ครึ่งเดือนจากนั้นที่ทะเลตะวันออก เมื่อเย่หยวนเดินทางมาถึงนั้นคนอื่นๆ เองก็มารออยู่ก่อนแล้ว
ชีหยูเห็นหน้าเย่หยวนเขาก็รีบยิ้มกล่าวขึ้นต้อนรับ “พี่เย่มาถึงจนได้!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ยินดีกับพี่ชีหยูด้วยที่ได้อันดับสามในอันดับท้าขุนเขามา”
ชีหยูยิ้มตอบกลับไป “เรื่องมันผ่านไปแล้ว! เมื่อเราไปถึงเกาะมังกรสวรรค์ทุกสิ่งอย่างมันก็ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น”
ดูอย่างไรชีหยูคนนี้ก็มีจิตใจที่เข้มแข็งอย่างมาก แต่ก็เพราะว่าจิตใจเช่นนี้ที่ทำให้เขาพัฒนาขึ้นมาจนมีทุกวันนี้ได้
เย่หยวนหันหน้าไปมองรอบๆ และพบว่าสภาพมันดูยุ่งเหยิงผิดปกติ นอกจากนั้นแล้วคลื่นพลังจากตัวชีหยูมันยังดูไม่สงบพร้อมรอยแผลสดๆ ร้อนๆ บนตัว ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่ามันมีเรื่องอะไรกันก่อนที่เขาจะมาถึง
ชีหยูที่ได้เห็นสายตาของเย่หยวนนั้นจึงยิ้มกล่าวขึ้น “หวู่ฟานั้นไม่ยอมรับเรื่องที่ข้าได้อันดับสามเขาจึงท้าข้าดวล”
ไม่ไกลออกไปชายหนุ่มคนหนึ่งก็ทำหน้าเหยเกขึ้นมาทันทีเมื่อชีหยูกล่าวถึงเรื่องนี้
ไม่ต้องถามถึงผลใดๆ เช่นนี้มันย่อมจะเป็นชีหยูที่ชนะแน่แล้ว
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เก่งกาจจริงๆ พี่ชีหยู!”
ชีหยูยิ้มตอบกลับไป “แต่ข้านั้นไปท้าดวลกับหลงยี่และพ่ายแพ้ลง! เจ้าหมอนี่มันเก่งจริง เจ้าต้องระวังด้วย”
เย่หยวนที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปและเข้าใจถึงความหมายแฝงในคำพูดนั้นทันที
ในเวลาเดียวกันนี้หลงยี่เองก็กำลังมองหน้าเขาด้วยท่าทางเย้ยหยันคิดท้าทาย
ไม่ต้องถามก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
“เย่หยวน! หากเจ้าเป็นชายชาตรีก็รับคำท้าของข้าเสีย! เจ้าได้ตำแหน่งอย่างที่เราไม่ทันได้สู้กัน ข้าหลงยี่ไม่ขอยอมรับมัน!” ในที่สุดหลงยี่ก็กล่าวขึ้นมา
เย่หยวนได้แต่ต้องหัวเราะขึ้นมา “อันดับหนึ่งมันดีขนาดนั้น?”
หลงยี่ตอบกลับไปด้วยหน้านิ่ง “แน่นอนว่ามันดี! ไม่ว่าข้าจะไปที่ใดหลงยี่คนนี้ก็จะเป็นอันดับหนึ่งเสมอ!”
เย่หยวนได้แต่ต้องยักไหล่ตอบกลับไป “ขอโทษที แต่ข้าไม่สนใจ”
คนทั้งหลายนี้ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองกำลังจะต้องเจอกับอะไร? ยังมีหน้ามาแข่งขันกันอีกว่าใครเหนือกว่าใครกัน
ได้อันดับหนึ่งไปแล้วทำไม?
คิดว่าตัวเองจะได้ไปเกาะมังกรสวรรค์จริงๆ หรือ?
เพียงแค่ว่าคำพูดทั้งหลายนี้เย่หยวนย่อมจะไม่กล่าวมันออกมา
แต่นอกจากตัวชีหยูแล้วนั้นคนทั้งแปดย่อมจะไม่มีใครคิดเปิดทางให้เย่หยวนได้ถอย
“เย่หยวน ที่แท้เจ้ามันเป็นแค่คนกระจอกที่รู้จักแต่รังแกคนอ่อนแอกว่า! ไอ้ขี้ขลาด!”
