ตอนที่ 2818 เยี่ยมมาก!
“ท่านบรรพบุรุษ ไอ้เด็กเย่หยวนนี้มันรังแกคนหนักมือเกินไปแล้ว! แค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าคนหนึ่งมันกลับกล้ามายืนบนหลังเสือและสังหารศิษย์นิกายยาสุดล้ำของเราได้ลง! หากเรื่องนี้ถูกปล่อยผ่านไปง่ายๆ แล้วนิกายยาสุดล้ำเราจะยังเอาหน้าที่ไหนอยู่ในพันธมิตรสวรรค์แรกได้?”
เบื้องหน้าของมหาจักรพรรดิจั่วเฉินนั้นเซียวชานกำลังร่ำร้องอย่างคับแค้นใจ
นิกายยาสุดล้ำนั้นสูงส่งแค่ไหน ศิษย์แต่ละคนนั้นทรงค่าปานใด?
แต่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าคนหนึ่งกลับเดินมาเหยียบหัวพวกเขาจนจมดิน!
หากเรื่องนี้ยังทนได้แล้วมันจะมีอะไรที่ทนไม่ได้?
แต่ไม่ว่าเซียวชานจะร้องลั่นขึ้นมาแค่ไหนแต่จั่วเฉินก็ทำหน้าตาเฉยชาฟังไป
“แค่นี้หรือ? ข้าเข้าใจแล้ว” จั่วเฉินตอบ
เซียวชานนั้นผงะไป ท่าทางเช่นนี้หมายความว่าอะไร?
“บรรพบุรุษ เช่นนั้นเรื่องของเย่หยวน…”
“สั่งสอนศิษย์ของเราให้ดี ฟังคำสั่งเย่หยวนผู้นี้ให้มั่น! นี่คือกองทัพเขานั้นคือแม่ทัพสูงที่ดูแลทัพนักหลอมโอสถสวรรค์ ไม่ว่าเจ้าจะมาจากที่ไหนลงสนามรบไปเจ้าก็คือทหารต้องฟังคำสั่งของเขา!” จั่วเฉินกล่าวขึ้นมา
เซียวชานถึงกับหงายหลังไปอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
บรรพบุรุษจั่วเฉินนั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ แต่เขานั้นกลับจะปล่อยให้คนนิกายตัวเองตายเพราะฝีมือนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าหรือ?
“จ…จะทำอย่างนั้นได้อย่างไรกัน? หรือว่าศิษย์นิกายยาสุดล้ำเราจะต้องตายไปอย่างไร้ค่าเช่นนี้?” เซียวชานถามขึ้น
จั่วเฉินตอบกลับไป “ไร้ค่าอย่างไรเล่า? ความตายของจางซิ่วนั้นมันเป็นความตายที่ทรงเกียรติและมีค่ามาก สั่งคำสั่งออกไปยังทัพทั้งสามว่าจางซิ่วนั้นดูถูกเหยียดหยันคนอื่น ฝ่าฝืนคำสั่งนายและทำการรักษาโดยไม่สนใจชีวิตคน เขาสมควรได้รับโทษนี้แล้ว! เย่หยวนนั้นสร้างคุณไว้มากมายมหาศาล และมีวิชาการโอสถที่เหนือล้ำฟ้า ข้านั้นจะรับเขาเข้าเป็นศิษย์หลังจากศึกแนวหน้าทิศเหนือได้จบลงอย่างสิ้นเชิง และข้าจะไปรับเขาเข้าเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง!”
เซียวชานนั้นได้แต่ยืนนิ่งอย่างมึนงงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นตรงหน้ากันแน่
มหาจักรพรรดิจั่วเฉินนั้นกลับพูดเรื่องที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินออกมาติดต่อกันเป็นชุดใหญ่
เย่หยวนนั้นสังหารศิษย์นิกายยาสุดล้ำลงแต่บรรพบุรุษของพวกเขานั้นกลับไม่ปกป้อง แล้วยังบอกว่าเยี่ยมมากที่ฆ่าจางซิ่วไปอีก?
ไม่ มันยังไม่ใช่แค่นี้!
