ตอนที่ 2848 บังเอิญอย่างต่อเนื่อง!
ได้ยินคำอธิบายของซ่งชิงหยางนั้นเย่หยวนก็เข้าใจได้ทันที
เหตุผลที่เขาได้รับการยอมรับอย่างเอกฉันท์นี้จากเหล่าบรรพบุรุษมันอาจจะเกิดขึ้นมาเพราะจิตใจรักความถูกต้องของเขา เพราะตั้งแต่เกิดจนถึงวันนี้เย่หยวนได้ช่วยชีวิตคนที่ลำบากทนทุกข์ไว้มากมาย
จนกลายเป็นนิสัยของตนเองไป
นอกจากนั้นแล้วในชีวิตก่อนของเขาเองเย่หยวนก็ได้ช่วยชีวิตคนมากมายไว้ด้วยวิชาโอสถของเขาจนเกินกว่าจะนับได้
ผู้บ่มเพาะส่วนมากนั้นคงไม่อาจจะทำตัวเช่นนี้ได้
เพราะการบ่มเพาะนั้นคือความเห็นแก่ตัว
ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไรก็ยิ่งได้ทรัพยากรมาครอบครองมากขึ้น มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อการบ่มเพาะของตัวเองอยู่ดี
แต่เย่หยวนนั้นกลับมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนว่าสิ่งใดควรไม่ควร
เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นหน้านิกายนั้นเอง เดิมทีมันก็ไม่ใช่เรื่องของเย่หยวนแต่เย่หยวนกลับเลือกที่จะเข้าไปยุ่ง
พลังที่อยู่ในป้ายชื่อทั้งหลายนี้เดิมทีมันคงเป็นแค่พลังงานที่ลอยอยู่ทั่วไป แต่เมื่อมีจำนวนมากขนาดนี้มันก็ไม่แปลกที่จะผสานกันเข้าและตอบสนองอะไรบางอย่างกับนิสัยความเที่ยงธรรมของเย่หยวน
คงเป็นเพราะเช่นนี้เลยทำให้เย่หยวนได้รับการยอมรับอย่างเอกฉันท์
“พลังพรที่ว่านี้มันคือ?” เย่หยวนถามขึ้นต่อ
“เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่ามีสายสัมพันธ์บางอย่างระหว่างตัวเจ้ากับป้ายชื่อทั้งหลาย?”
เห็นเย่หยวนพยักหน้ารับหลี่ชิงหยุนจึงกล่าวขึ้นต่อ “ป้ายชื่อของบรรพบุรุษทั้งหลายท่านนั้นมันคือชะตาของนิกายเรา เพราะฉะนั้นตอนนี้ชะตากรรมของเจ้ามันก็ได้เชื่อมเข้ากับนิกายแล้ว ยิ่งนิกายยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่าใดมันก็ยิ่งทำให้ชะตาของเจ้าแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้นและยิ่งชะตาของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นเท่าใดมันก็จะยิ่งทำให้นิกายรุ่งเรืองมากขึ้นไปด้วย!”
“นอกจากนั้นแล้วหากเจ้าไปเจอสถานการณ์คับขันพลังลึกลับนี้มันก็จะทำงานขึ้นมา เหล่าบรรพบุรุษทั้งหลายจะช่วยป้องกันชีวิตให้แก่เจ้า! แม้ว่าพลังของเหล่าบรรพบุรุษที่ทิ้งป้ายชื่อไว้นั้นจะไม่มีใครถึงระดับเจ้าโลกแต่ว่าบรรพบุรุษนับพันนั้นก็คงมีพลังที่สูงส่งล้ำฟ้า แม้แต่เจ้าโลกเก่งๆ เองก็ไม่แน่ว่าจะเอาชีวิตเจ้าได้!”
“แน่นอนว่าพลังของพรนั้นมันยังมีหน้าที่สำคัญอีกอย่างนั้นคือการช่วยให้เจ้าเข้าใจพลังต้นกำเนิดได้ดีขึ้น! เพราะนี่มันคือยอดเต๋ากว่าสามพันอย่าง พลังต้นกำเนิดของสามพันคน! มันคือโชคอันมหาศาลเลยทีเดียว”
เย่หยวนถึงกลับอ้าปากค้างเมื่อได้ยิน
เพราะเขาก็ไม่คิดฝันว่าพลังแห่งพรนี้มันจะมีประโยชน์ได้ถึงปานนั้น
เขาได้เข้าใจเสียทีว่าทำไมนิกายยาสุดล้ำนั้นถึงได้เก่งกาจนัก
หากคิดอยากจะก้าวขึ้นระดับเจ้าโลกนั้น พลังคลื่นกำเนิดนั้นมันย่อมจะเป็นสิ่งที่สำคัญ!
แต่พลังจากพรนั้นมันกลับช่วยทำให้เข้าใจพลังคลื่นกำเนิดได้ง่ายขึ้น!
