ตามเจ้า?
เขานั้นมีห้ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เป็นผู้ติดตาม!
เจ้าไปเอาความกล้าที่ไหนมาใช้ให้คนระดับนี้ไปติดตามเจ้า?
ก่อนหน้านี้บนเขาหมื่นอสูรนั้นมันมีนักบุญสูงอยู่เพียงแค่สามคนเท่านั้น
คนไม่รู้นั้นมันไม่รู้จักกลัวอย่างแท้จริง!
เย่หยวนนั้นไม่ได้แสดงความไม่พอใจใดๆ ออกมาและมองหน้าเมิ่งฮั่นเฟิงด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก ให้ข้าติดตามเจ้า? เจ้าจะให้อะไรข้าได้กัน?
เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นยิ้มตอบกลับไป ข้าได้ยินว่าเจ้านั้นมีวิชาการโอสถที่เหนือล้ำฟ้าดิน แม้แต่จ้าวซุนนั้นยังชื่นชมเจ้าไม่ขาด ข้าจะให้เจ้าครองตำแหน่งเจ้าหอใหญ่ของหอโอสถสวรรค์ใต้!
เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นคิดว่าเย่หยวนจะต้องยอมรับแน่นอน ด้วยตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
จ้าวซุนนั้นแสดงความไม่เคารพต่อตัวเขาออกมาอย่างชัดเจน แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ชอบหน้าอีกฝ่ายแล้ว
หากเป็นก่อนหน้าเขาคงต้องรับมันไว้ไม่กล้าระบายออกมา
แต่ตอนนี้เขานั้นเป็นถึงนักบุญสูงแล้ว มีหรือที่เขาจะมาเกรงใจนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวอีก?
เย่หยวนนั้นอดหัวเราะขึ้นไม่ได้เมื่อได้ยิน แค่เจ้าหอใหญ่หอโอสถสวรรค์ใต้หรือ? มันไม่พอ!
เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นหัวเราะตอบกลับไป เฮอะ พูดดีเสียจริง! เช่นนั้นเจ้าลองบอกมาสิว่าเจ้าต้องการอะไรกันแน่?
เย่หยวนตอบกลับไป ข้าต้องการให้เจ้าคุกเข่าลงกราบขอโทษนักยุทธทั้งเมืองสวรรค์ใต้นี้!
เมิ่งฮั่นเฟิงที่ได้ยินต้องชักสีหน้าทันที เด็กน้อย เจ้ากล้ามาเล่นลูกไม้กับข้าผู้นี้หรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้านั้นเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเพียงคนเดียวของแดนสวรรค์ใต้นี้! ทุกชีวิตนั้นข้าผู้นี้สามารถตัดสินมันได้สิ้น!
เย่หยวนนั้นยิ้มตอบกลับไปอย่างไม่สนใจ ลูกไม้? ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับคนหน้าไม่อายอย่างเจ้าหรอก
เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นกัดฟันแน่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน เด็กน้อย เจ้ามันช่างกล้า กล้ามาท้าทายพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเช่นนี้!
เย่หยวนตอบกลับไป ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันเหนือล้ำมากหรือ?
เช่นนั้นเจ้าก็แหกตาดูเถอะว่าชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันเหนือล้ำแค่ไหน!
เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมปล่อยคลื่นพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนออกมาทำให้ทั้งเมืองต้องตกอยู่ในห้วงความกดดันมหาศาล
พลังของชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันช่างน่ากลัวนัก!
ท่ามกลางพายุพลังกดดันนั้นแม้แต่ตัวจ้าวซุนที่มีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวเองก็ยังแทบไม่อาจประคองตัวไว้ได้
ฮ่าๆๆ จักรพรรดิเซียน เก่งกาจนัก! ข้าล่ะกลัวเสียจริง! ท่ามกลางเสียงหัวเราะนั้นนักบุญสูงขาลเจิดก็เดินออกมา
เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อ เจ้า… เจ้าเองก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้? นี่มัน… บ้าน่า!
ชิๆ ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันช่างเก่งกาจเสียจริง! เช่นนั้นข้าเองก็คงเก่งกาจไม่น้อยเช่นกันแล้ว! นักบุญสูงหมื่นคชสารก้าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
มุมที่เขาเดินออกมานั้นมันตรงข้ามกับจุดที่นักบุญสูงขาลเจิดปรากฏตัวขึ้นพอดี เป็นการตัดทางหนีของเมิ่งฮั่นเฟิงลงสิ้น
ได้เห็นนักบุญสูงหมื่นคชสารเช่นนั้นตัวเมิ่งฮั่นเฟิงย่อมจะสั่นสะท้านไปทั้งกาย!
เจ้า…เจ้าเองก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้?