“เจ้าท้าทายเราแต่ตอนนี้พอมาเจอหลงยี่ที่เก่งจริงๆ แล้วเจ้ากลับกลัว? หากข้าเป็นเจ้าข้าคงไม่มีหน้าไปยังเกาะมังกรสวรรค์หรอก!”
“แค่จะกู้ชื่อตัวเองยังไม่กล้าทำ เจ้ามันมีค่าใดให้ไปยังเกาะมังกรสวรรค์กัน?”
“เกาะมังกรสวรรค์นั้นรับแต่ยอดฝีมือเข้าไป ขยะอย่างเจ้ามันไม่มีค่าจะเข้าไปแม้แต่น้อย!”
…
คนที่พูดขึ้นมาทั้งหมดนั้นต่างเคยพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือเย่หยวน
พวกเขานั้นเก็บเรื่องนี้ไปฝังใจเจ็บแค้นจนถึงทุกวันนี้ ไม่ได้มีจิตใจที่ขวางใหญ่เหมือนชีหยูแม้แต่น้อย
ได้เห็นว่าเย่หยวนไม่คิดรับคำท้าเช่นนั้นพวกเขาย่อมจะช่วยกันท้าทายและคิดว่าเย่หยวนกำลังกลัว
นอกจากนั้นแล้วฝีมือของหลงยี่มันเป็นเช่นไรชีหยูก็ได้พิสูจน์ให้คนทั้งหลายเห็นกับตา
คนที่เอาชนะชีหยูในตอนนี้ได้นั้นมันย่อมจะแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย
เพราะตัวชีหยูในตอนนี้เขามีกำลังฝีมือที่เรียกได้ว่าเป็นคนละคนกับชีหยูที่เคยต่อสู้กับเย่หยวนเมื่อสองปีก่อน!
“เฮอะ! จะรับคำท้าหรือไม่นั้นเจ้ามิใช่คนตัดสินแล้ว!” หลงยี่ตะโกนขึ้นก่อนจะปล่อยคลื่นพลังสายเลือดออกจากร่างต่อยหมัดเข้าใส่เย่หยวน
เพราะว่าตอนนี้พวกเขาได้หลุดพ้นจากท้าขุนเขามาแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำตามกฎใดๆ อีก
หากไม่พอใจก็สามารถซัดกันได้ทันที
ตูม!
ตูม!
ตูม!
พริบตาเดียวนั้นคนทั้งสองก็ปะทะกันจนเกิดคลื่นพลังปลิวว่อนไปทั่วทิศ
บนผิวน้ำทะเลนั้นมันมีคลื่นรุนแรงสาดซัดพร้อมห้วงมิติที่ดูบิดเบี้ยวขึ้น
กำลังของคนทั้งสองนั้นแข็งแกร่งจนเกินความคาดหมายของผู้คน
ในมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้นมันคงไม่มีใครเก่งกาจไปกว่าคนทั้งสองแล้ว
“แข็งแกร่งนัก! ที่แท้เจ้าบ้านี่มันเก่งกาจปานนี้!”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? มันกลับสามารถสู้ได้อย่างสูสีกับหลงยี่!”
“ที่แท้ตอนที่มันเอาชนะพวกเรานั้นมันไม่ได้ใช้ฝีมือที่แท้จริงออกมาเลย!”
