ตอนที่ 2868 ศึกเทพ ชัยชนะอันท่วมท้น!
บนท้องฟ้าเหนือมหานครฉีใต้นั้นมันมีเงาร่างนับหมื่นลอยตัวอยู่บนฟ้า
เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยืนนำหน้าด้วยท่าทางองอาจ
ด้านหลังของเขานั้นมันมีกองทัพอยู่เพียงแค่หกหมื่นเท่านั้น!
หลายปีมานี้เผ่าเลือดให้กำเนิดยอดฝีมือใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนทางมหานครฉีใต้นั้นก็มีแต่สูญเสียทหารไปเรื่อยๆ
กองกำลังของพวกเขามันย่อมจะค่อยๆ ลดต่ำลงไปอย่างไม่อาจห้าม
เผ่าเลือดนั้นมีแผนการที่ง่ายดายคือการใช้จำนวนเข้าสู้!
ครั้งนี้เวลาสั้นๆ แค่ห้าวันกำลังเสริมที่มาถึงมหานครฉีใต้มันจึงมีอยู่เพียงแค่ไม่มาก
ตอนนี้เป็นสภาพที่กองทัพหกหมื่นต้องปะทะกับกองทัพหนึ่งแสน มันย่อมจะยากเกินรับมือไหว!
เพราะเผ่าเลือดนั้นปกติก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว หากไม่ได้มีกองทัพที่ใหญ่กว่าเผ่าเลือดสามเท่าพวกเขาก็ยากที่จะเอาชนะได้
แต่ตอนนี้พวกเขากลับเหลือกองทัพอยู่แค่หกหมื่น แต่เผ่าเลือดนั้นมีมากกว่าเกือบเท่าตัว!
หากไม่มีการช่วยเหลือจากมหาค่ายกลป้องกันแล้วมันย่อมจะหมดสิ้นหนทางจริงๆ!
ในกองทัพหกหมื่นนั้นสีหน้าของคนทั้งหลายนั้นดูหนักแน่นเหมือนวีบุรุษที่พร้อมจะสละชีวิตลงไป ไม่คิดกลับหลังอีก
พวกเขานั้นไม่รู้ว่ามหาค่ายกลใกล้ซ่อมแซมสำเร็จแล้ว
เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นบอกพวกเขาทั้งหลายว่ามหาค่ายกลมันสิ้นท่าลงแล้ว
มันไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้!
ฉะนั้นกองทัพหกหมื่นนั้นจึงต้องออกมารับหน้ากองทัพเผ่าเลือดหนึ่งแสนนี้ด้วยตัวเอง!
ตอนนี้คนทั้งหลายจึงเตรียมใจที่จะสู้แลกชีวิตกับเผ่าเลือดกันสิ้นไม่มีใครคิดถึงเรื่องจะได้กลับไปบ้านใดๆ อีก
แต่แท้จริงแล้วมหาค่ายกลนั้นใกล้ซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์แล้ว!
ตราบเท่าที่คนทั้งหลายนั้นใช้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยออกมาพร้อมๆ กันมันก็สามารถจะซ่อมมหาค่ายกลให้กลับมาทำงานได้ทันที
แต่ที่ยังไม่เสร็จนั้นเพราะว่าคำที่เย่หยวนแนะนำไว้
ตอนที่เห็นมหาค่ายกลใกล้ซ่อมแซมสมบูรณ์คนทั้งหลายรวมไปถึงตัวเฟิงเสี่ยวเถียนต่างยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างโล่งใจ
แต่เย่หยวนนั้นกลับเสนอให้หยุดการซ่อมแซมไว้ก่อน
เพราะว่าหากมหาค่ายกลมันซ่อมแซมสมบูรณ์แล้ว พลังของมันนั้นก็ไม่อาจจะปิดซ่อนไว้ได้อีก
ถึงตอนนั้นเผ่าเลือดเองก็คงไม่กล้าเข้ามาในระยะ
แต่ด้วยศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยนั้นการจะทำให้ส่วนที่เหลือมันเสร็จสมบูรณ์นั้นคงใช้เวลาแค่พริบตาเท่านั้น
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงได้วางแผนล่อศัตรูเข้าระยะเช่นนี้ขึ้นมา
คิดจะชนะก็ต้องชนะให้เด็ดขาด!
ได้ยินคำของเย่หยวนเช่นนั้นแม้แต่ตัวเฟิงเสี่ยวเถียนก็ยังผงะไป มองดูหน้าเย่หยวนด้วยความตกตะลึงอย่างสุดหัวใจ
ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่เก่งกาจ!
