“ไป๋จือ เฉียนไท่ชิง พวกเจ้าสองคนอยู่ก่อน”
คนจากเผ่าหงส์แดง เผ่าพยัคฆ์ขาวและเผ่าเต่าดำนั้นกำลังจะเดินทางกลับแต่หมี่เทียนร้องเรียกขึ้นมาก่อน
ไป๋จือและเฉียนไท่ชิงนั้นต่างใจสั่นขึ้นมาทันที สัมผัสได้ว่ามันคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่แล้ว
หลวนชิงเหอนั้นถอนหายใจยาวออกมาและมองดูหน้าคนทั้งสองก่อนจะเดินหายไป
“บ…บรรพบุรุษหมี่เทียน ท่านเรียกพวกเราไว้มีเรื่องใดหรือท่าน?” ไป๋จือนั้นกัดฟันถามขึ้น
“อ่า? ไม่มีอะไรมากหรอก ข้าแค่จะขอแก่นเลือดพวกเจ้าทั้งสองเท่านั้น” หมี่เทียนกล่าว
ไป๋จือนั้นต้องผงะไปทันทีที่ได้ยิน “บรรพบุรุษท่านนั้นเกินไปนะ!”
การให้แก่นเลือดนั้นมันย่อมจะไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อยอดฝีมือระดับเจ้าโลก
แต่ว่าจะอย่างไรภูตแท้ก็คือภูตแท้
ภูตแท้นั้นยึดถือและให้ค่าแก่นเลือดของตัวเองอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีสายเลือดระดับสวรรค์แห้ง
หมี่เทียนขอแก่นเลือดพวกเขาขึ้นมาเช่นนี้มันย่อมจะเป็นการผิดกฎร้ายแรงของภูตแท้
แต่หมี่เทียนย่อมจะไม่ได้คิดเอาแก่นเลือดมาใช้เอง
เพราะภูตแท้นั้นไม่อาจจะผสานเลือดของเผ่าอื่นเข้าในร่างตัวเองได้
แต่เพื่อเย่หยวนนั้นหมี่เทียนจึงไม่คิดสนใจกฎใดๆ ทั้งสิ้น
หมี่เทียนกล่าวขึ้น “หากมันมีปัญหาอะไรเจ้าก็บอกให้ไป๋หลิงและเฉียนชิงมาคุยกับข้าได้ หรือพวกเจ้าต้องให้ข้าลงมือเอง?”
ไป๋จือนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเก เขามั่นใจแล้วว่าวันนี้เขาคงไม่อาจจะรอดกลับไปได้หากเป็นเช่นนั้น
เขาจึงต้องรีดแก่นเลือดออกมาให้แก่หมี่เทียนและกล่าวขึ้นตาม “บรรพบุรุษท่านเพิ่งจะกลับมา ทำเรื่องอะไรก็ควรจะอย่าเพิ่งให้มันใหญ่โตนัก! เวลามันผ่านไปนับแสนปีแล้วหลังจากที่ท่านหายไป สภาพบนสวรรค์ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว!”
หมี่เทียนยิ้มตอบกลับไป “ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอก ใครมันไม่พอใจไม่ชอบหน้าข้าก็มาท้าทายข้าได้ทุกเมื่อ บรรพบุรุษผู้นี้พร้อมรับทุกคำท้า!”
ไป๋จือได้แต่ต้องกัดฟันเดินหายไป
จากนั้นเฉียนไท่ชิงก็ส่งแก่นเลือดมาให้อย่างเงียบๆ และเดินหายไปจากเผ่ามังกรเช่นกัน
“บรรพบุรุษท่าน…ท่านกลับยังไม่ตายจริงๆ! เยี่ยมยอด! เยี่ยมเสียจริง!” หลงเจี้ยนนั้นร้องขึ้นมาด้วยรอยยิ้มพร้อมน้ำตานองหน้า
มันไม่มีท่าทางของยอดเจ้าโลกใดๆ เหลืออยู่อีก
เพราะคนที่เขานับถือที่สุดนั้นมันมิใช่หมี่เจิ้นแต่เป็นหมี่เทียนคนนี้
แท้จริงแล้วคนทั้งเผ่ามังกรเองก็เป็นเช่นเดียวกับเขานี้
ผู้นำที่แท้จริงของเผ่ามังกรนั้นมันคือหมี่เทียนมิใช่หมี่เจิ้น!
คนทั้งหลายนั้นต่างยินดีกันจนร้องไห้ออกมา ไม่อาจจะพูดจาเป็นเสียงภาษาได้อีก
หมี่เทียนยิ้มกล่าวขึ้น “อืม ข้านั้นถือว่าตายไปครั้งหนึ่งแล้ว ที่กลับมาได้นี้ข้าเองก็รู้สึกสดชื่นอย่างมาก
หมี่เจิ้น หลายปีมานี้มันคงลำบากเจ้ามากแล้ว”
หมี่เจิ้นหรี่ตามองหน้าหมี่เทียนและถามขึ้น “คนที่พาเจ้ากลับมาคือเย่หยวน?”
