ตอนที่ 2897 เรื่องบ้าบอ!
‘มันจะเอาอีกแล้วเรอะ?’
หยางชิงที่ยืนอยู่ในกลุ่มทหารนั้นต้องเบิกตากว้างด้วยหน้าเหยเก
เพราะภาพในตอนนั้นมันยังจำติดตาเขามาจนถึงวันนี้
แต่คิดย้อนกลับไป เย่หยวนก็ไม่ได้เรียกเต๋าทุกข์มานานแล้วเช่นกัน
ครั้งก่อนที่เขาเรียกเต๋าทุกข์ลงมานั้นมันคือตอนที่เขาบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นปลาย
คิดมาถึงตรงนี้หยางชิงก็ต้องขนลุกทั้งร่าง
คนอื่นนั้นอาจจะไม่รู้ว่าเย่หยวนเรียกเต๋าทุกข์ได้น่ากลัวแค่ไหน
แต่เขานั้นรู้ซึ้งถึงกระดูก!
‘ไอ้ฉิบหาย ตามเจ้านี่มามันมีโอกาสตายเก้าโอกาสรอดหนึ่งเสียจริง!’
แม้ว่ามันจะสะใจ แต่ว่าแผนนี้ก็มีโอกาสตายได้ทุกเมื่อ!
หยางชิงนั้นรู้แต่คนอื่นย่อมจะไม่รู้
เมื่อพวกเขาได้ยินคำของเย่หยวนนั้นทัพเผ่าเลือดก็ต้องชิงหัวเราะขึ้นมาทันที
“ฮ่าๆ! ท่านบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเรากลับบอกว่าจะจัดการพวกเราทั้งแสนคนด้วยตัวคนเดียว!”
“เก่งแท้ๆ! สมชื่อว่าเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์จริงๆ!”
“ท่านบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้เราจะยืนให้ท่านสังหาร ท่านก็คงต้องสังหารจนมือขาดแล้วกว่าจะฆ่าเราได้หมด!”
…
พวกเขานั้นรู้ว่าเย่หยวนเก่งกาจ หากกองทัพนี้มันเป็นกองทัพจักรพรรดิเซียนแล้วคงไม่มีทางหยุดเย่หยวนลงได้
ต่อให้จะมีมากกว่านี้อีกสิบเท่าก็ตาม
แต่ในกองทัพตอนนี้มันมีจักรพรรดิเที่ยงอยู่อีกหลายพันคน
นอกจากนั้นมันยังมีร้อยบุตรจักรพรรดิเที่ยงอยู่อีกไม่น้อย
จะบอกว่าเย่หยวนนั้นรับมือคนทั้งหลายพร้อมๆ กันได้หมด?
หากคนนับแสนนี้ตายลงเพราะมือเย่หยวนจนสิ้น
เผ่าเลือดนั้นจะยังมีค่าใดให้อยู่ต่อ?
“จะเถียงกับมันเพื่ออะไรอีก? โจมตีพร้อมๆ กันและสังหารมันลงให้ได้! ฆ่ามัน!” เฉียนั้วร้องลั่นสั่งขึ้นมาระหว่างที่ถ่วงตัวเฟิงเสี่ยวเถียนไว้
เขานั้นรู้สึกคับแค้นที่ถูกปั่นหัวอย่างมาก
ยอดฝีมือพลังคลื่นกำเนิดอย่างเขานั้นกลับมาถูกจักรพรรดิเซียนชาวมนุษย์ปั่นหัวเหมือนคนโง่
น่าอับอาย!