ตอนที่ทุกคนกำลังดีใจจนแทบคลั่งนั้นเขาคนนี้กลับยังสามารถมองสถานการณ์ได้อย่างเยือกเย็น
ที่สำคัญไปกว่านั้นยังสร้างแผนที่ไร้ช่องว่างใดๆ เช่นนี้ขึ้นมาได้!
ต่อให้เผ่าเลือดจะระวังตัวแค่ไหนมันก็คงไม่คิดหรอกว่ามหาค่ายกลนั้นจะซ่อมแซมได้สำเร็จในเวลาแค่สองวัน!
ฮ่าๆๆ…เฟิงเสี่ยวเถียน ดูท่าเจ้าจะพอรู้ตัวบ้างนะ! ข้าอยากจะลิ้นรสเลือดเจ้ามานานแล้ว!
สองทัพนี้ยืนเผชิญหน้ากันอย่างดุดัน เฉียนั้วเองก็ย่อมจะพร้อมรบอย่างถึงที่สุด!
รอบๆ ตัวเขานั้นมันมีมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์อยู่ถึงสามสิบคน!
ส่วนด้านเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นมีเพียงแค่แปดคนเท่านั้น!
เพื่อศึกใหญ่ในวันนี้เผ่าเลือดได้ส่งกำลังชุดใหญ่มาที่นี่จนหมดสิ้น
เพราะเผ่าเลือดนั้นมันมียอดฝีมือมากมายต่างจากพันธมิตรสวรรค์แรก!
แต่พวกเขานั้นกลับมีเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์มาขวางกั้นทำให้ไม่อาจจะลงมือกันได้อย่างเต็มที่
ในศึกเมื่อห้าวันก่อนนั้นเผ่าเลือดเสียกำลังมหาจักรพรรดิไปกว่าสิบคนจนในที่สุดก็สามารถทำลายค่ายกลป้องกันลงไปได้
และครั้งนี้เฉียนั้วก็ได้นำกำลังหัวกะทิทั้งหมดของเขามาสิ้น!
ศึกครั้งนี้มันคือศึกตัดสิน!
เฟิงเสี่ยวเถียนกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงเย้ยหยัน เจ้าศัตรูร้ายยังมีหน้ามาปากดีอีกหรือ!
คนทั้งสองนั้นต่อสู้กันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งและเป็นเฟิงเสี่ยวเถียนที่เอาชนะมาได้เสมอ
เพียงแค่ว่าด้วยเอกลักษณ์ของเผ่าเลือดนั้นเฟิงเสี่ยวเถียนจึงไม่อาจจะสังหารศัตรูคนนี้ลงได้เสียที
เฉียนั้วนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะ เฟิงเสี่ยวเถียน เจ้ามันก็แค่พึ่งพลังของมหาค่ายกลเท่านั้น! ตอนนี้เมื่อไม่มีพลังมหาค่ายกลคุ้มหัวเจ้าแล้ว ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะเอาอะไรมาโอหังได้อีก!
เฟิงเสี่ยวเถียนยืดมั่นตอบกลับไป ต่อให้เราจะต้องสู้จนตายสิ้นเราก็จะไม่ยอมให้พวกเจ้าได้ก้าวเข้าไปในเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์แน่นอน! พี่น้องข้าพร้อมกันหรือไม่?
เมืองยังอยู่คนก็อยู่! หากเมืองตายคนก็ตาย!
เมืองยังอยู่คนก็อยู่! หากเมืองตายคนก็ตาย!
เมืองยังอยู่คนก็อยู่! หากเมืองตายคนก็ตาย!
…
อากาศนั้นมันอัดแน่นไปด้วยความโหดเหี้ยม
พวกเขานั้นไม่มีทางที่จะให้ถอยแล้ว ทางเดียวที่เหลืออยู่คือสู้จนตัวตาย!
จิตสังหารที่หนักแน่นล้นฟ้านี้แม้แต่ตัวเฉียนั้วเองก็ยังสัมผัสถึงมันได้
เขานั้นเข้าใจได้ทันทีว่าศึกในวันนี้มันจะต้องหนักหน่วงกว่าครั้งไหนๆ แน่นอน
ก่อนมานั้นกองทัพฉีใต้มีมหาค่ายกลคอยคุ้มกันจึงไม่ได้จนตรอกอย่างในวันนี้
แต่วันนี้พวกเขานั้นไม่มีทางให้ถอยหนีอีกต่อไป!
