ตอนที่ 2801 ฝ่าวงล้อม!
“สื่อเฉิง เลือดมนุษย์ที่เจ้าได้มาครั้งก่อนนั้นมันดีไม่น้อย เจ้ายังพอมีเหลือบ้างหรือไม่ แบ่งให้ข้าหน่อยสิ! สื่อเฉิง? หืม? สื่อเฉิง?”
ที่ด้านหลังของหน่วยนั้นจักรพรรดิเซียนผู้หนึ่งกล่าวถามขึ้นกับคนที่เดินตามหลังมา
แต่ไม่ว่าจะเรียกแค่ไหนอีกฝ่ายก็ไม่คิดสนทนาตอบกลับมา
เมื่อหันหน้ากลับไปดูนั้นเขาก็ต้องขนลุกซ่านทั้งกาย
เพราะอีกฝ่ายนั้นหายไปแล้ว!
ด้านหลังของเขานั้นมันมีคนเดินตามมานับสิบคน แต่ทำไมถึงได้หายเงียบไปเช่นนี้?
พวกเขาหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ท่านจาวหมิง! ท่านจาวหมิง! ไม่ดีแล้วท่าน! พวกสื่อเฉิงมันหายกันไปสิ้นแล้ว!” จักรพรรดิเซียนผู้นั้นร้องขึ้นมาอย่างตกตื่น
ท่านจาวหมิงที่ว่านี้คือจักรพรรดิเซียนขั้นสุดผู้เป็นหัวหน้าหน่วยร้อยคนนี้
เมื่อจาวหมิงหันกลับไปดูเขาก็ได้พบว่ามันมีคนหายไปถึงเกือบสิบคนจริงๆ และต้องขนลุกตั้งไปทั้งกาย
สิบคน!
พวกเขากลับหายไปอย่างไม่มีใครทันได้รู้ตัว?
“พวกมันอยู่ที่ไหนกัน?” จาวหมิงร้องขึ้น
จักรพรรดิเซียนคนนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “ข้าเองก็ไม่ทราบได้ท่าน! ก่อนหน้าเรายังคุยกันอยู่ดีๆ แต่พอข้าหันกลับไปมองพวกมันก็หายไปแล้ว!”
จาวหมิงผงะร้องลั่นขึ้นมา “มันต้องเป็นฝีมือของพวกนั้นแน่! พวกมันหลบซ่อนตัวอยู่ในหมอกแล้วลอบเข้าโจมตีเรา! ไม่ได้การ เราจะหาเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นเราจะเป็นฝ่ายตายลงหมดแทน!”
จากนั้นจาวหมิงก็ต่อยตีออกไปรอบๆ กายเข้าใส่หมอกอันว่างเปล่า
ตูม!
ตูม!
ตูม!
ไม่นานนักหัวหน้าหน่วยอื่นๆ ก็สัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนนี้จนรีบพุ่งตัวมาหา
“ศัตรูอยู่ไหน?”
“พวกมันอยู่ไหน? จาวหมิง เจ้าทำอะไรของเจ้า?”
เมื่อหัวหน้าหน่วยทั้งสองพุ่งตัวมาถึงและกลับพบว่ามันไม่มีศัตรูใดๆ อยู่เลยจึงอดร้องถามจาวหมิงขึ้นไม่ได้
จาวหมิงตอบกลับไป “พวกเจ้ารีบตรวจสอบเร็วว่าคนในหน่วยของเจ้ายังอยู่ครบร้อยหรือไม่?”
เมื่อสองหัวหน้าได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็สะดุ้งรีบกลับไปนับจำนวนคนในหน่วยทันทีและต้องหน้าซีดขาวลงพร้อมๆ กัน
เพราะเวลานี้ทั้งสองหน่วยของพวกเขามันมีคนหายไปถึงเก้าคน!
และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือพวกเขานั้นกลับไม่รู้ตัวเลย!
“นี่มัน…เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน?” หัวหน้าหน่วยคนหนึ่งถามขึ้น
จาวหมิงนั้นกล่าวขึ้น “มันต้องเป็นฝีมือของพวกมันแน่! เราหาเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว รีบกลับไปเรียกทุกคนมาเถอะ เราต้องรวมกลุ่ม!”
หัวหน้าหน่วยทั้งสองนั้นพยักหน้ารับทันที
…
ไม่นานกองทัพทั้งหมดก็ได้กลับมารวมตัวกัน
เมื่อลองตรวจสอบดูแล้วมันกลับมีคนหายไปกว่าสามร้อยคน!
คนทั้งหลายนั้นหน้าดำเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“ฟู่ไห่? ฟู่ไห่ไปไหนแล้ว? หาย… หายไปเช่นกันหรือ?” เสียงร้องของเผ่าเลือดคนหนึ่งดังขึ้น
เวลานี้คนทั้งหลายต่างต้องยิ้มแห้งๆ ออกมา
ทั้งๆ ที่มีกำลังกันเป็นกองทัพแต่กลับถูกคนไม่กี่คนนั้นไล่ล่าได้!
ระยำ!