รับเป็นศิษย์!
มหาจักรพรรดิจั่วเฉินนั้นกลับจะรับเย่หยวนเข้าเป็นศิษย์ของตัวเอง!
นี่มัน…จะบ้าเกินไปแล้ว!
มหาจักรพรรดิจั่วเฉินนั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์
เขานั้นกลับจะลดตัวลงไปเก็บเอาจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งมาเป็นศิษย์?
เรื่องนี้มันเหลือเชื่อยิ่งกว่าบอกว่าตะวันขึ้นทางตะวันตกด้วยซ้ำ!
หรือว่าเหล่ามหาจักรพรรดิจะบ้ากันไปหมดแล้ว?
เย่หยวนนั้นได้กลายเป็นอาจารย์ลุงของเขา นี่มันจะบ้าเกินรับไหวแล้ว!
เด็กบ้านนอกคนหนึ่งกลับจะกลายมาเป็นอาจารย์ลุงของเขา!
เซียวชานนั้นรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังหมุนวนรอบตัว เขานั้นไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกมาจากห้องได้อย่างไรเสียด้วยซ้ำไป
จั่วเฉินนั้นเป็นยอดฝีมือระดับสูง เขาย่อมจะไม่คิดเสียเวลาอธิบายเรื่องให้เซียวชานฟัง
เพราะสิ่งที่เขาอยากทำ เขาก็ทำไม่มีใครกล้าขัดได้
หมิงยี่นั้นมีกำลังมีฝีมือที่พอได้ และยังเป็นถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าว ตานเฟยจึงให้ค่าแก่หมิงยี่ไม่น้อย
แต่เซียวชานนั้นแค่จักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดเขายังไม่ถึงเลย จึงยังไม่มีค่าพอจะให้จั่วเฉินอธิบาย
ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นมันเหมือนคนทั้งแดนเหนือได้ฝันไป
อย่างแรกคือมหาจักรพรรดิตานเฟยนั้นแต่งตั้งเย่หยวนขึ้นมาเป็นแม่ทัพสูงควบคุมทัพนักหลอมโอสถสวรรค์
จากนั้นบรรพบุรุษของนิกายยาสุดล้ำมหาจักรพรรดิจั่วเฉินก็ได้ออกมาประกาศว่าจะรับเย่หยวนเข้าเป็นศิษย์ในการดูแล!
สองมหาจักรพรรดินั้นกลับแสดงความชื่นชอบจักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่งแทบพร้อมๆ กัน!
ตำแหน่งแม่ทัพสูงนั้นมันเป็นตำแหน่งที่ได้รับการยกย่องสูงอยู่แล้วในกองทัพ
แต่เวลานี้เมื่อเย่หยวนได้ถูกยกให้เป็นศิษย์ของมหาจักรพรรดิจั่วเฉินมันยิ่งทำให้ตำแหน่งของเขาสูงขึ้นไปอีกเพราะแม้จะไม่นับเรื่องอื่นใด นับแค่ยศของเย่หยวนในตอนนี้มันก็มากพอจะทำให้จักรพรรดิเซียนกลัวจนตายได้!
เพราะในนิกายยาสุดล้ำนั้นต่อให้จะเป็นมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์เอง หากต้องมาเจอเย่หยวนก็คงต้องก้มหน้าเรียกเขาว่าเป็นอาจารย์ลุงอย่างไม่มีข้อแม้!
จั่วเฉินนั้นมีกำลังที่เหนือล้ำในหมู่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ด้วยกัน
ตำแหน่งของเขาในนิกายยาสุดล้ำก็ย่อมจะสูงส่งไม่แพ้กัน
คนที่คิดอยากฝากตัวเป็นศิษย์เขานั้นมันมีมากมายแค่ไหน แต่มีใครบ้างที่ได้ทำตามฝันนั้น?
แม้แต่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์เองก็ใช่ว่าจะเข้าเป็นศิษย์เขาได้!
…
แน่นอนว่ากองทัพเหนือนั้นมันย่อมจะเกิดความแตกตื่นขึ้น!