เฟิงเสี่ยวเถียนมองหน้าเฉียนั้วก่อนจะกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม เจ้าก็เห็นใช่ไหมหรือไม่เฉียนั้ว? คิดอยากจะเปิดทางเข้าเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์นั้นเจ้าต้องข้ามศพพวกเราทั้งหลายไปก่อน!
เฉียนั้วนั้นหรี่ตาลงตอบกลับไป เช่นนั้นข้าจะไม่แค่ข้าม ข้าจะเหยียบศพพวกเจ้าให้ด้วย! ลูกหลานข้า ไปทลายฉีใต้ให้ราบ!
ภายใต้คำสั่งนี้ของเขากองทัพนับแสนนั้นมันก็ปล่อยพลังเลือดทะยานฟ้าจนฟ้าเปลี่ยนสีไป!
นี่มันคือกองทัพหัวกะทินับแสน คลื่นพลังที่ปล่อยออกมามันจะธรรมดาได้อย่างไร?
แต่เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยังไม่ขยับ!
เพราะว่าตอนนี้เผ่าเลือดนั้นก็ยังไม่ได้เข้ามาในระยะของค่ายกล!
ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์นั้นรวดเร็วกันมาก
ต่อให้จะเป็นกองทัพแสนคนแต่ว่าความเร็วของพวกเขานั้นมันกลับรวดเร็วจนเข้าประชิดได้ในพริบตา!
พริบตาเดียวนี้ทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้าปะทะกันแล้ว!
และในวินาทีเดียวกันนั้นเองที่เย่หยวนได้ส่งสัญญาณมือบอกให้จอมเทพค่ายกลสวรรค์นับพันนั้นลงมือใช้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยออกมาพร้อมๆ กัน
ครืน!
มหาค่ายกลป้องกันเมืองซ่อมแซมได้สำเร็จ!
เวลานั้นมันช่างเหมาะเจาะ!
เมื่อเห็นมหาค่ายกลป้องกันเมืองนั้นมันทำงานเปล่งแสงจ้าออกมากลืนทัพนับแสนนั้นไป แม้ว่าตัวเฟิงเสี่ยวเถียนจะรู้อยู่แล้วแต่เขาก็ยังอดเบิกตากว้างไม่ได้!
เพราะพลังของค่ายกลนี้มันรุนแรงขึ้นกว่าเก่า!
ในฐานะเจ้ามหานครฉีใต้นั้นตัวเฟิงเสี่ยวเถียนย่อมจะรู้ดีถึงสภาพของค่ายกลป้องกันเมือง!
หลังจากผ่านศึกน้อยใหญ่มาหลายต่อหลายปีนั้นพลังของมันก็เหลืออยู่แทบไม่ถึงหนึ่งในสิบของพลังแต่ดั้งเดิม!
แต่ตอนนี้พลังของมันนั้นกลับปล่อยออกมาได้ถึงราวร้อยละเจ็ดสิบจากพลังดั้งเดิม!
นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยเหนือล้ำเกินไป!
เย่หยวนเก่งกาจเกินไป!
เพราะว่าแม้เย่หยวนจะสอนศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยให้แก่คนทั้งหลายแต่เฟิงเสี่ยวเถียนก็เห็นชัดเจนว่าเย่หยวนนั้นยังคงมีความเร็วที่เหนือล้ำกว่าใครๆ ไปมาก!
งานที่เย่หยวนทำได้นั้นมันคงต้องใช้คนนับร้อยเพื่อทำ!
เขาคนเดียวนี้ทำงานซ่อมแซมไปกว่าร้อยละยี่สิบของงานทั้งหมด!
หากไม่มีเย่หยวนแล้วต่อให้พวกเขาจะได้ศาสตร์ซ่อมแซมกำเนิดน้อยมาครองมันก็คงไม่มีทางจะซ่อมได้ทัน ไม่ต้องพูดถึงพลังร้อยละเจ็ดสิบจากพลังดั้งเดิมเช่นนี้เลย!
เฉียนั้วนั้นหน้าซีดขาวลงทันที!
เขาหันหน้ามองดูท้องฟ้าอย่างตกตะลึง ดวงตาเบิกโพลง มหาค่ายกลป้องกันเมืองนั้นมันกลับซ่อมแซมได้ในสองวัน?
ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเป็นมหาค่ายกลที่ทรงพลังขึ้นกว่าเก่า!
นี่มันปาฏิหาริย์จากเทพใดกัน?