แบบนี้ไม่ได้การ!
“รีบกลับไปเร็ว! เราจะอยู่ในหมอกต่อไปไม่ได้แล้ว!” จาวหมิงร้องกล่าวขึ้น
คนทั้งหลายนั้นต่างพยักหน้ารับ
เพราะฉะนั้นกองทัพห้าพันจึงได้เดินทางกลับออกมาจากม่านหมอกหนา
ได้ยินรายงานของพวกจาวหมิงนั้นฮันกวงเองก็ต้องทำหน้าเครียดขึ้นมา
“ให้ตายสิวะ! ต่อให้จะไปทำศึกเราก็คงไม่สูญเสียมากขนาดนี้แน่! มนุษย์พวกนั้นข้าจะสังหารมันลงให้จงได้!” ฮันกวงร้องลั่น
เพราะหากนับรวมกับหน่วยกองร้อยของเมี่ยเฉินไปด้วยแล้วความเสียดายที่เผ่าเลือดต้องรับนั้นมันก็มากเกือบถึงห้าร้อยคนก่อนที่จะทันได้เข้าสงครามด้วยซ้ำ!
สงครามระหว่างเผ่าเลือดกับทวีปสวรรค์แรกนั้นหากอีกฝ่ายไม่ส่งมหาจักรพรรดิออกมาแล้วพวกเขาก็คงไม่มีทางตายได้ถึงห้าร้อยคนเช่นนี้แน่
เพราะนี่มันคือกองทัพจักรพรรดิเซียน!
ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นกองทัพจักรพรรดิเซียนชาวมนุษย์ผู้เก่งกาจนับห้าพันคนแต่พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะเสียชีวิตกันไปมากมายขนาดนี้
เพราะว่าเผ่าเลือดนั้นมีความถึกทนสามารถคืนชีพได้ ยิ่งเป็นศึกใหญ่แค่ไหนพวกเขาก็ยิ่งมีโอกาสรอดสูงเท่านั้น
แต่ก่อนที่จะทันได้ทำอะไรพวกเขานั้นกลับมาเสียท่าให้จักรพรรดิเซียนแค่ห้าคนในเวลาไม่กี่วันนี้!
ฮันกวงนั้นแทบจะร้องไห้เป็นสายเลือด!
แต่ตอนนี้เขาขึ้นหลังเสือแล้วไม่มีทางจะลงได้ง่ายๆ
เขานั้นบาดเจ็บหนัก มันคงไม่อาจฟื้นตัวได้ในระยะสั้นๆ เพราะฉะนั้นต่อให้เขาจะเข้าไปหามันก็คงไม่ช่วยอะไร
หากเขาสั่งให้ฉื่อเลอเข้าไป มันก็อาจจะทำให้พวกเย่หยวนหนีไปทางทวีปสวรรค์แรกได้
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียฉื่อเลอนั้นก็มีจิตที่อ่อนแอและไม่อาจมองผ่านหมอกได้มากมายเช่นกัน
หากพวกเย่หยวนไม่บังเอิญไปอยู่ข้างๆ ฉื่อเลอแล้วเขาเองก็คงไม่อาจทำอะไรพวกเย่หยวนได้
“ท่านแม่ทัพ เราจะทำอย่างไรดี?”
ฮันกวงนั้นหรี่ตาลงกล่าว “พวกเจ้าทั้งหลายไปดักอีกฝั่งของหมอกไว้! หากพวกมันออกไปพวกเจ้าจงสังหารมันเสีย!”
ลูกน้องคนหนึ่งจึงรีบถามกลับมา “แต่หากเป็นเช่นนั้นเราก็เสี่ยงจะถูกเปิดเผยตำแหน่งกับคนบนทวีปมันนะท่าน!”
ฮันกวงร้องลั่นตอบกลับไป “ใครสนเล่า! ฉื่อเลอคนเดียวอาจจะหยุดพวกมันไม่ได้! หากพวกมันหนีออกไปได้แม้สักคนแล้วมันก็คงเป็นหายนะกับเราแน่! ท่านแม่ทัพหลัวชวนนั้นจะมาถึงในสามวัน หลังจากท่านมาถึงแล้วพวกมันคงได้ตายลงแน่!”
…
ในหมอกนั้นหยางชิงกำลังยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างสะใจ
“เจ้าพวกนี้มันโง่เสียจริง! ภายใต้การไล่ล่าสังหารของนักบุญสูงฟ้าครามคนนี้พวกมันกลับไม่กล้าบุกเข้าหมอกมาอีกแล้ว!” หยางชิงกล่าวขึ้น
แน่นอนว่าย่อมไม่มีใครสนใจเขา
เย่หยวนกล่าวขึ้นมา “พวกมันนั้นเหมือนจะรอใครอยู่! หมายความว่ากองทัพจักรพรรดิเซียนมันคงไม่ได้มีแค่นี้แน่! เราจะอยู่รอต่อไปนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นนอกจากว่าจะไม่ได้ส่งข่าวแล้วเราจะยังตายตกลงไปด้วย!”
