ผ่านไปกว่าร้อยปีนี้นิกายสวรรค์ยุทธมั่นมันย่อมจะไม่เหลือร่องรอยเก่าไปแล้ว
ก่อนนั้นเหล่ายอดคนระดับสูงของนิกายสวรรค์ยุทธมั่นได้ตายลงสิ้นในการโจมตีและเหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างก็หนีกันไปคนละทิศละทางไม่เหลือแม้แต่เงาของนิกายเดิม
ตอนนี้มันมีตึกสูงมากมายขึ้นมาแทนที่
ที่แห่งนี้มันกลับดูยิ่งใหญ่อลังการกว่าตอนที่เป็นนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเสียด้วยซ้ำ!
เพราะว่าเวลานี้ที่แห่งนี้มันคือที่ตั้งของพันธมิตรโอสถสาขายุทธมั่นที่มีตึกสูงใหญ่มากมาย มียอดฝีมือนับไม่ถ้วน
เวลากว่าร้อยปีที่ผ่านมานี้พันธมิตรโอสถเองก็ไม่ได้อยู่เฉยพวกเขานั้นยึดครองทรัพยากรของทวีปพิรุณใสไว้และสร้างยอดฝีมือไว้มากมายอย่างเกินจะนับ
หลายปีมานี้พวกเขานั้นให้กำเนิดจักรพรรดิเซียนรุ่นใหม่และยังมีเหล่าจักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวและจักรพรรดิหยกอีกมากมาย
ในสาขายุทธมั่นนี้มันมียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวมากกว่าสิบคน!
ตัวตนของจักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวนั้นมันแตกต่างจากจักรพรรดิหยกขั้นสุดอย่างสิ้นเชิง
เพราะเหล่าจักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวทั้งหลายนั้นคือกำลังสำรองที่พร้อมจะขึ้นมาเป็นจักรพรรดิเซียนทุกเวลา
หลังจากศึกครั้งนั้นพันธมิตรโอสถก็ได้แบ่งดินแดนเล็กใหญ่ออกเป็นสิบห้าแห่งในห้ายอดแดนสวรรค์สร้างรากฐานของตนขึ้นมาบนห้ายอดแดนสวรรค์นี้
แต่ละดินแดนนั้นจะมีพันธมิตรสาขาตั้งดูแลอยู่ และผู้นำพันธมิตรสาขาต่างๆ นั้นต่างล้วนมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนสิ้น!
ที่สำคัญไปกว่านั้นในแต่ละสาขามันยังมีการวางค่ายกลเคลื่อนย้ายยามฉุกเฉินไว้ด้วยและในแต่ละสาขาก็จะทำการตั้งค่ายกลเชื่อมต่อนิกายสวรรค์ใหญ่ๆ และมหานครต่างๆ ทำเช่นนี้มันก็ยิ่งทำให้การปกครองห้ายอดแดนสวรรค์ของพันธมิตรโอสถนั้นง่ายดายมากขึ้น
เหล่านิกายสวรรค์ใหญ่ๆ ทั้งหลายต่างไม่อาจขยับตัวได้สะดวกนัก หากมีใครคิดวางแผนต่อต้านแล้วพวกเขาก็จะถูกกองกำลังของพันธมิตรโอสถเข้าโจมตีในทันที
ในเวลานี้เย่หยวนได้มายืนอยู่หน้าทางขึ้นเขาของสาขายุทธมั่นด้วยสายตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความคิดถึง
“ใครมันกล้ามายืนอยู่ตรงนี้? เจ้าไม่รู้หรือว่าที่นี่คือที่ไหน? รีบๆ ไสหัวไปได้แล้ว ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้เจอดี!” จักรพรรดิหยกสองคนพุ่งตัวออกมาไล่เย่หยวนไปทันที
เย่หยวนนั้นไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจใดๆ ออกมาและยิ้มถามขึ้น “ข้าไม่รู้จริงๆ ที่นี่มันคือที่ไหนหรือ?”
หนึ่งในคนที่ออกมาไล่นั้นจึงตวาดกลับไป “ไอ้เจ้าโง่นี่ ที่นี่มันคือพันธมิตรโอสถสาขายุทธมั่น!”