เรื่องที่มหาจักรพรรดิจั่วเฉินคิดรับเย่หยวนเข้าเป็นศิษย์นั้นมันทำให้ทหารทั้งหลายมีเรื่องคุยไม่ขาดปาก ในค่ายกองทัพมีแต่เสียงพูดคุยเรื่องนี้ดังไปทั่วทุกหนแห่ง
“บ้าแล้ว! บ้ามากๆ! ข้าก็นึกไปว่ามหาจักรพรรดิจั่วเฉินท่านจะพิโรธและเข้ามาหาเรื่องมหาจักรพรรดิตานเฟย แต่ใครจะไปคิดว่านอกจากท่านจะไม่ดุด่าว่ากล่าวอะไรแล้ว ท่านกลับคิดอยากรับเย่หยวนเขาเข้าเป็นศิษย์ในการดูแลด้วย!”
“ช่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์แท้! แม่ทัพสูงเย่หยวนนั้นสังหารศิษย์นิกายยาสุดล้ำลงไป นอกจากว่าเบื้องบนจะไม่ว่ากล่าวอะไรแล้ว ท่านกลับยังคิดอยากรับเขาเข้าเป็นศิษย์อีกด้วย!”
“ดูท่านิกายยาสุดล้ำนั้นจะไม่ได้โอหังไร้เหตุผลตั้งแต่หัวจรดเท้า! พวกที่อยู่เบื้องบนจริงๆ นั้นมีดวงตาที่เฉียบแหลมนัก!”
“แม่ทัพสูงเย่หยวนนั้นเป็นผู้มีคุณของเรา แค่ได้ยินว่าเขาจะได้ดีเช่นนี้เราก็รู้สึกดีไปด้วยแล้ว!”
…
นอกเหนือจากความตกตะลึงนั้นคนทั้งหลายยังรู้สึกยินดีกับเย่หยวนไปด้วย
เรื่องราวน่ายินดีนี้ได้กลบทับความคับแค้นใจก่อนหน้าจนแทบหมดสิ้น
ความรักต่อเจ้าบ้านนั้นจะส่งผลถึงหมาแมวของเจ้าบ้านด้วย ทหารหลายคนนั้นจึงเริ่มหายคับแค้นขุ่นข้องใจกับนิกายยาสุดล้ำไปอย่างไม่ทันรู้ตัว
เมื่อมหาจักรพรรดิตานเฟยได้ยินเรื่องนี้เขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาก่อนจะหัวเราะลั่น “เฒ่าจั่วเฉินมันเจ้าเล่ห์จริง! การดันเรือไปตามน้ำมันช่างทำได้อย่างแยบยลมากนัก!”
หมิงยี่ยิ้มแห้งๆ กล่าวขึ้นตาม “ใครจะไปคิดว่าจักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่งนั้นกลับจะกลายเป็นดาวเด่นของแดนเหนือได้ในพริบตาเช่นนี้! วันหน้าหากข้าเห็นเจ้าหนุ่มนี่ข้าก็คงต้องเรียกมันว่าอาจารย์ลุงแล้ว! จะยังมีศักดิ์ศรีของแม่ทัพใหญ่ใดๆ อีกเล่าข้า?”
ตานเฟยนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาอีกครั้ง “น่าสนใจ! น่าสนใจจริงๆ! เฒ่าจั่วเฉินมันไม่เคยทำอะไรตามแบบแผน ข้าถึงได้ชื่นชมมันนัก! แต่ว่าครั้งนี้มันก็ทำให้ข้าตกตะลึงได้เสียจริง! แต่ก็นะเย่หยวนนั้นเป็นต้นกล้าที่หาได้ยากยิ่ง! น่าเสียดายแค่ว่า…เขาเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตเท่านั้น!”
คำพูดของเขานั้นมันแฝงไปด้วยความเสียดายสุดซึ้ง
มีหรือที่เขาจะมองไม่ออกว่าเย่หยวนนั้นมีอนาคตสดใสแค่ไหน?
แต่ชะตาของผู้บ่มเพาะนอกรีตนั้นมันไม่มีใครควบคุมหรือช่วยเหลือได้!