เฟิงเสี่ยวเถียนทำมันได้อย่างไร?
เผ่าเลือดมากมายแค่ไหนที่ต้องตายเพื่อลดพลังของมหาค่ายกลป้องกันนี้?
แค่นับยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดนั้นมันก็มีมากกว่าร้อยคนแล้ว!
นี่จะบอกว่ามหาค่ายกลนั้นกลับมาฟื้นฟูได้ด้วยตัวเอง?
เช่นนั้นเวลาหลายปีที่ผ่านมานั้นมันจะยังมีประโยชน์ใดอีก?
‘บ้าไปแล้ว!’
ความพยายามของเผ่าเลือด…การต่อสู้ที่นับไม่ถ้วนชีวิตที่ต้องเสียไปอย่างไม่อาจนับ!
สุดท้ายแล้วจะบอกว่ามันเปล่าประโยชน์?
เฉียนั้วนั้นแทบคลั่ง!
แต่ว่าตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะมาตกใจแล้ว!
เพราะไม่มีใครเข้าใจถึงพลังของมหาค่ายกลเชื่อมต่อไปได้ดีกว่าเขา!
เขานั้นสัมผัสได้ว่าเลือดในร่างของตนมันแทบจะระเบิดออก!
มันจบแล้ว!
พริบตาต่อมานั้นไฟ สายฟ้า น้ำแข็ง หิน…ต่างร่วงลงมาจากท้องฟ้า!
ปัง!
ปัง!
ปัง!
ในมหาค่ายกลนั้นมันมีการโจมตีรุนแรงโจมตีลงมาใส่หัวเผ่าเลือดอย่างแม่นยำ
พร้อมๆ กันนั้นมันก็เกิดเสียงร้องขึ้นทั่วทิศ!
ไม่ว่าจะเป็นเผ่าเลือดที่แข็งแกร่งแค่ไหนมันก็ตายลงสิ้น!
ภายใต้พลังอันรุนแรงนั้นพวกเขาไม่มีแรงพอจะฟื้นคืนชีพใดๆ เลย!
เบื้องหน้ามหานครฉีใต้นั้นมันกลายเป็นลานประหารไปทันที!
กองทัพสวรรค์แรกหกหมื่นคนนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างมึนงง
ไหนว่าสู้จนตัวตาย?
ไหนว่าสู้จนชีวิตหาไม่?
ไหนว่าสู้กันจนเลือดหยดสุดท้าย?
นี่ยังไม่ทันได้สู้ใดๆ ศัตรูทั้งหลายนั้นมันก็ตายตกลงไปต่อหน้าพวกเขาเสียแล้ว!
แต่พริบตาต่อมาคนทั้งหลายก็โห่ร้องลั่นขึ้น!
พวกเขานั้นต่างหันไปมองหน้าเฟิงเสี่ยวเถียนเป็นตาเดียวด้วยความชื่นชมอย่างสุดหัวใจ!
แน่นอนล่ะว่าเทพสงครามของพวกเขาจะไม่แพ้ง่ายๆ!
สองวัน!
พวกเขานั้นใช้เวลาแค่สองวันในการซ่อมแซมมหาค่ายกลป้องกันเมือง?
นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ!
ท่านเจ้าเมืองจงเจริญ! พันธมิตรสวรรค์แรกจงเจริญ!
ท่านเจ้าเมืองเก่งกาจล้ำฟ้าดิน! ไม่มีใครต้านทาน!
ปาฏิหาริย์! นี่มันศึกของเทพสวรรค์! สวรรค์แรกเราจะได้ชัยชนะขาดลอยเป็นครั้งแรกแล้ว!
…
ทหารกองทัพสวรรค์แรกนั้นต่างโห่ร้องขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง!
เพียงแค่ว่าตอนนี้วีรบุรุษในสายตาของพวกเขานั้นกำลังหันไปมองดูที่ชายหนุ่มอีกคนด้วยสายตาที่เปี่ยมล้น อารมณ์เกินจะอธิบาย!
เย่หยวนนั้นคือผู้สร้างปาฏิหาริย์นี้!
เปลี่ยนผลของศึกครั้งนี้ไปสิ้นเชิง!
หากสู้กันด้านนอกค่ายกลนั้นเผ่าเลือดต่างจะพยายามดึงล่อพลังของค่ายกลออกไปและทำให้ค่ายกลค่อยๆ เสื่อมพลังลง
แต่หากพวกเขาเข้ามาในระยะแล้วมันมีแต่ต้องตายเท่านั้น!
