ถังเฉียนนั้นลุกขึ้นมาพร้อมด้วยรอยกีบเท้าบนหน้า
หลายต่อหลายคนที่ได้เห็นเช่นนั้นต้องอดแอบหัวเราะขึ้นไม่ได้
ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวนั้นเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ล้ำในห้ายอดแดนสวรรค์
แต่เวลานี้เขานั้นกลับมีรอยกีบเท้าอยู่บนหน้า ใครเห็นก็อดหัวเพราะไม่ได้
แน่นอนว่าที่เป็นเช่นนี้มันเพราะว่าต้าหวงนั้นไม่ได้ใช้พลังฝีมือที่แท้จริงออกมา ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่จบแค่ทิ้งรอยเท้าไว้
ต่อให้จะมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวมันก็คงไม่รอดไปได้
กีบทุเรศไหวนั้นมันมิใช่ของเล่น
“นี่หรือคือชื่อเสียงของนิกายสวรรค์เจ็ดดาวเจ้า? มันก็แค่เท่านี้! ครั้งนี้ข้าแค่จะสั่งสอนให้เจ้าได้รู้ไว้ หากมีกำลังไม่พอก็อย่าได้มาอวดเบ่งต่อหน้าคน ต้าหวง ไปช่วยสั่งสอนให้พวกนิกายสวรรค์เจ็ดดาวได้จดจำกันอีกสักครั้งเถอะ”
เมื่อคำสั่งถูกกล่าวออกมาคนนิกายสวรรค์เจ็ดดาวนั้นต่างก็ต้องหน้าซีดขาวลง
แต่ว่าพวกเขานั้นกลับไม่มีเวลาจะตั้งรับใดๆ ต้าหวงนั้นก็พุ่งตัวมาถึงแล้ว
ปัง ปัง ปัง…
ต้าหวงนั้นถีบออกไปอย่างรุนแรงรวดเร็วเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั่วๆ ไปย่อมไม่มีใครต้านทานหลบเลี่ยงได้
พริบตาเดียวนั้นบนใบหน้าของคนนิกายสวรรค์เจ็ดดาวนั้นมันก็มีรอยกีบเท้าประทับอยู่สิ้น
แน่นอนว่าบนใบหน้าของถังเฉียนนั้นมันมีสองรอยแล้ว
เขานั้นไม่อาจจะหลบกีบเท้านี้ได้เช่นกัน
เว่ยหยูนั้นยิ่งคับแค้นจนอยากจะกระอักเลือดเพราะสำหรับเขา นี่เป็นครั้งที่สาม!
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน
พวกเขานั้นพยายามประเมินต้าหวงให้เหนือล้ำจินตนาการไว้ก่อนแล้ว แต่สุดท้ายพวกเขานั้นกลับยังประเมินต้าหวงต่ำไป
แต่ปัญหาก็คือต้าหวงนั้นไม่ได้ใช้กำลังปราณใดๆ ออกมาเลย แล้วเขาลงมือขนาดนี้ได้อย่างไร?
ไม่ว่าจะอย่างไรวันนี้นิกายสวรรค์เจ็ดดาวนั้นมันก็ถูกตบจนหน้าหันแน่นอนแล้ว
ในฐานะยอดนิกายสวรรค์ของดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงนั้น นิกายสวรรค์เจ็ดดาวย่อมจะไม่เคยต้องพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อน
แต่เวลานี้พวกเขานั้นกลับไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาแรงๆ ด้วยซ้ำ
ถูกตบจนหน้าหันเช่นนี้แล้วพวกเขาจึงมีแต่ต้องรับชะตาหนีไปอยู่หลังกลุ่มคนทั้งหลาย
เวลานี้เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนับร้อยๆ นั้นกำลังมุ่งหน้าเดินทางไปยังป่าหมึกเรือง
เมื่อมาถึงป่าหมึกเรืองนั้นเย่หยวนก็ได้เห็นลำแสงสีแดงเลือดพุ่งขึ้นมาสู่ท้องฟ้า
ลำแสงนี้มันเหมือนเป็นพลังงานวิญญาณบางอย่างที่ทำให้รู้สึกหวาดกลัว
เมื่อเย่หยวนได้เห็นเช่นนั้นสีหน้าของเขาก็ซีดขาวลงทันที
เพราะยิ่งเข้าไปใกล้เย่หยวนก็ยิ่งเห็นชัดว่าจุดที่แสงส่องออกมานั้นมันเป็นจุดที่เขาผนึกไว้ตอนบรรลุขึ้นมาจริงๆ
เพียงแค่ว่าตอนนี้มันไม่เหลือร่องรอยของผนึกใดๆ แล้วแม้แต่น้อย
“สหายเต๋าทั้งหลาย ใครคิดอยากจะนำเข้าไปก่อนบ้าง?” เฉินไท่ถามขึ้น
“ต้าหวง ไปกัน!” เย่หยวนไม่คิดลังเล
เมื่อต้าหวงได้เห็นสีหน้าของเย่หยวนในตอนนี้เขาก็พอจะเดาเรื่องราวออกแล้วจึงไม่คิดรอช้ารีบมุ่งหน้าเข้ามายังเสาแสงนั้นทันที
คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันราวกับว่าต้องการจะฉีกร่างของพวกเย่หยวนออก
แต่ต้าหวงที่สัมผัสได้เช่นนั้นก็ต้องหัวเราะขึ้นพร้อมกระทืบเท้าลงสยบพลังนั้นจนหายไปสิ้น
ฟุบ!
