียการบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้นั้นมันก็มิใช่เรื่องเล็กๆ
เพราะนี่มันคือยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนคนแรกของแดนสวรรค์ใต้!
แต่อู้จี้อันนั้นกลับกล่าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “หึ! ไอ้นี่มันยังมีหน้ากลับมาอีก! หากมิใช่เพราะมันแดนสวรรค์ใต้เราจะต้องตกต่ำลงถึงปานนี้หรือ?”
ซ่งเทียนหยางนั้นเองก็กล่าวขึ้น “ก่อนนั้นตอนที่แดนสวรรค์ใต้นองไปด้วยเลือดตัวมันกลับหัวหดไม่ยอมออกมา เวลานี้พอมันบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้แล้วมันกลับคิดจะมายึดตำแหน่งเจ้าเมืองกลับไป! เหอะ ฝันไปเถอะ!”
เรื่องที่เมิ่งฮั่นเฟิงก่อไว้นั้นมันย่อมทำให้คนเมืองสวรรค์ใต้เกลียดชังเขาอย่างมาก
แต่ด้านพวกขาลเจิดทั้งหลายเมื่อได้ยินนามของเมิ่งฮั่นเฟิงนั้นพวกเขาต่างก็กัดฟันแน่นขึ้นมา
“ไอ้เจ้ามารร้ายมันกลับมาแล้ว! หึๆ มันคงไม่นึกฝันล่ะสิว่าพวกเราทั้งห้านั้นจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้ก่อนมันอีก? ไป ไปจัดการมันกันเถอะ!” ขาลเจิดกล่าวขึ้นมาอย่างคับแค้น
แต่ก่อนที่คนทั้งหลายจะได้ขยับตัวเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องรีบไป เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นมันคิดมาอวดเบ่งอำนาจ ให้มันได้อวดเบ่งไปเสียหน่อยจะเป็นอะไรไป ที่สำคัญหากพวกเจ้าออกไปทั้งๆ อย่างนี้มันคงกลัวจงหนีไปสุดฟ้าดินแน่!”
เมื่อพวกขาลเจิดได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องพยักหน้ารับออกมาคิดว่าสุดท้ายก็ยังเป็นเย่หยวนที่มีสติที่สุด
ห้าต่อหนึ่งย่อมจะชนะได้แน่นอนแต่หากออกไปเช่นนี้ตัวเมิ่งฮั่นเฟิงคงกลัวจนหนีหายไปแน่
หากยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนคิดอยากหนีมันย่อมจะไม่ง่ายที่จะไล่สังหารแล้ว
แต่หากพวกเขานั้นค่อยๆ ลอบเข้าไปล้อมตัวเขาไว้ แน่นอนว่าต่อให้เมิ่งฮั่นเฟิงจะอยากหนีมันก็คงมิใช่เรื่องง่ายๆ แล้ว
“หึๆ ยังคงเป็นอาจารย์เย่ที่เก่งกาจเสมอ!” นักบุญสูงชวดสวรรค์กล่าวขึ้นมาพร้อมยกนิ้ว
เย่หยวนหันกลับไปหาจ้าวซุน “ไปเถอะ ไปพบอดีตเจ้าเมืองกันหน่อย!”
จ้าวซุนพยักน้ารับและตามเย่หยวนออกประตูจวนไป
เมื่อก้าวขึ้นมาบนอากาศเย่หยวนก็ได้เห็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีฟ้าน้ำเงินพร้อมมือทั้งสองด้านที่ไพล่หลังดูท่าทางยิ่งใหญ่ราวกับเป็นเทพสวรรค์
นี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเมิ่งฮั่นเฟิงตัวเป็นๆ สีหน้าท่าทางของเขานั้นมันทำให้เย่หยวนรู้สึกราวกับว่ากำลังเจอหน้ามารร้ายแสนหลงตัวเอง
หากเย่หยวนได้เจอเขาก่อนหน้าเรื่องราวทั้งหลายนี้จะเกิดขึ้น เย่หยวนอาจจะไม่มองเขาแบบนี้
เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นเองก็เห็นคนทั้งสองที่ค่อยๆ เข้ามาหาก่อนจะหรี่ตาลงกล่าว “หืม? จ้าวซุน ไม่นึกเลยว่าเจ้าเองก็จะบรรลุขึ้นมาได้เช่นกัน! ดูท่าคนที่จัดการดูแลเมืองสวรรค์ใต้อยู่ในตอนนี้มันคงเป็นเจ้า? แต่ทำไมพวกเจ้ายังไม่รีบออกมาคุกเข่าคารวะข้าผู้นี้อีก?”
