เหยียนยูเจินนั้นมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งและเฉียบคมมาก เขานั้นจ้องมองดูทุกการซึมซับพลังหักโมฆะเซียนผงาดของเย่หยวนอย่างไม่วางตา และมันก็ไม่มีอะไรผิดปกติแม้แต่น้อย!
“พอ!”
เหยียนยูเจินร้องขึ้นมาก่อนจะดึงเอาหักโมฆะเซียนผงาดกลับคืนไป สิ่งนี้มันล้ำค่าเกินไป ใช้เพื่อทดสอบยังพอว่าแต่หากทดสอบมากไปมันมีแต่จะเสียของ สิ่งนี้มันเป็นกุญแจที่สำคัญต่อการบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงของเขา! หากเย่หยวนใช้มันไปหมดแล้วเขาจะยังเอาอะไรมาบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงอีก?
เย่หยวนมองหน้าเหยียนยูเจินก่อนจะขมวดคิ้วแน่น “ทีนี้เจ้าจะปล่อยพวกลี่เอ๋อไปได้หรือยัง?”
แต่เหยียนยูเจินนั้นยิ้มตอบกลับไปอย่างเย็นเยือก
“เย่หยวน เจ้ามันอันตรายเกินไป! ข้านั้นไม่อยากจะมีศัตรูเช่นเจ้า สุดท้ายมันจะได้กลายเป็นแค่หินให้เจ้าเหยียบข้ามไป! หากข้าปล่อยพวกมันไปแล้วข้าจะยังเอาอะไรมาควบคุมเจ้าได้? แน่นอนว่าหากเจ้ามีปัญญาเจ้าจะเดินทางไปยังโลกใบน้อยเบื้องล่างอันนับไม่ถ้วนนั้นเพื่อหามิตรสหายและคนรักของเจ้าก็คงไม่มีปัญหา”
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าต้องการอะไรกันแน่?”
เขานั้นรู้ว่าเหยียนยูเจินนั้นคงมีแผนอะไรอยู่และไม่มีทางปล่อยให้เรื่องจบลงแค่นี้ หวังให้เขาปล่อยคนนั้นมันย่อมจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้
แต่ว่าเย่หยวนนั้นก็ไม่ได้รีบร้อนใดๆ ตราบเท่าที่เหยียนยูเจินนั้นใช้หักโมฆะเซียนผงาดบ่มเพาะไป สักวันเขาต้องสิ้นท่าแน่
เย่หยวนนั้นไม่ได้แสดงท่าทางโกรธเคืองไม่ออกใจออกมามากมายเพราะเหยียนยูเจินรู้ดีว่าเวลาที่เขาโกรธจริงๆ มันจะไม่มีอาการแสดงออกภายนอกมากมาย
การแสดงท่าทีว่าคับแค้นสุดใจออกมาตอนนี้มันมีแต่จะทำให้อีกฝ่ายคิดสงสัยขึ้นมาแทน
แท้จริงตั้งแต่ที่เย่หยวนกลับมาถึงมหาพิภพถงเทียนนั้นคนทั้งสองต่างก็ต่อสู้กันด้วยปัญญาอย่างดุเดือดมาตลอด
เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าทุกการกระทำของเขานั้นมันอยู่ใต้สายตาของอีกฝ่าย
หากเขาเผยท่าทางพิรุธออกมา อีกฝ่ายคงเริ่มสงสัยทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่หยวนได้เห็นร่างจริงของเหยียนยูเจิน เรียกได้ว่าเขานั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับชายคนนี้เลย
แต่ชายคนนี้เก่งกาจพอที่จะเล่นกับชีวิตของเขาและยังหนีออกมาจากวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตอันแสนอันตรายนั้นได้ มันย่อมจะมิใช่เรื่องที่คนทั่วๆ ไปจะทำได้แล้ว
หากคิดสู้กับมันต่อไปเย่หยวนเองก็ย่อมจะต้องตั้งจิตให้มั่นเกินร้อย!