เย่หยวนนั้นเดาว่าเผ่าเลือดนั้นคงยังมีจักรพรรดิเที่ยงอยู่อีกหลายคนที่จะตามมาทีหลัง
เพราะไม่ว่าทวีปสวรรค์แรกนั้นจะอ่อนแอแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางอ่อนแอจนปล่อยให้จักรพรรดิเที่ยงแค่สองคนเข้ายึดครองได้
เพราะฉะนั้นพวกเขาต้องรอกำลังเสริมอยู่แน่!
“อีกกี่วันเจ้าถึงจะฟื้นตัวได้สมบูรณ์?” หยางชิงถามขึ้นมา
“สามวัน!”
…
สามวันต่อมานั้นบนชายหาดมันก็มีกองกำลังเผ่าเลือดตั้งทัพอยู่มากถึงสี่พันคน เตรียมพร้อมรับศึกเต็มที่
วินาทีนั้นเองที่ได้ปรากฏเงาร่างหลายเงาพุ่งเข้ามาใส่กองทัพอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
เมื่อเย่หยวนใช้ค่ายกลดาบเอกภพออกมานั้นเขาก็สังหารจักรพรรดิเซียนลงไปถึงสิบกว่าคนในพริบตา
คนอื่นๆ เองก็เข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่งภายใต้การป้องกันของค่ายกลนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยางชิงนั้นที่หอกของเขาสามารถปลิดชีวิตคนได้ในพริบตา!
ได้เห็นสภาพแข็งแกร่งของเย่หยวนนั้นตัวฉื่อเลอก็ต้องขนลุกทั้งกาย “เป็นไปได้อย่างไร?! ไอ้เด็กคนนี้มันใช้เวล่แค่ครึ่งเดือนก็ฟื้นตัวได้?”
แต่ว่าเขานั้นไม่มีเวลามายืนตะลึงอีก รีบพุ่งตัวเข้าใส่เย่หยวนในทันที
พวกเย่หยวนทั้งห้านั้นรวดเร็วอย่างมาก พวกเขานั้นเปิดฝ่าวงล้อมออกไปได้ในพริบตา!
วินาทีที่จักรพรรดิเที่ยงอย่างฉื่อเลอออกตัวมันก็ย่อมจะหมายมุ่งไปที่ตัวเย่หยวน!
เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไปพร้อมชักดาบเต๋าออกมาไว้ในมือ!
ฉื่อเลอที่เห็นเช่นนั้นหน้าซีดขาวลงยั้งตัวเอาไว้แทบไม่ทัน!
เพราะว่าดาบของเย่หยวนนี้มันเตรียมที่จะฟันตัวเขาเข้าแล้ว!
เขานั้นรู้ดีว่าดาบนี้แหละคือสิ่งที่ฟันแม่ทัพฮันกวงจนมีสภาพเป็นเช่นนั้น!
แต่ว่าเย่หยวนนั้นกลับยิ้มกว้างขึ้นก่อนที่ดาบเต๋าในมือจะจางหายไปทำให้คลื่นพลังกดดันใดๆ จางหายไปด้วย
“ข้าหลอกเจ้าเล่นหรอก! ลาก่อน!”
คนทั้งห้าหลุดออกมาจากวงล้อมได้ก็พุ่งตัวเข้าทวีปสวรรค์แรกไปทันที
อีกด้านนั้นมิติมันก็สั่นไหวเผยให้เห็นเงาของกองทัพใหญ่ที่กำลังก้าวเข้าหมอกหนามา
หากมองดูผ่านๆ แล้วกองทัพนี้คงมีทหารมากถึงห้าพันคน!
และพวกเขาทั้งห้าพันนั้นก็เป็นจักรพรรดิเซียนกันทั้งสิ้น!
ส่วนจักรพรรดิเที่ยงที่เดินนำออกมานั้นมันมีถึงห้าคนด้วยกัน!
“แม่ทัพหลัวชวน!” ฮันกวงรีบเดินไปก้มหัวให้คนที่เดินนำหน้าสุดมา
แม่ทัพหลัวชวนนั้นเป็นถึงจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุด!
กองทัพหมื่นนี้มันย่อมจะอยู่ใต้การบัญชาการของเขาแล้ว!
เมื่อหลัวชวนเห็นฮันกวงเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นถามขึ้น “มันเกิดอะไรขึ้น?”
ฮันกวงนั้นรีบตอบกลับไป “มีผู้บ่มเพาะนอกรีตหลายคนบุกเข้ามาจากทางทะเล! หนึ่งในพวกมันนั้นกลับมีดาบเต๋าที่รุนแรงจนทำให้รากฐานพลังบ่มเพาะของข้าเสียหายได้ด้วยดาบเดียว!”
หลัวชวนถามขึ้นต่อ “พวกมันอยู่ไหนแล้ว?”
“ยังอยู่ในหมอกขอรับ ข้านั้นสั่งฉื่อเลอให้ไปดักรอไว้ที่ชายหาดแล้ว!”
หลัวชวนส่ายหัวกล่าวขึ้น “ขยะไร้ประโยชน์เอ้ย!”
…………………………