…
ได้เห็นภาพนี้คนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง
เพราะฝีมือของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำกว่าที่คาดหมายไปมากมายนัก
เพราะแท้จริงแล้วตั้งแต่เริ่มท้าขุนเขามาคู่ต่อสู้ที่เย่หยวนสู้แล้วรู้สึกลำบากมันก็มีแค่ชีหยูคนเดียวเท่านั้น
ในศึกครั้งนั้นเขาเองก็ได้พัฒนาตัวเองขึ้นไปอย่างมากล้น
นั่นทำให้ศัตรูหลังจากนั้นมาเป็นเหมือนแค่เด็กน้อยไร้พลังต่อต้านเขาใดๆ
นั่นทำให้เย่หยวนไม่ต้องเอาจริงและทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเย่หยวนเอาชนะตัวเองไปได้เพียงเล็กน้อย
แต่ตอนนี้เมื่อเย่หยวนได้แสดงฝีมือที่แท้จริงออกมาแล้ว พวกเขาก็ได้แต่ต้องก้มหน้าด้วยความอับอาย
นี่มันคนละชั้นกันสิ้นเชิง
ในกลุ่มคนนั้นชีหยูเองก็อ้าปากค้างและบ่นพึมพำขึ้นมา “ไม่ได้เจอกันแค่สองปีเย่หยวนกลับเก่งกาจได้ถึงขนาดนี้? ข้าก็คิดว่าตัวเองพัฒนาได้เร็วแล้วนะแต่ไม่นึกเลยว่าเขานั้นกลับจะทิ้งห่างข้าไปหลายช่วงตัวเช่นนี้!”
หากไม่มีใครให้เทียบแล้วคนเราย่อมจะไม่เข้าใจคุณค่าของตัวเองดีนัก
เพราะสิ่งที่ชีหยูมั่นใจนั้นมันคือความสามารถในการเรียนรู้ของตัวเอง
ฝึกฝนกระบวนท่าใหม่ระหว่างสู้นั้นมันย่อมจะเป็นสิ่งที่ยอดนักสู้เท่านั้นที่ทำได้!
ตอนที่เขาแพ้เย่หยวนนั้นมันอาจจะเรียกได้ว่าแพ้อย่างสูสี
แต่สองปีผ่านไปเย่หยวนกลับพัฒนาตัวได้เหนือล้ำกว่าความคาดหมายของเขามากนัก
ในที่สุดเขานั้นก็ได้เข้าใจว่าความพ่ายแพ้ของตนนั้นมันมิใช่เพราะโชคช่วยใดๆ!
“เย่หยวนนั้นสำเร็จมิติรูปแบบที่สองแล้วด้วยซ้ำ! เพียงแค่ว่าหลงยี่นั้นมันจะบังคับให้เย่หยวนใช้ออกมาได้หรือไม่เท่านั้นแต่ดูการต่อสู้ตอนนี้แล้วมันคงไม่มีทาง!” เฟิ่งชิงซวนนั้นกล่าวขึ้น
ชีหยูนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
ก่อนนั้นเขาพ่ายให้กับมิติรูปแบบที่หนึ่ง คลื่นซัดทราย
แต่สองปีผ่านไปนั้นเย่หยวนกลับสามารถสร้างรูปแบบที่สองขึ้นมาได้แล้ว?
เย่หยวนนั้นแสดงแปดรูปแบบห้วงมิติให้ชีหยูได้ดูเปิดประตูโลกใหม่ให้แก่เขา
สองปีที่ผ่านมานี้ชีหยูเองก็ยังคงศึกษาและฝึกฝนแปดรูปแบบห้วงมิติมาเรื่อยโดยยังไม่ชำนาญนัก
แปดรูปแบบห้วงมิติมันยิ่งใหญ่และซับซ้อน
แต่ว่าเย่หยวนกลับก้าวผ่านมันและไปสร้างเส้นทางของตัวเองแล้ว?
นี่มัน…เอาชนะอย่างไม่ต้องสู้กัน!
“มิติรูปแบบที่หนึ่ง คลื่นซัดทราย!” บนท้องฟ้านั้นเย่หยวนร้องลั่นขึ้น
หลงยี่ถูกพลังของคลื่นมิติซัดลงจมก้มทะเลไปทันที
ศึกนี้ได้ผู้ชนะแล้ว!
