ตอนที่ 2816 ลากมันออกไปประหาร!
ได้เห็นเหรียญตราของเย่หยวน เซียวชานก็ต้องสั่นสะท้านขึ้นทั้งกายด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
“ตราแม่ทัพระดับสูง! นี่ เจ้าไปเอามันมาได้อย่างไรกัน?” เซียวชานนั้นร้องลั่นขึ้น
แม้ว่าเซียวชานนั้นจะตั้งคำถาม ทว่าบนตรานั้นก็มีชื่อเขียนไว้ชัดเจนว่า ‘เย่’ พร้อมด้วยคลื่นพลังที่เป็นเอกลักษณ์มันย่อมจะไม่มีทางปลอมแปลงกันได้
แนวหน้าทางเหนือนี้หากไม่นับยอดฝีมือระดับมหาจักรพรรดิแล้วแม่ทัพใหญ่ที่สุดของกองทัพก็ย่อมจะเป็นหมิงยี่ และต่ำกว่าตัวเขาลงมานั้นมันก็คือเหล่าจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดที่เป็นแม่ทัพสูง
ต่ำจากแม่ทัพสูงลงมามันก็จะเป็นเหล่าจักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายที่ได้ตำแหน่งแม่ทัพ
แต่ละคนนั้นต่างมีตราประจำตัวของตน
แต่เวลานี้เย่หยวนกลับหยิบเอาตราแม่ทัพสูงออกมา แน่นอนว่าเซียวชานนั้นย่อมจะตกตะลึงจนแทบลืมหายใจ
เพราะตรานี้มันมีอยู่แค่ห้าอันเท่านั้น!
ที่สำคัญไปกว่านั้นเหล่าผู้ถือครองมันนั้นต่างเป็นถึงจักรพรรดิเที่ยงขั้นสูงสุดทั้งหลาย!
แล้วเย่หยวนไปเอามันมาจากไหน?
“มหาจักรพรรดิตานเฟยท่านย่อมจะเป็นคนแต่งตั้งตำแหน่งแม่ทัพสูงนี้ให้ข้าขึ้นมา เพื่อไปนำทัพนักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลาย! แม่ทัพเซียว ข้าสงสัยเหลือเกินว่า…เย่ผู้นี้จะเข้ามายุ่งเรื่องของกองทัพได้หรือไม่?” เย่หยวนมองหน้าเซียวชานก่อนจะกล่าวเน้นเสียงขึ้น
แน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่น!
แต่ตัวเซียวชานนั้นได้แต่ต้องยิ้มแหยๆ ออกมาทันที
ตราแม่ทัพสูงนี้กลับเป็นของมหาจักรพรรดิตานเฟยที่แต่งตั้งขึ้น!
มหาจักรพรรดิตานเฟยนั้นคือแม่ทัพสูงสุดตัวจริงของแนวหน้าทางทิศเหนือนี้!
ปกติแล้วเขาย่อมจะไม่ได้ลงมือและมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องล่างมากมาย เพราะว่าความสำคัญของกองทัพจักรพรรดิเซียนนั้นไม่ได้มีอะไร
แก่นของสงครามนี้มันคือเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายต่างหาก เพราะการต่อสู้ของพวกเขานั้นแทบจะสั่นสะท้านทั้งสวรรค์ได้เลย
พูดตามหลักการแล้วแค่ตัวแม่ทัพใหญ่อย่างหมิงยี่ก็มีอำนาจพอจะแต่งตั้งแม่ทัพสูงแล้ว แต่ว่าทัพนักหลอมโอสถสวรรค์นั้นมันไม่มีแม่ทัพสูงคอยดูแล จึงมีแต่เซียวชานที่ทำหน้าที่ดูแลคนอื่นๆ
เซียวชานนั้นมีกำลังฝีมือไม่พอที่จะได้รับตำแหน่งแม่ทัพสูง
แต่ใครจะไปคิดฝันว่ามหาจักรพรรดิตานเฟยนั้นกลับจะแต่งตั้งให้นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าอย่างเย่หยวนขึ้นมาเป็นแม่ทัพสูง!