ร่างของคนทั้งสองจางหายลงไป
คนทั้งหลายที่ได้เห็นเช่นนั้นต่างหันมามองหน้ากันอย่างมึนงง
แต่ในเวลานั้นเองที่มันได้มีเงาร่างอีกหลายเงาพุ่งตามเข้าไปในเสาแสง
คนอื่นๆ นั้นก็ไม่อาจจะรอช้าได้จึงต้องพุ่งตัวตามเข้าไปเรื่อยๆ
เพราะเวลานี้พลังของเสาแสงเลือดนั้นมันเบาบางลงไปมากแล้ว
คนทั้งหลายนั้นต่างมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยก ย่อมจะเข้าไปได้ไม่ยากนัก
เย่หยวนนั้นรู้สึกเบลอขึ้นตรงหน้าก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกปลดปล่อยเป็นหนึ่งเดียว
นี่มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย!
มันคือความรู้สึกตอนได้กลับบ้าน!
โชคยังดีที่มหาพิภพถงเทียนนั้นยังตั้งเป็นมหาพิภพถงเทียนได้ นอกจากท้องฟ้าที่อาบไปด้วยสีแดงเลือดแล้วทุกอย่างก็ยังอยู่ดี
และต้นกำเนิดของแสงนั้นมันก็สาดส่องขึ้นมาจากใต้เท้าของเขา เหมือนแทบจะกลืนมหาพิภพถงเทียนลงไปก็ไม่ปาน
จุดที่เย่หยวนยืนอยู่นั้นมันย่อมจะเป็นตำแหน่งที่เขาแห่งถงเทียนเคยตั้งอยู่นั่นเอง
เหนือหัวเขาขึ้นไปนั้นมันคือเส้นทางขึ้นไปสู่สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด
แต่เย่หยวนนั้นก็ไม่นึกฝันเช่นกันว่าเบื้องล่างของเขาแห่งถงเทียนนั้นมันจะมีเส้นทางด้วย!
“น่าสนใจ! ข้าไม่นึกเลยว่ามันจะมีโลกอยู่ในที่แบบนี้เชื่อมต่อสองยอดดินแดน! ทางนั้นดูเหมือนจะเป็นแผ่นดินที่คนอยู่อาศัยกัน! เย่หยวน นี่คือบ้านเกิดเจ้าหรือ?” หมี่เทียนถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
เย่หยวนพยักหน้ารับด้วยใบหน้าเหยเก
เพราะวินาทีที่เขามาถึงนั้นเขาได้ส่งจิตออกไปทั่วทั้งมหาพิภพถงเทียนแล้วแต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของพวกลี่เอ๋อทั้งหลาย
ด้วยกำลังฝีมือตอนนี้ของเย่หยวนแล้วหากเขาคิดหามันย่อมจะหาได้ทั่วทั้งมหาพิภพถงเทียนในพริบตา
แต่เขานั้นลองส่องหาไปหลายครั้งมันก็ยังไม่เจอแม้แต่ร่องรอย
คนที่ใกล้ชิดกับเย่หยวนนั้นไม่ว่าจะเป็นเยวี่ยเมิ่งลี่ อิ้งหมัวหู่ ลู่เอ๋อหรือใครก็ตามนั้นต่างไม่เหลือให้สัมผัสถึงแม้แต่เงา!
เวลานี้มหาพิภพถงเทียนมันย่อมจะไม่อาจปิดบังซ่อนใดๆ กับเขาได้แล้ว
เขานั้นไม่เชื่อว่ามันจะมีที่ใดที่หลบซ่อนจากจิตของเขาไปได้
เช่นนั้นแล้วพวกลี่เอ๋อทั้งหลายหายไปไหน?
ฟุบ!
ฟุบ!
ฟุบ!