แท้จริงแล้วตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มสงครามกับเผ่าเลือดนิกายยาสุดล้ำมันก็เป็นนิกายยิ่งใหญ่ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นนิกายเจ้าโลกอันดับหนึ่งของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดอยู่แล้ว
เพราะพวกเขานั้นมีเจ้าโลกถึงสี่คน มันมิใช่สิ่งที่นิกายอื่นๆ จะทำได้!
หากมีเวลามากกว่านี้มันก็ไม่แน่ว่านิกายยาสุดล้ำนั้นจะพัฒนาไปเป็นยักษ์ใหญ่อย่างวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตได้!
“เช่นนั้นแล้วศิษย์พี่ใหญ่เองก็สามารถรอดจากเต๋าทุกข์มาได้หลายต่อหลายครั้งเพราะพลังแห่งพรนี้ด้วย?” เย่หยวนหันไปถามหลี่ชิงหยุนด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น
หลี่ชิงหยุนพยักหน้ารับ “ย่อมมีส่วนอย่างมาก!”
เย่หยวนยิ้มกว้างขึ้นทันที “เช่นนั้นพลังแห่งพรของข้านั้นเทียบกับของศิษย์พี่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?”
หลี่ชิงหยุนได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกตอบกลับมา “ไม่มีทางเทียบกันได้! เพราะมันไม่เคยมีใครได้รับการยอมรับอย่างเอกฉันท์เช่นนี้มาก่อน!”
เย่หยวนลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าท่าทางตื่นเต้นสุดขีด “เช่นนั้นวันหน้าข้าคงสามารถเผชิญทัณฑ์สวรรค์ได้อย่างมั่นใจแล้ว? ดูท่าศิษย์พี่ใหญ่คงจะเอาชนะข้าไม่ได้ง่ายๆ แล้ว!”
หลี่ชิงหยุนได้แต่ต้องกัดฟัน
เขาถูกตบหน้าเข้าอย่างจัง!
แต่หลี่ชิงหยุนนั้นรู้ดีว่าเย่หยวนพูดไม่ผิด!
เพราะว่าพลังแห่งพรของเขานั้นมันด้อยกว่าเย่หยวนมาก
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ยังสามารถใช้มันรักษาชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ได้
เช่นนั้นเย่หยวนเล่า?
คิดไปคิดมาเขาก็ต้องส่ายหัวขึ้น “ไม่มีประโยชน์หรอก! แม้ว่าพลังแห่งพรจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่สุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรแข็งแกร่งไปกว่าเต๋าสวรรค์! หากเต๋าสวรรค์คิดอยากกำจัดเจ้าลงแล้วไม่ว่าพรจะเหนือล้ำแค่ไหนมันก็คงไม่อาจช่วยได้!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เถียงไปก็ไม่ได้อะไร มาลองดูกันหน่อยไหมเล่าศิษย์พี่ใหญ่?”
พูดจบเย่หยวนนั้นก็พุ่งตัวออกไปด้านนอกโถงใหญ่ทันที
จากนั้นคลื่นพลังของเขามันก็ค่อยๆ พุ่งทะยาน เขากลับคิดจะบรรลุจักรพรรดิเซียนขั้นปลาย!
แท้จริงเย่หยวนสามารถบรรลุมันได้นานตั้งแต่ก่อนจะมาถึงนิกายแล้ว
เพียงแค่ว่าการเรียกทัณฑ์สวรรค์ครั้งก่อนลงมามันทำให้เย่หยวนแทบเอาชีวิตไม่รอด
เต๋าทุกข์ครั้งนี้ของเขามันย่อมจะเหนือล้ำกว่าครั้งก่อน อย่างน้อยๆ คงจะเป็นถึงแปดเต๋าทุกข์เก้ากฎเป็นแน่ เย่หยวนต้องเตรียมความพร้อมอย่างมาก
ตอนนี้ด้วยพลังของพรนั้นมันทำให้เย่หยวนไม่คิดกลัวอีกต่อไป
ครืน!
เต๋าทุกข์มันลงมาแล้ว
คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันทำให้แม้แต่หลี่ชิงหยุนยังต้องหันมามอง
“ไอ้เด็กนี่มันไปท้าทายเต๋าสวรรค์แบบไหนกัน? แค่จักรพรรดิเซียนขั้นกลางนั้นกลับต้องเผชิญแปดเต๋าทุกข์เก้ากฎทีเดียว!” หลี่ชิงหยุนร้องขึ้น
เขานั้นได้พบเจอรู้จักผู้บ่มเพาะนอกรีตมาไม่น้อย แต่ผู้บ่มเพาะนอกรีตที่บ้าคลั่งเช่นนี้เขายังไม่เคยเห็นมาก่อน
แปดเต๋าทุกข์เก้ากฎนั้นมันคือสิ่งที่จักรพรรดิเที่ยงเท่านั้นถึงจะรับไว้ได้
ที่สำคัญมันยังต้องเป็นจักรพรรดิเที่ยงที่แข็งแกร่งไม่น้อยด้วย
ตูม!