เย่หยวนพยักหน้ายิ้มตอบกลับไป “งั้นก็มาถูกแล้ว! พันธมิตรโอสถมันควรจะได้รับความเจ็บปวดที่ทำลายเจ้าของเก่าเขาไปบ้างใช่หรือไม่?”
คำพูดนี้ทำให้สองจักรพรรดิหยกนั้นหน้าเปลี่ยนสีทันที ดูอย่างไรอีกฝ่ายก็คงมาเพื่อหาเรื่องแล้วจึงได้คิดลงมือโจมตีไป
แต่มีหรือที่จะทำอะไรเย่หยวนได้?
เขานั้นต่อยหมัดกลับออกมาทำลายร่างของคนทั้งสองนั้นลงทันที
ตอนนี้มันผ่านมากว่าสามปีแล้วตั้งแต่เย่หยวนพาคนพันธมิตรเลือดกลับไปยังเขาหมื่นอสูร
สามปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนได้ใช้โอสถสวรรค์ระดับแท้มากมายฝืนตัวบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุด
เวลานี้เขาจึงใกล้จะบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์เต็มที
วิญญาณดั่งเดิมของเขานั้นมันเป็นจักรพรรดิเซียนอยู่แล้ว ส่วนร่างกายนั้นเองก็มาถึงจุดสูงสุดของชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยก การบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นมันย่อมจะต้องเกิดขึ้นเองไม่เร็วก็ช้า
แต่หากฝืนบรรลุขึ้นต่อไปมันมีแต่จะทำให้รากฐานการบ่มเพาะของเขาไม่เสถียร
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงได้คิดจะหาวิธีย้ำรากฐานการบ่มเพาะของเขาก่อนที่จะก้าวขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนไป
และการต่อสู้มันย่อมจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนอย่างเย่หยวน
การท้าทายสาขาของพันธมิตรโอสถนั้นมันย่อมจะเปิดโอกาสให้เขาได้ปรับรากฐานการบ่มเพาะให้หนักแน่นและยังช่วยให้เขาเข้าใจสภาพปัจจุบันของพันธมิตรโอสถได้ด้วย
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้มายังสาขายุทธมั่นด้วยตัวคนเดียว
หน้าประตูขึ้นเขานั้นมันมีศิษย์ที่เฝ้าอยู่ พอพวกเขาได้เห็นจึงรีบส่งข่าวขึ้นด้วยความตระหนกทันที
ศิษย์คนนั้นร้องลั่นขึ้น “รีบๆ เปิดค่ายกลป้องกันเขาเร็ว! รีบๆ เปิดค่ายกลป้องกันเขาเร็ว!”
ค่ายกลป้องกันเขานั้นมันก็ถูกเปิดขึ้นมาในพริบตาเดียวกันนั้น
พวกเขานั้นเห็นว่าเย่หยวนมีพลังบ่มเพาะสูงจึงได้ส่งข้อความไปเรียกยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกลงมาจัดการ
ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายนั้นกลับเก่งล้ำ ต่อยทำลายร่างของคนทั้งสองในพริบตา!
ในเวลานี้เมื่อค่ายกลป้องกันเขาเปิดใช้งานออกมาแล้วมันก็ได้ส่งคลื่นพลังที่สามารถสังหารแม้แต่จักรพรรดิเซียนออกมาทำให้คนทั้งหลายเริ่มใจเย็นลงได้
เพราะจะอย่างไรเสียอีกฝ่ายนั้นก็มีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นสุด
ค่ายกลป้องกันเขานี้มันถูกวางไว้โดยจอมเทพสวรรค์ค่ายกลระดับห้าของพันธมิตรโอสถหลัก มีพลังไร้จำกัด
ต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเซียนเองก็คงไม่อาจทำอะไรมันได้
เย่หยวนยิ้มขึ้นเมื่อได้เห็นก่อนจะยกเอาเขาแดนอนันต์ขึ้นมาทันที
เขาร่ายคาถาก่อนจะร้องขึ้น “ไป!”
เขาแดนอนันต์นั้นพุ่งเข้าใส่ค่ายกลปกป้องเขานั้นทันทีอย่างหนักหน่วง
เหล่าคนของพันธมิตรโอสถสาขายุทธมั่นนั้นต่างได้เห็นเขาใหญ่นี้ปรากฏขึ้นมาตรงหน้า
พวกเขาแต่ละคนนั้นต่างหน้าซีดขาวลงทันที!
