“ทีนี้จะให้ยืมได้หรือยัง?”
เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยอย่างหนักแน่น
มีหรือที่เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นจะยังไม่เข้าใจ?
เย่หยวนนั้นยึดติดกับการยืมร่มคลื่นม่วงของเขาอย่างมาก
“ข้าไม่ให้แล้วจะทำไม? หรือสภาพของเจ้าในตอนนี้จะโจมตีเป็นครั้งที่สองได้?” เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นกล่าวเย้ยขึ้น
เย่หยวนไม่คิดตอบอะไรกลับและแปลงเป็นร่างหมอกปลุกคลื่นกำเนิดขึ้นมาอีกชุดใหญ่
ฝนดาวตกระลอกที่สองพุ่งขึ้นมาทันที!
แน่นอนว่าพลังของมันย่อมจะไม่อาจเทียบเคียงกับรอบแรกได้
และเป้าหมายการโจมตีในครั้งนี้มันยังมิใช่เจ้าโลกทั้งสี่แต่เป็นแต่ตัวเจ้าโลกบู๋เมี่ยเพียงแค่คนเดียว
เมื่อเจ้าโลกบู๋เมี่ยได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดขนลุกขึ้นทั้งกายไม่ได้
เจ้าเด็กนี่มันไม่คิดจะรอดชีวิตกลับไปแล้ว!
หลังจากใช้งานฝนดาวตกอีกรอบหนึ่ง ร่างของเย่หยวนนั้นยังไม่แตกสลายแต่มันก็คงใกล้เต็มทีแล้ว
เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเองก็มีสภาพไม่ได้ดีกว่าเขาไปมากนัก ซึ่งคนที่แข็งแกร่งระดับนี้ก็ยังแทบจะกลายเป็นจุณไป
“จะให้ยืมไหม?” เย่หยวนถามขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยอีกครั้ง
“ไอ้หนู เจ้ามันคิดง่ายเกินไปแล้ว! นามผู้อมตะของบู๋เมี่ยผู้นี้มันไม่ได้มาเล่นๆ! ทำเช่นนี้ต่อไปคนที่จะตายก่อนมันก็คือเจ้านั้นเอง!” เจ้าโลกบู๋เมี่ยยังไม่คิดยอมรับปาก
เย่หยวนไม่ตอบใดๆ กลับไปและใช้ฝนดาวตกคลื่นกำเนิดระลอกที่สามออกมา!
เมื่อคนทั้งสามได้เห็นความมุ่งมั่นของเย่หยวนนี้พวกเขาก็ต้องตกตะลึงไปไม่น้อยเช่นกัน
เจ้าเด็กนี่มันบ้าโดยแท้ ไม่คิดสนใจชีวิตตัวเองอีกต่อไปแล้ว
ขู่?
มันไม่มีคำว่าขู่!
หากไม่ยอมรับก็จะโจมตีไปเรื่อยๆ จนกว่าจะยอม!
“ไอ้เด็กนี่มันช่างมีนิสัยห้าวหาญนัก! หากวันนี้มันไม่ตายวันหน้ามันคงได้กลายเป็นใหญ่แน่นอน!”
เจ้าโลกเชียหลงกล่าวขึ้น
“เฮอะ!? เจ้าคิดว่ามันจะรอดไปได้อย่างไรเล่า?” เฉียเกอกล่าวขึ้นแทรก
“หากวันนี้กลับออกไปได้เราก็ถือเสียว่าเรื่องวันนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน!” เจ้าโลกเทียนเหวินกล่าวขึ้น
สี่ยอดเจ้าโลกถูกมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ตัวน้อยเล่นงานจนมีสภาพน่าสมเพช
หากข่าวนี้รั่วออกไปแล้วพวกเขาคงไม่มีหน้าไปพบผู้คนอีก
ปัง ปัง ปัง
การโจมตีอีกระลอกปะทุขึ้นมาตอนนี้ร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นมันจางลงจนแทบจะมองไม่เห็นแล้ว
หากไม่มองดูดีๆ มันก็ไม่อาจจะเห็นเงาร่างคนได้
แน่นอนว่าร่างวิญญาณของเจ้าโลกบู๋เมี่ยเองก็มีสภาพไม่ต่างกันนัก
เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเองก็แทบสิ้นสลายลงไปเช่นกันในเวลานี้
แน่นอนว่ามันมิใช่เพราะเย่หยวนเก่งกาจมากล้นสวรรค์แต่เป็นเพราะว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นบาดเจ็บหนักมาก่อนแล้ว
เพราะเขานั้นต้องรับมือยอดเจ้าโลกถึงสามคน!