ไม่นานเต๋าทุกข์มันก็ผ่าลงมาอย่างรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ
แต่จู่ๆ ดาบเต๋าของเย่หยวนก็ฟันสวนขึ้นไปในเต๋าทุกข์ และเต๋าทุกข์ก็แตกสลายลงอย่างง่ายดาย
เย่หยวนถึงกับต้องอ้าปากค้าง ดาบเต๋าของเขาพัฒนาไปถึงขั้นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?
จากนั้นเต๋าทุกข์อีกชุดใหญ่มันก็ผ่าลงมาตาม
แต่เย่หยวนนั้นก็ฟันดาบขึ้นไปอีกครั้งทำลายเต๋าทุกข์ทั้งหลายลงได้อย่างง่ายดาย
เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างนี่หรือคือพลังพรลึกลับที่ว่า?
เพราะเขานั้นไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นมากมายใดๆ
พลังของดาบเต๋านั้นมันยังเหมือนก่อนหน้าแต่ทำไมมันถึงทำลายเต๋าทุกข์ลงได้อย่างง่ายดายปานนี้?
ตัวหลี่ชิงหยุนที่มองอยู่เองก็อ้าปากค้างขึ้น
“ไอ้เด็กนี่มันใช้วิชาดาบอะไรกัน? แต่ละดาบของมันนั้นกลับโจมตีเข้าจุดบอดของเต๋าทุกข์สิ้น! ไอ้เด็กนี่มันมองไม่ออกแท้ๆ แต่กลับทำได้ต่อให้จะบอกว่าเป็นพลังแห่งพรมันก็คงเกินไปมิใช่หรือ?” หลี่ชิงหยุนร้องขึ้น
แปดเต๋าทุกข์เก้ากฎนั้นมันเป็นแค่พลังแห่งกฎที่ตกลงมา ไม่ได้ไร้เทียมทานแต่อย่างใด
เต๋าทุกข์นั้นมันคือพลังที่ไร้เจ้านาย ย่อมจะไม่มีทางใดที่จะใช้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้ช่องโหว่
เพราะฉะนั้นเต๋าทุกข์เองก็มีจุดอ่อนเช่นกัน!
เพียงแค่ว่าด้วยพลังบ่มเพาะของเย่หยวนในตอนนี้มันย่อมจะมองไม่ออกได้
หากไม่ได้มีพลังบ่มเพาะสูงล้ำฟ้าดินเข้าใจถึงกฎต่างๆ อย่างลึกซึ้งแล้วมันย่อมจะไม่อาจมองเห็นถึงจุดบอดพลังนั้นได้
มีแต่ต้องบ่มเพาะไปสูงส่งแล้วเท่านั้นถึงจะสามารถทำลายเต๋าทุกข์ลงได้ง่ายๆ เช่นนี้
แต่ดาบของเย่หยวนนั้นมันกลับฟันเข้าจุดบอดของเต๋าทุกข์อย่างต่อเนื่อง
หากเรื่องเช่นนี้มันเกิดขึ้นแค่ครั้งสองครั้งเรายังพอเรียกว่าบังเอิญได้ แต่ความบังเอิญนั้นมันกลับเกิดขึ้นมาในทุกดาบของเย่หยวน
ความบังเอิญอย่างต่อเนื่องนั้นมันคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด!
สายตาของหลี่ชิงหยุนนั้นดีแค่ไหน?
เขาย่อมจะเห็นได้ว่าเย่หยวนสามารถทำลายเต๋าทุกข์ลงได้อย่างง่ายดายในทุกดาบ
เขาต้องร้องลั่นขึ้นมาอย่างตกตะลึงในใจ
พลังแห่งพรมันบ้าคลั่งได้ถึงขนาดนี้หรือ?
ซ่งชิงหยางนั้นเองก็อ้าปากค้างเช่นกัน เพราะพลังของเย่หยวนนั้นมันชัดเจนแก่สายตาเขา
แปดเต๋าทุกข์เก้ากฎนั้นมันออกจะเกินมือเขาไปหน่อยด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้มันกลับง่ายเหมือนปอกกล้วย
เต๋าทุกข์มันผ่านพ้นไปได้ง่ายๆ เช่นนี้หรือ?
“นี่จะโชคดีเกินไปแล้ว! ต่อให้จะมีพลังของพรอย่างสมบูรณ์แบบมันก็คงไม่ถึงระดับนี้ได้แน่! ดูท่าไอ้หนูนี่มันคงมีชะตาที่รุนแรงมาเป็นทุนอยู่แล้ว ตอนนี้ด้วยการเสริมพลังพรจากบรรพบุรุษทั้งหลาย มันจึงทำให้ชะตาของมันพุ่งทะยานล้ำสวรรค์เช่นนี้!”
มุมปากของซ่งชิงหยางนั้นต้องกระตุกขึ้นมาหลายครั้งก่อนจะกล่าว “ตอนนี้ต่อให้จะเป็นจักรพรรดิเที่ยงขั้นต้นเองแต่หากต้องมาสู้กับอาจารย์ลุงเย่หยวนแล้วพวกเขาก็คงต้องกระอักเลือดแน่!”
…………………