เมิ่งฮั่นเฟิง เจ้าดูจะตกใจมากนะ! สุดท้ายมันก็แค่การบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมิใช่หรืออย่างไร? ดูเจ้าทำหน้าเหมือนตัวเองได้ขั้นสวรรค์เข้าสิ นักบุญสูงชวดสวรรค์กล่าวขึ้น
เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นแทบลืมหายใจไปแล้วในตอนนี้
ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน!
เขานั้นแย่งชิงสมบัติจากมือคนทั้งหลายนั้นและฝ่าฟันความยากลำบากมากมายประกอบเต๋ากว่าจะขึ้นมาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้เช่นนี้
แต่ใครจะไปคิดฝันว่าห้าสิบปีที่เขาเก็บตัวนั้นทุกอย่างภายนอกมันจะเปลี่ยนแปลงไปได้ปานนี้!
เขานั้นคิดไปว่าตัวเองจะเอาชนะคนทั้งห้านี้ได้หลังจากออกมาจากการเก็บตัวแล้ว
แต่ใครจะไปคิดฝันว่าคนทั้งห้านั้นเองก็จะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้เช่นกัน!
ชิๆ พลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งๆ กลางๆ อย่างเจ้านี้ก็คิดจะให้อาจารย์เย่ติดตามเจ้าไปด้วย หัวเจ้าไปโดนลาดีดมาหรืออย่างไร? อ่า พูดเช่นนั้นมันจะเป็นการดูถูกลาไปสินะ นักบุญสูงราชสีห์เถื่อนกล่าวขึ้นมา
เมื่อได้เห็นนักบุญสูงราชสีห์เถื่อนและนักบุญสูงมฤคยักษ์แล้วสีหน้าของเมิ่งฮั่นเฟิงก็ซีดขาวราวกระดาษไป
เจ้า พวกเจ้า กลับบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนกันได้หมดสิ้น? เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ
ห้าภูติแท้บรรลุขึ้นมาได้สิ้น เช่นนั้นแล้วสมบัติที่เขาวางแผนร้ายแย่งชิงมานี้มันจะมีค่าใด?
เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคร้ายนัก
นักบุญสูงขาลเจิดหันไปมองเมิ่งฮั่นเฟิงด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก เจ้าดูตกใจมาก? ตอนที่เจ้าแย่งเอาโอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์ไปเจ้าคงไม่นึกฝันว่ามันจะมีวันนี้ล่ะสิ? เจ้าบอกว่าจะไปแก้แค้นพวกเราทั้งห้ามิใช่หรือ? เช่นนั้นพวกข้าจะให้โอกาสเจ้าเอง
คนทั้งห้านั้นแยกตัวออกไปปิดล้อมไว้รอบทิศ
ต่อให้ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นจะรวดเร็วปานใดมันก็ไม่มีทางหนีออกไปได้แน่
เมิ่งฮั่นเฟิงหน้าซีดขาวด้วยความกลัว เป็นเวลานี้เองที่เขาได้รู้ตัวว่าติดกับเข้าให้แล้ว
แต่จะอย่างไรมันก็น่าตกตะลึงเกินไป!
พลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นมันมีวางขายตามตลาดแล้วหรือ?
มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่? เมิ่งฮั่นเฟิงนั้นไม่ว่าจะคิดอย่างไรเขาก็ไม่อาจจะหาเหตุผลการบรรลุของคนทั้งห้าพร้อมๆ กันได้
ขาลเจิดยิ้มตอบกลับไป เจ้าโง่ เจ้านั้นเอาแต่คิดวางแผนแย่งชิงสมบัติจากเราโดยไม่ได้รู้เลยว่าเทพที่แท้นั้นอยู่ข้างกาย! อาจารย์เย่นั้นมีวิชาการโอสถที่เหนือฟ้าล้ำสวรรค์! พวกเราทั้งห้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้นี้มันล้วนเป็นเพราะท่าน โอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์นั้นมันจะยังมีค่าใด?
เป็นเจ้า? บ้าน่า! เมิ่งฮั่นเฟิงสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะหันมามองเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นต้นคนหนึ่งกลับสร้างยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาถึงห้าคน?
นี่มัน เป็นไปได้อย่างไรกัน?
หากนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่สามารถสร้างยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้แล้วเช่นนั้นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนมันคงมีเกลื่อนฟ้าดินไปแล้ว!
ขาลเจิดที่ได้เห็นต้องยิ้มตอบกลับไป เชื่อหรือไม่ก็เรื่องของเจ้า แต่ตอนนี้พวกข้าจะขอกระทืบเจ้าก่อนแล้วค่อยคุยกัน! พี่น้อง จัดการเถอะ!