ไม่นานมันก็มีเงาร่างหลายเงาพุ่งเข้ามาถึงมหาพิภพถงเทียน
“อ่า ที่แท้มันเป็นโลกใบน้อย! เจ้ามดปลวกพวกนี้มันอ่อนแอนัก! มันกลับไม่มีใครมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลย! เจ้ามดปลวกพวกนี้มันไม่มีค่าให้อยู่ ทำไม…เราไม่ช่วยกันเก็บกวาดเสียหน่อยเล่า!”
ฉัวะ!
เสียงของเขานั้นยังไม่ทันจางหายมันก็มีดาบหนึ่งพุ่งผ่านมา
ร่างของผู้พูดนั้นแตกสลายหายไปสิ้น
สีหน้าของคนทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไป
เพราะคนที่ปล่อยดาบนี้ออกมามันย่อมมิใช่ใครอื่นนอกจากเย่หยวนนั้น!
ในมือของเขาตอนนี้มันคือดาบมังกรวสันต์!
คนผู้พูดออกมานั้นเป็นผู้อาวุโสของหนึ่งในเจ็ดยอดนิกายสวรรค์อย่างนิกายสวรรค์เมฆาพราวมีพลังถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นปลาย!
แต่ดาบเดียวของเย่หยวนนี้กลับปลิดชีวิตเขาลง
ในความคิดของคนทั้งหลายนั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นแค่เด็กน้อยที่หลบหลังต้าหวง เย่หยวนไม่ได้มีพลังฝีมือใดๆ เป็นของตัวเอง
แต่วินาทีที่เขาลงมือนั้นมันกลับทำให้คนทั้งหลายลืมหายใจ
เจ้าเด็กคนนี้ไม่ได้อ่อนแอ!
“เด็กน้อย เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ผู้อาวุโสนิกายสวรรค์เมฆาพราวข้าแค่กล่าวคำพูดออกยังไม่ทันได้ทำอะไรได้ซ้ำแต่เจ้ากลับสังหารเขาแล้ว?”
คนที่กล่าวขึ้นมานี้ย่อมจะเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของนิกายสวรรค์เมฆาพราวนามถังอี้เหอผู้มีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าว
เย่หยวนนั้นหันหน้ากลับมาตอบ “ข้านั้นคือมดปลวกที่มันพูดถึงนี้! มันคิดสังหารมดปลวกเช่นข้า มีหรือที่มดตัวนี้จะปาดคอมันออกไม่ได้?”
เวลานี้เมื่อหาพวกลี่เอ๋อไม่เจอเย่หยวนย่อมจะจิตใจอยู่ไม่เป็นสุข
แต่เวลาที่เขากำลังกังวลเช่นนี้มันกลับมีคนมาพูดจาไร้สาระเรื่องมดปลวกใดๆ บนมหาพิภพถงเทียนนี้ มีหรือที่เย่หยวนจะทนฟังได้?
ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์นั้นย่อมจะถือตัวเหนือกว่าคนในภพเบื้องล่างแน่นอน
ก่อนนั้นจุนเถียนที่มีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยเองก็ยังคิดเช่นนั้น
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนั้นจะถือตัวเหนือหัวพวกเขาแค่ไหน!
เย่หยวนหันไปมองหน้าคนทั้งหลายก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างหนักแน่น “ที่แห่งนี้มันคือบ้านเกิดข้า! ใครคิดลงมือก็เตรียมตัวตายได้!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายต่างก็ต้องอ้าปากค้าง
เพราะไม่มีใครคิดฝันว่าเย่หยวนกลับจะบรรลุขึ้นมาจากที่แห่งนี้!
เพราะว่าพวกเขานั้นสัมผัสได้ว่าโลกนี้มันไม่มีเต๋าสวรรค์อยู่!
หรือจะบอกว่าเต๋าสวรรค์นั้นมันถูกใครบางคนดัดแปลงไป
คนบนโลกนี้ย่อมไม่มีทางบรรลุสวรรค์ได้!
แต่เย่หยวนกลับถือกำเนิดขึ้นมาจากที่แห่งนี้!
มีหรือที่พวกเขาจะไม่ตกตะลึง?
“หึๆ แค่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นต้นคนหนึ่งมันกลับกล้าวางตัวโอหังนัก! เจ้าคิดจริงๆ หรือว่ามันไม่มีใครเอาชนะเจ้าได้เลย?”
ในเวลานั้นเองที่ชายหนุ่มดูท่าอายุราวสิบเจ็ดหรือสิบแปดก็ได้เดินก้าวออกมาจากกลุ่มคน
แต่ละก้าวที่ชายหนุ่มคนนี้เดินนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยคลื่นพลังที่ค่อยๆ พุ่งทะยาน
จนสุดท้ายพลังของเขานั้นมันกลับพุ่งขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน!
เมื่อถังเฉียนและเว่ยหยูได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ “นักบุญสูงต้าวหยุน ท่านก็มาด้วย!”
…..