“มันคงป้องกันได้ใช่ไหม? มันต้องกันได้แหละ!”
“อีกฝ่ายนั้นเป็นแค่จักรพรรดิหยกขั้นสุด มีหรือที่จะทำลายค่ายกลป้องกันนี้ลงได้?”
“แต่คลื่นพลังของมันนี้น่ากลัวจริงๆ!”
…
ตึง!
เขาแดนอนันต์นั้นปะทะเข้ากับค่ายกลป้องกันเขาจนทำให้เกิดรอยร้าวขึ้นมาต่อหน้าคนทั้งหลาย
เวลานี้บนค่ายกลนั้นมันมีรอยร้าวมากมายจนเกินกว่าจะนับได้ปรากฏขึ้นมาชัดเจน
เมื่อเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายได้เห็นเช่นนี้พวกเขาแต่ละคนก็หน้าซีดขาวลงไป
“น่าสนใจนี่! ที่มาของพันธมิตรโอสถนั้นมันลึกลับ แน่นอนล่ะว่าคงไม่พ่ายง่ายๆ! ค่ายกลป้องกันนี้มันก็ไม่ธรรมดา!”
พูดไปเย่หยวนก็ได้ปล่อยปราณเทวะชุดที่สองออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เขาแดนอนันต์นั้นมันพุ่งตกลงมาอีกครั้งอย่างหนักหน่วง!
ตึง!
รอยร้าวบนค่ายกลป้องกันนั้นมันแจ่มชัดขึ้นมาแก่สายตาคน
ค่ายกลนั้นมันแทบจะพังทลายลงในการโจมตีนี้
“นี่มัน…สมบัติยอดหมอกระดับสอง! เป็นไปได้อย่างไร?”
เมื่อจ้าวติงได้เห็นเขาใหญ่ที่กำลังทุบค่ายกลป้องกันอยู่นั้นหน้าของเขาก็ซีดขาวลงทันที!
คนที่รับตำแหน่งผู้นำพันธมิตรสาขายุทธมั่นนั้นมันก็คือคนร้ายที่ทำลายนิกายสวรรค์ยุทธมั่นและสังหารเฮ่อซีเยียนกับเฟิงซวนยี่ลง จ้าวติงคนนี้!
เหล่าคนของสาขานั้นต่างหน้าซีดขาวเตรียมตัวหนีกันทันที
เพราะว่าพลังของเขาแดนอนันต์นั้นมันรุนแรงล้ำจนเกินไป!
“ทลายลงไปเสีย!”
เย่หยวนร้องลั่นขึ้นมาพร้อมยกเขาแดนอนันต์ขึ้นกระแทกเป็นครั้งที่สาม!
ตูม!
ค่ายกลป้องกันเขานั้นแตกสลายลงทันทีที่ถูกปะทะเข้าเป็นครั้งที่สามก่อนที่เขาแดนอนันต์นั้นมันจะตกลงใส่หน้าประตูขึ้นเขา
พริบตาเดียวนี้มันย่อมจะเกิดเสียงร้องโหยหวนขึ้นตาม
ศิษย์ทั้งหลายของพันธมิตรโอสถที่เฝ้าหน้าประตูขึ้นเขานั้นถูกบดขยี้ตายลงสิ้น!
แท้จริงแล้วหากเย่หยวนคิดจะผ่านไปค่ายกลป้องกันนี้มันก็ย่อมจะหยุดเขาไม่ได้
แต่เย่หยวนนั้นมีเป้าหมายคือคิดจะทำให้พันธมิตรโอสถได้รับรู้รสชาติของความสิ้นหวังบ้าง!
เหมือนอย่างที่นิกายสวรรค์ยุทธมั่นเคยได้รับมันเมื่อครั้งนั้น!
ต่อให้เขาจะต้องเสียปราณเทวะไปมากแค่ไหนเขาก็ไม่คิดลังเล!