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงได้ระวังทุกการกระทำและคำพูด
เหยียนยูเจินนั้นดูพอใจกับท่าทางของเย่หยวนอย่างมากก่อนจะยิ้มกล่าวขึ้น “ไม่มีอะไรมาก ข้านั้นแค่คิดจะสังหารเจ้าลงเสียหลังบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยง! หลังสังหารเจ้าได้แล้วข้าจะส่งคนรักทั้งหลายของเจ้าตามเจ้าไป! ให้พูดตรงๆ ข้าเองก็ไม่มั่นใจว่าตัวข้าในตอนนี้จะเอาชนะเจ้าได้หรอก แต่หากปล่อยให้เจ้าได้เติบโตต่อไปอย่างไม่ระวังแล้วมันคงทำให้ข้ากินไม่ได้นอนไม่หลับ”
การประเมินนี้มันเรียกได้ว่าสูงล้ำ
เขานั้นมีพลังถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นสุด แม้เขาจะเป็นแค่กายวิญญาณดั่งเดิมแต่เขากลับไม่มั่นใจว่าจะสังหารนักยุทธพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้
แน่นอนว่าที่เขาคิดเช่นนี้ขึ้นมาได้มันเพราะว่าเขานั้นรู้จักเย่หยวนดี
หากเขาลงมือไปตอนนี้ มันไม่แน่ว่าเย่หยวนจะตายลงและอาจจะหาทางหนีพ้นมือเขาไป
ที่สำคัญไปกว่านั้นข้างกายเย่หยวนยังมีต้าหวงอยู่ด้วย เหยียนยูเจินนั้นมีร่างเป็นวิญญาณดั่งเดิม พลังการต่อสู้ของเขาย่อมจะลดลงกว่าตอนมีร่างเนื้อมาก
เขานั้นมิใช่คนเผ่าวิญญาณ ไม่มีวิชาวรยุทธลับที่เน้นไปที่วิญญาณดั่งเดิมใดๆ
เย่หยวนหรี่ตาลงมองก่อนจะกล่าวขึ้น “หรือก็คือเจ้าจะไม่ยอมรามือจนกว่าเราจะตายกันไปข้าง?”
เหยียนยูเจินยิ้มตอบกลับไป “เย่หยวน ทำไมเรา…ไม่มาเล่นเกมกันหน่อยเล่า?”
“เล่นอะไร?” เย่หยวนนั้นไม่มีทางเลือกจึงได้แต่ต้องถามออกไป
“เวลานี้ข้าจะกลับขึ้นสามสิบสามสวรรค์ไปและเข้าสู่การเก็บตัวเพื่อบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยง! ข้านั้นทิ้งตราประทับวิญญาณดั่งเดิมไว้บนร่างของคนรักทั้งหลายของเจ้าและสามารถสังหารมันได้ทุกเวลา ส่วนเจ้านั้นจงเดินทางข้ามโลกต่างๆ ไปเพื่อหาเหล่าคนรักและสหายของเจ้าและหาวิธีบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนเสีย!”
“หากเจ้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้ก่อนที่ข้าจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยง ข้าจะหนีไปให้สุดหล้าแม้จะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงแล้วก็ตาม! แต่หากข้านั้นบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้ก่อนแล้ว…ก็คงต้องขออภัย! ข้าจะสังหารพวกมันทั้งหมดลงไปพร้อมๆ กับเจ้าเสีย! ว่าอย่างไร? มันน่าเล่นดีมิใช่หรือ?”
เหยียนยูเจินมองหน้าเย่หยวนด้วยความมั่นใจว่าเขาต้องตอบตกลง
ใช่ เขารู้จักเย่หยวนดี!
เพราะว่าเขานั้นรู้จักเย่หยวนเขาจึงได้คิดเกมที่แสดงถึงความหวาดหวั่นต่อเย่หยวนเช่นนี้ออกมา
มีแต่ต้องบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงไปเท่านั้นเขาถึงมั่นใจได้ว่าจะสังหารเย่หยวนลงได้!
และในเกมนี้หากเย่หยวนบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขึ้นมาได้ก่อน เขาก็จะหนีเช่นกัน
ต่อให้ตอนนั้นเขาจะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้แล้วก็ตาม!
เพราะเขานั้นขอไปเจอทะเลที่ไม่แน่นอนดีกว่าเจอเย่หยวน
เขานั้นใช้งานเย่หยวนแต่ก็เกรงกลัวเย่หยวนมาก
เพราะว่าเขานั้นรู้จักเย่หยวนดี เขาจึงได้กลัวเย่หยวนล้ำ!
เย่หยวนในเวลานี้มิใช่แค่มดปลวกที่เขาจะสังหารลงได้ทุกเมื่อแล้ว
เจ้าหมอนี่มันแค่มีพลังบ่มเพาะต่ำกว่าเขาหนึ่งชั้นบรรยากาศสวรรค์
จริงๆ แล้วตัวเขานั้นก็เข้าใจดีว่าการใช้เย่หยวนเข้าไปเอาหักโมฆะเซียนผงาดกลับมานั้นมันเหมือนการเล่นกับไฟ
พลาดไปนิดตัวเขานั้นเองที่จะติดไฟไป
แต่ความเย้ายวนของชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงนั้นมันยิ่งใหญ่เกินไป!