สวรรค์นั้นให้พลังชีวิตและเลือดที่เหนือล้ำแก่เผ่าเลือด แน่นอนว่ามันก็ต้องมีข้อเสียของเผ่านี้ด้วย
เผ่าเลือดนั้นขาดความเข้าใจได้เต๋าค่ายกลและเต๋าโอสถอย่างมาก!
ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็คงไม่ติดอยู่หน้าเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์มานับพันๆ ปีเช่นนี้
ตูม!
สายฟ้ากระแทกลงใส่ร่างของเฉียนั้วทันที
คลื่นพลังจากร่างของเขามันเหือดแห้งลงอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้เขาพุ่งตัวถอยกลับไปอย่างบ้าคลั่งคิดจะหนีออกไปจากระยะของค่ายกลป้องกันนี้
เขานั้นเก่ง!
ยอดฝีมือคลื่นกำเนิดนั้นต่อให้จะเป็นมหาค่ายกลป้องกันเมืองก็คงไม่อาจสังหารเขาลงได้ง่ายๆ
เฟิงเสี่ยวเถียนหรี่ตาลงมองพร้อมพุ่งตัวออกไป พี่น้องเรา มาทำให้ศึกนี้เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่เถอะ! ตามข้ามาสังหารพวกมันให้สิ้น!
ฆ่ามัน!
เสียงร้องออกศึกของทหารทั้งหกหมื่นนั้นดังลั่นจนสนั่นมหานครฉีใต้!
จอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเก้าอย่างเวิงฟานนั้นได้พาเหล่าจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับแปดทั้งหลายเข้าไปควบคุมพลังและใช้ค่ายกลโจมตีอย่างต่อเนื่อง
กองทัพสวรรค์แรกนั้นเหมือนปลาที่ได้น้ำในมหาค่ายกลนี้!
พวกเขานั้นไม่ต้องกลัวเกรงอะไร ไล่สังหารเผ่าเลือดอย่างกับเป็นแค่มดแมลง
พระเจ้า! พ่อเจ้าไม่เคยจะสังหารได้สนุกมือขนาดนี้มาก่อนเลย! ฮ่าๆๆ…
สุดยอด! ยอดเยี่ยม! นี่มันเผ่าเลือดจริงหรือ? ไม่ต่างอะไรจากฆ่าหมูฆ่าสุนัขเลย!
พวกเผ่าเลือดสาระยำ วันนี้มันมาถึงจนได้! ฮ่าๆๆ…พ่อเจ้าจะฆ่าเจ้าให้หมดสิ้น!
…
ยอดฝีมือทัพสวรรค์แรกนั้นต่างสะใจกันอย่างถึงที่สุด
ภายใต้พลังของมหาค่ายกลนั้นเผ่าเลือดไม่อาจจะต่อต้านพลังของพวกเขาได้แม้แต่กระบวนท่า!
พวกเขานั้นไม่เคยสังหารเผ่าเลือดได้ง่ายดายปานนี้มาก่อน!
นี่มันคือการล้างบางอย่างแท้จริง!
ในอดีตนั้นต่อให้จะมีพลังของมหาค่ายกลป้องกันเมืองแต่พวกเขาก็ไม่อาจจะไล่ทำลายล้างเผ่าเลือดได้ง่ายดายเช่นนี้มาก่อน
เพราะฉะนั้นในแต่ละศึกเผ่าเลือดจะเจ็บไปหนักแต่คนที่ตายลงไปนั้นมีน้อยมาก
เพราะหากชนะไม่ได้ ก็ยังถอยได้พวกเขาเองก็ไม่อาจจะไล่ตาม แต่ฝ่ายสวรรค์แรกนั้นหากพลาดท่าแล้วมันมีแต่จะต้องตาย!
แต่วันนี้มันมิใช่!
นี่มันคือการสังหารล้างบ้าง!
เฟิงเสี่ยวเถียนต่อยหมัดออกไปสังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งลง!
สุดยอด!
สะใจจนเกินรับ!
สังหารมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ลงง่ายดายราวกับฆ่าหมูตัวหนึ่ง!
เย่หยวน เจ้ามันจะสุดยอดเกินไปแล้ว!
เฉียนั้ว เจ้าอยากดื่มเลือดข้ามิใช่หรือ? จะหนีไปไหน!
เฟิงเสี่ยวเถียนพุ่งตัวตามออกไปด้วยเสียงหัวเราะที่เหมือนคนเสียสติ!
………