คนที่เหลือทั้งแปดคนนั้นต่างก็ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
ในตอนนี้ตำแหน่งอันดับหนึ่งของเย่หยวนมันเหนือล้ำจนไม่มีใครกล้าส่งเสียงตั้งคำถามแล้ว
“ขี้ขลาด? ไร้ค่า? ไม่มีสิทธิ์เข้าเกาะมังกรสวรรค์? ฮ่าๆๆ หากแม้แต่เย่หยวนยังไม่มีสิทธิ์ไปเกาะมังกรสวรรค์แล้วพวกเจ้าจะยังไปกันเพื่ออะไร? แค่ขยะเปียกที่ไม่พอจะสู้กับขี้เล็บของเย่หยวนด้วยซ้ำยังมีหน้ามาหวังให้คนอื่นเอาชนะแทนตัว? นี่หรือคืออัจฉริยะเผ่ามังกร? ตัวตลกชัดๆ!” เฟิ่งชิงซวนนั้นกล่าวขึ้นมาตอกหน้าคนทั้งหลายอย่างไม่ปรานี
ยอดอัจฉริยะทั้งหลายนี้แทบอยากจะมุดดินหนีไปให้มันพ้นๆ
โดนคนดูถูกนั้นมิใช่สิ่งน่ากลัวแต่การถูกหญิงเกลียดชังนั้นมันช่างน่ากลัวจนขนลุกตั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออีกฝ่ายนั้นเป็นสาวงามแล้วด้วย หัวใจของพวกเขายิ่งสั่นกลัว
ในตอนนั้นเองที่มันลำแสงหนึ่งพุ่งมาจากขอบฟ้าและทำให้คนทั้งหลายลืมเรื่องความอับอายนี้ไป
เรือเหาะมาแล้ว
คนจากบนเรือเหาะนั้นร่อนตัวลงมาและปรากฏว่ามันคือชายแก่ที่มอบเหรียญให้นั้นเอง
“พวกเจ้าขึ้นมา อย่าลืมแสดงเหรียญตราด้วย ไม่เช่นนั้นจะได้ตายเอา!” ชายแก่กล่าวขึ้น
คนทั้งหลายเรียงแถวกันขึ้นเรือเหาะไปเหมือนราวกับว่าลืมเรื่องก่อนหน้าไปสิ้น
ซึ่งตอนนี้พวกเขาต่างแสดงท่าทีตื่นเต้นสุดใจ
เกาะมังกรสวรรค์นั้นมันคือเป้าหมายของชาวเผ่ามังกรในแดนตรังค์ตะวันออกทุกคน
พวกเขาไปท้าขุนเขาก็เพื่อจะได้เข้าสู่เกาะมังกรสวรรค์นี้
ในแดนตรังค์ตะวันออกนั้นมันมีภูตแท้มากมายแค่ไหน?
พวกมีแค่พวกเขาสิบคนเท่านั้นที่จะได้สิทธิไปยังเกาะมังกรสวรรค์!
นี่มันคือเกียรติยศความภาคภูมิ!
“ผู้อาวุโส หลังจากไปถึงเกาะมังกรสวรรค์แล้วเราต้องทำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่?” เสียงถามดังขึ้น
ชายแก่ตอบกลับมา “หลังจากไปถึงเกาะแล้วมันย่อมจะมีคนมาดูแลพวกเจ้าต่อเอง!”
“ผู้อาวุโส…”
คนทั้งหลายนั้นต่างพยายามรุมเข้ามาถามเรื่องราวต่างๆ ถึงสภาพของเกาะ
เพราะจะอย่างไรเสียที่แห่งนั้นมันก็เป็นดินแดนในตำนานที่พวกเขาไม่เคยได้ยินข่าวถึงมาก่อน
แต่ว่าชายแก่นั้นกลับวางท่าเมินเฉยตอบส่งๆ คำถามทั้งหลายไป
เย่หยวนเองก็ยืนดูภาพตรงหน้าด้วยท่าทางเฉยเมยราวกับว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเอง
หลายวันต่อจากนั้นคนทั้งหลายก็ได้เห็นเกาะใหญ่ปรากฏขึ้นแก่สายตา
“ผู้อาวุโส ข้าได้ยินมาว่าเกาะมังกรสวรรค์นั้นมันมีมังกรสวรรค์โกลาหลคอยพ่นพลังงานฟ้าดินออกมาปกคลุมเกาะไปด้วยหมอกหนา ที่แห่งนี้มันคือเกาะมังกรสวรรค์จริงๆ หรือ?” เย่หยวนถามขึ้น