เท่านี้มันก็กลายเป็นว่าเย่หยวนคนนี้ก้าวข้ามหัวขึ้นไปเป็นนายของเซียวชานไม่ใช่หรือ?
เรื่องนี้มันจะน่าขันเกินไปแล้ว!
นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าคนหนึ่งนั้นกลับก้าวขึ้นมาเป็นนายของนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกอย่างเขา?
แต่นี่คือสิ่งที่มหาจักรพรรดิตานเฟยแต่งตั้งขึ้นมาใครเล่าจะขัดได้?
ตัวเซียวชานและเต้าเฉินต่างก็สงสัยและถามถึงตัวตนของเย่หยวนมาก่อน เวลานี้นอกจากเย่หยวนจะเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพแล้วเขายังกลายเป็นแม่ทัพผู้ทรงอำนาจในกองทัพทางเหนือ
ผู้บัญชาการทัพนักหลอมโอสถสวรรค์ด้วย!
เขายุ่งได้ไหม?
ต้องได้แน่!
เพราะว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากนักหลอมโอสถสวรรค์ และเกิดขึ้นจากตัวเซียวชาน!
ย่อมจะอยู่ในอำนาจของเย่หยวนอย่างแน่นอน!
แท้จริงแล้วการที่เซียวชานมาจับตัวจ่าวเฉินไปลงโทษ มันก็ถือว่าใช้อำนาจเกินไป เพราะจ่าวเฉินนั้นไม่ใช่คนในบังคับบัญชาของเซียวชาน
แต่นิกายยาสุดล้ำนั้นมีอำนาจมากและไร้เหตุผล แถมด้วยตำแหน่งแม่ทัพของเซียวชาน เขาจึงเหมือนเป็นแม่ทัพระดับสูงของเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์แม้จะเป็นนายทัพของจ่าวเฉินเองก็คงไม่กล้าขัด
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว
“หากแม่ทัพเซียวมีเรื่องสงสัยก็ไปถามแม่ทัพใหญ่หมิงยี่ได้!” เย่หยวนกล่าวขึ้น
“ไม่ต้อง! ตรานี้มันย่อมจะไม่มีทางปลอมแปลงได้แล้ว!” เซียวชานนั้นกล่าวขึ้น
เขานั้นไม่เคยรู้สึกหน้าชาขนาดนี้มาก่อน!
นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกจากนิกายยาสุดล้ำอย่างเขา ย่อมจะได้รับการเคารพยกย่องในกองทัพอย่างมากแม้แต่จักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายก็ยังต้องมาก้มหัวให้ แต่ตอนนี้เขากลับถูกนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าคนหนึ่งเอาเท้ากดหัว มีหรือที่เขาจะไม่ชาไปทั้งหน้าได้?
เย่หยวนนั้นไม่สนใจท่าทางของเซียวชานและกล่าวขึ้น “เช่นนั้นแม่ทัพสูงผู้นี้คงยุ่งเรื่องของกองทัพได้แล้วใช่ไหม?”
“ย่อมได้!” เซียวชานกัดฟันตอบไป
คำพูดนั้นมันเหมือนสายฟ้าที่ผ่าลงกลางหัว ทำให้จางซิ่วยืนนิ่งไปทันที
มันหมายความว่าอะไร?
ไม่สนใจปกป้องเขาแล้ว?
หากเย่หยวนได้ขึ้นรับตำแหน่งจริงๆ มันก็เท่ากับว่าเขานั้นคือคนแรกที่จะโดนลงโทษ!