เมื่อได้ยินคำลั่นของเฉียนั้วนั้นเผ่าเลือดทั้งหลายก็ไม่มีใครรอช้าอีก
คลื่นพลังโจมตีมากมายหลายสายนั้นพุ่งเข้ามาปะทะกับร่างของเย่หยวน
แต่แม้จะเห็นเช่นนั้นเย่หยวนก็แค่ยิ้มตอบกลับไป
ในเวลานี้เขาไม่คิดจะกดพลังบ่มเพาะของตัวเองอีกต่อไปปล่อยให้มันเพิ่มพูนขึ้นตามธรรมชาติ
เย่หยวนนั้นกดดันพลังบ่มเพาะของตัวเองมานาน
เมื่อปล่อยมันออกมาพลังงานนั้นจึงระเบิดออกมาโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง
พลังนั้นมันทำให้จักรพรรดิเซียนที่อยู่ใกล้ตัวเขานั้นถูกบดขยี้แหลกสลายลงไปทันที
แม้แต่จักรพรรดิเที่ยงเองก็ยังต้องกระอักเลือดปลิวออกไป
ส่วนการโจมตีใดๆ นั้นเย่หยวนก็แค่ใช้ห้วงมิติหลบเลี่ยงมันไปได้อย่างไม่ยากเย็น
ทำให้ไม่มีการโจมตีใดที่มันเข้าถึงตัวเขาได้จริงๆ
กลับกันพวกเผ่าเลือดนั้นกลับถูกลูกหลงของการโจมตีนี้จนตายไปแทน
คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างขึ้นมาอย่างตกตะลึง!
ทำไมการบรรลุของเจ้านี่มันถึงได้รุนแรงล้ำขนาดนี้?
มีใครเขาบรรลุจักรพรรดิเที่ยงได้รุนแรงเช่นนี้บ้าง?
สมชื่อว่าเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์
แค่การบรรลุจักรพรรดิเที่ยงของเขานั้นยังทำให้เกิดหายนะขึ้นมาได้!
แต่ไม่นานพวกเขาทั้งหลายก็ต้องหน้าซีด
เต๋าทุกข์กำลังมา!
“ไม่ดีแล้ว เต๋าทุกข์ของข้ามันมาถึงแล้ว! น…นี่มันรุนแรงล้ำนัก!”
“ต…เต๋าทุกข์ของข้าเองก็มาด้วย! มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”
“มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ข้าเพิ่งจะบรรลุเต๋าทุกข์ไปก่อนออกเดินทัพเองนะ! ทำไมมันมาอีกแล้ว?”
“มันเพราะเย่หยวน! เจ้าบ้านี่บรรลุจักรพรรดิเที่ยงและเรียกเต๋าทุกข์ลงมาด้วยทันที!”
“นี่มันเต๋าทุกข์ห้าภัยพิบัติ! มันบรรลุจักรพรรดิเที่ยงแล้วเรียกเต๋าทุกข์ห้าภัยพิบัติลงมาทันที!”
…
ในกองทัพเผ่าเลือดนั้นเกิดเสียงกรีดร้องไปทั่ว
ตอนนี้เมฆเต๋าทุกข์มันค่อยๆ มารวมตัวกันบนท้องฟ้าเหนือกองทัพ
ที่สำคัญมันยังเพิ่มขนาดไม่หยุด!
เผ่าเลือดทั้งหลายนั้นเหมือนติดโรคร้ายเข้า พากันเรียกเต๋าทุกข์ลงมาอย่างไม่อาจจะหยุดยั้งได้
บนท้องฟ้านั้นเมฆสีดำสนิทมันค่อยๆ ขยายตัวหนาขึ้นแต่มันมีเมฆเต๋าทุกข์ก้อนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าก้อนใดๆ อยู่ตรงกลาง
เมฆเต๋าทุกข์ก้อนนั้นมันหนาจนไม่เห็นดวงตะวันแม้แต่น้อยพร้อมปล่อยคลื่นพลังที่ทำให้จิตใจของคนสั่นกลัว
แม้แต่ตัวเฉียนั้วเองก็ยังรู้สึกใจเต้นรัวเมื่อได้เห็นมัน
เขานั้นกลัวอย่างมาในใจเจ้าเด็กนี่มันเรียกเต๋าทุกข์ที่น่ากลัวขนาดนี้ขึ้นมาได้อย่างไร?
‘จริงด้วย เจ้าเด็กนี่มันผู้บ่มเพาะนอกรีต!’
‘แต่ผู้บ่มเพาะนอกรีตมันจะทำได้ถึงขนาดนี้หรือ?’
‘นี่เจ้าไปทำให้สวรรค์ริษยาขนาดไหนกัน?’
เมื่อเย่หยวนได้เห็นถึงพลังเต๋าทุกข์นั้นเขาเองก็ต้องทำหน้าเหยเกไม่ต่างจากคนอื่นเช่นกัน
เพราะครั้งนี้ดูท่ามันจะเกินมือเขาไปมากแล้ว!