หากไม่ได้หักโมฆะเซียนผงาดมา ไม่ได้บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงไปเขาก็คงไม่ต่างอะไรจากผีตัวหนึ่ง
เขานั้นมีเพียงแค่ร่างวิญญาณ ไม่ได้ต่างอะไรจากหมาจรจัด!
เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องเดิมพัน
แต่การลักตัวคนสนิทของเย่หยวนไปเช่นนี้มันก็เท่ากับว่าประกาศเป็นศัตรูกับเย่หยวนอย่างไร้ทางแก้
เขานั้นสังหารคนทั้งหลายลงได้แต่หากเขาสังหารลงไปจริงๆ แล้วเย่หยวนคงกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาบนโลกหล้า
เพราะต่อให้เขาจะเป็นจักรพรรดิเที่ยงแต่เขาก็ยังไม่กล้าจะปะทะกับเย่หยวนที่เป็นจักรพรรดิเซียน
เรื่องนี้เขาจึงต้องเดิมพันด้วย!
หากเย่หยวนบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้ก่อนเขาจริงแล้วเขาย่อมจะไม่คิดสุมไฟแค้นให้มากขึ้นด้วยการสังหารคนสนิทของเย่หยวนใดๆ เขาเพียงแค่จะใช้เวลาที่เย่หยวนตามหาคนทั้งหลายนั้นหนีไปให้สุดฟ้า ไปให้ไกลจากทวีปพิรุณใส
หากเขาบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้จริงๆ เขาคงหนีรอดได้
แน่นอนว่าหากเขานั้นเป็นผู้บรรลุขึ้นมาได้ก่อนเขาย่อมจะมั่นใจว่าพลังของตนจะสังหารเย่หยวนลงได้จริงๆ
ถึงเวลานั้นเขาก็คงไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว
ต่างฝ่ายนั้นต่างเป็นคนฉลาด เย่หยวนนั้นเข้าใจถึงความต้องการของอีกฝ่ายทันทีที่ได้ยินก่อนจะตอบกลับไป “ได้ ข้าจะเล่นกับเจ้า!”
เหยียนยูเจินยิ้ม
แน่นอนว่าเย่หยวนไม่คิดปฏิเสธจริงๆ
ทุกสิ่งอย่างมันเป็นไปตามแผน!
เย่หยวนนั้นเอากำไลมิติยื่นให้ต้าหวงก่อนจะกล่าว “ต้าหวง เจ้าเอาของพวกนี้กลับไปยังเขาหมื่นอสูรก่อน! แบ่งเหล่าโอสถสวรรค์ให้แก่เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวทั้งหลายของเขาหมื่นอสูรและแดนสวรรค์ใต้!”
ต้าหวงนั้นลังเลไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำสั่ง
“อาจารย์เย่ระวังตัวด้วย!” แต่ในที่สุดต้าหวงนั้นก็รับคำและพุ่งตัวออกจากมหาพิภพถงเทียนไป
เย่หยวนหันมามองหน้าเหยียนยูเจินก่อนจะกล่าว “หากเจ้าคิดอยากเล่นเกมเช่นนี้กับข้า เจ้าต้องรีบบรรลุขึ้นไปให้ได้แล้ว!”
เหยียนยูเจินนั้นยังไม่ทันได้กล่าวใดๆ กลับไปแต่เย่หยวนกลับแปลงกายเป็นมังกรก้าวพุ่งหายเข้าไปในห้วงมิติทันที
ได้เห็นเช่นนั้นเหยียนยูเจินเองก็ต้องผงะไป
เขานั้นสัมผัสดูถึงคลื่นพลังที่หลงเหลือจนต้องร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “ไม่ผิดแน่ นี่มันคลื่นพลังของภูติแท้โกลาหล! ไอ้เด็กคนนี้มันกลับก้าวขึ้นเป็นภูติแท้โกลาหลได้ด้วยร่างกายของมนุษย์จากภพล่าง! ข้าก็นึกไปว่ามันจะเลือกหาทางบรรลุก่อน ไม่นึกเลยว่า…มันกลับจะเลือกหาตัวคนก่อน! ไอ้เด็กคนนี้มันพูดไม่ผิดแล้ว ข้าต้องรีบบรรลุขึ้นให้ได้ก่อนมัน!”
แต่วินาทีต่อมาเขาก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้น “ข้าจะกลัวอะไรกัน? ต่อให้มันจะเดินทางข้ามห้วงมิติได้แต่มันก็คงไม่มีเวลาไปบ่มเพาะระหว่างทางแล้ว! ต่อให้มันจะหาคนรักเจอได้สุดท้ายหลังข้าบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงข้าย่อมจะชนะมันได้สิ้นเชิง!”
เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้วเหยียนยูเจินก็พุ่งตัวหายขึ้นไปจากมหาพิภพถงเทียนทันที!
……………