ตั้งแต่บรรพกาลมาแล้วนั้นผู้บ่มเพาะนอกรีตมันมีมากมายแค่ไหน? แต่คนที่บ่มเพาะมาจนถึงอาณาจักรมหาจักรพรรดิได้นั้นมันมีเพียงแค่หยิบมือและหาได้ยากยิ่ง
คนที่ไปถึงระดับมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ได้นั้นนับได้ด้วยมือเดียว
แล้วพวกเขาไปพลาดที่อะไร?
พลาดเพราะความตาย!
ตายด้วยเต๋าทุกข์!
ผู้บ่มเพาะนอกรีตนั้นหากไม่สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ก็มีแต่ต้องตาย!
เมื่อเย่หยวนได้ยินข่าวนี้เขาเองก็ต้องผงะไปเช่นกัน เพราะเขานั้นไม่เคยพบเจอมหาจักรพรรดิจั่วเฉินคนนี้มาก่อนแต่อีกฝ่ายกลับประกาศว่าอยากได้เขาเป็นศิษย์?
แต่ลองคิดๆ ดูเขาก็พอเข้าใจเป้าหมายของจั่วเฉินได้ มันเป็นการลบความคับแค้นด้วยความรักอย่างแยบยล!
แน่นอนว่าเหล่ายอดคนที่ขึ้นเป็นระดับผู้ควบคุมสงครามนั้นมันย่อมจะมีความคิดที่ลึกล้ำนัก!
เขานั้นใช้กำลังเพียงน้อยเสริมส่งเอาเปรียบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า แต่ว่าเย่หยวนนั้นจะยอมเป็นศิษย์คนอื่นหรือ?
ไม่มีใครคิดมาถามความเห็นเขาเลย?
บางทีเขาอาจจะปฏิเสธก็ได้?
แต่จริงๆ เย่หยวนเองก็รู้สึกสนใจไม่น้อยเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเสียนิกายยาสุดล้ำนั้นก็คือยอดนิกายอันดับหนึ่งของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดในด้านการโอสถ!
การได้เข้าเป็นศิษย์ของนิกายเช่นนั้น แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังไม่กล้าปฏิเสธออกมาทันที ที่สำคัญไปกว่านั้นนี้ยังเป็นการศึกษาภายใต้ตัวมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ ผู้เป็นถึงนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปด!
เรื่องพวกเซียวชานนั้นเย่หยวนย่อมจะดูถูกได้
เย่หยวนนั้นมองตัวเองว่าเก่ง แต่ก็ไม่ได้โง่เง่าจนไม่รู้ขอบเขตตัวเอง ต่อหน้าความรู้ของนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดนั้นเขาย่อมจะเป็นได้แค่มดปลวก
ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังรู้ดีว่าเซียวชานคนนี้มิใช่ศิษย์ระดับหัวกะทิของนิกายยาสุดล้ำ เพราะเหล่าหัวกะทิจริงๆ ยังช่วยศึกแนวหน้าแดนใต้อยู่
แนวหน้าแดนเหนือนั้นมันเป็นการรวมทัพกะทันหันทำให้ศิษย์หัวกะทิทั้งหลายยังไม่อาจจะออกเดินทางขึ้นมาได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียแม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ของพันธมิตรโอสถอย่างชางหยงหนิงคนนั้นก็ยังเก่งกาจเทียบเคียงเย่หยวนได้ และเขาเป็นแค่คนที่ถูกศิษย์นอกคอกของนิกายยาสุดล้ำอย่างหลี่ฉางเซิงสั่งสอนมา
หากมองดูอย่าไร้อคติใดๆ แล้วนิกายยาสุดล้ำมันย่อมจะทรงพลังในด้านความรู้อย่างมาก
เพราะฉะนั้นการได้เป็นศิษย์ของนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดมันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีกับเย่หยวนไม่น้อย
แต่ว่าจะอย่างไรเสียเรื่องที่ต้องทำตรงหน้ามันก็ไม่เปลี่ยน การคารวะอาจารย์หรือไม่นั้นมันรอให้เขาหาทางจัดการพิษเลือดกัดกร่อนลงไปก่อน!
……………………………………………………