เย่หยวนกล่าวขึ้นมาต่อ “ในเมื่อข้ายุ่งได้เช่นนั้นแม่ทัพสูงผู้นี้ก็ขอกล่าวอะไรหน่อยเถอะ! ในกองทัพนี้พี่น้องทั้งหลายต่างมีค่ายสำนักนิกายตั้งเดิมของตนสิ้น! นิกายระดับเจ้าโลกบนทวีปสวรรค์แรกนั้นมันก็ไม่ได้มีแค่นิกายยาสุดล้ำของเจ้านี้! นิกายยาสุดล้ำนั้นได้สร้างคุณไว้มหาศาลจริงในการต่อต้านเผ่าเลือดก็จริง แต่พี่น้องทั้งหลายที่เอาชีวิตออกไปเสี่ยงนั้นไม่ได้ทำประโยชน์หรือ? และนิกายระดับเจ้าโลกนิกายอื่นๆ ไม่ได้ทำคุณใดๆ เลย? หรือว่าเรื่องที่จักรพรรดิเซียนจากนิกายเจ้าทำมันได้ประโยชน์และคุณค่ามากกว่าเรื่องที่จักรพรรดิเซียนคนอื่นทำ?”
“หากเป็นเช่นนั้นจริงฝ่ายเรามันก็ฉิบหายกันตั้งแต่ยังไม่ทันทำอะไรแล้ว จะมาสู้สงครามกันได้อย่างไร? หลังจากเข้าร่วมกองทัพแล้วทหารทุกนายต่างก็เป็นพี่น้องร่วมสนามรบกัน! นักหลอมโอสถสวรรค์นั้นเองก็เป็นทหารนายหนึ่ง! พวกเราทั้งหลายต่างก็มีพ่อมีแม่ ใครบ้างเล่าที่ชีวิตจะมีค่ามากกว่าคนอื่น? เจ้าเป็นจักรพรรดิเซียน เขาก็เป็นจักรพรรดิเซียนไม่ใช่หรือ? หากอยากเพิ่มคุณค่าให้ตัวเองก็บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงให้ได้ก่อนค่อยมาพูดอวดตัวสิ!”
“ที่กองทัพมีสภาพเป็นอย่างเช่นนี้มันก็เพราะว่านิกายยาสุดล้ำอย่างไม่ต้องสงสัย! แต่ที่ไม่มีใครจับเอาพวกเจ้ามาลงโทษก็เพราะว่าพวกเจ้าเหล่าคนนิกายยาสุดล้ำนั้นได้สร้างคุณไว้มาก! แต่ความผิดพลาดก็คือความผิดพลาด เราจะพูดถึงไม่ได้เลยหรือ? แค่พูดถึงนิดหน่อยเจ้าก็จะจับพวกเราไปลงโทษด้วยกฎกองทัพแล้ว? เซียวชานเช่นนั้นแล้วโทษของเจ้าที่กล่าวเถียงข้าผู้เป็นนายนี้จะเอาอย่างไร? และเต้าเฉินเจ้านั้นเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าไม่มีแม้แต่ยศเป็นแม่ทัพนายกองใดๆ แต่เจ้ากลับเถียงแม่ทัพระดับสูงผู้นี้ จะให้ลงโทษอย่างไร?”
เซียวชานนั้นกัดฟันด้วยใบหน้าดำสนิทไม่รู้ต้องตอบกลับไปอย่างไร
‘เจ้าลอบทำร้ายข้า!’
‘มีตราแม่ทัพสูงอยู่กับตัวแท้ๆ ทำไมไม่เอาออกมาแต่แรก!’