พูดไปเมิ่งฮั่นเฟิงก็หรี่ตาลงพร้อมปล่อยพลังกดดันออกมาใส่พวกเขา
จ้าวซุนนั้นหัวเราะตอบกลับไป “เมิ่งฮั่นเฟิง เจ้ายังมีหน้ากลับมาอีกหรือ? เจ้าก็รู้ว่าที่แดนสวรรค์ใต้จมสู่ความหายนะเมื่อห้าสิบปีก่อนนั้นมันเป็นความผิดของเจ้าทั้งสิ้น!”
เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นไม่คิดสนใจ “แค่มดปลวกตายไปมันก็เท่านั้น ตายก็ตายไปจะมีอะไรมากมาย? หรือว่าเจ้าจะบอกว่ามดปลวกพวกนั้นมันมีค่ากว่าการที่ข้าผู้นี้บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนหรือ? ที่สำคัญไปกว่านั้นเมืองสวรรค์ใต้เองก็ยังอยู่ดีมิใช่หรือ?”
ตอนที่เมิ่งฮั่นเฟิงกลับมาถึงเมืองสวรรค์ใต้นั้นเขาเองก็ต้องประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน
เพราะเมืองสวรรค์ใต้นั้นยังอยู่ดี!
คลื่นพลังของผู้คนในเมืองเองก็รุนแรง ดูท่าแล้วความเสียหายมันคงไม่ได้มากมายด้วยซ้ำ!
ก่อนนั้นกองทัพภูติแท้มันยิ่งใหญ่ทรงพลังแค่ไหน เขาได้เห็นมันมากับตา
แต่กองทัพใหญ่เช่นนั้นกลับตีเมืองสวรรค์ใต้ไม่แตก?
แต่จะอย่างไรเสียไม่ถูกทำลายมันก็ย่อมดีกว่าสำหรับเขา
เพราะเขานั้นก็ไม่ได้ขยันจะไปสร้างเมืองขึ้นมาตั้งแต่ต้นเช่นกัน
“เจ้า! เจ้าช่างกล้า!” ได้เห็นท่าทางของเมิ่งฮั่นเฟิงนั้นจ้าวซุนก็อดไม่ได้ที่จะด่าออกมา
เมิ่งฮั่นเฟิงตอบกลับไป “เจ้าห้าตัวนั่นมันแข็งแกร่งไม่น้อย ข้านั้นแต่ก่อนไม่อาจเทียบเคียงพวกมันได้แต่ตอนนี้ข้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้แล้ว ข้านั้นคือผู้ปกครองแดนสวรรค์ใต้อย่างแท้จริง! มันถึงเวลาให้พวกมันได้รับรู้รสชาติของการแก้แค้นเสียที! อ่า แล้วเจ้าเด็กที่มากับเจ้านี่เป็นใครเล่า? หน้าตาไม่คุ้นเลย”
จ้าวซุนตอบกลับไป “เขามีนามว่าเย่หยวน! เจ้าน่าจะเคยได้ยินมิใช่หรือ?!”
เมิ่งฮั่นเฟิงขมวดคิ้วทำหน้านึกไปนานก่อนจะยิ้มตอบกลับมา “ที่แท้มันคือยอดอัจฉริยะการโอสถคนนั้นเอง! ข้านั้นรีบเตรียมตัวเข้ามิติวิเศษจึงไม่ได้ออกมาพบเจ้า ไม่เลวๆ วันหน้าเจ้าติดตามข้าไปเถอะ!”
เมื่อจ้าวซุนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดส่ายหัวออกมาไม่ได้
ทำไมก่อนหน้านี้ มาเขาถึงมองไม่ออกกันว่าเจ้าบ้านี่หลงตัวเองแค่ไหน?