สีหน้าของเจ้าโลกเผ่ามังกรทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปทันทีเพราะสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่แข็งกร้าวนี้
เดิมทีแล้วการพบกันอีกครั้งนี้มันควรเป็นเรื่องน่ายินดี ทำไมบรรพบุรุษหมี่เจิ้นถึงได้ทำเสียงเช่นนี้ขึ้นมา?
หมี่เทียนยิ้มตอบกลับไป “เจ้ายังคงฉลาดอยู่เสมอ แต่น่าเสียดายที่เจ้าตกเป็นเหยื่อความฉลาดของตัวเอง!”
หมี่เจิ้นหัวเราะขึ้นมา “ข้าเองก็ไม่นึกเหมือนกันว่าสามเจ้าโลกล้ำสวรรค์กลับจะไม่อาจสังหารเจ้าลงได้หมดสิ้น สวรรค์ช่างไร้ตาเสียจริง!”
หมี่เทียนยิ้มตอบกลับไป “หากข้าไม่ได้เจอเย่หยวนเข้า ข้าก็คงถือว่าตายไปแล้วหรือจะบอกว่าสวรรค์นั้นมีตาให้ข้าได้กลับมาเห็นคนสองหน้าอย่างเจ้ากัน?”
คนเผ่ามังกรทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต่างไม่เข้าใจว่าทำไมสองบรรพบุรุษนั้นถึงพูดเหมือนจะฆ่าสังหารกันในวินาทีที่ได้พบหน้า?
สองมังกรฟ้าโกลาหลนั้นเป็นพี่น้องที่รักกันดีเสมอมา
ทำไมจู่ๆ ได้เจอกันหลังหายหน้าไปนับแสนปีมันกลับกลายสภาพเป็นเช่นนี้?
หมี่เจิ้นนั้นฉลาดวินาทีที่เขาได้เห็นหมี่เทียนเขาก็รู้ทันทีว่าตัวหมี่เทียนคงรู้แผนของเขาแล้ว
เพราะว่าหมี่เทียนนั้นออกมาจากคงคานิรันดร์!
พร้อมกันนั้นวินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นเขาก็ไล่เจ้าโลกหาเรื่องคนทั้งสวรรค์เพื่อปกป้องเย่หยวน
ทำไมเจ้าโลกล้ำสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ถึงทำเช่นนั้น?
กอปรกับเรื่องเกาะมังกรเลือดนั้น เขาก็เข้าใจทุกอย่างได้สิ้น
หมี่เทียนคิดกลับมาบนเกาะแต่ไม่คิดกลับมาตรงๆ เรื่องนี้มันหมายถึงอะไร?
ใครกันที่เขาระวัง?
แน่นอนว่ามันจะเป็นหมี่เจิ้นคนนี้!
เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ต้องวางท่าเป็นพี่น้องที่รักกันใดๆ อีกแล้ว
ศึกนี้มันไม่อาจจะหยุดยั้งได้แล้ว
“พวกเจ้าทั้งหลายถอยไป” หมี่เทียนสั่ง
สองคลื่นพลังนั้นผงาดขึ้นบนเกาะมังกรสวรรค์
สีหน้าของเจ้าโลกเผ่ามังกรทั้งหลายซีดขาวลงไปเพราะรู้ดีว่าศึกนี้มันคงไม่มีทางถอนตัวหยุดยั้งไว้ได้อีกแล้ว
หมี่เทียนและหมี่เจิ้นนั้นไม่ต้องอธิบายอะไร ไม่ต้องหาหลักฐานใด
ตราบเท่าที่พวกเขารู้แก่ใจมันก็พอแล้ว
“พลังชีวิตของเจ้านี่มันดื้อด้านเสียจริง! สามเจ้าโลกล้ำสวรรค์เผ่าเลือดยังสังหารเจ้าลงไม่ได้จริงๆ!”
หมี่เจิ้นกล่าวขึ้น
“มันมิใช่ว่าชีวิตข้านั้นดื้อด้าน แต่ข้านั้นเก่งพอเท่านั้น! ในโลกนี้เจ้ารู้จักข้าดีที่สุด เจ้าย่อมจะรู้จุดอ่อนข้าดี
แต่สุดท้ายเจ้าก็ยังประมาทเกินไป!” หมี่เทียนตอบกลับไป
“แล้วทำไม? เจ้าคิดว่าข้านั้นยังเป็นข้าคนก่อนหรือ?”
“ฮ่าๆ แม้แต่หลงชามันยังก้าวขึ้นไปใกล้ล้ำสวรรค์ได้ แน่นอนว่าเจ้าย่อมจะได้ประโยชน์มากมายกว่ามันนัก
แต่ว่าเจ้าใช้คนเผ่าเดียวกันเป็นสัตว์ทดลองเช่นนี้เจ้าไม่เจ็บปวดหัวใจบ้างเลยหรืออย่างไร?”
“เฮอะ! เจ้ากดหัวข้าไว้นับหมื่นๆ แสนๆ ปี ข้าไม่อาจจะทนรอได้อีกแล้ว! เจ้านั้นก็แค่เกิดก่อนข้าไปล้านปี
แค่นั้นมันก็พอให้เจ้ากดหัวข้าไว้ตลอดกาลหรือ? ข้าไม่ยอม!”