แต่ในวินาทีต่อมานั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างมองดูเมฆบนฟ้าอีกครั้ง
เพราะว่าจู่ๆ เมฆเต๋าทุกข์ที่ดูมีขอบเขตแยกจากกันมันก็ค่อยๆ ขยับเข้ามารวมกันเป็นหนึ่งก้อน!
ตอนนี้เมฆเต๋าทุกข์ของผู้คนนับแสนนั้นมันค่อยๆ ผสานเข้ารวมกันเป็นหนึ่งกับเมฆเต๋าทุกข์ของเขา
พลังของเมฆนั้นมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่อาจจะวัดได้อีก!
สีหน้าของทหารเผ่าเลือดนับแสนนั้นมันซีดขาวลงในทันที
เต๋าทุกข์บ้าบออะไรกัน?
เต๋าทุกข์ห้าภัยพิบัติ?
เต๋าทุกข์เก้าภัยพิบัติ?
ไม่ใช่!
นับไม่ถ้วน?
รวมผสมกันจนไม่อาจจะวัดระดับของเต๋าทุกข์นี้ได้อีกต่อไป
สิ่งเดียวที่พวกเขารู้นั้นคือมันต้องเป็นเต๋าทุกข์ที่รุนแรงล้ำ!
ล้ำโลก!
คนทั้งหลายนั้นต่างเหมือนได้เห็นเงาของยมทูตในเมฆก้อนนี้
เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นต้องสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนกล่าวขึ้น “นี่หรือคือยอดคนที่จะเปลี่ยนแปลงยุคสมัย? จะบ้าเกินไปหรือไม่?”
มหาจักรพรรดิทั้งสองฝ่ายนั้นต่างหยุดมือถอยห่างจากกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
พวกเขาทั้งหมดได้แต่ต้องหันไปมองเมฆเต๋าทุกข์นั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาเองก็กลัวว่าหากปล่อยพลังมากไปมันอาจจะทำให้เต๋าทุกข์ของพวกเขาลงมาด้วย
พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่าต้องทำอย่างไรถึงจะต่อสู้ได้โดยไม่เรียกเต๋าทุกข์ลงมาตอนนี้
มหาจักรพรรดิแต่ละคนนั้นต่างเป็นยอดคนที่เก่งกาจสะท้านโลกา
พวกเขานั้นผ่านเต๋าทุกข์มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง!
เต๋าทุกข์ที่พวกเขาเจอนั้นมันย่อมจะสุดแสนรุนแรงเช่นกัน!
แต่พวกเขาไม่เคยเจออะไรเช่นนี้มาก่อน!
คนผู้เดียวเรียกเต๋าทุกข์ลงมาแต่กลับทำให้เต๋าทุกข์ของคนอีกนับแสนปรากฏขึ้นมาพร้อมๆ กัน!
จากนั้นเมฆเต๋าทุกข์นั้นมันก็ค่อยๆ รวมกันกลายเป็นเมฆก้อนกลมอันใหญ่โตสุดฟ้า
ภาพนี้มันยิ่งใหญ่จนเกินกว่าจะเข้าใจได้!
มุมปากของเฉียนั้วนั้นกระตุกขึ้นมาทันที เขานั้นรู้สึกได้เลยว่าต่อให้จะเป็นตัวเองก็คงไม่รอดชีวิตหากถูกพลังของมันเข้า
นี่คงไม่ได้จะบอกว่าทหารทั้งแสนกว่าคนที่เหลือนั้นจะตายลงเพราะเขาคนเดียวหรอกใช่ไหม?
แต่ดูท่าแล้วมันก็มีความเป็นไปได้สูงมาก!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้ตำแหน่งบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์มา!
เขานั้นเป็นตัวตนที่เหนือล้ำยุคสมัยจริงๆ!
แต่วินาทีเดียวกันนั้นเฉียนั้วก็ต้องยิ้มกว้างขึ้น “เฟิงเสี่ยวเถียน เต๋าทุกข์ที่รุนแรงเช่นนี้เจ้าคิดว่าเย่หยวนมันจะรอดมาได้ไหม?”
เฟิงเสี่ยวเถียนที่ได้ยินก็ต้องหน้าซีดขาวลงทันที!