สมบัติยอดหมอกระดับสองนั้นมันย่อมจะต้องใช้พลังงานอย่างมาก
ด้วยกำลังของเย่หยวนในตอนนี้เขาคงใช้งานมันได้มากสุดแค่ห้าครั้งเท่านั้น
หากครบห้าครั้งแล้ว เขาก็คงไม่อาจจะควบคุมมันได้อีก
แต่ว่าทั้งห้าครั้งนั้นหากถูกโจมตีใส่แม้อีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิเซียนขั้นกลางมันก็คงไม่อาจจะรอดชีวิตไปได้แน่นอน!
“ไอ้เจ้าบ้านี่มันมาจากที่ไหนกัน ถึงกล้ามาอาละวาดในถิ่นพันธมิตรโอสถข้า!” จ้าวติงนั้นร้องลั่นขึ้นมาทันที
เมื่อเย่หยวนได้เห็นผู้มาถึงคนนี้เขาก็อดเลิกคิ้วขึ้นสูงไม่ได้
เขานั้นไม่รู้จักหน้าจ้าวติงแต่ว่าเขานั้นจำพลังเช่นนี้ได้!
“ฮะ เป็นเจ้า! ข้าจะได้ไม่ต้องลำบากบุกไปถึงพันธมิตรโอสถหลักแล้ว! ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะมาอยู่ในดินแดนของนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเช่นนี้!” เย่หยวนมองหน้าจ้าวติงด้วยรอยยิ้มที่แสนเย็นเยือก
จ้าวติงนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “เจ้ารู้จักข้า?”
ตัวเขานั้นแค่ต่อยเย่หยวนที่กำลังเข้าห้วงมิติจึงไม่อาจสัมผัสถึงคลื่นพลังของเย่หยวนได้
เพราะจะอย่างไรเสียเย่หยวนในตอนนั้นก็เป็นแค่มดปลวกในสายตาของเขา ย่อมจะไม่สนใจจดจำอะไรมากมาย
ต่อให้จะเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหนเขาก็ไม่คิดสนใจ
เพราะเย่หยวนในตอนนั้นเป็นแค่อัจฉริยะที่ยังไม่เติบโตคนหนึ่ง!
เย่หยวนยิ้มตอบไป “ร้อยกว่าปีก่อนนั้นเจ้าได้ต่อยข้าไว้ จำไม่ได้แล้วหรืออย่างไร?”
“เจ้าคือเย่หยวน!”
ความตกตะลึงของจ้าวติงนั้นมันยิ่งใหญ่มาก!
เขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าเย่หยวนคนนั้นกลับมีสมบัติยอดหมอกระดับสองอยู่ในมือด้วย!
พลังของมันนั้นมากพอที่จะสังหารเขาลงได้!
แน่นอนว่าพลังที่สังหารมันก็แค่พลังที่สังหาร จะสังหารได้ไหมนั้นมันอีกเรื่อง
จักรพรรดิเซียนนั้นย่อมจะไม่ยอมยืนรับการโจมตีของเย่หยวนอยู่เฉยๆ แน่นอน
แต่เขานั้นก็รู้ด้วยว่าวิญญาณดั่งเดิมของเย่หยวนนั้นมันอยู่ในระดับจักรพรรดิเซียนไปแล้ว สามารถสังหารจักรพรรดิเซียนด้วยกันได้ในพริบตา!
ไม่เจอกันแค่ร้อยกว่าปี เจ้าสัตว์ร้ายนี่กลับกลายเป็นจอมมารขึ้นมาแทน
น่ากลัวยิ่ง!
“หึๆ ดูท่าข้าจะยังสร้างชื่อไว้ได้บ้าง ทำให้จักรพรรดิเซียนต้องจดจำได้เช่นนี้! ก่อนนั้นเจ้าทำลายนิกายสวรรค์ยุทธมั่นของข้าลง เช่นนั้นวันนี้ข้าก็จะทำลายสาขายุทธมั่นของเจ้าด้วยมือข้าบ้าง! ตาต่อตา ฟันต่อฟัน คงไม่ว่าอะไรหรอกใช่ไหม?”
เย่หยวนยิ้มก่อนจะพุ่งร่างหายไปทันที
จ้าวติงนั้นได้แต่ต้องหันตามไปด้วยหน้าซีดขาว พริบตาเดียวนี้เย่หยวนได้ขึ้นไปบนเขาแล้วเรียบร้อย
การล้างบางได้เริ่มต้นขึ้น!