“เจ้าเลยร่วมมือกับเผ่าเลือดชักศึกเข้าบ้าน?”
“เผ่าเลือดแล้วทำไม? เราก็แค่หลอกใช้กันและกันเท่านั้น!”
หมี่เทียนส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “เจ้ามันไม่รู้จักเผ่าเลือดเลยแม้แต่น้อย! เผ่าเลือดนั้นมันน่ากลัวกว่าที่เจ้าคาดคิดไปมากนัก!”
หมี่เจิ้นหัวเราะขึ้น “หมี่เทียน เจ้าคิดขู่ข้า? เจ้าคิดหรือว่าแค่ได้เกิดใหม่ในคงคานิรันดร์แล้วเจ้าจะเอาชนะข้าได้?”
พูดไปมันก็มีเงาร่างหนึ่งเดินขึ้นเกาะมา
การกระทำของทุกย่างก้าวของเขาผู้นี้มันแฝงไปด้วยพลังสูงส่งลึกลับ
เมื่อหมี่เทียนเห็นหน้าผู้มาถึงนั้นเขาก็ต้องเบิกตากว้างร้องขึ้น “เป็นเจ้าจริงๆ!”
ผู้มาถึงนั้นพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ดูท่าเจ้าจะรู้อยู่แล้วว่าข้าเป็นใคร”
หมี่เทียนสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบไป “เจ้าวางแผนได้แยบยลนัก!”
ผู้มาถึงนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าเด็กนั่นมันเก่งกาจดีจริง! แม้แต่ข้ายังถูกมันหลอกได้”
หมี่เทียนหรี่ตาลงมอง “เจ้าไม่มีทางเข้าไปถึงตัวเขาได้หรอก!”
ผู้มาถึงยิ้มและไม่ตอบใดๆ กลับไป
หมี่เจิ้นนั้นไม่เข้าใจว่าคนทั้งสองพูดเรื่องอะไรกันแต่เขาก็ไม่คิดสนใจ
“เฉียเอ้อ เจ้าช่วยข้าสังหารมันหน่อย!” หมี่เจิ้นร้องขึ้น
ผู้มาถึงพยักหน้ารับ “โจมตีมันพร้อมกัน!”
หมี่เจิ้นหัวเราะขึ้นหันไปหาหมี่เทียน “หมี่เทียน เจ้าไม่ควรกลับมาเลยจริงๆ! เพราะตัวข้าในตอนนี้มันมิใช่ตัวข้าแต่ก่อนแล้ว! นอกจากนั้นหากข้าร่วมมือกันเฉียเอ้อแล้วเจ้าย่อมจะไม่มีโอกาสชนะได้!”
หมี่เทียนไม่คิดตอบอะไรกลับไป
เปรี้ยะ เปรี้ยะ!
บนท้องฟ้าเหนือเกาะมังกรสวรรค์นั้นมันมีสายฟ้าเริ่มก่อตัวขึ้น!
สองมังกรฟ้าโกลาหลนี้หมี่เทียนเลือกที่จะเดินบนเส้นทางห้วงมิติ
ส่วนหมี่เจิ้นนั้นเลือกเส้นทางสายฟ้า
พลังของเขาในตอนนี้มันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าหมี่เทียนแม้แต่น้อย
หลายปีที่ผ่านมานี้เขาได้รับการช่วยเหลือจากเผ่าเลือดทำให้พลังของเขานั้นพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด
พร้อมๆ กันนั้นพลังของเฉียเอ้อก็ปะทุขึ้นมา
สองเจ้าโลกล้ำสวรรค์นั้นพุ่งเข้าใส่ตัวหมี่เทียนอย่างเต็มกำลัง
หมี่เจิ้นหัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆ วันนี้เจ้าจะได้ตายลงอีกครั้ง! เผ่ามังกรนั้นมีราชาคือข้า หมี่เจิ้นเพียงผู้เดียว!”
แต่ในวินาทีนั้นเองที่เฉียเอ้อได้หันหน้าหักตัวกลางอากาศปล่อยพลังโจมตีรุนแรงนั้นเข้าใส่ร่างหมี่เจิ้นแทน
หมี่เจิ้นนั้นกำลังจดจ้องอยู่ที่ตัวหมี่เทียนย่อมจะไม่ได้คาดคิดถึงเรื่องนี้ไว้ก่อน
ตูม!
ห้วงมิติสั่นสะท้านพร้อมร่างของหมี่เจิ้นที่ถูกซัดจนลงไปจมดินกระอักเลือดออกมาสุดแรง
การโจมตีนี้เฉียเอ้อได้ใช้พลังทั้งหมดออกมากอปรด้วยความที่หมี่เจิ้นไม่ทันระวังทำให้เขาต้องบาดเจ็บเจียนตาย
หมี่เจิ้นเหลือกตากลับขึ้นมาจากกองเลือดนั้น มองหน้าเฉียเอ้อด้วยความคับแค้น
…………………………