ได้เลย! พวกราชสีห์เถื่อนทั้งหลายตอบรับพร้อมปล่อยหมัดมือออกมาพร้อมๆ กันราวสัตว์ป่าที่หิวกระหาย
ปัง! ปัง! ปัง!
คนทั้งห้านั้นไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย ลงมือออกมาอย่างหนักหน่วงพร้อมๆ กัน
พลังเช่นนี้คนในเมืองสวรรค์ใต้จะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?
ภาพของการต่อสู้อันรุนแรงนั้นมันช่างดูสวยงามในสายตาของคนเบื้องล่าง
เมิ่งฮั่นเฟิงหน้าเปลี่ยนสีไปมาและทำได้เพียงแค่ตั้งรับ
เขานั้นถูกปิดทางหนีไว้สิ้นจึงได้แต่ต้องยืนรับไป
แต่สิ่งที่เขาเจ็บแค้นใจที่สุดนั้นคือเขาไม่อาจจะตอบโต้ใดๆ คนทั้งห้าไปได้แม้แต่น้อย
เดี๋ยวนะ ทำไมไอ้หมอนี่มันอ่อนแอขนาดนี้เล่า? หรือว่ามันคิดปกปิดพลังฝีมือไว้? ราชสีห์เถื่อนกล่าวขึ้นมาด้วยความกังวล
เพราะการปะทะกันเมื่อครู่มันทำให้เขาได้พบว่ากำลังของเมิ่งฮั่นเฟิงนั้นช่างอ่อนแอไม่อาจเทียบเคียงกับเขาได้แม้แต่น้อย!
เพราะก่อนที่จะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนกันขึ้นมานี้ตัวเมิ่งฮั่นเฟิงนั้นมีพลังฝีมือเทียบเคียงได้กับขาลเจิดที่เก่งกาจที่สุดในหมู่คนทั้งห้า
ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่คนทั้งห้านั้นจะยอมให้เขาร่วมเดินทางด้วย?
แต่เมื่อบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้นั้น เขากลับพบว่าอีกฝ่ายนั้นช่างอ่อนแอ
อย่างมากที่สุดมันก็คงไม่เจ็ดในสิบของพลังฝีมือที่เขามี
แปลก!
ปิดบังอะไรเล่า! มีหรือที่โอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์ห่วยๆ นั้นมันจะเทียบกับโอสถสวรรค์หยกล้ำศักดิ์สิทธิ์ของอาจารย์เย่ได้? ตอนที่เราบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมานั้นเราเปิดความเป็นไปได้ทุกอย่างของร่างกายขึ้น แต่เจ้าโอสถสวรรค์หยกล้ำศักดิ์สิทธิ์นั้นมันอย่างมากก็คงคุณภาพแค่ระดับสามหรือสี่ มีหรือที่จะช่วยทำให้พลังบ่มเพาะพัฒนาได้มากมาย? ขาลเจิดกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะ
ราชสีห์เถื่อนที่ได้ยินก็ต้องพยักหน้ารับขึ้นมาอย่างเห็นด้วย อ่า! มันเป็นเช่นนั้น! เจ้าหมอนี่มันยอมทิ้งแตงโมไปก้มเก็บเม็ดงาจริงๆ! ข้าว่าแค่ข้าคนเดียวก็คงเอาชนะมันได้สบายๆ! ไอ้โง่เอ้ย! โง่จริงๆ! ฮ่าๆๆ
เพราะการบรรลุนั้นมันย่อมจะแตกต่างกันไป
ไม่เช่นนั้นแล้วมีหรือที่ผู้คนจะยังแยกระดับคุณภาพโอสถกัน?
โอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมันย่อมจะมีฤทธิ์ที่รุนแรงอย่างไม่อาจเอาโอสถชะตาศักดิ์สิทธิ์นั้นมาเทียบเคียงได้
เมื่อนักบุญสูงทั้งห้าลงมือพร้อมๆ กันนั้นตัวเมิ่งฮั่นเฟิงก็ย่อมจะได้แต่ต้องกระอักเลือดออกมาอย่างไม่มีหยุด
เขานั้นทำได้แต่ปัดป้อง ไม่อาจจะต่อสู้สวนกลับใดๆ ไปได้แม้แต่น้อย!
หากมิใช่เพราะคนทั้งห้านั้นยังยั้งมือไว้บ้างตัวเขาคงตายตกไปนานแสนนานแล้ว
เขานั้นทำทุกอย่างเพื่อจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาแต่ว่าเขานั้นกลับถูกดักตีตั้งแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร
เอาล่ะ พอเท่านั้นก่อน ให้มันได้มีชีวิตอยู่ก่อน ข้าต้องการให้มันก้มหัวลงคุกเข่าขอขมาคนทั้งเมืองนี้! เย่หยวนสั่ง