“ครั้งต่อไปนั้นมันคงเป็นครั้งสุดท้ายของข้าแล้ว ข้าว่าตัวข้าคงไม่อาจรอดกลับมาได้อีก เพียงแต่ข้าก็ไม่แน่ใจว่าท่านจะรอดกลับไปได้หรือไม่เช่นกัน” เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ
แต่ว่าคำพูดนี้มันช่างเป็นคำพูดที่แสนเย้ยหยันสำหรับเจ้าโลกบู๋เมี่ย
เขานั้นมีร่างวิญญาณหมอกหุ้ม แต่เย่หยวนเองก็มีร่างวิญญาณหมอกหุ้มเช่นกัน
เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าเจ้าโลกบู๋เมี่ยมีขีดจำกัดแค่ไหน
อีกครั้งหนึ่งตัวเย่หยวนจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นจะรอดออกไปได้หรือไม่มันก็ไม่แน่นัก
เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นทำหน้าดำหน้าแดงขึ้น
เขานั้นไม่เคยถูกเย้ยหยันเช่นนี้มากี่ปีแล้วกัน?
แม้จะเจอการรุมโจมตีของสามยอดเจ้าโลกนั้นตัวเขาเองก็ยังไม่ต้องใช้พลังออกมาทั้งหมด
ผลลัพธ์การต่อสู้กับสามยอดเจ้าโลกนี้ตัวเขานั้นภาคภูมิอย่างมาก
การทำให้สามยอดเจ้าโลกไม่อาจจะลงมืออย่างไม่ระวังนั้นมันมิใช่สิ่งที่ยอดเจ้าโลกทั่วๆ ไปจะทำได้
ใครจะไปคิดว่าวันนี้เขากลับต้องมาถูกมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์น้อยคนหนึ่งขู่เข้า
“ข้า…”
เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นดื้อด้านอย่างมาก เขาคิดอยากจะปฏิเสธออกไป
เพียงแต่ว่าวินาทีที่เขาเปิดปากขึ้นนั้น…
เขาก็เห็นถึงสายตาของคนทั้งสามที่ด้านหลังที่กำลังมองมาด้วยรอยยิ้มจนอดขนลุกขึ้นไม่ได้
พวกมันทั้งสามนั้นคงหวังให้เขาตายตกลงไปพร้อมกับเจ้าเด็กคนนี้แล้ว?
หากเขาตายลงจริงๆ ตระกูลวิญญาณนิพพานก็คงถึงคราวสิ้นสุดกันแน่
หรือต่อให้เขาจะรอด แต่สภาพของเขาในตอนนี้มันก็ไม่รู้จะรอดมือจากคนทั้งสามไปได้หรือไม่
หรือต่อให้รอดก็ไม่รู้ต้องใช้เวลาฟื้นฟูรักษาอีกเท่าไหร่
“ก็ได้ ข้ารับปากเจ้า!” เมื่อพูดกล่าวคำนี้ออกมาเจ้าโลกบู๋เมี่ยก็เปลี่ยนน้ำเสียงไป
เฉียเกอและพวกนั้นต่างต้องทำหน้าผิดหวังออกมา
ส่วนเย่หยวนนั้นก็ต้องถอนหายใจยาว
เพราะเขานั้นสัมผัสได้ถึงศักดิ์ศรีของเจ้าโลกบู๋เมี่ย และไม่มีความมั่นใจเลยว่าเขาจะให้ยืม
โชคยังดีที่ด้านหลังนั้นมันมีสามเฒ่านั้นอยู่ด้วย
ขอบคุณมาก!
เย่หยวนนั้นรู้สึกได้เลยว่าหากไม่มีคนทั้งสามอยู่ด้วย
แม้เจ้าโลกบู๋เมี่ยจะต้องแลกชีวิตกับเขาเจ้าโลกบู๋เมี่ยก็คงไม่ยอมรับปาก
ครืน!
ในเวลานั้นเองที่มันเกิดลมรุนแรงพัดขึ้น
บนท้องฟ้ามืดมิดนั้นมันค่อยๆ ปรากฏประตูหินยักษ์ขึ้น
ประตูแห่งชีวานิรันดร์!
พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีร่างของหญิงงามผู้หนึ่งยืนอยู่หน้าประตูแห่งชีวานิรันดร์
เชียหลงนั้นได้แต่ต้องร้องขึ้นมาด้วยสีหน้าแตกตื่น “ไม่ดีแล้ว! นังเด็กนี่มันคิดจะเปิดประตูออกและบรรลุเต๋าท่ามกลางคลื่นกำเนิดมากมายนี้!”
เจ้าโลกเฉียเกอนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าจะกลัวอะไร? นังเด็กนี่มันโอหังไม่ประเมินตัวเองคิดใช้แปดสิบเอ็ดคลื่นกำเนิดเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ออก! ผนึกที่สามของประตูนั้นหนักแน่นแข็งแกร่งที่สุดการจะเปิดออกเช่นนี้มันย่อมยากว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีก!”
เชียหลงที่ได้ยินก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอกและพยักหน้ารับ “ก็จริง! แปดสิบเอ็ดคลื่นกำเนิดนั้นมันเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของประตูผนึกที่สาม บนสวรรค์ทั้งหลายนั้นคนที่สามารถเปิดประตูที่สามขึ้นมาด้วยวิธีนี้มันคงมีแค่หยิบมือจริงๆ นังเด็กนี่มันคิดว่าตัวเองเหนือฟ้าล้ำสวรรค์ปานนั้นหรือ?”