เต้าเฉินนั้นยิ่งหน้าซีดขาวเป็นกระดาษ
แต่จริงๆ ตัวเย่หยวนก็ไม่ได้คิดลอบตีหัวคนทั้งหลายนี้แต่อย่างใด
หลังจากที่ออกมาจากการพบปะกับตานเฟยแล้วหมิงยี่พวกเขาก็ต้องไปประชุมกับกองทัพต่อและสั่งให้เย่หยวนออกมารักษาดูอาการคนเจ็บไปพลางๆ
เย่หยวนนั้นไม่ใช่คนที่ชอบอวดอ้างตัวเอง แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่เอาตราแม่ทัพสูงออกมาอวดใครๆ
หากไม่ใช่เพราะคนนิกายยาสุดล้ำนั้นไร้เหตุผลจนเกินรับเขาเองก็คงไม่คิดหยิบตราแม่ทัพสูงนี้ออกมา
เขาเอาชนะในการใช้โอสถไปขนาดนั้นแล้วยังต้องเอาตราแม่ทัพสูงออกมาสร้างความชอบธรรมทำไมอีก?
“ปล่อยเขา!” เย่หยวนสั่ง
ทหารรับใช้ทั้งสองนายนั้นหันกลับมามองเซียวชานอย่างลังเลใจ
เซียวชานนั้นโบกมือขึ้นสั่งให้พวกเขาปล่อยทำให้พวกเขารีบถอนตัวกลับออกไปทันที เพราะการได้รับคำสั่งที่ขัดแย้งจากแม่ทัพระดับสูง
ตอนนี้มันอึดอัดจนแทบไม่อาจหายใจได้!
เมื่อจ่าวเฉินหลุดออกมาได้ดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้างขึ้น
เขาไม่นึกฝันเช่นกันว่าอาจารย์เย่คนนี้กลับจะเป็นถึงแม่ทัพระดับสูง แถมยังเดินออกมาตบหน้าเหล่าคนนิกายยาสุดล้ำจนหันข้างเช่นนี้ได้!
เพราะพวกเขานั้นหลังจากพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่าครั้งนี้พวกเขาต่างก็ถือความคับแค้นไว้ในใจ
ดูอย่างไรมันก็เป็นหายนะจากมือคน แต่พวกเขานั้นกลับไม่อาจทำอะไรคนผิดได้
นิกายยาสุดล้ำนั้นมีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่จนปิดความผิดพลาดนี้ไว้ได้หมดสิ้น
แต่ความผิดพลาดมันก็คือความผิดพลาด!
เวลานี้เมื่อเย่หยวนออกมาพูดแทนใจพวกเขาแล้วเหล่าทหารทั้งหลายก็ย่อมสะใจและโล่งขึ้นมาอย่างมาก
แต่จากนั้นเย่หยวนก็ร้องขึ้นมาสั่งอีก “จ่าวเฉิน จัดการกับจางซิ่วเอาเขาลงเสีย!”
จ่าวเฉินสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะพุ่งตัวเข้าจับจางซิ่วไว้ทันที
จางซิ่วร้องลั่นขึ้น “อาจารย์ลุงเซียวชานช่วยด้วย!”
เซียวชานนั้นกัดฟันแน่นขึ้นมาด้วยใบหน้าดำสนิท “แม่ทัพระดับสูง ท่านต้องทำเช่นนี้จริงหรือ? นิกายยาสุดล้ำข้านั้นรังแกไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ! ท่านเพิ่งมาถึงอาจจะยังไม่รู้ แต่ว่าในหมู่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ที่มาทิศเหนือครั้งนี้มันมีบรรพบุรุษของนิกายยาสุดล้ำของข้ามาด้วย!”
มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ที่มาช่วยทางทิศเหนือนั้นย่อมจะไม่ได้มีแต่ตานเฟย
แต่ว่าตานเฟยนั้นเก่งกาจที่สุด
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจและสั่งออกมา “กฎกองทัพไม่มีทางขัดขืนได้! วันนี้หากข้าไม่สังหารคนแล้วพวกเจ้าก็คงไม่รู้ถึงคุณค่าของชีวิต! พี่น้องเราไม่ใช่หนูทดลองให้มาลองซ้อมมือกัน! จ่าวเฉินลากมันออกไปประหารเสีย!”
……………………………………………………