“ฮ่าๆๆ เฟิงเสี่ยวเถียน เจ้าว่านี่มันคือการเล่นกับไฟจนโดนลวกหรือไม่? ข้ายอมรับนะว่าเย่หยวนมันเก่งล้ำ! มันหลอกได้แม้แต่พวกเจ้าโลกทั้งหลาย กลายเป็นบุตรโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเลือดเรา! แต่หากฆ่ามันได้แล้วต่อให้ต้องเสียกองทัพหนึ่งแสนไปมันก็คงไม่ถือว่าเสียหายใดๆ เลย!”
เฉียนั้วนั้นเข้าใจเสียทีว่าทำไมเฟิงเสี่ยวเถียนถึงคิดยอมสละเมืองเพื่อช่วยเย่หยวน
เพราะคนเช่นนี้จะตายไม่ได้!
เขานั้นคือความหวังของพันธมิตรสวรรค์แรก!
เพราะฉะนั้นเมื่อมองดูจากมุมนี้แล้ว ความตายของเย่หยวนมันมีค่ากว่ามหานครฉีใต้สิ้นเชิง!
คนเช่นนี้หากไม่รนหาที่จริงๆ แล้วก็คงไม่ตาย
แต่ตอนนี้มันได้มารนหาที่ตายเองแล้ว!
ให้ทหารแค่แสนเดียวแลกชีวิตกับเย่หยวนนั้นมันย่อมจะไม่ถือว่าเกินไปเลย
แค่จักรพรรดิเที่ยงและจักรพรรดิเซียนเผ่าเลือดมีเป็นล้านๆ!
พวกเขานั้นแค่ต้องการเวลาสักสิบปีก็สามารถจะขยายพันธุ์ทดแทนจำนวนที่เสียไปในวันนี้ได้แล้ว!
จากนั้นค่อยมาตีมหานครฉีใต้ใหม่ก็ยังได้
แต่หากเย่หยวนตายลงแล้วมันคงจะเป็นการดับความหวังของทั้งพันธมิตรสวรรค์แรก
ภายใต้พลังของเต๋าทุกข์นั้นแม้แต่หยางชิงเองก็ยังต้องยืนหน้าซีด
เพราะแรงกดดันจากเมฆนั้นมันหนักหน่วงจนแทบไม่อาจหายใจ!
ตอนนี้ต่อให้จะเป็นมหาจักรพรรดิมันก็คงไม่อาจจะรอดชีวิตไปได้!
“ย…เย่หยวน พ่อเจ้าจะตายเพราะเจ้าอีกแล้ว! เจ้ามันเป็นตัวอะไรกันแน่? ทำไมถึงทำเรื่องเช่นนี้ได้เสมอๆ” หยางชิงอดร้องว่าขึ้นไม่ได้
เย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ “ข้าก็ไม่รู้ว่ามันจะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้!”
ตอนนี้บนท้องฟ้ามันเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทพร้อมสายฟ้าที่วิ่งไหลไปมาอย่างน่ากลัว
คลื่นพลังจากท้องฟ้านั้นมันทำให้คนไม่อาจขยับตัว!
ตอนนี้เย่หยวนได้เรียกเอาดาบเต๋าขึ้นมายกพร้อมรับการกระแทกของเต๋าทุกข์รอบนี้
แต่วินาทีต่อมาเขาก็ต้องผงะไป
ปัง ปัง ปัง
เต๋าทุกข์ชุดใหญ่ตกลงมาแต่มันกลับไม่มีเต๋าทุกข์ใดที่โดนตัวเขาเลย!
แต่ว่าพลังเต๋าทุกข์รอบๆ ตัวเย่หยวนนั้นกลับรุนแรงที่สุด!
ตูม!
ร้อยบุตรหลายต่อหลายคนนั้นถูกพลังของเต๋าทุกข์เผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านไป
ส่วนจักรพรรดิเซียนทั่วๆ ไปนั้นบ้างถึงขั้นตายตั้งแต่เต๋าทุกข์ยังไม่ตกลงมาแล้ว
ก่อนหน้านี้เฉียนั้วนั้นยังหัวเราะบอกว่าเย่หยวนนั้นมารนหาที่ตายเอง
แต่ตอนนี้เขาได้แต่ต้องอ้าปากค้างจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ
นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?