รอบๆ ตัวหยุนหนีในตอนนี้มีคลื่นกำเนิดมากมายลอยขึ้นมาพยุงร่างของนางไว้
เสมือนดั่งเป็นนางฟ้านางสวรรค์ที่จุติลงมาในโลกหล้า
หน้าประตูแห่งชีวานิรันดร์ผนึกที่สามมันดูแข็งแกร่งกว่าประตูใดๆ
ยิ่งมีคลื่นกำเนิดอยู่หน้าประตูนี้มากเท่าใดมันก็ยิ่งยากที่จะเปิดมันออก
แปดสิบเอ็ดคลื่นกำเนิดนั้นมันเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์แล้ว
พลังของผนึกที่สามนี้ย่อมจะรุนแรงที่สุดเช่นกัน!
ตั้งแต่บรรพกาลมานั้นมันก็มียอดอัจฉริยะมากมายที่คิดใช้แปดสิบเอ็ดคลื่นกำเนิดเปิดผนึกประตู
แต่ว่าคนที่ทำได้สำเร็จนั้นมันมีเพียงแค่หยิบมือ
แน่นอนว่าหากมันทำได้สำเร็จจริงๆ
คนผู้นั้นก็คือคนที่สามารถเปิดประตูออกได้กว้างกว่าใครๆ และได้รับประโยชน์มหาศาลจนเกินกว่าจะนับได้!
ตูม!
บนร่างของหยุนหนีนั้นมันเกิดแสงสว่างจ้าปะทุขึ้น
นางเริ่มทำการบรรลุเจ้าโลก!
เมื่อเย่หยวนได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในใจ
เขานั้นเคยได้ยินเรื่องนี้จากหมี่เทียนมาก่อน
โดยการที่บรรลุประตูแห่งชีวานิรันดร์ด้วยแปดสิบเอ็ดคลื่นกำเนิดนั้นเป็นสิ่งที่หากทำได้จริงตัวคนผู้นั้นก็จะกลายเป็นเจ้าโลกระดับสูงในทันที!
บางทีพวกเขาอาจจะแข็งแกร่งไม่แพ้ยอดเจ้าโลกทั้งหลาย!
แต่หากไม่อาจเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้แล้ว พวกเขาก็จะไม่มีทางบรรลุเจ้าโลกได้อีกตลอดชีวิต
เพราะฉะนั้นคนที่กล้าทำเช่นนี้นอกจากจะเป็นยอดอัจฉริยะแล้วพวกเขายังต้องมั่นใจในตัวเองอย่างมากด้วย!
เย่หยวนเองก็เตรียมที่จะเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ด้วยแปดสิบเอ็ดคลื่นกำเนิดเช่นกัน
วันนี้เขาจะได้เห็นตัวอย่างแล้ว!
ภายใต้การโจมตีอันรุนแรง ผนึกที่สามของประตูแห่งชีวานิรันดร์กลับไม่ขยับแม้แต่น้อย!
พลังของผนึกที่สามนั้นเหนือล้ำกว่าสิ่งใดที่เขาเคยได้เห็น!
แต่ว่าหยุนหนีนั้นกลับไม่ได้แสดงท่าทีตื่นตกใจใดๆ และโจมตีซ้ำเข้าไปอย่างไม่ลังเล!
ตูม!
ตูม!
ตูม!
การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากมือของหยุนหนีกระแทกใส่ประตูแห่งชีวานิรันดร์
แต่พลังของผนึกที่สามกลับหนักแน่นจนไม่ขยับ
แต่เป็นร่างของหยุนหนีเองที่กลับค่อยๆ จางลงไปต่อหน้าแรงสะท้อนจากประตูแห่งชีวานิรันดร์
ได้เห็นเช่นนั้นเจ้าโลกเชียหลงก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้น “ผีเฒ่าบู๋เมี่ย นังเด็กนี่มันจะดูถูกประตูแห่งชีวานิรันดร์เกินไปแล้ว! มันมีฝีมือดีจริงแต่ว่าคิดเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ด้วยแปดสิบเอ็ดคลื่นกำเนิดนั้นย่อมจะไม่มีทางเป็นไปได้แน่!”
เทียนเหวินเองก็กล่าวขึ้นมาตาม “ร่างวิญญาณฝันเมฆามันทรงพลังจริงแต่ว่านังเด็กนี่มันกลับโลภเกินไป! ใช้พลังของแปดสิบเอ็ดคลื่นกำเนิดคิดแง้มเปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ มันคิดจริงๆ หรือว่าเรื่องนี้จะทำได้ง่ายๆ?”
เจ้าโลกบู๋เมี่ยเองก็ทำหน้าตาเหยเกออกมาเช่นกัน
เขานั้นรู้ดีว่าเป็นเช่นนี้ต่อไปหยุนหนีคงสิ้นอนาคตแน่แล้ว!
แต่เย่หยวนที่ได้เห็นสีหน้านั้นกลับกล่าวขึ้นมาอย่างแผ่วเบา “นางทำสำเร็จแน่!”